ครั้งที่ 2 แล้วสำหรับการเที่ยวทะเลปักษ์ใต้หน้ามรสุมฤดูฝน เหตุผลง่ายๆ ตั๋วเครื่องบินและโรงแรมราคาถูกมาก และ กระบี่ ก็เป็นจังหวัดชายฝั่งอันดามันที่เราเลือกจะกลับมาเยือนอีกครั้งหลังจากมาเยือนล่าสุดเมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว ยืนยันว่า กระบี่เที่ยวได้ทั้งปีจริงๆ

16-18 มิถุนายน 2016 ถูกเลือกเป็นวันเดินทางพักผ่อนตากฝน เอ้ย ตากอากาศ 3 วัน 2 คืน ไปวันพฤหัสฯ กลับวันเสาร์ มาพักผ่อนเอาแรง 1 วันก่อนเริ่มทำงานวันจันทร์ แต่จริงๆแล้วแค่เสาร์อาทิตย์ก็เที่ยวได้หมด

โรงแรมที่พัก : เราเลือก "อนันตบุรินทร์ รีสอร์ท" อ่าวนาง ซึ่งเป็นโรงแรมเดิมเมื่อครั้งมาเที่ยวเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ที่ความประทับใจยังไม่จางหาย มารอบนี้ก็เช่นกัน ความสุขเสิร์ฟเติมเต็มทุกพื้นที่ในโรงแรม ค่าห้องพักคนละ 1,640 บาท รวมอาหารเช้า

จำนวนผู้ร่วมทริป : 7 คน ผู้สูงอายุ 2 ที่เหลือก็วัยเกือบสูงอายุ

สายการบิน : airasia เที่ยวบินขาไป 09.35 น. ขากลับ 19.00 น. ค่าตั๋วคนละ 1,460 บาท (จองคนละรอบ ใครจองถูกไม่สน ใครจองแพงก็ไม่สน หารเท่ากันทุกคน) จากสนามบินไปโรงแรม เราใช้บริการเหมารถตู้จากโรงแรมทั้งไปและกลับในราคา 1,500 บาท

ข้อตกลงร่วมกัน : กินดี พักหรู อยู่แบบสมายล์ ราคาสบายกระเป๋า ด้วยกองกลางค่ารถตู้รับส่งโรงแรม ค่าออกทริปหมู่เกาะห้อง และอาหารทุกมื้อ (อาหารเช้าฟรี 2 มื้อ) คนละ 1,500 บาท (แบ่งจ่าย 0% 3 เดือน)

ทุกอย่างกำลังจะไปได้สวย ราคาลงตัว แต่อยู่ๆ airasiago ดันจัดโปรลดกระหน่ำแพ็คเกจโรงแรม+เที่ยวบิน ให้น้ำตาไหลและเศร้าหนักมาก ซึมไปหลายวัน

ราคาตั๋วเครื่องบิน+โรงแรม 3 วัน 2 คืน เป็นราคาสำหรับ 2 คน ร้องไห้หนักมาก

Day 1 : 16-06-2016

ลัดเลาะอ่าวนาง

08.55 น. เที่ยวบินตรงเวลา อีก 40 นาทีเครื่องออก สมาชิกยังขาดอีก 3 คน พาผู้สูงอายุขึ้นเครื่องครั้งแรกจะตกเครื่องเลยก็คงไม่ดี ตอนนั้นจำเจ้าพ่อเจ้าแม่หลวงตาหลวงปู่อะไรได้ อัญเชิญมาหมด ปาฏิหาริย์มีจริง สมาชิกทุกคนมาครบก่อนเครื่องออก โล่งอก ความสนุกยังไม่หมดแค่นั้น คนนำคือ เราเอง จำ gate ผิด วิ่งหา gate ผู้สูงอายุ 2 คนตอนนั้นลืมอายุเลย วิ่งผัด 7×100 ตัวใครตัวมัน gate 77 จำขึ้นใจ อยู่ชั้นล่าง เข้า gate ทันพอดี ประตูปิด รถบัสออก ขึ้นเครื่อง ฝนตกหนัก ฝนเบา take off 09.45 น. ทุกอย่างรวดเร็วไปหมด ... ชอบ

