สวัสดีค่ะพี่ๆน้องเพื่อนๆบ้านจีบันทุกๆท่าน ไม่ได้แวะมานาน วันนี้มี่เอา Skincare ทั้งหมดที่สั่งจาก iHerb มารีวิว/วิเคราะห์ส่วนผสมให้ชมกันค่ะ
ส่วนตัวมี่เองสั่งของกับทาง iHerb มาได้พักใหญ่ๆแล้วค่ะ ใช้วิธีทยอยๆสั่ง และส่วนมากสั่งแต่พวกวิตามิน สมุนไพร มาทานมากกว่า พึ่งจะเริ่มสั่งเครื่องสำอางมาก็พักหลังๆนี้เองค่ะ
พวก Skincare ที่มี่สั่งจาก iHerb ก็มีอยู่หลายตัวค่ะ
มาดูกันทีละตัวเลยนะคะ
ตัวแรกเป็น Eye serum ของ Blum naturals ค่ะ
ราคาอยู่ที่ราวๆ 300 บาท
ตัวนี้จริงๆเป็น Serum ของอิสราเอลค่ะ มี่สั่งมาเพราะอยากลองเล่น Easyliance ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่มี่ไปรู้จักจากงาน in-cosmetics เมื่อปี หรือว่า 2 ปีก่อนนี่แหล่ะ วัตถุดิบตัวนี้เขา Claim เว่าพอทาลงไปมันจะก่อฟิล์มบนผิว แล้วเจ้าฟิล์มนี้มันจะหดตัวให้ความรู้สึกตึงค่ะ ตอนได้มาคือตื่นเต้นมาก เอามาลองท้องแขนเทสต์การแพ้ก่อน คือแบบ ตึงอ่ะ รู้สึกยุบๆๆๆ สนุกดี แต่พอลงตาจริงๆวันสองวันแรกก็ตื่นเต้นดีค่ะ ไปๆมาๆเหมือนมันด้านชา ไม่รู้สึกว่าตึง ไม่หวือหวาตื่นเต้นแบบวันแรกๆแล้ว แต่ก็ยังใช้อยู่จนทุกวันนี้ค่ะ
นางมาในขวดแก้ว เนื้อค่อนข้างเหลว กลิ่นชวนแหวะนิดนึง (ตามความเห็นมี่นะคะ) ใครที่ชอบแนวธรรมชาติน่าจะชอบ
เกลี่ยง่าย ดูแฉะๆ เหมือนไม่ค่อยซึม แต่ก็ชุ่มชื้นดีค่ะ
ดูส่วนผสมซักหน่อยนะคะ
สำหรับส่วนผสม ก็ถือว่าทำมาได้ดีค่ะ มีส่วนผสมของน้ำมันจากธรรมชาติ และก็ตัวลดริ้วรอยตัวหลักน่าจะเป็น dipalmitoyl hydroxyproline ที่มีชื่อทางการค้าว่า Septilift DPHP ตัวนี้ผู้ผลิตวัตถุดิบเคลมว่าให้ผลช่วยผิวสร้างคอลลาเจนและให้ผิวนุ่มฟู ยังเป็น antioxidant ได้อีก ส่วนที่เหลือก็จะเป็นสารที่มาในแนว ธรรมชาติค่ะ ส่วนผสมก็ไม่ได้มีอะไรมีพิษมีภัยอะไรค่ะ
ตัวที่ 2 เป็น Serum หอยทากจากแบรนด์ Mizon ค่ะ
เซรัมหอยทากจากแบรนด์ Mizon ของเกาหลี ใช่ค่ะ เดี๋ยวนี้ iherb ก็เอาไอเทมของเกาหลีมาขายหลายชิ้น ราคาก็ไม่ได้ทิ้งจากซื้อที่เกาหลีมาก แต่มี่สนใจ Mizon ค่ะ เพราะเป็นเครื่องสำอางออนไลน์ที่เกาหลี บ้านเราค่อนข้างสั่งได้ยาก เว้นแต่จะมีเพื่อนอยู่เกาหลี หรือมีใครหิ้วให้ หรือจะ G-market (ที่ค่าส่งโคตรแพง) นี่ก็แอบลุ้นให้ iherb เอา Hya กับ Collagen ของ Mizon มาลงด้วย มี่ค่อนข้างชอบเลยค่ะ
สำหรับตัว Serum จะเหนียวๆ ยืดๆ อารมณ์คล้ายๆน้ำเชื่อม ตอนลงจะรู้สึกอุ่นๆหน่อยค่ะ ไม่มีกลิ่นใดๆ
ราคาประมาณ 440 บาท ค่ะ
สำหรับส่วนผสมก็เป็นดังนี้ค่ะ
