[CR] Walk Alone in Switzerland by ชายเรียกฝน : Day 8 Schilthorn, Murren & Lauterbrunnen ในวันที่ฟ้า(โคตร)เป็นใจ

กระทู้ก่อนหน้าถ้าใครยังไม่ได้อ่านครับ
http://pantip.com/topic/35299740 Walk Alone in Switzerland by ชายเรียกฝน : Part เตรียมตัว และ Day 1 Good evening Luzern
http://pantip.com/topic/35301836 Walk Alone in Switzerland by ชายเรียกฝน : Day 2 Bern & Montreux
http://pantip.com/topic/35315593 Walk Alone in Switzerland by ชายเรียกฝน : Day 3 Mt.Titlis & Goodbye Luzern
http://pantip.com/topic/35330138 Walk Alone in Switzerland by ชายเรียกฝน : Day 4 Thun ล่องทะเลสาบโรแมนติกในวันฝนตก
http://pantip.com/topic/35345421 Walk Alone in Switzerland by ชายเรียกฝน : Day 5 Oeshinensee & Brienz
http://pantip.com/topic/35356577 Walk Alone in Switzerland by ชายเรียกฝน : Day 6 Basel วันหนีฝนของคนไม่มีแผน
http://pantip.com/topic/35395460 Walk Alone in Switzerland by ชายเรียกฝน : Day 7 Zermatt, Matterhorn ในวันฟ้าหมอง

หลังจากที่ฟ้าฝนไม่เป็นใจมาหลายวันทำให้ผมต้องเปลี่ยนแผนการเดินทางและเมืองที่จะเที่ยวเป็นว่าเล่น แต่...พายุโหมกระหน่ำต้องมีวันหยุด และในวันนี้เองครับที่เป็นการเที่ยวสวิสในรูปแบบที่ผมอยากจะเป็นที่สุด นั่นคือ เดินชิลท่ามกลางแสงแดด สายลม ทุ่งหญ้าเขียว ท้องฟ้าสีคราม สูดโอโซนให้เต็มปอดสองข้าง บลาๆๆๆๆๆ และที่สำคัญคือ ผมไม่ได้เที่ยวคนเดียวครับ น้องๆอีก 3 วันก็มาเที่ยวในวันฟ้าใสนี้ด้วย

พวกเราเริ่มต้นที่ Interlaken Ost เพื่อจะนั่งรถไฟ local ไปยังจุดหมายในวันนี้ก็คือ ยอดเขา Schilthorn ซึ่งสาเหตุที่เลือกไปก็เพราะได้ยินคำกล่าวขานของชาวสวิสที่พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า สวยกว่า Jungfrau นักแล เพราะจะเห็นยอดเขา 3 ยอดเรียงกัน และที่สำคัญคือนักท่องเที่ยวน้อยกว่าด้วย (โดยเฉพาะชาวจีน) เนื่องจากอากาศแย่ติดกันหลายวัน ในวันที่อากาศดีเยี่ยงนี้ นักท่องเที่ยวปริมาณมากจะพากันขึ้น Jungfrau ไปจนหมด เพราะฉะนั้นการไป Schilthorn ของพวกเราทั้งสี่ จึงคาดหวังเป็นอย่างสูงว่าจะพบกับความสุขติอย่างมาก ฮาๆๆๆ และวันนี้เองที่สิ่งที่คิดนั้น ไม่ได้มโนไปเองเลยครับ

