สวัสดีค่ะ กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของเรานะคะ หากผิดพลาดประการใดก็ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย
เราอยากมาแชร์ประสบการณ์..เราเป็นคนนึงที่ตั้งแต่เล็กจนโตจะมีชีวิตที่ถูกขีดไว้โดยแม่ตลอด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรียน เรื่องอาหารการกินและเรื่องอื่นๆในชีวิต จนกระทั่งเข้ามหาวิทยาลัย เราเข้าเรียนทางสายวิทยาศาสตร์สุขภาพตามที่แม่ต้องการ โดยต้องเรียนทั้งหมด 6 ปี ตอนเรียนก็ร้องไห้ตลอด เพราะฝืนเรียน เราไม่เคยมีแฟนเลย มีแฟนคนแรกตอนเข้าปี 1 แฟนเป็นรุ่นพี่คนละคณะ แม่ไม่ชอบแฟนเรามาก บอกว่าเค้าจน ไม่มีอนาคต บอกว่าแม่แฟนชอบเล่นไพ่(อันนี้ไม่จริง) บอกว่าแฟนเราโทรไปด่าแม่เราบ่อยๆทั้งๆที่แฟนเราไม่มีเบอร์โทรศัพท์แม่เรา หนักสุดตอนปี 2 แม่รู้ว่ายังไม่เลิกกัน แม่ตัดเงินค่าใช้จ่ายเราทุกอย่าง ดีหน่อยที่ตอนนั้นไม่ได้อยู่หอพัก เราพักกับพี่ชายพี่สะใภ้ที่เปิดร้านขายของ ไม่มีเงินกินข้าวจนต้องกินน้ำรองท้อง ขอเงินพ่อไม่ได้ เพราะเงินอยู่ที่แม่หมด พ่อแอบบอกพี่ชายเอาเงินให้ พอลับหลังพี่สะใภ้ก็มาขอคืน เวลาพี่ชายพี่สะใภ้กินข้าว พี่ชายเรียกกินข้าวพี่สะใภ้ก็จะไม่ให้กินด้วย เราก็เลยตัดปัญหาไม่กิน ไม่บอกพี่ว่าพี่สะใภ้ทำอะไรไว้บ้าง กลัวเค้ามีปัญหากัน เงินที่ได้ซื้อข้าวกินจะได้จากแฟนที่โอนให้บ้าง แต่ไม่มาก เพราะเค้าก็เพิ่งจบเพิ่งเริ่มทำงาน เงินเดือนไม่สูงและมีภาระทางบ้าน เราก็ไม่อยากรบกวน โดยมากจะกินนำ้เปล่าและเอาข้าวสารมาต้มใส่เกลือกิน บางครั้งมาม่า 1 ห่อ ต้องแบ่งกิน 4 ส่วน ได้ 4 ครั้ง แช่น้ำนานๆจะได้อืดๆได้เยอะขึ้น พอย่าเรารู้เรื่องก็เลยเอาสร้อยทองไปขาย เอาเงินมาให้เราใช้ แม่ไปบอกร้านขายของข้างบ้านว่าเอาเงินจ้างเราเข้ามหาลัย 3 แสน บอกว่าเราเกเร ไม่ชอบนอนบ้าน ชอบออกไปนอนกับผู้ชาย เรารู้เรื่องเพราะร้านขายของมาเล่าให้ฟัง เราเลยย้ายออกจากร้านพี่ชายมาเช่าหออยู่เอง โดยค่าหอพักก็หาเองบ้าง พ่อแอบเอาเงินมาช่วยบ้าง แฟนช่วยบ้าง จนเราเรียนจบได้ทำงานรับราชการ แม่ก็ไม่มางานรับปริญญาเรา ส่วนแฟนก็พยายามจนสอบบรรจุจนได้เป็นข้าราชการ เพียงหวังว่าจะดูดีขึ้นมาในสายตาของแม่เราบ้าง เพียรพยายามเรียนต่อจนจบ ป.โท แต่ก็ไม่ดีขึ้นเลยในสายตาของแม่ เพราะแม่บอกว่าเค้าจน เราต้องไปหาคนรวยๆ เราสองคนเคยเลิกกันเพราะสงสารแฟน อยากให้เค้าเจอคนที่ดีกว่าเรา แต่ก็เลิกกันได้ไม่นาน ก็กลับมาคบกันเหมือนเดิม แฟนก็ไปกราบแม่เราขอเราแต่งงาน แต่แม่ไม่ยอมพร้อมด่ากราดและสาบแช่งขอให้เราล่มจม ไม่เจริญ วันแม่เราโทรหาก็ด่าเราและโทรมาด่าเราทั้งวัน วันเกิดเราส่งข้อความหาก็โทรมาด่าเรา