ความรักไม่ผิด ผิดที่รูปลักษณ์...ประสบการณ์แฟนมีอะไรกับคนอื่น+การโดนทิ้งด้วยเหตุผลที่ปวดร้าวหัวใจที่สุด [ช-ช]

สวัสดีครับเพื่อนๆพี่ๆน้องๆชาว Pantip ทุกคน กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกที่ผมตั้งเพื่อเล่าประสบการณ์ความรัก+อุทาหรณ์เตือนใจในเรื่องความรักให้ทุกๆคนได้ฟัง หากผิดพลาดตรงไหนต้องขออภัยไว้ก่อนนะครับ อาจจะยาวหน่อย (หรือยาวมากกกกกกกกกก ฮ่าๆ) แต่อยากให้ลองอ่านจนจบนะครับ ขอบคุณครับ
เริ่มกันเลยดีกว่า
ผมเป็นเกย์ครับ หน้าตาบ้านๆ ธรรมดา อ้วน ผิวดำ ใส่แว่น ที่ดูเผลินๆไม่ได้น่าสนใจอะไรเลย เป็นคนที่มักจะถูกความรักมองข้ามเสมอครับ อยู่มาวันนึงครับ ในวันที่ 21 ก.พ. ที่ผ่านมา ผมด้วยความที่เป็นวัยรุ่นที่อยากมีความรักทั่วไป ก็โหลดแอพๆนึงมาเล่น [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ โหลดตั้งแต่เช้ายันมืดก็ไม่มีคนทักมาเลย จนผมกำลังจะลบ อยู่ๆก็มีคนๆนึงทักมาครับ เค้าอายุรุ่นราวคราวเดียวกับผมเลย เป็นคนตัวผอมสูงผิวไม่ดำมากหน้าตาไม่ดีมาก เค้าก็ทักมาคุย รู้เลยแหละครับว่าจีบ เราก็คุยกันไปเรื่อยๆครับ เค้าอยู่ใกล้ๆผมเลย จังหวัดติดๆกัน นั่งรถ 2 ชม. ก็ถึง เราเริ่มพัฒนาเปลี่ยนจากการคุยกันในแอพนั้น ไปคุยในไลน์ เปลี่ยนจากไลน์ไปเป็น skype จนในวันที่ 4 มีนาคม เค้าตัดสินใจมาหาผมครับ ผมยอมรับเลยผมประหม่ามาก ช่วงนั้นผมทั้งอ้วนฉุ ดำด้วย แต่สุดท้ายก็ได้เจอกัน พอเราเจอกันทุกอย่างมันโอเคมากครับ เค้าดูเหมือนจะไม่คิดอะไรกับรูปร่างหน้าตาผม และในที่สุดในคืนนั้นเค้าก็ขอผมเป็นแฟนครับ ผมดีใจมากๆ แม้ในหัวก็คิดว่าเร็วไปไหม แต่ด้วยความที่ดใจ+ความรู้สึกที่เราก็ชอบเค้าเหมือนกัน เลยตกลงครับ หลังจากนั้นเราก็ไปมาหากันบ่อยๆ ตส่วนใหญ่ผมจะขึ้นไปหาเค้า เราไปไหนมาไหนด้วยกันจนเริ่มผูกพันธ์ ถ้าเราอยู่ห่างกันเราก็จะคอล skype หากันตลอด และในทุกๆครั้งที่เราอยู่ด้วยกัน ผมจะถามคำถามเดิมๆเสมอว่า ตัว...เค้าหน้าตาไม่ดีนะ ตัวอายใครไหม ตัวรับได้ไหม? และคำตอบที่ผมได้รับในทุกครั้งคือ เราคบกันที่จิตใจนะ ไม่ใช่หน้าตา ด้วยสิ่งที่เค้าพูดมันทำให้ผมมั่นใจว่า ในที่สุดเราก็ได้เจอแล้ว คนที่รักเราที่จิตใจจริงๆ เราคบกันมาก็เรื่อยๆครับ มีทะเลาะบ้าง เถียงกันบ้าง เนื่องด้วยนิสัยผมที่เป็นคนขี้น้อยใจ ขี้แง และก็ขี้หึง ซึ่งเค้าไม่ชอบ ก็ทำให้เราเถียงกันบ่อยๆ แต่ในทุกครั้งก็กลับมาเหมือนเดิมตลอด แต่ในที่สุดปัญหาแรกที่ผมพบเจอก็มาครับ ในวันที่ 1 เมษายน ที่ผ่านมา ผมกลับบ้านไปทำธุระเรื่องผ่อนผันทหาร ผมกลับบ้านก็เลยไม่ได้คอลสไกป์หากัน แต่ก็คุยในโทรศัพท์บ่อยๆ จนวันจะกลับในวันที่ 3 ผมไปซื้อกางเกงยีนส์ Mc เพื่อกะจะมาเซอร์ไพรส์เค้าเป็นของขวัญวันครบรอบ 1 เดือนครับ แต่ผมไม่ชอบเซอร์ไพรส์เลยถ่ายรูปแล้วส่งไปให้ดูเลยว่าซื้อมาให้ เค้าก็ดีใจครับ แล้วผมก็บอกว่าจะกลับละนะ ผมก็นั่งรถกลับในคืนวันที่ 3 จากภาคกลางขึ้นภาคเหนือ เชื่อไหมครับในช่วงข้ามคืนของวันที่ 4 ประมาณตี 1 เค้าคอลเฟซหาอีกคน คุยกันอยู่พักนึง (ผมจับได้ทีหลัง) แต่ด้วยความที่ตอนนั้นยังไม่รู้ ก็เลยหลับสบายเลยบนรถ