รถไฟสาย Local ที่จะพาไปสู่จุดหมายนั้น ต้องดูดีๆนะครับว่าโบกี้ไหน ขบวนไหนจะออกเดินทาง เพราะคุณอาจจะไปผิดทางได้ครับ เพราะการขึ้น Jungfrau ไปได้ 2 ทาง ก่อนที่จะมาบรรจบกัน นั่นคือทางไป Grindelwald และทางไป Lauterbrunnen ครับ ซึ่งถ้าใครจะไป Jungfrau อาจเลือกขึ้นทางหนึ่งแล้วลงอีกทางก็ได้ครับ จะได้ไม่เบื่อด้วย แต่วันนี้การเดินทางเราไปเส้นทางเดียวครับ นั่นคือมุ่งหน้าสู่ Murren (ทางไป Lauterbrunnen) เพื่อไปยัง Schilthorn

credit: http://everyday-delights.blogspot.com/2013/08/europe-2012-day-5-swiss-alps-and.html

วันนี้ฟ้าใสมากๆๆๆครับ เปิดรูปดูทีไรก็รู้สึกอิจฉาตัวเองทุกที วิวภูเขาหิมะเข้าใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เมื่อรถไฟถึง Murren ก็จะพบทัศนียภาพอันน่าตราตรึงใจนี้ครับ


จากนั้นเราจะต้องเดินตัดผ่านหมู่บ้านเพื่อไปขึ้นกระเช้า ระยะทางประมาณ 800 เมตร ระหว่างทางจะเห็นโรงแรมมากมายตั้งอยู่ริมผา เห็นแล้วรู้สึกอยากมาพักเลยครับ คงจะฟินน่าดู มีข้อแม้คือ ต้องอากาศดีนะครัช 5555


ภาพบนคือส่วนของภัตตาคารครับ วิวสวยสะใจจริงๆใช่ไหมละครับ

เดินผ่านไปได้สักครู่ ผมและน้องๆได้ยินเสียงกระดิ่งกุ๊งกิ๊งของน้องวัว ด้วยความรักสัตว์จึงรีบวิ่งไปถ่ายรูปครับ 5555 บางตัวกำลังเล็มหญ้า บางตัวก็นอนมองภูเขาหิมะอยู่ รู้สึกอิจฉาวัวขึ้นมาทันทีที่มันได้เห็นวิวแบบนี้ทุกวัน




การเดินเท้าระยะทาง 800 เมตร กลายเป็นเรื่องจิ๊บๆเมื่อได้เห็นวิวแบบนี้ไปตลอดทาง พวกเราทั้งสี่แวะถ่ายรูปแทบจะทุกมุมถนน กว่าจะไปถึงสถานี Murren ก็ใช้เวลาไปกว่าครึ่งชั่วโมงครับ จากสถานีกระเช้า Murren เป็นต้นไปนี้ไม่สามารถใช้ Swiss pass ได้แล้ว แต่สามารถใช้เป็นส่วนลดเพื่อไปยัง Schilthorn ได้ครับ


วิวสองข้างทางระหว่างนั่งกระเช้าครับ อลังการมากๆ

และแล้วในที่สุดก็มาถึง Schilthorn จนได้ครับ อากาศดีม้าาาาาาก อยากจะตะโกนดังๆด้วยความอัดอั้นมานาน 55555





บริเวณสถานี Schilthorn จะมีลานให้ชมวิวสุดลูกหูลูกตาครับ แต่ทว่าเมื่อพวกเรามาถึงนั้นวิวที่จะมองเห็นสามยอดเขาในตำนานนั้น กลับมีเมฆก้อนใหญ่เบิ้มลอดขึ้นมาปิดเสียนี่ ฮือ น้ำตาจิไหล แต่ก็ไม่เป็นไรครับ เพราะเราทั้งสี่ได้เห็นมาจากข้างล่างแล้ว ตามภาพด้านล่างนี้เลยครับ

ยอดเขาทั้งสามเรียงตามลำดับจากซ้ายมือไปขวามือคือ Eiger, Monch และ Junfrau ครับ ผมสงสัยว่า นักท่องเที่ยวที่อยู่อีกฝั่งบน Jungfrau จะเห็นฝั่งนี้เป็นอย่างไรหนอ