เราสองคนจึงไปกราบพ่อและบอกว่าเราจะไปจดทะเบียนสมรสกัน พอแม่รู้ทีหลังก็บอกให้แฟนเราหาเงินมาให้ค่าตัวเรา 5 แสน เงินสด ถ้าไม่เอามาให้ภายใน 2 เดือนจะไปแจ้งเจ้านายต้นสังกัดของเราและแฟน ระหว่างนั้นก็โทรทวงทุกวัน จนแฟนเราให้เงินครบ หลังจากนั้นพอเราท้องแล้วแม่เรารู้ก็มาด่าเราที่บ้านพัก ให้เราทำแท้งเอาลูกออก บอกว่ามี ผอ รร สนใจอยากให้ไปแต่งงานด้วย แต่เราไม่ยอม แม่โกรธมากด่าว่าเราอกตัญญู แม่เลยขนเอาของทุกอย่างจากบ้านไป ซึ่งแม่บอกว่าเป็นเงินแม่ซื้อ และเอาปืนมาด้วย ถ้าเอาชีวิตเราคืนได้ แม่ก็จะเอาคืน ซึ่งตอนนั้นเราท้องได้ 6 เดือนและแม่ได้บอกตัดขาดแม่ลูกกันตั้งแต่วันนั้น สาปแช่งให้เราล่มจม ไม่เจริญ ไม่ประสบความสำเร็จในชีวิต และเราก็ไม่ได้ติดต่อแม่อีกเลยจนเราคลอดแม่ก็โทรมาถามว่าเรากับลูกตายรึยัง ไม่อโหสิให้เรา ถ้าตายก็ไม่ต้องไปเผา แล้วก็ไม่โทรมาอีกเลย ห้ามพ่อติดต่อเราด้วยทุกวิถีทาง จนวันนี้ลูกเราอายุได้ 3 ขวบแล้ว สามีดูแลดีมากๆ ทำงานบ้านให้ทุกๆอย่าง ดูแลลูกกับครอบครัวดีมาก เสียสละให้ลูกเมียก่อนความสุขของตัวเองตลอด เราก็ได้แต่บอกตัวเองว่าเราจะไม่ทำแบบนี้กับลูกเรา จะรักเค้าให้มากๆเราขอบคุณสามีก่อนนอนทุกครั้งที่เค้ายังอยู่เคียงข้างเราไม่ทิ้งเรากับลูกไปไหน และแม่ทำให้เรารู้ว่าการเป็นพ่อเป็นแม่คนก็ไม่ได้ทำถูกทุกอย่างเสมอไป เรายังระลึกถึงแม่เสมอ เพราะยังไงแม่ก็คือผู้มีพระคุณ ผู้ให้กำเนิด
เมื่อโดนกล่าวหาว่าเป็นลูกอกตัญญู
เราอยากมาแชร์ประสบการณ์..เราเป็นคนนึงที่ตั้งแต่เล็กจนโตจะมีชีวิตที่ถูกขีดไว้โดยแม่ตลอด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรียน เรื่องอาหารการกินและเรื่องอื่นๆในชีวิต จนกระทั่งเข้ามหาวิทยาลัย เราเข้าเรียนทางสายวิทยาศาสตร์สุขภาพตามที่แม่ต้องการ โดยต้องเรียนทั้งหมด 6 ปี ตอนเรียนก็ร้องไห้ตลอด เพราะฝืนเรียน เราไม่เคยมีแฟนเลย มีแฟนคนแรกตอนเข้าปี 1 แฟนเป็นรุ่นพี่คนละคณะ แม่ไม่ชอบแฟนเรามาก บอกว่าเค้าจน ไม่มีอนาคต บอกว่าแม่แฟนชอบเล่นไพ่(อันนี้ไม่จริง) บอกว่าแฟนเราโทรไปด่าแม่เราบ่อยๆทั้งๆที่แฟนเราไม่มีเบอร์โทรศัพท์แม่เรา หนักสุดตอนปี 2 แม่รู้ว่ายังไม่เลิกกัน แม่ตัดเงินค่าใช้จ่ายเราทุกอย่าง ดีหน่อยที่ตอนนั้นไม่ได้อยู่หอพัก เราพักกับพี่ชายพี่สะใภ้ที่เปิดร้านขายของ ไม่มีเงินกินข้าวจนต้องกินน้ำรองท้อง ขอเงินพ่อไม่ได้ เพราะเงินอยู่ที่แม่หมด พ่อแอบบอกพี่ชายเอาเงินให้ พอลับหลังพี่สะใภ้ก็มาขอคืน เวลาพี่ชายพี่สะใภ้กินข้าว พี่ชายเรียกกินข้าวพี่สะใภ้ก็จะไม่ให้กินด้วย เราก็เลยตัดปัญหาไม่กิน ไม่บอกพี่ว่าพี่สะใภ้ทำอะไรไว้บ้าง กลัวเค้ามีปัญหากัน เงินที่ได้ซื้อข้าวกินจะได้จากแฟนที่โอนให้บ้าง แต่ไม่มาก