ตอน 4/4 สุดท้าย
ดูหน้ารู้ว่า หมวยฟินแค่ไหน ชอบวิวนี้มาก ชอบมาก
....... ขากลับออกมาจาก blue lagoon ไม่นาน ฝนก็ตกหนักมากกก แบบต้องหยุดรถ เลยหันไปเจอบ้านๆนึง
มองเราด้วยยิ้มๆเหมือนว่าจะไปรอดหรอ เราก็เลยขอแวะไปหลบที่บ้านเขา มีคุณยายอายุ 70 และหลานของเขาอีก 2 คน
อายุ 20 กลางๆ เคี้ยวหมากแพลบๆ ตอนแรกก็นั่งดูฝนตก สักพักชวนเขาคุย ภาษาเข้าใจง่ายดี
คุณยายก็นั่งเย็บเสื้อกันฝนไว้ทำนา ดูใจดีมากๆ บ้านนี้เป็นมิตร เด็กๆที่แก้ผ้าเล่นน้ำฝนอยู่บ้านแถวๆหลังนี้ก็แวะมาหยุด
ยืนหน้าประตูและมองหน้าหมวยกับเพื่อนๆ เหมือนกับตื่นเต้นไม่เคยเห็นต่างชาติ ไอ้เราก้เลยโบกไม้โบกมือสวยๆพร้อมกับพูดว่า ‘สะบายดี’
ฉีกยิ้มกว้างๆ สักพักเด็กๆก็เข้าบ้านมา ละยืนมองหน้า 55555 พี่สาวบอกว่า เด็กๆชอบเห็นชาวต่างชาติ
แต่ชอบมากกว่าเวลาต่างชาติเอาขนม เงิน มาให้ ตกได้เกือบครึ่งชั่วโมง ก็หยุด เราก็เลยถ่ายรูปกับเขา
พี่ๆเขาบอกว่าให้กลับมาหาที่บ้านอีกนะ บ้านหลังเดิม หมวยก็เลยอัดวีดีโอไว้ จะได้จำบ้านได้55555
พอกำลังเตรียมตัวใส่หมวกสตาร์ทรถทุกคนในบ้านก็ออกมาโบกไม้โบกมือ ทำเหมือนเราเป็น celebrity ฮาไปอีก
เพื่อนเลยบอก 'ตอนนี้ทำอะไรเขาเก็บรายละเอียดหมดนะ รีบๆหน่อย55555' รู้สึกเหมือนดาราไปอีก อัดวีดีโอไปบายๆไป
สะบายดีๆสะบายดีๆเด็กๆบอก โอ้ยย คือทั้งวันนี้ these people made my day สุดๆ ระหว่างทางก็อมยิ้มไปอีก
แบบ ปลื้มม รู้สึกเหมือนเขาเข้ามาอยู่ในใจเรา <3<3
แต่ที่พีคยิ่งกว่าคือ พอใกล้ถึงทางเข้าเมืองแล้ว ขับรถอยู่ดีๆก็เห็นเด็กนั่งอยู่ 3 คน ตะโกนเรียกเราว่า “ขอถ่ายรูปหน่อย!!!”