หลังจากนั้นผมก็ใช้ชีวิตตามปกติเรื่อยๆครับ คุยกันทุกวันตามปกติ จนกระทั่งในวันสงกรานต์ที่ 13 เมษายน ผมเริ่มสงสัยน้องคนนึงในเฟซบุ้คเค้า น้องคนนี้เป็นรุ่นน้องชั้นปีที่ 1 ในมหาวิทยาลัยเดียวกับผม แต่เราเรียนคนละวิทยาเขต ด้วยความที่มีคนแอดเฟซแฟนผมมา ผมก็ส่องเป็นธรรมดา พอเข้าไปส่อง พบว่า น้องคนนี้อยู่จังหวัดเดียวกับแฟนผม อำเภอเดียวกัน แถมน้องคนนี้(ต่อไปนี้ขอเรียนน้อง k) ยังตั้งสเตตัสเฟซบุ้คแปลกๆ ที่อ่านแล้วมันตะหงิดๆ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ ไอ้ความที่เราสงสัย ตอนนั้นตอนเที่ยงผมคอลสไกป์หากันอยู่ ผมก็เลยถามแฟนผมว่า
" ตัว รู้จักน้อง k นี่ไหม (ส่งหน้าเฟซไป)"
"ไม่นะ แอดเฟซมาเฉยๆแหละ"
"อ๋อเค งั้นเค้าไปซื้อไรกินก่อนนะ"
ระหว่างที่ผมไปซื้ออะไรกิน ผมก็กดแอดเฟซบุ้คน้อง k + ตามหาไอจี แต่ในตอนนั้นยังไม่เจอไอจีครับ ผ่านไป 20 นาที ผมกลับมาที่ห้อง ผมกดคอลสไกป์หากันอีกรอบก็คุยกันปกติครับ ในขณะที่คุยผมก็กดเข้าไปดูหน้าเฟซน้องคนนั้นพอดี สรุปคือ น้อง k กดลบคำขอและห้ามไม่ให้ผมแอดไปอีก มันเลยเป็นจุดชนวนความสงสัยว่า ถ้ามันไม่มีอะไร ก็กดรับแอดไปเลยสิ แต่ก็เก็บความสงสัยไว้เงียบๆและตามหาไอจีน้อง k ต่อไป จนผ่านมา 1 ชม.ในที่สุดผมก็เจอไอจีน้อง k ครับ น้อง k ไม่ได้ตั้งไพรเวทไว้เข้าไปส่อง ปรากฏว่าน้อง k โพสท์รูปอยู่ 2-3 รูป พร้อมขึ้นแคปชั่นแปลกๆ ชวนให้คิด ต่อมเอ๊ะของเราเริ่มทำงานทันที เมื่อมาสะดุดรูปนึงพร้อมแคปชั่นอย่างนี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
คือมันเป็นรูปน้องถ่ายในร้านชาบูแห่งหนึ่งครับ ต้องขอย้อนกลับไปเล่าเหตุการณ์วันที่ 11 เมษายนก่อนครับ จะได้เข้าใจเรืองง่ายขึ้น
ในวันที 11 เมษายน ช่วงเวลาประมาณ 11.00 น. ตอนนั้นผมก็คอลสไกป์หากันปกติ แล้วอยู่ๆแฟนผมก็พูดว่า
แฟนเก่า "เอ้อตัว เดี๋ยวเค้าว่าจะไปงานบุญกับแม่นะ"
ผม "อ้อ ไปสิ ไปตอนไหนล่ะ"
แฟนเก่า "เนี่ยจะไปละ นานหน่อยนะ เน็ตก็ไม่มี แต่ถึงแล้วเดี๋ยวจะโทรหา"
ผม "อ่อ โอเคๆ ขี่รถดีๆ"
จากนั้นเราก็วางสายครับ ต่างคนต่างแยกย้ายไปทำอย่างอื่น ด้วยความที่ผมง่วงเลยเผลอหลับไปจนลืมไปว่าแฟนจะโทรมาบอกนี่นาว่าถึงแล้วจะโทรมา ผ่านมาจนถึงเวลา 15.00 น. ครับ ผมสะดุ้งตื่นตามเสียงโทรศัพท์ที่ดังมาสักพัก เป็นแฟนผมโทรมาครับ
แฟนเก่า "ตัว งานบุญเสร็จละนะ เดี๋ยวเค้าขอไปกินชาบูต่อนะ"
ผม "อ้อเค ไปกับใครล่ะ"
แฟนเก่า "คนเดียวนี่แหละ"
ผม "ห้ะ ?! คนเดียว?"
