ใครอยู่เบื้องหลังการรัฐประหารตุรกี (1)



ตุรกีเป็นประเทศที่ตั้งอยู่ใน 2 ทวีปคือ พื้นที่ร้อยละ 97 อยู่ในเอเชียตะวันตก ขณะที่พื้นที่ร้อยละ 3 อยู่ในยุโรป ด้านเหนือติดทะเลดำ ด้านตะวันตกติดทะเลอีเจียน ด้านใต้ติดทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
ตุรกีเป็นจุดศูนย์กลางระหว่าง 3 ทวีปคือ ยุโรป เอเชีย และแอฟริกา จึงเป็นจุดยุทธศาสตร์มีความสำคัญอย่างมากตั้งแต่ในอดีต และเป็นศูนย์กลางการค้าของชาวยุโรปกับชาวตะวันออกกลาง ด้วยยุทธศาสตร์ที่สำคัญนี้ตุรกีจึงเป็นที่หมายปองของหลายจักรวรรดิในอดีต
ในประวัติศาสตร์ตุรกีถูกครอบครองโดยหลายอาณาจักร เช่น จักรวรรดิอาเคเมนิด, จักรวรรดิโรมัน, จักรวรรดิไบแซนไทน์ และจักรวรรดิออตโตมันซึ่งครอบครองดินแดนแห่งนี้ยาวนานเกือบ 500 ปี
ปี พ.ศ. 2461 ภายหลังการพ่ายแพ้ในสงครามโลกครั้งที่ 1 จักรวรรดิออตโตมันถูกครอบครองโดยฝ่ายสัมพันธมิตรสงครามโลกครั้งที่ 1 (กรีซบนแนวรบด้านตะวันตก, อาร์มีเนียบนแนวรบด้านตะวันออก, ฝรั่งเศสแนวรบด้านใต้, สหราชอาณาจักร และอิตาลี)
ฝ่ายสัมพันธมิตรหวังใช้ดินแดนแห่งนี้เป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการป้องกันการรุกรานของสหภาพโซเวียต (USSR) จากทะเลดำผ่านทางช่องแคบบอสพอรัสสู่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
ปี พ.ศ.2462 แนวร่วมแห่งชาติเตอร์กีส (Turkish National Movement) เริ่มต่อต้านการปกครองของฝ่ายสัมพันธมิตรจนได้รับชัยชนะ และยึดอำนาจจากสุลต่านโมฮัมเม็ดที่ 6 สุลต่านหุ่นเชิดของฝ่ายสัมพันธมิตรในปี พ.ศ.2465
ปี พ.ศ.2466 มุสตาฟา เคมาล อตาเติร์ก อดีตผู้บัญชาการกองทัพได้รับการสถานปนาเป็นประธานาธิบดีคนแรกของสาธารณรัฐตุรกี
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ตุรกีวางตัวเป็นกลาง แต่ในเดือนกุมภาพันธ์ 2488 ตุรกีประกาศเข้าร่วมกับฝ่ายสัมพันธมิตรสงครามโลกครั้งที่ 2 หลังจากนั้นเพียง 4 เดือนฝ่ายสัมพันธมิตรประสบชัยชนะ ตุรกีจึงได้เข้าร่วมกับกลุ่มประเทศผู้ก่อตั้งองค์การสหประชาชาติ
หลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ไม่นาน โลกก็เข้าสู่สงครามเย็น (Cold War) โดยอเมริกาและสหภาพโซเวียตต่างพยายามสะสมอาวุธนิวเคลียร์เพื่อป้องกันการรุกรานจากฝ่ายตรงข้าม พร้อมๆกับที่ต่างฝ่ายต่างพยายามเผยแพร่ลัทธิทางการเมืองของตนเองไปสู่ประเทศต่างๆ
สหภาพโซเวียตพยายามแผ่ลัทธิคอมมิวนิสต์เข้าสู่หลายประเทศในยุโรปตะวันออก
อเมริกาและยุโรปตะวันตกกังวลถึงการแผ่ขยายลัทธิคอมมิวนิสต์จึงร่วมกันจัดตั้งองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) โดยการจับมือร่วมกันของอเมริกา, เบลเยียม, แคนาดา, เดนมาร์ก, ฝรั่งเศส, ไอซ์แลนด์, อิตาลี, ลักเซมเบิร์ก, เนเธอร์แลนด์, นอร์เวย์, โปรตุเกส และสหราชอาณาจักร ในปี พ.ศ. 2492
ปี พ.ศ.2495 ตุรกีและกรีซได้เข้าร่วมเป็นสมาชิก NATO โดย NATO ต้องการให้ตุรกีและกรีซเป็นหน้าด่านเพื่อป้องกันการรุกรานของสหภาพโซเวียตผ่านทางทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
ด้วยสนธิสัญญาดังกล่าวทำให้อเมริกาสามารถจัดตั้งฐานทัพของตนเองในตุรกี ซึ่งเป็นเพียงประเทศเดียวในขณะนั้นที่มีพรมแดนติดกับสหภาพโซเวียต และอยู่ใกล้กรุงมอสโคว์มากที่สุด
ในปี พ.ศ. 2504 ตุรกีกลับมาเป็นยุทธศาสตร์สำคัญอีกครั้ง เมื่ออเมริกาแอบติดตั้งขีปนาวุธ PGM-19 Jupiter ซึ่งสามารถติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์ และมีพิสัยการยิงไปไกลถึงกรุงมอสโคว์ของสหภาพโซเวียต
สหภาพโซเวียตสืบทราบและไม่พอใจอย่างมากจึงแอบสร้างฐานยิงขีปนาวุธในคิวบา และพยายามส่งขีปนาวุธ R-14 Chusovaya ซึ่งสามารถติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์ และมีพิสัยการยิงไปไกลถึงกรุงวอชิงตัน ดีซีของอเมริกาไปที่คิวบา แต่อเมริกาสืบทราบจึงส่งกองทัพเรือเข้าเผชิญหน้ากับเรือขนส่งขีปนาวุธของสหภาพโซเวียตที่อ่าวสุกร (Bay of Pigs) ที่คิวบาจนเกือบจะเกิดสงครามนิวเคลียร์
วิกฤตการณ์ครั้งนี้ยุติลง โดยทั้ง 2 ฝ่ายยอมถอนขีปนาวุธของตนเองออกจากตรุกี อิตาลี และคิวบา
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่