ไอ้เราก็บ้าจี้ตาม ก่อนรถลงไปคุยกับเด็กๆ แต่เพื่อนก้จับกระเป๋าดูของอยู่ คือหมวยก็ระวังตัวนะ โทสับก้จับแน่น
ถ่ายเส้ดก้ให้เด้กน้อยดู สักพักๆพอจะขึ้นรถ เด็กมันกล้าดีบอก “ขอเงินหน่อย” นึกในใจ เด็กนี้!! ฉลาดจริงๆ เลยบอกไม่มี
เด็กเริ่มทำหน้าไม่พอใจ แล้วก้หยักเคี้ยวใส่ ขับรถออกมาอย่างงงๆ
สถานที่สุดท้ายที่จะไปของวังเวียงคือ สะพานแดง
ซึ่งอยู่ห่างจากที่พักไม่เกิน 5 กิโล ก็เลยกลับไปแลกเงินก่อน เงินหมดอีกแล้ว55555 และก็ซื้อ sandwich
แต่ก็โป๊ะแตกอีก คือเราขับรถแล้วไปจอดหน้ารถเข็นด้านซ้ายสุด พอจอดเสร็จก็มุ่งเดินตรงไปอีกร้าน
เพราะร้านนั้นมียัยป้าเป็นแมวกวักมือเรียก หันไปอีกร้านเห็นน้องหน้าใส ดูยังเด็กเลยไปอุดหนุนร้านนั้น
สั่งทูน่าแซนวิช (ขนมปังฝรั่งเศส มีพวกเนื้อสัตว หัวหอมอยู่ตรงกลาง) น้องแม่ค้าก็กระซิบเบาๆ “พี่คะ รบกวนขยับรถหน่อยนะคะ
พี่เขาไม่ให้จอด” เราเลยยืนกุนแจให้เพื่อนและบอก “ไปขยับดิ” 55555555555555555555 ซอรี่นะ หมวยผิดเอง
เพื่อนเลื่อนรถเสร็จก้บอก "จอดรถหน้าร้านเขา แต่ไปซื้อร้านนู้น ไอ้หมวยเอ่ยยย เชื่อเลย" 5555 นึกไปเอ่อะ ก็จริงเน้อะ
คือก็ไม่ได้คิดอะไร แต่ตอนนี้เข้าใจละ พออิ่มอร่อย (ไม่อร่อยเท่าไหร่เพราะซอสมะเขือ+มายองเยอะไป)
ก็มุ่งหน้าไป
สะพานแดง หรือเป็นทางเข้าของ
ถ้ำจัง ขับเลยไปถึงถนนใหญ่เลย ก็รู้สึกว่าไม่น่าอยู่ไกลขนาดนี้
อีกอย่างเห็นป้าย bon voyage อ้าวแล้วสะพานแดงหมวยละ เลยแวะถามพี่เชื่อมเหล็ก ปรากฎต้องย้อนกลับไป
ถนนเส้นเดียวกับทางไปสะพานข้ามเพื่อไปสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ หาไม่ยาก ถ้าหลงถามพี่ๆแถวนั้นได้
"โอ้ะๆ ปวดหัว เงินหมดเร๊วเร้ว"
มื้อเย็นสุดท้ายที่ลาว ไหนๆก็แลกเงินมาเต็มที่ ก็เลยต้องจัดเลย เพื่อนได้กล่าวไว้ ห่างจากที่พักเราไปไม่กี่ก้าว
ก็เป็น
ร้านอาหาร Peeping Som’s Restaurant ซึ่งเป็นปิ้งย่าง แต่ก็มี hotpot ด้วย มาที่นี้ไม่รู้ทำไมอยากกินซุปร้อนๆ
ปิดท้ายทริปด้วยการนั่งชิว ฟังเพลง ร้านหัวมุม คือร้านนี้ดู location ดี บรรยากาศดี คืนนี้ก็เป็นอีกคืนที่หลับสบายมาก แอร์คงเย็นด้วยแหละ ^^’