แฟนเก่า "ก็ปกติเค้าก็ไปไหนมาไหนคนเดียวตลอดป้ะ"
ผม "อ้อ งั้นโอเค ถึงละก็บอกละกัน"
จากนั้นผมก็ไม่เอะใจอะไร เพราะปกติแฟนผมจะไปไหนมาไหนคนเดียวตลอด ไม่ว่าจะดูหนัง กินข้าว ไปซื้อของหรืออื่นๆ (โง่ไหมล่ะครับ) และแล้วเวลาก็ล่วงเลยผ่านไป 2 ชม. (17.00 น.) ไม่มีการโทรมาบอก ไม่มีการทักแชทมาสักนิด ผมเลยตัดสินใจโทรไปเลยครับ
ผม "ฮัลโหล กินอิ่มยังเนี่ย?"
แฟนเก่า "เอ้อลืมโทร เสร็จละเนี่ย กำลังกลับ"
ผม "อ้อเคๆ งั้นขี่รถดีๆ"
แล้วสัก 1 ชม. ผ่านไปเค้าก็กลับมา แล้วก็ทำตัวปกติทุกอย่างครับ ทีนี้ย้อนกลับมาในเหตุการณ์วันที่ 13 เมษายนอีกครั้ง ถึงตอนที่ผมเจอรูปในไอจีน้อง k ที่อยู่ร้านชาบู พร้อมขึ้นแคปชั่นแปลกๆ ที่สำคัญน้อง k ลงรูปวันเดียวกันกับที่แฟนเก่าผมบอกว่าจะไปกินชาบู ( 11 เมษายน ) ตอนนั้นผมมั่นใจว่าน้องคนนี้อาจไปกินชาบูกับแฟนผมเป็นแน่แท้ แต่ยังไม่มั่นใจมากขนาดนั้น ก็เลยเก็บความสงสัยไว้เงียบๆครับ จนกระทั่งหัวค่ำวันนั้นครับ ผมเข้าไปส่องเฟซน้อง K เจอสเตตัสน้องคนนั้นสเตตัสหนึ่ง มันทำให้ผมมั่นใจมากว่าเหตุการณ์นี้เป็นอย่างที่ผมคิดจริงๆ
ด้วยเหตุนี้ผมจึงตัดสินใจถามแฟนผมไปตรงๆครับ
ผม "ตัว ถามตรงๆนะ รู้จักน้อง K นี่ป้ะ ? (เสียงผมจริงจัง+สีหน้าจริงจัง)"
แฟนเก่า "ก็บอกว่าไม่ไง"
ผม "ต้องให้พูดไหม ว่าเหตุผลทำไมถึงสงสัย ทำไมถึงรู้สึกแปลกๆ? (เสียงจรืงจังหนักแน่นกว่าเดิม)"
...... ความเงียบเข้ามาแทนที่ 5 นาที
แฟนเก่า "อืม รู้จัก แค่นัดไปกินชาบูด้วยกันเฉยๆ"
ผม (น้ำตามาละครับ เสียงสั่น) "แล้วได้มีอะไรกันไหม ?"