เมื่อมองไปอีกฟากหนึ่งจะพบจุดชมวิวอีกหนึ่งจุด แต่ต้องเดินลุยหิมะขาวโพลนไป ผมกับน้องๆมองหน้ากันชั่วขณะ
"ไปกันสิคะ จะรออะไร 5555" สาวๆรีบจ้ำอ้าวเดินไปอย่างไม่กลัวว่าจะกลิ้งหลุนๆตกเขาเสียก่อน


ระหว่างทางที่เดินไปมีแท่นจัดแสดงรอยมือประทับของเหล่าดาราที่ร่วมเล่นในภาพยนตร์เรื่อง James Bond 007 (ภาคเก่ามากๆซึ่งผมเองก็ไม่เคยดูครับ) ซึ่งที่แห่งนี้เองเป็นที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องดังกล่าว นอกจากลานหิมะนี้แล้ว ภายในตัวสถานีเองก็มีพิพิธภัณฑ์ James Bond จัดแสดงเรื่องราวต่างๆเป็นการเอาใจสาวกสายลับผู้มีชื่อเสียงคนนี้ครับ


หลังจากที่ได้ดื่มดื่มกับทัศนียภาพอันสวยงามแล้ว ก็ได้เวลากินมื้อกลางวันก่อนกลับลงมาครับ ที่ตัวสถานีมีภัตตาคารที่สามารถหมุนได้รอบทิศ ทำให้สามารถชมความงดงามได้ทุกทิศทุกทาง ผมและน้องๆกินบุฟฟเฟ่กันจนอิ่มตื้อเลยทีเดียวครับ จากนั้นก็ได้เวลาอำลาที่แห่งนี้แล้ว รู้สึกคุ้มค่าจริงๆที่ตัดสินใจขึ้นมาวันนี้

หลังจากลงมาที่สถานี Murren พวกเราก็ตัดสินใจว่าจะเดินไปยังหมู่บ้าน Grimmelwald เพราะได้ยินมาว่า สองข้างทางระหว่างเดินนั้นสวยงามนักแล สวยไม่สวยยังไง ขอเชิญชมจากรูปด้านล่างครับ


ในช่วงนี้เริ่มเข้าสู่ฤดูร้อน จึงมีดอกไม้เล็กเริ่มผลิบาน การเดินทางกว่า 1 ชั่วโมงนี้จึงรู้สึกสดชื่นไปตลอดเลยครับ



มีโรงแรมให้พักด้วย แต่...จะลากกระเป๋ามาถึงที่นี่ได้อย่างไรกันล่ะเนี่ย ฮาๆๆ

จาก Grimmelwald เราต้องนั่งกระเช้าลงมา แล้วไปต่อรถบัสเพื่อไปยังที่หมายสุดท้าย นั่นคือเมือง Lauterbrunnen ครับ เป็นเมืองที่มีจุดเด่นคือน้ำตกจากหน้าผาสูงเสียดฟ้า ในความคิดของผม เมืองนี้เปรียบเสมือน Rivendell ใน The lord of the ring นั่นเองครับ

บรรยากาศในเมืองคึกคักทีเดียว มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากมาพักเพื่อเก็บบรรยากาศที่เมืองแห่งนี้ พวกเราเดินมุ่งหน้าไปยังน้ำตกก่อนจะอำลาวันอันแสนสุขนี้ครับ




งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา จากวันพรุ่งนี้ไปผมจะต้องแยกทางกับน้องๆทั้ง 3 แล้ว เพื่อขึ้นเหนือไปเที่ยวตามแผนการต่อ รู้สึกใจหายเพราะเริ่มสนิทกับพวกเขาแล้ว แต่ก็ไม่เป็นไรครับ เราต้องเจอกันสักวันหนึ่งอีกแน่นอน...กว่าจะถึงวันนั้น ขอให้น้องๆประสบความสำเร็จและเอาใบปริญญากลับมาบ้านของเรานะครับ
ชื่อสินค้า:   Switzerland
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่