(TuMovie) ติวกันในโค้งสุดท้าย ก่อนไปดู Rogue One: A Star Wars Story (โรกวัน: ตำนานสตาร์วอร์ส)

สวัสดีครับ วันก็ก็มาพบกับผมอีกเช่นเคย มือใหม่รีวิว แต่วันนี้เราไม่ได้มารีวิวอะไร ในวันนี้นั้นเราจะมา “ติว” กันก่อนที่จะไปดูเรื่อง Rogue One: A Star Wars Story
ที่อยู่ก็มาโพสเอาตอนนี้ก็เพราะ ความอวย ความติ่ง และอื่นๆอีกมากมายในใจผมที่มีต่อซีรี่นี้อย่างที่ไม่สามารถจะบรรยายออกไปได้มันแตกออกมาหลังจากที่ผมดู Star Wars CELEBRATION เอาหละเสียเวลามาเยอะกันละ เรามาเริ่มกันเลยนะครับ


1.ในภาคนี้เนื้อเรื่องเซ็ทอยู่ในช่วงของภาค 3 Revenge of the Sith และภาค 4 A New Hope
                     ก็อย่างที่บอกไปครับว่า นี้ไม่ใช่ภาคต่อ แต่เป็นเนื้อเรื่องเสริมเพื่อความกระชับและทำให้คนดูเข้าใจในส่วนของเนื้อเรื่องมากยิ่งขึ้น ดังนั้นก่อนที่จะดูเรื่องนี้ คุณควรไปทำการบ้านโดยการดู ภาค 3 และภาค 4 มาให้เข้าใจก่อน ไม่งั้นคุณอาจจะมีงงกับเนื้อเรื่อง และภูมิหลังของตัวละคร ก็ได้
                     สำหรับใครที่ยังไม่ได้ดูภาค 7 แล้วตอนนี้ก็ยังไม่มีเวลาดู ท่านไม่ต้องกังวลว่าท่านจะดูภาคนี้ไม่รู้เรื่อง ก็อย่างที่บอกครับในภาคนี้ เนื้อเรื่องจะจับประเด็นไปที่รอยต่อภาค 3 และ 4 ดังนั้นไม่ต้องกังวลครับ



2.ภาคนี้เป็นภาพยนตร์สงครามนะเออ
                     เอาจริงๆ สตาร์วอร์สมันก็เป็นภาพยนตร์สงครามอยู่แล้วนะ เพียงแต่ว่าในสตาร์วอร์สนั้นจะมีเรื่องของพลัง มีเรื่องของลัทธิ ทำให้หนังเรื่องนี้มันกลายเป็นแฟนตาซีซะมากกว่า แต่ในภาคนี้(จากการคาดเดา) คุณอาจจะไม่ได้เห็นการแสดงพลังฟอร์ซ ฉากดวนดาบมันๆของเจได กับซิท แต่สิ่งที่คุณจะเห็นก็คือ การสู้รบของคน กับคน (และหุ่นยนต์มาเกี่ยวด้วย) การด้วนยาน ไล้ยิงทำ Dog-Fight ไล้จี้ตูดกัน ดังนั้นถ้าไปดูเรื่องนี้แล้วไม่เห็นเจไดหรือซิทออกมาต่อสู้กันเท่ๆ ก็อย่างอแง เขาก็บอกแล้วว่ามันคือหนังสงคราม



3.คุณ“อาจจะ”ได้เห็นตัวรายในตำนาน และลุคในวัยเด็ก(หรือหนุ่มก็ได้)
                     ก็อย่างที่บอกครับว่าภาคนี้เป็นรอยต่อของภาค 3 และ 4 ดังนั้นดาร์ทเวเดอร์ หรือ ดาร์ทซีเดียส นั้นก็มีโอกาสออกมาให้เรายนโฉมได้ (แหมก็ทั้งสองท่าน(โดยเฉพาะดาร์ทซีเดียส)นั้นโอ๋ เดทสตาร์ซะยิ่งกว่าลูกรักอีก) ส่วนตัวลุคนั้น มันก็มีโอกาสที่เราจะได้เห็นเขานะ แต่ที่แน่ๆ ไม่ใช่ Mark Hamill แน่ๆ
                     ส่วนอีกคนนึงนี้ ที่โคตรควรจะมี(และควรจะมา)เลยนั้นก็คือ Obi Wan Kenobi คือส่วนตัวในสตาร์วอร์สนั้นผมโคตรจะอยากเห็นการกับมาของเขามากๆ อย่างน้อยเป็น Fan-Service 10 วินาที ตรูก็ฟินแล้วอะ