แฟนเก่า "ไม่ ไม่มี"
ผม "ถามอีกรอบ แล้ว-มี-อะ-ไร-กัน-ไหม"
....... เงียบไป 2-3 นาที
แฟนเก่า "อืม มีครั้งเดียว"
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
พอผมได้ยินเช่นนั้น น้ำตามันไหลแบบเขื่อนแตกเลยครับ ไม่เคยคิดว่าคนที่เค้าบอกว่ารักเราจะเป็นแบบนี้ จะทำแบบนี้ ผมกดวางสายสไกป์ทันที แต่เค้าก็โทรมายิกๆ ความรู้สึกผมเหมือนโดนเอาไปโยนทิ้งในเหวลึก อีกทั้งช่วงนั้นเป็นช่วงเทศกาล เพื่อนผมกลับบ้านหมด จะโทรหาแม่ ก็ไม่อยากให้แม่รับรู้ ผมไม่เหลือใครเคียงข้างในตอนนั้น มีเพียงเพื่อนผมคนเดียวกับรุ่นน้องอีก 1 คน ที่มาปลอบใจ แต่มันก็ไม่ได้ช่วยมากเท่าไหร่ ในขณะที่เค้าก็พยายามโทรมาเพื่อที่จะขอโทษ ผมก็กดรับสายครับ แต่ไม่พูดอะไร ปล่อยให้เค้าแก้ตัวต่อไปอย่างนั้น พอผมเริ่มมีแรง ผมจึงตัดสินใจ โทรไปหาน้อง K เพื่อสอบถามความจริงทั้ง 2 ฝ่ายและคำตอบที่ได้ก็ประมาณนี้ครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
คืนนั้นผมไม่คิดคุยกับเค้าเลย ไปนอนหอเพื่อน เอาแต่ร้องไห้ เสียใจ แต่เชื่อไหมครับ ตื่นมาเช้าถัดไปเค้าแค่มาง้อผม 2 ครั้ง ผมเลือกที่จะให้อภัยเค้าทันที ผมไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมในวินาทีนั้นถึงตัดสินใจให้อภัยเค้าได้อย่างรวดเร็ว
และแล้วก็ล่วงเลยผ่านไปครับกับเหตุการณ์แย่ๆในครั้งนั้น เราก็อยู่อย่างปกติสุขมาเรื่อยมา แต่ปัญหาทะเลาะกันก็มีมาบ้าง เรารู้สึกว่าเรารักกันมากขึ้นอยู่ตลอดครับ จนวันที่เราไปเที่ยวกระบี่ด้วยกันตอนนั้นเราก็มั่นใจกันและกันว่าคนนี้คือคนที่ใช่ ผมพาเค้าไปบ้านผม ไปหาแม่ ไปเที่ยวบ้าน เค้าดูเข้ากับคนที่บ้านผมดี แม่ผมก็ดูชอบเค้า ทุกอย่างมันลงตัวไปหมด จนกระทั่งวันที่ผมต้องไปฝึกงาน วันนั้นผมและเค้าขึ้นรถโดยสารกลับจาก กทม. ขึ้นไปภาคเหนือ ผมรู้ว่าอีกนานแน่ๆกว่าเราจะได้เจอกัน ผมร้องไห้บ่อยมาก นั่งจับมือเค้ามาทั้งทาง เค้าเองตอนผมหลับก็เอามือมาลูบแก้มแล้วก็ร้องไห้ ช่วงนั้นมันเป็นช่วงที่มาความสุข อบอุ่นในหัวใจที่สุด เพราะเรามั่นใจว่าคนนี้แหละ เราจะวางอนาคตไปด้วยกัน จนกระทั่งเรามาฝึกงานอยู่เกาะช้าง จ.ตราด ในช่วงแรกๆนั้น เค้าสร้างความมั่นใจให้เราเต็มที่ เค้าไปไหนมาไหนถ่ายรูปส่งมาให้เราดูตลอด เราก็คุยกันปกติดี ชีวิตประจำวันของเรา 2 คน เหมือนเดิมทุกอย่าง และมาฝึกงานได้ไม่นานผมก็ได้หยุดยาว 6 วัน (1-6 มิถุนายน) ผมก็กลับบ้านไปหาแม่แล้วก็ไปหาเค้ามาด้วย และเรื่องทั้งหมด เกิดขึ้นหลังจากผมกลับมาจากไปหาเค้าครั้งล่าสุดนี่เอง

เดี๋ยวยังไงผมจะกลับมาต่อนะครับ ตัวอักษรเกือบจะ 10K แล้ว ฮ่าๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่