16 กรก 2016 บายบายน้า วังเวียง สัญญาจะมาอีก ชอบมากๆ
จองรถบัสจากวังเวียงไปอุดรธานีรอบ 9 โมง มีรถบัสเล็กๆของลาวมารับไปสถานีรถบัส ตอน 8 กว่าๆ
ระหว่างต่อแถวรับตั๋วก็เลยชวนสาวเกาหลีคุย คุยไปคุยมา เขาพักร้อนทำงาน หลายสัปดาห์ เขามาจากเมืองใกล้ๆโซล
เราอยากรู้ว่าจากอุดรธานีแล้วเขาจะไปกรุงเทพหรือเปล่า แล้วไปยังไงต่อ ก็เลยถาม เขาบอกว่าจากอุดรนั่งเครื่องไปเชียงใหม่ต่อ
เขาก็เที่ยวทั่วเอเซียแหละ
แวะด่านลาว หมวยก็แอบวิ่งไปซื้อขนมเผือกอบที่ๆบ้านฝากซื้อ เพราะเขาไม่ยอมให้เวลาพักกินข้าว หรือช๊อปปิ้งเลย พอมาถึงอุดรประมาน บ่ายสามโมง จองรถ
นครชัยแอร์ไปลงกรุงเทพรอบ 8 ทุ่ม 50 จะได้ถึงกรุงเทพประมาน ตี 5 6โมงไรงี้ มื้อเที่ยงสายยังไม่ลงท้อง
เลยถามพี่ขายตั๋วว่าแถวนี้มีร้านเวียดนามดังๆอร่อยๆที่ไหน
“VT แหนมเหนือง” อ่ะ ก็นี้หมวยไง มากับใครให้รู้หน่อย
google map เลยจ้า แค่ 3 กิโลเท่านั้น ตรงอย่างเดียว ซื้อตั๋วเสร็จก็
ลุย!!!! หมวก เสื้อแขนยาว น้ำ พร้อม !

สิ่งที่ลืมไม่ได้เลย พวกนี้ ต้องทากันแดดไว้ แอบแดดเผาเบาๆ แขนนี้ sun burn หมดละ จากการล่องมอไซค์
ในที่สุด เดินไปอัดวีดีโอเล่นๆเป็น หมวยชอบจินตนาการว่าเป็นพิธีกรรายการพาเที่ยวพาทัวร์ เข้าไปถึงร้านแหนมเหนืองก็แม่เจ้า
สวรรค์ไปอี๊กกก แอร์เย็นดับร้อน พนักงานถึงกับมองหน้าตอนบอกว่าเดินมาจากสถานีรถบัส หมวยไงจะใครละ
ไปเดินย่อย central อุดรต่อ แอบไปฝากกระเป๋าที่ se-ed คือก็วางทิ้งไว้แหละ
คราวหน้าห้ามลืมที่ล็อคกระเป๋าสำคัญมาก
ออกจากห้าง 2 ทุ่ม เดินไปไม่ถึง 5 นาที ก็ถึงสถานีรถบัส นั่งรถ เม้าท์มอย ระหว่างรอ
ขอรีวิวนิดนึง ตั๋วที่นั่ง ชั้น Gold Class 454 บาท คือมันดีมากก มีหนังให้ดูทั้งพากย์ไทยและอังกฤษ อาหารเย็น
ขนม นม น้ำเปล่า ผ้าเย็น แต่แอร์แอบเย็นไปนิดนึง ที่ชอบมากๆคือ มีสคริปพูดก่อนออกรถเหมือนอยู่บนเครื่องบินเลย
ผม .... ขอสัญญาว่าจะพาท่านผู้โดยสารจากอุดรไปสู่กรุงเทพอย่างปลอดภัย (อืมปลอดภัยนะปลอดภัย สัญญาแล้วนะ)