ในส่วนของส่วนผสม นอกจากหอยที่นางเคลมว่าใส่มาถึง 80% แล้ว ตัวที่น่าสนใจก็คงเป็นกลุ่ม peptide ค่ะ ที่ใช้อยู่หลายตัวเลยทีเดียว ที่เห็นเด่นๆก็คงจะเป็น EGF หรือ Epidermal Growth factor นะคะ คือเจ้า Oligopeptide-1 ซึ่งตัวนี้ตัวมันค่อนข้างใหญ่ ไม่น่าจะซึมเข้าผิวค่ะ ถ้าไม่มีเทคโนโลยีมาช่วย ก็ไม่รู้ว่าจะได้ผลจริงหรือเปล่า
ช่วงสัปดาห์ก่อน แม่โดนไฟจากเตาแก๊สไหม้แขน เอาให้นางทาแค่ 3 วันหายเลย คิดว่าน่าจะเป็นผลจากหอย เพราะนางช่วยเรื่อง repair แผลไหม้ได้ค่อนข้างดีค่ะ มี่มีญาติฉายรังสีที่คอ ผิวนางจะไหม้ มี่เอาตัวนี้ให้นางทา คือดีขึ้นเยอะเลยนะ ไม่แสบไม่ burn ตอนแรกก็ไม่เชื่อ แต่ก็แบบนะ เอ๊ะ หรือเขาจะอุปทานไปเองหรือเปล่า ก็ไม่รู้ค่ะ นานาจิตตังละกันเนอะ
ตัวที่ 3 เป็นครีมหอยทากของ Mizon ค่ะ
ตัวนี้ยังไม่ถึงคิวนะคะ เลยยังขอไม่แกะข้างใน
นางจะมาในกระปุกแก้วค่ะ ราคาอยู่ที่ประมาณ 500 บาท ค่ะ
เป็นเวอร์ชั่นครีมหอย ที่ส่วนผสมอลังและมาเต็มกว่าเซรัม เน้นไปที่เรื่องของริ้วรอยและการสมานผิวเป็นหลักเลยค่ะ
ส่วนผสมก็จะคล้ายๆกันกับ Serum ก็ใช้ตัวใดตัวนึงก็พอค่ะ ดูทรงแล้ว ครีมจะคุ้มกว่า แต่คนผิวมันอาจจะไม่ชอบก็ได้ค่ะ
ตัวต่อมาเป็น ครีม Madre magic ตัวนี้เป็นครีมที่ทำเลียนแบบแบรนด์ Egyptian magic ที่ราคาแพงลิบลิ่วซื้อมาก็ไม่ได้อะไรมาก อยากลองเฉยๆ
พอมาลองจริงปรากฏว่า นางเป็นเสมือนวาสลีน เอามาโบกๆตอนหน้าแห้งลอก ก็ให้ผลดีอยู่ค่ะถามว่าซื้อต่อไหม ถ้าเจอนาง Sale เหลือซัก 1-5 USD ก็จะซื้อค่ะแต่ถ้าราคาเต็ม 400 กว่าบาท ก็ขอบาย
ตัวต่อมาเป็นครีม Elastin ของ Reviva labs ราคาประมาณ 300 บาทค่ะ
อันนี้ซื้อมาลองเล่น เพราะเห็นเขาเคลมว่าเป็นครีม Elastin เจ้าแรกใน USA พอลองก็แบบว่า อืม ค่ะ ก็ไม่ได้อะไรมาก นางเป็น Night cream ดูในกระปุกเนื้อข้นมาก แต่เอามาทาจริงๆ เบากว่าที่คิด มี่ผิวแห้งเอามาทางกลางวันยังไม่ชุ่มเลยค่ะ ส่วนเรื่องริ้วรอยนั้น มี่ลองมาประมาณ 2 อาทิตย์ ก็ยังไม่ได้รู้สึกอะไรค่ะ ถ้านาง sale ก็คงจะซื้อต่อไป แต่ถ้าไม่ก็ปล่อยไปเถอะค่ะ
ตัวสุดท้ายเป็น Witch hazel Toner สูตรกุหลาบ ของ Madre labs ค่ะ
เห็นเต็มๆขวดนี่ ขวดที่สองนะจ๊ะ
มี่จัดมาตอนมัน Sale น่าจะราวๆ 150 บาทค่ะ มีพี่ที่รู้จัก cap รูปตอนมัน Sale ที่ 1USD ด้วย แต่ไม่ทันดึงไว้ แอบเสียดายอยู่
ตอนสั่งมาก็แอบลุ้น ว่าจะโดนภาษีไหมเพราะขวดค่อนข้างใหญ่ ถ้าวัดราคาเท่ากัน ราวๆ 30 - 50 USD ส่วนมากกล่องใหญ่ มักจะโดนภาษี แต่กล่องเล็กๆมักจะรอด
นางก็เป็นโทนเนอร์น้ำใสทั่วไปค่ะ
เช็ดแล้วก็แห้งไวดีค่ะ ไม่แห้งตึง จะได้ผิวนุ่มๆอยู่
ส่วนผสมก็ค่อนข้างเรียบง่ายเช่นกันค่ะ
