หญิงคู่และคู่ผสม
นักกีฬาไทยได้โควต้าหญิงคู่ 1 คู่ คือ พุทิตา สุภจิรกุล / ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย และคู่ผสม 1 คู่ คือ บดินทร์ อิสระ / สาวิตรี อมิตรพ่าย
โดยในส่วนของหญิงคู่นั้น ผลงานช่วงหลังๆของสาวไทยก็ถือว่าทำผลงานได้ดีแต่ถ้าเทียบกับ คู่มือต้นๆของโลกก็ต้องยอมรับว่าเราเป็นรองอยู่เยอะ โดยน้องเอิร์ธ พุทิตา หญิงสาวรูปร่างสูงโปร่ง จะเป็นมือหน้า ส่วน ปอป้อ ทรัพย์สิรี
เป็นมือหลัง
ส่วนคู่ผสมของเรานั้นเป็นคู่ใหม่ แต่หน้าเก่า โดยมีบดินทร์ อิสระ จอมตบหนัก จับคู่กับ เอ็มเอ็ม สาวิตรี อมิตรพ่าย ซึ่งก็ถือว่าไม่ใช่ดาวรุ่งแล้ว โดยจุดเด่นของคู่นี้อยู่ที่ความหนักของลูกตบ เจ้าอาร์ท กับ การดักหน้าเนตของเอ็ม เอ็ม ซึ่งฟอร์มช่วงหลังๆของคู่นี้ถือว่าไม่ธรรมดา
วิเคราะห์คู่แข่งที่สำคัญ(หญิงคู่)
1.Misaki MATSUTOMO/Ayaka TAKAHASHI (Japan) : ขึ้นชื่อว่านักกีฬาจากญี่ปุ่น เรื่องความอึดความทนไม่ต้องพูดถึง โดยเจ้าของมือ 1 ของโลกในปัจจุบัน ปี2016 นั้นความแชมป์มาแล้วถึง 4 Superseries การันตีด้วยฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยม
จุดเด่น : มือหน้าฉลาดเป็นกรด มือหลังตบได้ทั้งวัน เกมรับเหนียว
จุดอ่อน : รูปร่างเล็ก มีการตีเสียเองบ่อยครั้ง
2.TANG Yuanting/YU Yang (F) (China) : คู่นี้ได้ความเก๋าของ Yu Yang ซึ่งเคยคว้าเหรียญทองโอลิมปิคปี 2008 ที่ปักกิ่ง มาแล้วโดยครั้งนั้นคู่กับ
Du Jing ครั้งนี้ได้มาผนึกกำลังกับสาวรูปร่างเหมือนเด็กผู้ชาย TANG Yuanting ที่มีเกมบุกเป็นอาวุธสำคัญ ซึ่งทั้ง2คนก็พร้อมจะมาล่าเหรียญรางวัลในครั้งนี้อย่างเต็มที่
จุดเด่น : มือหลังตบหนัก มือหน้าเล่นฉลาด เปลี่ยนรับเป็นรุกได้ดี
จุดอ่อน : สภาพร่างกายของ Yu Yang คู่แข่งเริ่มจับทางได้ ไม่ให้ Yu Yang เข้าหน้าง่ายๆ การตีเสียเองของ TANG Yuanting
3.Luo Ying/Luo Yu (China) : คู่นี้นึกว่าจะไม่ได้ไปโอลิมปิคซะแล้ว เพราะผลงานในปี 2016 ไม่ดีเอามากๆ แต่ทางโค้ชจีน เลือกคู่นี้ก็เพราะว่า คู่หลัก อย่าง Tian Qing/ZHAO Yunlei นั้น ทาง ZHAO Yunlei ต้องมีภาระเล่นคู่ผสมอยู่ ทำให้ความน่ากลัวของหญิงคู่ของจีนลดลงไปเยอะเลยทีเดียว
จุดเด่น : เหนียว เล่นเกมยาวๆได้
จุดอ่อน : พลาดเองง่ายๆ ยังไม่มีมือหน้าที่ดีพอ
บทสรุป แบบไม่อวย
โอกาสในการคว้าเหรียญของไทย : ต้องบอกว่าโอกาสในการคว้าเหรียญนั้นยากไม่ได้ต่างไปกับชายเดี่ยวเลย ซึ่งประเภทหญิงคู่นั้น จีนครองความยิ่งใหญ่มาโดยตลอด โดยโอกาสให้เพียง 1 % เข้ารอบ 8 คนสุดท้ายได้ถือว่าเก่งมาก