จี้ไปอีก ข้าวเย็นเสริฟเสร็จ ก็ดู The 5th wave จากนั้นก้หลับยาวจนถึงกรุงเทพเลย นับเป็นทริปที่ผิดพลาดน้อย แต่เสียเงินไปไม่น้อย5555555
รวมค่าใช้จ่ายไปทั้งหมด 6 วัน + ครึ่งวันที่อุดร 8,000 กว่าบาท
เรื่องราวที่เราแชร์ในวันนี้อาจจะมีข้อมูลไม่หมด ถ้าอยากรู้หรือสงสัยอะไร พิมทิ้งไว้น้า
แล้วจะกลับมารีบตอบค่า
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านน้า อยากให้แชร์ความคิด comment ข้างล่างกันด้วยน้าค่า
[CR] บันทึกแบกแพ้ค สะบายดีลาว 2016
ตอน 4/4 สุดท้าย
ดูหน้ารู้ว่า หมวยฟินแค่ไหน ชอบวิวนี้มาก ชอบมาก
....... ขากลับออกมาจาก blue lagoon ไม่นาน ฝนก็ตกหนักมากกก แบบต้องหยุดรถ เลยหันไปเจอบ้านๆนึง
มองเราด้วยยิ้มๆเหมือนว่าจะไปรอดหรอ เราก็เลยขอแวะไปหลบที่บ้านเขา มีคุณยายอายุ 70 และหลานของเขาอีก 2 คน
อายุ 20 กลางๆ เคี้ยวหมากแพลบๆ ตอนแรกก็นั่งดูฝนตก สักพักชวนเขาคุย ภาษาเข้าใจง่ายดี
คุณยายก็นั่งเย็บเสื้อกันฝนไว้ทำนา ดูใจดีมากๆ บ้านนี้เป็นมิตร เด็กๆที่แก้ผ้าเล่นน้ำฝนอยู่บ้านแถวๆหลังนี้ก็แวะมาหยุด
ยืนหน้าประตูและมองหน้าหมวยกับเพื่อนๆ เหมือนกับตื่นเต้นไม่เคยเห็นต่างชาติ ไอ้เราก้เลยโบกไม้โบกมือสวยๆพร้อมกับพูดว่า ‘สะบายดี’
ฉีกยิ้มกว้างๆ สักพักเด็กๆก็เข้าบ้านมา ละยืนมองหน้า 55555 พี่สาวบอกว่า เด็กๆชอบเห็นชาวต่างชาติ
แต่ชอบมากกว่าเวลาต่างชาติเอาขนม เงิน มาให้ ตกได้เกือบครึ่งชั่วโมง ก็หยุด เราก็เลยถ่ายรูปกับเขา
พี่ๆเขาบอกว่าให้กลับมาหาที่บ้านอีกนะ บ้านหลังเดิม หมวยก็เลยอัดวีดีโอไว้ จะได้จำบ้านได้55555
พอกำลังเตรียมตัวใส่หมวกสตาร์ทรถทุกคนในบ้านก็ออกมาโบกไม้โบกมือ ทำเหมือนเราเป็น celebrity ฮาไปอีก
เพื่อนเลยบอก 'ตอนนี้ทำอะไรเขาเก็บรายละเอียดหมดนะ รีบๆหน่อย55555' รู้สึกเหมือนดาราไปอีก อัดวีดีโอไปบายๆไป
สะบายดีๆสะบายดีๆเด็กๆบอก โอ้ยย คือทั้งวันนี้ these people made my day สุดๆ ระหว่างทางก็อมยิ้มไปอีก
แบบ ปลื้มม รู้สึกเหมือนเขาเข้ามาอยู่ในใจเรา <3<3
แต่ที่พีคยิ่งกว่าคือ พอใกล้ถึงทางเข้าเมืองแล้ว ขับรถอยู่ดีๆก็เห็นเด็กนั่งอยู่ 3 คน ตะโกนเรียกเราว่า “ขอถ่ายรูปหน่อย!!!”