สำหรับส่วนผสมก็ค่อนข้างธรรมชาติ มี rose oil extract มาเป็นอันดับ 2 คือ นางมีความเล่นคำ ถ้าใครอยู่ในวงการ Aromatherapy จะรู้ว่า rose oil นั้นมีความแพงมาก Rose oil เกรดดีๆ อาจจะมีมูลค่าถึง กก. ละแสนเลยค่ะ แต่นี่คืออะไรคะ Rose oil extract จ้ะ มีเนื้อแท้ rose oil เท่าไหร่นี่เราไม่มีทางรู้ได้เลยค่ะ อาจจะแค่เอา rose oil 1 หยด มาละลายในน้ำ 100 ml คนๆๆๆๆๆ ตีๆๆๆ ก็ได้ rose oil extract ละ
แต่ก็เอาเถอะเนอะ คุ้มค่าคุ้มราคาดีค่ะ ใช้เช็ดหลังล้างหน้า เก็บตกและทำความสะอาดเป็นงวดสุดท้ายค่ะ
อีกตัวที่น่าสนใจคือ Gluconolactone ซึ่งน่าจะใส่มาเป็นสารกันเสีย ในความเข้มข้นต่ำหน่อย แต่สารตัวนี้ผิวเราน่าจะยังได้ประโยชน์ (คหสต.) เพราะสารนี้เป็น Polyhydroxy acid หรือ PHA ที่ให้ผลดีในด้านการเติมน้ำ ริ้วรอย และการฆ่าเชื้อดูแลสิว
จบแล้วค่า ขอบคุณที่ติดตามรับชมมาจนจบนะคะ ^^
ถ้าใครสนใจอยากลอง มี่มีโค้ดลดราคา 5 USD สำหรับสมาชิกใหม่ให้นะคะ
ใช้โค้ด VVQ751 ตอนสั่งซื้อได้เลยค่ะ
พบกันใหม่โอกาสถัดไปค่า
Disclaimer: ผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นซื้อด้วยตัวเอง การรีวิวครั้งนี้เป็นการวิเคราะห์ส่วนผสมตามหลักการทางวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางและอาศัยความเห็นส่วนบุคคลและผู้เขียนไม่ได้มีผลประโยชน์ใดๆในการขายสินค้า โปรดใช้วิจารณญาณ
สุดท้ายนี้ก็ขอฝากเพจด้วยค่ะ ไปเมาท์มอยหอยสังข์กันได้นะคะ ขอบคุณทุกๆท่านที่ติดตามรับชมมาจนจบค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.facebook.com/PinkCosmetIS/
[CR] iHerb beauty haul-- เปิดกรุ/รีวิว/วิเคราะห์ส่วนผสม Beauty items จาก iHerb
ส่วนตัวมี่เองสั่งของกับทาง iHerb มาได้พักใหญ่ๆแล้วค่ะ ใช้วิธีทยอยๆสั่ง และส่วนมากสั่งแต่พวกวิตามิน สมุนไพร มาทานมากกว่า พึ่งจะเริ่มสั่งเครื่องสำอางมาก็พักหลังๆนี้เองค่ะ
พวก Skincare ที่มี่สั่งจาก iHerb ก็มีอยู่หลายตัวค่ะ
มาดูกันทีละตัวเลยนะคะ
ตัวแรกเป็น Eye serum ของ Blum naturals ค่ะ
ราคาอยู่ที่ราวๆ 300 บาท
ตัวนี้จริงๆเป็น Serum ของอิสราเอลค่ะ มี่สั่งมาเพราะอยากลองเล่น Easyliance ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่มี่ไปรู้จักจากงาน in-cosmetics เมื่อปี หรือว่า 2 ปีก่อนนี่แหล่ะ วัตถุดิบตัวนี้เขา Claim เว่าพอทาลงไปมันจะก่อฟิล์มบนผิว แล้วเจ้าฟิล์มนี้มันจะหดตัวให้ความรู้สึกตึงค่ะ ตอนได้มาคือตื่นเต้นมาก เอามาลองท้องแขนเทสต์การแพ้ก่อน คือแบบ ตึงอ่ะ รู้สึกยุบๆๆๆ สนุกดี แต่พอลงตาจริงๆวันสองวันแรกก็ตื่นเต้นดีค่ะ ไปๆมาๆเหมือนมันด้านชา ไม่รู้สึกว่าตึง ไม่หวือหวาตื่นเต้นแบบวันแรกๆแล้ว แต่ก็ยังใช้อยู่จนทุกวันนี้ค่ะ