เพราะเค้าก็เพิ่งจบเพิ่งเริ่มทำงาน เงินเดือนไม่สูงและมีภาระทางบ้าน เราก็ไม่อยากรบกวน โดยมากจะกินนำ้เปล่าและเอาข้าวสารมาต้มใส่เกลือกิน บางครั้งมาม่า 1 ห่อ ต้องแบ่งกิน 4 ส่วน ได้ 4 ครั้ง แช่น้ำนานๆจะได้อืดๆได้เยอะขึ้น พอย่าเรารู้เรื่องก็เลยเอาสร้อยทองไปขาย เอาเงินมาให้เราใช้ แม่ไปบอกร้านขายของข้างบ้านว่าเอาเงินจ้างเราเข้ามหาลัย 3 แสน บอกว่าเราเกเร ไม่ชอบนอนบ้าน ชอบออกไปนอนกับผู้ชาย เรารู้เรื่องเพราะร้านขายของมาเล่าให้ฟัง เราเลยย้ายออกจากร้านพี่ชายมาเช่าหออยู่เอง โดยค่าหอพักก็หาเองบ้าง พ่อแอบเอาเงินมาช่วยบ้าง แฟนช่วยบ้าง จนเราเรียนจบได้ทำงานรับราชการ แม่ก็ไม่มางานรับปริญญาเรา ส่วนแฟนก็พยายามจนสอบบรรจุจนได้เป็นข้าราชการ เพียงหวังว่าจะดูดีขึ้นมาในสายตาของแม่เราบ้าง เพียรพยายามเรียนต่อจนจบ ป.โท แต่ก็ไม่ดีขึ้นเลยในสายตาของแม่ เพราะแม่บอกว่าเค้าจน เราต้องไปหาคนรวยๆ เราสองคนเคยเลิกกันเพราะสงสารแฟน อยากให้เค้าเจอคนที่ดีกว่าเรา แต่ก็เลิกกันได้ไม่นาน ก็กลับมาคบกันเหมือนเดิม แฟนก็ไปกราบแม่เราขอเราแต่งงาน แต่แม่ไม่ยอมพร้อมด่ากราดและสาบแช่งขอให้เราล่มจม ไม่เจริญ วันแม่เราโทรหาก็ด่าเราและโทรมาด่าเราทั้งวัน วันเกิดเราส่งข้อความหาก็โทรมาด่าเรา เราสองคนจึงไปกราบพ่อและบอกว่าเราจะไปจดทะเบียนสมรสกัน พอแม่รู้ทีหลังก็บอกให้แฟนเราหาเงินมาให้ค่าตัวเรา 5 แสน เงินสด ถ้าไม่เอามาให้ภายใน 2 เดือนจะไปแจ้งเจ้านายต้นสังกัดของเราและแฟน ระหว่างนั้นก็โทรทวงทุกวัน จนแฟนเราให้เงินครบ หลังจากนั้นพอเราท้องแล้วแม่เรารู้ก็มาด่าเราที่บ้านพัก ให้เราทำแท้งเอาลูกออก บอกว่ามี ผอ รร สนใจอยากให้ไปแต่งงานด้วย แต่เราไม่ยอม แม่โกรธมากด่าว่าเราอกตัญญู แม่เลยขนเอาของทุกอย่างจากบ้านไป ซึ่งแม่บอกว่าเป็นเงินแม่ซื้อ และเอาปืนมาด้วย ถ้าเอาชีวิตเราคืนได้ แม่ก็จะเอาคืน ซึ่งตอนนั้นเราท้องได้ 6 เดือนและแม่ได้บอกตัดขาดแม่ลูกกันตั้งแต่วันนั้น สาปแช่งให้เราล่มจม ไม่เจริญ ไม่ประสบความสำเร็จในชีวิต และเราก็ไม่ได้ติดต่อแม่อีกเลยจนเราคลอดแม่ก็โทรมาถามว่าเรากับลูกตายรึยัง ไม่อโหสิให้เรา ถ้าตายก็ไม่ต้องไปเผา แล้วก็ไม่โทรมาอีกเลย ห้ามพ่อติดต่อเราด้วยทุกวิถีทาง จนวันนี้ลูกเราอายุได้ 3 ขวบแล้ว สามีดูแลดีมากๆ ทำงานบ้านให้ทุกๆอย่าง ดูแลลูกกับครอบครัวดีมาก เสียสละให้ลูกเมียก่อนความสุขของตัวเองตลอด เราก็ได้แต่บอกตัวเองว่าเราจะไม่ทำแบบนี้กับลูกเรา จะรักเค้าให้มากๆเราขอบคุณสามีก่อนนอนทุกครั้งที่เค้ายังอยู่เคียงข้างเราไม่ทิ้งเรากับลูกไปไหน และแม่ทำให้เรารู้ว่าการเป็นพ่อเป็นแม่คนก็ไม่ได้ทำถูกทุกอย่างเสมอไป เรายังระลึกถึงแม่เสมอ เพราะยังไงแม่ก็คือผู้มีพระคุณ ผู้ให้กำเนิด