ไอ้เราก็บ้าจี้ตาม ก่อนรถลงไปคุยกับเด็กๆ แต่เพื่อนก้จับกระเป๋าดูของอยู่ คือหมวยก็ระวังตัวนะ โทสับก้จับแน่น
ถ่ายเส้ดก้ให้เด้กน้อยดู สักพักๆพอจะขึ้นรถ เด็กมันกล้าดีบอก “ขอเงินหน่อย” นึกในใจ เด็กนี้!! ฉลาดจริงๆ เลยบอกไม่มี
เด็กเริ่มทำหน้าไม่พอใจ แล้วก้หยักเคี้ยวใส่ ขับรถออกมาอย่างงงๆ
สถานที่สุดท้ายที่จะไปของวังเวียงคือ สะพานแดง
ซึ่งอยู่ห่างจากที่พักไม่เกิน 5 กิโล ก็เลยกลับไปแลกเงินก่อน เงินหมดอีกแล้ว55555 และก็ซื้อ sandwich
แต่ก็โป๊ะแตกอีก คือเราขับรถแล้วไปจอดหน้ารถเข็นด้านซ้ายสุด พอจอดเสร็จก็มุ่งเดินตรงไปอีกร้าน
เพราะร้านนั้นมียัยป้าเป็นแมวกวักมือเรียก หันไปอีกร้านเห็นน้องหน้าใส ดูยังเด็กเลยไปอุดหนุนร้านนั้น
สั่งทูน่าแซนวิช (ขนมปังฝรั่งเศส มีพวกเนื้อสัตว หัวหอมอยู่ตรงกลาง) น้องแม่ค้าก็กระซิบเบาๆ “พี่คะ รบกวนขยับรถหน่อยนะคะ
พี่เขาไม่ให้จอด” เราเลยยืนกุนแจให้เพื่อนและบอก “ไปขยับดิ” 55555555555555555555 ซอรี่นะ หมวยผิดเอง
เพื่อนเลื่อนรถเสร็จก้บอก "จอดรถหน้าร้านเขา แต่ไปซื้อร้านนู้น ไอ้หมวยเอ่ยยย เชื่อเลย" 5555 นึกไปเอ่อะ ก็จริงเน้อะ
คือก็ไม่ได้คิดอะไร แต่ตอนนี้เข้าใจละ พออิ่มอร่อย (ไม่อร่อยเท่าไหร่เพราะซอสมะเขือ+มายองเยอะไป)
ก็มุ่งหน้าไปสะพานแดง หรือเป็นทางเข้าของถ้ำจัง ขับเลยไปถึงถนนใหญ่เลย ก็รู้สึกว่าไม่น่าอยู่ไกลขนาดนี้
อีกอย่างเห็นป้าย bon voyage อ้าวแล้วสะพานแดงหมวยละ เลยแวะถามพี่เชื่อมเหล็ก ปรากฎต้องย้อนกลับไป
ถนนเส้นเดียวกับทางไปสะพานข้ามเพื่อไปสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ หาไม่ยาก ถ้าหลงถามพี่ๆแถวนั้นได้
"โอ้ะๆ ปวดหัว เงินหมดเร๊วเร้ว"
มื้อเย็นสุดท้ายที่ลาว ไหนๆก็แลกเงินมาเต็มที่ ก็เลยต้องจัดเลย เพื่อนได้กล่าวไว้ ห่างจากที่พักเราไปไม่กี่ก้าว
ก็เป็นร้านอาหาร Peeping Som’s Restaurant ซึ่งเป็นปิ้งย่าง แต่ก็มี hotpot ด้วย มาที่นี้ไม่รู้ทำไมอยากกินซุปร้อนๆ
ปิดท้ายทริปด้วยการนั่งชิว ฟังเพลง ร้านหัวมุม คือร้านนี้ดู location ดี บรรยากาศดี คืนนี้ก็เป็นอีกคืนที่หลับสบายมาก แอร์คงเย็นด้วยแหละ ^^’
16 กรก 2016 บายบายน้า วังเวียง สัญญาจะมาอีก ชอบมากๆ
จองรถบัสจากวังเวียงไปอุดรธานีรอบ 9 โมง มีรถบัสเล็กๆของลาวมารับไปสถานีรถบัส ตอน 8 กว่าๆ