เต็งแชมป์ : ญี่ปุ่นถึงแม้ว่าช่วงหลังๆจะฟอร์มดีมากๆ แต่อย่าลืมว่าประเภทนี้ จีนครองความยิ่งใหญ่มายาวนาน ไม่ใช่เรื่องง่ายๆแน่ที่ชายหมวกดำจะปล่อยให้แชมป์หญิงคู่หลุดมือจากจีนแผ่นดินใหญ่ แต่เนื่องจากคู่เก่งอย่าง Tian Qing/ZHAO Yunlei ไม่ได้ลงแข่ง ซึ่งก็ไม่คิดว่า
Luo Ying/Luo Yu จะทำได้ดีซักเท่าไร คู่ชิงคงต้องมีจีนกับญี่ปุ่นคู่ใดคู้นึงแน่นอน
ม้ามืด : มองไปที่คู่ของอินโดนีเซีย Nitya Krishinda MAHESWARI
/Greysia POLII กับคู่เกาหลี JUNG Kyung Eun/SHIN Seung Chan เป็นตัวสอดแทรกชั้นยอด เริ่มความนานคู่ของอินโดนีเซียได้พิสูจน์ให้เห็นมาแล้วในเอเชี่ยนเกมส์ครั้งล่าสุด นานมานานกลับไม่โกง ส่วนคู่ของเกาหลีใต้ที่ถึงแม้ จะจับคู่กันได้ไม่นานแต่ก็ทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ
วิเคราะห์คู่แข่งที่สำคัญ(คู่ผสม)
1.ZHANG Nan/ZHAO Yunlei (China) : คู่รัก เอ้ยย คู่ผสมเจ้าของแชมป์เก่าคู่นี้ ต้องบอกได้ว่าไร้เทียมทาน ยามที่ ZHAO Yunlei ยืนในแดนหน้านั้นก็เปรียบเสมือน ภรรยาที่บ้านที่สามารถควบคุมเกมการเล่นของสามีได้หมด โดยที่ ZHANG Nan ต้องพยายามทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด มิเช่นนั้น...เหนื่อยใจ
จุดเด่น : เป็นคู่ที่เข้าขากันดี มือหน้าร้ายกาจ มือหลังตบหนัก รวดเร็ว
จุดอ่อน : ครั้งหลังๆอาจจะมีบ้างที่พยายามเร่ง แต่เร่งไม่ขึ้น
2.Tontowi AHMAD/Liliyana NATSIR (Indonesia) : คู่นี้ได้ความหนักบวกกับความเก๋าของฝ่ายหญิง ซึ่งเคยได้เหรียญเงินเมื่อปี 2008 มาแล้ว และผ่านประสบการณ์มาอย่างโชกโชน ถึงแม้อายุจะล่วงเลยมามาก แต่ครั้งนี้ซึ่งเป็นโอลิมปิคครั้งสุดท้ายของ NATSIR เธอก็จะพยายามคว้าเหรียญมาให้ได้
จุดเด่น : มือหลังตบหนัก หน้าเนตของฝ่ายหญิงทำได้ดี ลูกหลอก ลูกเลี้ยว
จุดอ่อน : สภาพร่างกายของ Natsir และฝ่ายชายบทจะหลุดก็หลุดไปเลย
3.KO Sung Hyun/KIM Ha Na (Korea) : คู่นี้ต้องบอกได้ว่าเป็นคู่ที่มาแรงแซงทุกสำนัก ผลงานในช่วงหลังกวาดแชมป์เป็นว่าเล่น มาโอลิมปิคครั้งนี้
จะคาดหวังอะไรไปไม่ได้นอกจาก ต้องมีเหรียญติดมือเท่านั้น
จุดเด่น : ผู้ชายตบหนักมาก ผู้หญิงเกมรับดีมาก
จุดอ่อน : ลูกเสิร์ฟของฝ่ายชายยังมีปัญหา ฝ่ายหญิงไม่มีความกระตือรือร้น
บทสรุป แบบไม่อวย