ขอตัดภาพช่วงลอยอยู่บนฟ้า landing รับกระเป๋า รถตู้โรงแรมรับจากสนามบิน มาที่ตอนเช็คอินโรงแรมในช่วงก่อนเที่ยง ทางโรงแรมใจดีให้เข้าพักเลย ไม่ต้องรอ 14.00 น. และเป็นเรื่องบังเอิญว่า พี่คนขับรถตู้ก็เป็นคนเดิมกับที่เรามาพักที่นี่เมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว รู้สึกเหมือนรอบนี้จะขาวขึ้น แต่พูดน้อยกว่าเดิม

บริเวณ Lobby โรงแรม ข้างหลังจะเป็นสระว่ายน้ำและ zone นวดสปา

ที่ตั้งโรงแรม : อยู่อ่าวนางซอย 8 ติดกับ centara anda dhevi krabi resort ใกล้ๆกับอารีธารา , บุรีธารา , ดีวาน่า พลาซ่า , เมอร์เคียว

จากแผนที่จะเห็นว่า ในซอยมีร้านสะดวกซื้อมากมาย ไม่ไกลจากวังทรายซีฟู้ด และ coffee beach

ด้วยเหตุที่โรงแรมอยู่ติดกันมาก จึงถือโอกาสยืนแอบส่องเพื่อนบ้าน centara ซะเลย

ห้องพัก : จองห้อง superior และตอนจองก็ request ขอห้องติดกันเพราะมาด้วยกัน ทางโรงแรมไม่ขัดศรัทธา ดอกแรก อัพเกรดห้องพักเป็น deluxe pool view ดอกสอง จัดห้องพักเป็นแบบ connecting room สามารถเปิดประตูเข้าหากันได้ ปลื้มอกปลื้มใจกันใหญ่ ที่สำคัญ ไม่คิดราคาเพิ่มด้วย

ท้องเริ่มหิว เพราะไม่ได้ทานข้าวเช้า หรืออะไรรองท้องมาเลย จึงตกลงกันออกไปหาอะไรกินตามแนวถนนเลียบอ่าวนาง โดยใช้พาหนะคือ สองเท้า ของเรานั่นเอง แต่ก่อนไปขอแอบถ่ายรูปบรรยากาศโรงแรมให้ได้ชมกัน เห็นว่าตอนนี้ด้านหลังมีการก่อสร้างเฟส 2 เพิ่มขึ้นมาด้วย พี่พนักงานบอกปีหน้ามาคงได้ทันใช้โรงแรมใหม่ สระว่ายน้ำใหญ่มาก (เสียงสูง ใหญ่อลังการมากๆ นับวันรอปีหน้าเลยทีเดียว)

12.30 น. ได้เวลาให้อาหารมื้อเช้าและมื้อกลางวันไปในคราวเดียวกัน ด้วยความที่เป็นมื้อแรก เดินชิวๆ ถนนเลียบอ่าวนางจากโรงแรมมาระยะ 1-2 กิโล ท่ามกลางแดดร้อนจัด (ทั้งที่มาหน้าฝน) สอบถามแม่ค้าแถวนั้นแนะนำร้าน aonang cuisine ใกล้ๆ กับจุดถ่ายรูปปลาใบ เพราะเจ้าของเป็นคนไทย ส่วนร้านอื่นเจ้าของเป็นต่างชาติ ราคาจะแพงกว่ามาก ตอนแรกก็ลังเลจะเข้าหรือไม่เข้าดี เพราะไปตอนกลางวัน แต่ร้านมืด ดูไม่สดใสเข้าไปในร้าน ความรู้สึกแรกคือ ทำไมโต๊ะเก้าอี้เก่าจัง โต๊ะอาหารเป็นกระจก แต่เก่า ถ้าดูแลดีก็น่าจะเรียกแขกได้มากกว่านี้

เมนูอาหาร เห็นราคาแทบตกใจว่าขายเฉพาะต่างชาติหรือเปล่า ข้าวผัดจานเดียว จานเล็ก ราคาเกือบ 200 บาท ถือว่าแพงนะ ถ้าดูจากปริมาณ กุ้งปลาหมึกที่ได้ในจาน

ลองสั่งผัดเปรี้ยวหวานกุ้งมา รสชาติธรรมดา ค่อนไปทางไม่อร่อย วัตถุดิบไม่สมกับราคา

สั่งสลัดกุ้งมาลอง เห็นถ้วยที่ใส่สลัดมา แทบตกใจเพราะเก่าเหมือนไม่ได้ล้างมา แตงกวา ผัก มะเขือเทศดูไม่สด น้ำสลัดรสชาติไม่ถูกปากเลย