ระหว่างต่อแถวรับตั๋วก็เลยชวนสาวเกาหลีคุย คุยไปคุยมา เขาพักร้อนทำงาน หลายสัปดาห์ เขามาจากเมืองใกล้ๆโซล
เราอยากรู้ว่าจากอุดรธานีแล้วเขาจะไปกรุงเทพหรือเปล่า แล้วไปยังไงต่อ ก็เลยถาม เขาบอกว่าจากอุดรนั่งเครื่องไปเชียงใหม่ต่อ
เขาก็เที่ยวทั่วเอเซียแหละ
แวะด่านลาว หมวยก็แอบวิ่งไปซื้อขนมเผือกอบที่ๆบ้านฝากซื้อ เพราะเขาไม่ยอมให้เวลาพักกินข้าว หรือช๊อปปิ้งเลย พอมาถึงอุดรประมาน บ่ายสามโมง จองรถนครชัยแอร์ไปลงกรุงเทพรอบ 8 ทุ่ม 50 จะได้ถึงกรุงเทพประมาน ตี 5 6โมงไรงี้ มื้อเที่ยงสายยังไม่ลงท้อง
เลยถามพี่ขายตั๋วว่าแถวนี้มีร้านเวียดนามดังๆอร่อยๆที่ไหน “VT แหนมเหนือง” อ่ะ ก็นี้หมวยไง มากับใครให้รู้หน่อย
google map เลยจ้า แค่ 3 กิโลเท่านั้น ตรงอย่างเดียว ซื้อตั๋วเสร็จก็ ลุย!!!! หมวก เสื้อแขนยาว น้ำ พร้อม !
สิ่งที่ลืมไม่ได้เลย พวกนี้ ต้องทากันแดดไว้ แอบแดดเผาเบาๆ แขนนี้ sun burn หมดละ จากการล่องมอไซค์
ในที่สุด เดินไปอัดวีดีโอเล่นๆเป็น หมวยชอบจินตนาการว่าเป็นพิธีกรรายการพาเที่ยวพาทัวร์ เข้าไปถึงร้านแหนมเหนืองก็แม่เจ้า
สวรรค์ไปอี๊กกก แอร์เย็นดับร้อน พนักงานถึงกับมองหน้าตอนบอกว่าเดินมาจากสถานีรถบัส หมวยไงจะใครละ
ไปเดินย่อย central อุดรต่อ แอบไปฝากกระเป๋าที่ se-ed คือก็วางทิ้งไว้แหละ คราวหน้าห้ามลืมที่ล็อคกระเป๋าสำคัญมาก
ออกจากห้าง 2 ทุ่ม เดินไปไม่ถึง 5 นาที ก็ถึงสถานีรถบัส นั่งรถ เม้าท์มอย ระหว่างรอ
ขอรีวิวนิดนึง ตั๋วที่นั่ง ชั้น Gold Class 454 บาท คือมันดีมากก มีหนังให้ดูทั้งพากย์ไทยและอังกฤษ อาหารเย็น
ขนม นม น้ำเปล่า ผ้าเย็น แต่แอร์แอบเย็นไปนิดนึง ที่ชอบมากๆคือ มีสคริปพูดก่อนออกรถเหมือนอยู่บนเครื่องบินเลย
ผม .... ขอสัญญาว่าจะพาท่านผู้โดยสารจากอุดรไปสู่กรุงเทพอย่างปลอดภัย (อืมปลอดภัยนะปลอดภัย สัญญาแล้วนะ)
จี้ไปอีก ข้าวเย็นเสริฟเสร็จ ก็ดู The 5th wave จากนั้นก้หลับยาวจนถึงกรุงเทพเลย นับเป็นทริปที่ผิดพลาดน้อย แต่เสียเงินไปไม่น้อย5555555
รวมค่าใช้จ่ายไปทั้งหมด 6 วัน + ครึ่งวันที่อุดร 8,000 กว่าบาท
เรื่องราวที่เราแชร์ในวันนี้อาจจะมีข้อมูลไม่หมด ถ้าอยากรู้หรือสงสัยอะไร พิมทิ้งไว้น้า
แล้วจะกลับมารีบตอบค่า ขอบคุณที่เข้ามาอ่านน้า อยากให้แชร์ความคิด comment ข้างล่างกันด้วยน้าค่า