โอกาสในการคว้าเหรียญของไทย : ถึงแม้ว่าคู่จอมเก๋าอย่าง สุตเขต-สราลีย์จะไม่ได้ไป เนื่องจากอาการบาดเจ็บของสราลีย์ แต่ก็ต้องบอกว่า คู่ของบดินทร์กับสาวิตรี ก็ทดแทนได้ไม่ต่างกัน แต่ว่าโอกาสในการคว้าเหรียญก็ยากมากอยู่เหมือนกัน แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่มี ถ้าเกิดลูกตบของบดินทร์ทำงาน บวกกับเอ็มเอ็ม ดักหน้าได้ดี อะไรก็เกิดขึ้นได้ 5-10% ถ้าเข้ารอบ 8 คนได้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จ
เต็งแชมป์ : ยังคงมองไปที่คู่ที่ไร้เทียมทานของจีน จะเป็นเต็ง 1 แบบชัดเจนกว่าทุกประเภท คู่อื่นๆยังมีช่องว่างความห่างอยู่นิดๆ แต่มีเรื่องที่ต้องระวังคือ ฝ่ายชายต้องเล่นถึง 2 ประเภท ก็คือชายคู่ กับคู่ผสม ซึ่งดูแล้ว ก็ไม่น่าจะเป็นปัญหามากนัก ซึ่งการไม่ได้เหรียญทอง ก็ถือว่าเป็นความล้มเหลวก็ว่าได้ โดยส่วนตัวคิดว่าเต็ง 2 น่าจะเป็นเกาหลีใต้ อยู่เหนือคู่มือ1จากอินโดนีเซีย
ม้ามืด : ถ้าเกิด KO Sung Hyun/KIM Ha Na (Korea) ไม่ก้าวขึ้นมาพรวดพราด คู่นี้ก็จะถือเป็นม้ามืด แต่ม้ามืดที่แท้จริงจะอยู่ที่ Praveen JORDAN/ Debby SUSANTO ฝ่ายชายตบหนัก เกมรับดี บวกกับฝ่ายหญิงที่มีเกมรับ กับเกมหน้าเนตที่ดีมากๆอยู่แล้ว ก็มีลุ้นเหรียญรางวัลได้เหมือนกัน
เหลืออีกประเภทเดียวคือหญิงเดี่ยวครับ
ถ้าสนใจเรื่องราวกีฬาไปติดตามในเพจ ด้านล่างได้นะครับ
ชอบก็กดไลค์เป็นกำลังใจได้นะครับ
https://www.facebook.com/downheartedsport/
วิเคราะห์โอกาสในการคว้าเหรียญรางวัล แบดมินตันหญิงคู่และคู่ผสม โอลิมปิค2016
นักกีฬาไทยได้โควต้าหญิงคู่ 1 คู่ คือ พุทิตา สุภจิรกุล / ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย และคู่ผสม 1 คู่ คือ บดินทร์ อิสระ / สาวิตรี อมิตรพ่าย
โดยในส่วนของหญิงคู่นั้น ผลงานช่วงหลังๆของสาวไทยก็ถือว่าทำผลงานได้ดีแต่ถ้าเทียบกับ คู่มือต้นๆของโลกก็ต้องยอมรับว่าเราเป็นรองอยู่เยอะ โดยน้องเอิร์ธ พุทิตา หญิงสาวรูปร่างสูงโปร่ง จะเป็นมือหน้า ส่วน ปอป้อ ทรัพย์สิรี
เป็นมือหลัง
ส่วนคู่ผสมของเรานั้นเป็นคู่ใหม่ แต่หน้าเก่า โดยมีบดินทร์ อิสระ จอมตบหนัก จับคู่กับ เอ็มเอ็ม สาวิตรี อมิตรพ่าย ซึ่งก็ถือว่าไม่ใช่ดาวรุ่งแล้ว โดยจุดเด่นของคู่นี้อยู่ที่ความหนักของลูกตบ เจ้าอาร์ท กับ การดักหน้าเนตของเอ็ม เอ็ม ซึ่งฟอร์มช่วงหลังๆของคู่นี้ถือว่าไม่ธรรมดา
วิเคราะห์คู่แข่งที่สำคัญ(หญิงคู่)
1.Misaki MATSUTOMO/Ayaka TAKAHASHI (Japan) : ขึ้นชื่อว่านักกีฬาจากญี่ปุ่น เรื่องความอึดความทนไม่ต้องพูดถึง โดยเจ้าของมือ 1 ของโลกในปัจจุบัน ปี2016 นั้นความแชมป์มาแล้วถึง 4 Superseries การันตีด้วยฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยม
จุดเด่น : มือหน้าฉลาดเป็นกรด มือหลังตบได้ทั้งวัน เกมรับเหนียว