พิซซ่า แป้งบางกรอบ รสชาติพอรับได้ แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นดี

โดยรวมยังถือว่าต้องปรับปรุงอีกหลายอย่าง ทั้งคุณภาพวัตถุดิบ รสชาติ ภาชนะจัดจาน โต๊ะเก้าอี้ ความสะอาด และบริการของพนักงาน มีข้าวผัดทะเลจานเล็กอีก 2 จาน และสปาเกตตี้ซีฟู้ดอีก 1 จาน รวมค่าเสียหาย 1,390 บาท

14.00 น. ถูกบังคับให้อิ่ม เพราะรสชาติอาหารไม่ถูกปาก เดินเที่ยวเล่นย้อนกลับโรงแรมอีกรอบ ระหว่างทางก็กดชัตเตอร์กันปายยยย....

จุดชมวิวปลาใบ ไฮไลต์สำคัญของอ่าวนาง กระบี่ อยู่เยื้องๆกับร้าน aonang cuisine

ทะเลอ่าวนาง เมื่อคืนที่ผ่านมาฝนตกหนักทั้งคืน น้ำเลยดำ พอบ่ายๆ ก็เริ่มเขียวอมฟ้าเหมือนเดิม

เดินชิลๆ เลียบทะเลอ่าวนาง ลมเย็นๆ ตามมาๆ

ถนนเลียบอ่าวนาง จะมีเสื้อผ้า ชุดว่ายน้ำ ของที่ระลึกขายเต็มไปหมด ราคาค่อนข้างแพงถ้าเทียบกับที่เกาะสมุย

ทัวร์ One day trip : ช่วง low season ไม่ต้องจองทริปล่วงหน้า เดินหาซื้อเองเลยง่ายกว่า แต่ละ agent ราคาไม่เท่ากันแล้วแต่ฝีปากของเรา จะเหมาหรือ join trip ก็แล้วแต่ชอบ 4 เกาะเรือหางยาว 300-400บาท/คน speedboat ไม่น่าเกินคนละ 450-600 บาท/คน ราคารวมอาหารกลางวันแบบบุฟเฟ่ต์ และเครื่องดื่ม น้ำและผลไม้บนเรือแล้ว ใครได้มากกว่านี้ถือว่าแพง สำหรับพวกเราเลือกทริป one day trip แบบเหมาเรือหางยาวไปหมู่เกาะห้อง (เพราะเคยไป 4 เกาะทะเลแหวกมาแล้ว) ในราคา 3,000 บาท มัดจำก่อน 1,000 บาท อีก 2,000 บาท จ่ายหน้างาน ราคานี้รวมรถรับส่งจากโรงแรม น้ำดื่ม ผลไม้บนเรือแล้ว แต่ไม่รวมอาหารกลางวัน สั่งอาหารเพิ่มเป็นข้าวผัดซีฟู้ดและกะเพราซีฟู้ด เพิ่มไข่ดาว 7 คนๆละ 70 บาท รวมค่าเรือ+อาหาร หารแล้วตกคนละ 500 บาทเท่านั้น

หลังจากเดินเมื่อย อิ่มโรตีเมืองปักษ์ใต้แล้ว ก็ถึงเวลาผ่อนคลาย คิดซะว่าสระว่ายน้ำโรงแรม เหมือนคลองหลังบ้านแล้วกัน จะเล่นท่าไหนตีลังกาอย่างไรก็ได้ แต่จะทำเป็ดสีชมพูตายไม่ได้ โดนปรับ

19.00 น. สนุกกันจนลืมหิว ตอนแรกก็ขี้เกียจออกไปข้างนอกแล้ว หาข้าวโรงแรมกินดีกว่า อยู่ใกล้ๆ lobby เลย สำรวจราคาหน่อย

ราคาค่อนข้างไปทางแพง แต่ก็ทั่วไปของห้องอาหารในโรงแรม อีกอย่างรายการอาหารไม่หลากหลาย ไม่ตรงกับความต้องการของเรา จึงลงฉันทามติออกไปเดินเล่นชิลๆ ถูกใจร้านไหนประทับทรงร้านนั้น