4.อย่างที่รู้ๆกัน เขารีเซ็ตจักรวานของสตาร์วอร์สแล้วนะเออ
                     ก็สำหรับใครที่เคยแตะสื่อ Star Wars อื่นๆ ที่เขาเซ็ตเนื้อเรื่องในช่วงภาค 3 และ 4 แล้วมันไม่ตรงกันกับสิ่งที่คุณได้รับมา ผมก็ขอบอกเลยว่า อย่าแปลกใจ จักรวานเขารีเซ็ตแล้ว ทุกอย่างเปลี่ยนหมดใหม่แล้ว ไม่ต้องงอแง



5.ชุดเกราะของสตอร์มทรูปเปอร์นั้นจะใช้ดีไซของพวกจักรวรรดิ มิได้ใช้ของปฐมภาคีแต่อย่างใด
                     ครับผม ในภาคนี้นันยังเป็นช่วงยุคจักรวรรดิเรืองอำนาจอยู่ และปฐมภาคีนั้นยังมิได้ถือกำเนิดขึ้นมาแต่อย่างใด ดังนั้นชุดเกราะของพวกเขานั้นจะไม่ได้ใช้ของปฐมภาคี แต่จะใช้ของจักรวรรดิแทนนะ รายละเอียดชุดไปดูเองเลย ใครที่ดูแต่ภาค 7 มาก่อน แล้วมาดูภาคนี้ต่อนั้นระวังเรื่องนี้เอาไว้ด้วยนะ



6.จาก Trailer ภาคนี้มันทำให้เรารู้ได้ว่าสตอร์มทรูปเปอร์นั้นมันกากกว่าเก่าอีก
                     ก็อย่างที่เราเห็นใน Trailer ครับว่า ดอร์นนี่ เย็น นั้นเขาได้ประกาศขอสู้กับสตอร์มทรูปเปอร์ 10 นาย มิใช่เพราะข้าวสารเพียง 1 ถุง แต่เพื่อศักศรีของความเป็นคน //////หยุด หยุด หยุดเลยมรุง เรื่องมันจะออกจักรวานเกินไปแล้ว
                     ก็ใช่แล้วครับ ดอร์นนี่ เย็น ผู้ที่เคยรับบทอาจารย์ยิบมัน ได้มาแสดงในหนังเรื่องนี้ด้วย ใน Trailer เราจะเห็นอาจารย์ เอาไม้ “ฟาด” สตอร์มทรูปเปอร์ จน(น่าจะ)ตาย มันทำให้ตอบย้ำได้ว่า ชุดเกราะของสตร์มทรูปเปอร์นั้น มันไม่ได้กันอะไรเลย
                     ในภาค 6 Return of the Jedi สตอร์มทรูปเปอร์นั้นโดนธนูของพวกตุ๊กตาหมียิงตาย อันนี้หยวนๆให้ก็ได้เพราะธนูไม้มันเหลาให้แหลมได้ แต่อันนี้มันไม้เท้าที่เป็นไม้นะเว้ย ไม่ใช่หอกที่ทำจากไม้เหลาแหลมด้วย มรุงโดนฟาดไม่กี่ทีตาย โอ้ยแม่เจ้า ทำไมมันถึงได้เปราะอย่างนี้




สุดท้ายนี้ ก็ให้พลังจงสถิตอยู่กับท่าน เจอกันใหม่กระทู้หน้าครับ

May the force be with you
(หนังออก วันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2559 ใครมีแผนอะไรไว้เรียบเคลียนะ)