จุดอ่อน : รูปร่างเล็ก มีการตีเสียเองบ่อยครั้ง
2.TANG Yuanting/YU Yang (F) (China) : คู่นี้ได้ความเก๋าของ Yu Yang ซึ่งเคยคว้าเหรียญทองโอลิมปิคปี 2008 ที่ปักกิ่ง มาแล้วโดยครั้งนั้นคู่กับ
Du Jing ครั้งนี้ได้มาผนึกกำลังกับสาวรูปร่างเหมือนเด็กผู้ชาย TANG Yuanting ที่มีเกมบุกเป็นอาวุธสำคัญ ซึ่งทั้ง2คนก็พร้อมจะมาล่าเหรียญรางวัลในครั้งนี้อย่างเต็มที่
จุดเด่น : มือหลังตบหนัก มือหน้าเล่นฉลาด เปลี่ยนรับเป็นรุกได้ดี
จุดอ่อน : สภาพร่างกายของ Yu Yang คู่แข่งเริ่มจับทางได้ ไม่ให้ Yu Yang เข้าหน้าง่ายๆ การตีเสียเองของ TANG Yuanting
3.Luo Ying/Luo Yu (China) : คู่นี้นึกว่าจะไม่ได้ไปโอลิมปิคซะแล้ว เพราะผลงานในปี 2016 ไม่ดีเอามากๆ แต่ทางโค้ชจีน เลือกคู่นี้ก็เพราะว่า คู่หลัก อย่าง Tian Qing/ZHAO Yunlei นั้น ทาง ZHAO Yunlei ต้องมีภาระเล่นคู่ผสมอยู่ ทำให้ความน่ากลัวของหญิงคู่ของจีนลดลงไปเยอะเลยทีเดียว
จุดเด่น : เหนียว เล่นเกมยาวๆได้
จุดอ่อน : พลาดเองง่ายๆ ยังไม่มีมือหน้าที่ดีพอ
บทสรุป แบบไม่อวย
โอกาสในการคว้าเหรียญของไทย : ต้องบอกว่าโอกาสในการคว้าเหรียญนั้นยากไม่ได้ต่างไปกับชายเดี่ยวเลย ซึ่งประเภทหญิงคู่นั้น จีนครองความยิ่งใหญ่มาโดยตลอด โดยโอกาสให้เพียง 1 % เข้ารอบ 8 คนสุดท้ายได้ถือว่าเก่งมาก
เต็งแชมป์ : ญี่ปุ่นถึงแม้ว่าช่วงหลังๆจะฟอร์มดีมากๆ แต่อย่าลืมว่าประเภทนี้ จีนครองความยิ่งใหญ่มายาวนาน ไม่ใช่เรื่องง่ายๆแน่ที่ชายหมวกดำจะปล่อยให้แชมป์หญิงคู่หลุดมือจากจีนแผ่นดินใหญ่ แต่เนื่องจากคู่เก่งอย่าง Tian Qing/ZHAO Yunlei ไม่ได้ลงแข่ง ซึ่งก็ไม่คิดว่า
Luo Ying/Luo Yu จะทำได้ดีซักเท่าไร คู่ชิงคงต้องมีจีนกับญี่ปุ่นคู่ใดคู้นึงแน่นอน
ม้ามืด : มองไปที่คู่ของอินโดนีเซีย Nitya Krishinda MAHESWARI
/Greysia POLII กับคู่เกาหลี JUNG Kyung Eun/SHIN Seung Chan เป็นตัวสอดแทรกชั้นยอด เริ่มความนานคู่ของอินโดนีเซียได้พิสูจน์ให้เห็นมาแล้วในเอเชี่ยนเกมส์ครั้งล่าสุด นานมานานกลับไม่โกง ส่วนคู่ของเกาหลีใต้ที่ถึงแม้ จะจับคู่กันได้ไม่นานแต่ก็ทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ
วิเคราะห์คู่แข่งที่สำคัญ(คู่ผสม)
1.ZHANG Nan/ZHAO Yunlei (China) : คู่รัก เอ้ยย คู่ผสมเจ้าของแชมป์เก่าคู่นี้ ต้องบอกได้ว่าไร้เทียมทาน ยามที่ ZHAO Yunlei ยืนในแดนหน้านั้นก็เปรียบเสมือน ภรรยาที่บ้านที่สามารถควบคุมเกมการเล่นของสามีได้หมด โดยที่ ZHANG Nan ต้องพยายามทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด มิเช่นนั้น...เหนื่อยใจ
จุดเด่น : เป็นคู่ที่เข้าขากันดี มือหน้าร้ายกาจ มือหลังตบหนัก รวดเร็ว
จุดอ่อน : ครั้งหลังๆอาจจะมีบ้างที่พยายามเร่ง แต่เร่งไม่ขึ้น
2.Tontowi AHMAD/Liliyana NATSIR (Indonesia) : คู่นี้ได้ความหนักบวกกับความเก๋าของฝ่ายหญิง ซึ่งเคยได้เหรียญเงินเมื่อปี 2008 มาแล้ว และผ่านประสบการณ์มาอย่างโชกโชน ถึงแม้อายุจะล่วงเลยมามาก แต่ครั้งนี้ซึ่งเป็นโอลิมปิคครั้งสุดท้ายของ NATSIR เธอก็จะพยายามคว้าเหรียญมาให้ได้
จุดเด่น : มือหลังตบหนัก หน้าเนตของฝ่ายหญิงทำได้ดี ลูกหลอก ลูกเลี้ยว
จุดอ่อน : สภาพร่างกายของ Natsir และฝ่ายชายบทจะหลุดก็หลุดไปเลย
3.KO Sung Hyun/KIM Ha Na (Korea) : คู่นี้ต้องบอกได้ว่าเป็นคู่ที่มาแรงแซงทุกสำนัก ผลงานในช่วงหลังกวาดแชมป์เป็นว่าเล่น มาโอลิมปิคครั้งนี้
จะคาดหวังอะไรไปไม่ได้นอกจาก ต้องมีเหรียญติดมือเท่านั้น
จุดเด่น : ผู้ชายตบหนักมาก ผู้หญิงเกมรับดีมาก
จุดอ่อน : ลูกเสิร์ฟของฝ่ายชายยังมีปัญหา ฝ่ายหญิงไม่มีความกระตือรือร้น
บทสรุป แบบไม่อวย
โอกาสในการคว้าเหรียญของไทย : ถึงแม้ว่าคู่จอมเก๋าอย่าง สุตเขต-สราลีย์จะไม่ได้ไป เนื่องจากอาการบาดเจ็บของสราลีย์ แต่ก็ต้องบอกว่า คู่ของบดินทร์กับสาวิตรี ก็ทดแทนได้ไม่ต่างกัน แต่ว่าโอกาสในการคว้าเหรียญก็ยากมากอยู่เหมือนกัน แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่มี ถ้าเกิดลูกตบของบดินทร์ทำงาน บวกกับเอ็มเอ็ม ดักหน้าได้ดี อะไรก็เกิดขึ้นได้ 5-10% ถ้าเข้ารอบ 8 คนได้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จ
เต็งแชมป์ : ยังคงมองไปที่คู่ที่ไร้เทียมทานของจีน จะเป็นเต็ง 1 แบบชัดเจนกว่าทุกประเภท คู่อื่นๆยังมีช่องว่างความห่างอยู่นิดๆ แต่มีเรื่องที่ต้องระวังคือ ฝ่ายชายต้องเล่นถึง 2 ประเภท ก็คือชายคู่ กับคู่ผสม ซึ่งดูแล้ว ก็ไม่น่าจะเป็นปัญหามากนัก ซึ่งการไม่ได้เหรียญทอง ก็ถือว่าเป็นความล้มเหลวก็ว่าได้ โดยส่วนตัวคิดว่าเต็ง 2 น่าจะเป็นเกาหลีใต้ อยู่เหนือคู่มือ1จากอินโดนีเซีย
ม้ามืด : ถ้าเกิด KO Sung Hyun/KIM Ha Na (Korea) ไม่ก้าวขึ้นมาพรวดพราด คู่นี้ก็จะถือเป็นม้ามืด แต่ม้ามืดที่แท้จริงจะอยู่ที่ Praveen JORDAN/ Debby SUSANTO ฝ่ายชายตบหนัก เกมรับดี บวกกับฝ่ายหญิงที่มีเกมรับ กับเกมหน้าเนตที่ดีมากๆอยู่แล้ว ก็มีลุ้นเหรียญรางวัลได้เหมือนกัน
เหลืออีกประเภทเดียวคือหญิงเดี่ยวครับ
ถ้าสนใจเรื่องราวกีฬาไปติดตามในเพจ ด้านล่างได้นะครับ
ชอบก็กดไลค์เป็นกำลังใจได้นะครับ
https://www.facebook.com/downheartedsport/