นางมาในขวดแก้ว เนื้อค่อนข้างเหลว กลิ่นชวนแหวะนิดนึง (ตามความเห็นมี่นะคะ) ใครที่ชอบแนวธรรมชาติน่าจะชอบ
เกลี่ยง่าย ดูแฉะๆ เหมือนไม่ค่อยซึม แต่ก็ชุ่มชื้นดีค่ะ
ดูส่วนผสมซักหน่อยนะคะ
สำหรับส่วนผสม ก็ถือว่าทำมาได้ดีค่ะ มีส่วนผสมของน้ำมันจากธรรมชาติ และก็ตัวลดริ้วรอยตัวหลักน่าจะเป็น dipalmitoyl hydroxyproline ที่มีชื่อทางการค้าว่า Septilift DPHP ตัวนี้ผู้ผลิตวัตถุดิบเคลมว่าให้ผลช่วยผิวสร้างคอลลาเจนและให้ผิวนุ่มฟู ยังเป็น antioxidant ได้อีก ส่วนที่เหลือก็จะเป็นสารที่มาในแนว ธรรมชาติค่ะ ส่วนผสมก็ไม่ได้มีอะไรมีพิษมีภัยอะไรค่ะ
ตัวที่ 2 เป็น Serum หอยทากจากแบรนด์ Mizon ค่ะ
เซรัมหอยทากจากแบรนด์ Mizon ของเกาหลี ใช่ค่ะ เดี๋ยวนี้ iherb ก็เอาไอเทมของเกาหลีมาขายหลายชิ้น ราคาก็ไม่ได้ทิ้งจากซื้อที่เกาหลีมาก แต่มี่สนใจ Mizon ค่ะ เพราะเป็นเครื่องสำอางออนไลน์ที่เกาหลี บ้านเราค่อนข้างสั่งได้ยาก เว้นแต่จะมีเพื่อนอยู่เกาหลี หรือมีใครหิ้วให้ หรือจะ G-market (ที่ค่าส่งโคตรแพง) นี่ก็แอบลุ้นให้ iherb เอา Hya กับ Collagen ของ Mizon มาลงด้วย มี่ค่อนข้างชอบเลยค่ะ
สำหรับตัว Serum จะเหนียวๆ ยืดๆ อารมณ์คล้ายๆน้ำเชื่อม ตอนลงจะรู้สึกอุ่นๆหน่อยค่ะ ไม่มีกลิ่นใดๆ
ราคาประมาณ 440 บาท ค่ะ
สำหรับส่วนผสมก็เป็นดังนี้ค่ะ
ในส่วนของส่วนผสม นอกจากหอยที่นางเคลมว่าใส่มาถึง 80% แล้ว ตัวที่น่าสนใจก็คงเป็นกลุ่ม peptide ค่ะ ที่ใช้อยู่หลายตัวเลยทีเดียว ที่เห็นเด่นๆก็คงจะเป็น EGF หรือ Epidermal Growth factor นะคะ คือเจ้า Oligopeptide-1 ซึ่งตัวนี้ตัวมันค่อนข้างใหญ่ ไม่น่าจะซึมเข้าผิวค่ะ ถ้าไม่มีเทคโนโลยีมาช่วย ก็ไม่รู้ว่าจะได้ผลจริงหรือเปล่า
ช่วงสัปดาห์ก่อน แม่โดนไฟจากเตาแก๊สไหม้แขน เอาให้นางทาแค่ 3 วันหายเลย คิดว่าน่าจะเป็นผลจากหอย เพราะนางช่วยเรื่อง repair แผลไหม้ได้ค่อนข้างดีค่ะ มี่มีญาติฉายรังสีที่คอ ผิวนางจะไหม้ มี่เอาตัวนี้ให้นางทา คือดีขึ้นเยอะเลยนะ ไม่แสบไม่ burn ตอนแรกก็ไม่เชื่อ แต่ก็แบบนะ เอ๊ะ หรือเขาจะอุปทานไปเองหรือเปล่า ก็ไม่รู้ค่ะ นานาจิตตังละกันเนอะ
ตัวที่ 3 เป็นครีมหอยทากของ Mizon ค่ะ
ตัวนี้ยังไม่ถึงคิวนะคะ เลยยังขอไม่แกะข้างใน
นางจะมาในกระปุกแก้วค่ะ ราคาอยู่ที่ประมาณ 500 บาท ค่ะ
เป็นเวอร์ชั่นครีมหอย ที่ส่วนผสมอลังและมาเต็มกว่าเซรัม เน้นไปที่เรื่องของริ้วรอยและการสมานผิวเป็นหลักเลยค่ะ
ส่วนผสมก็จะคล้ายๆกันกับ Serum ก็ใช้ตัวใดตัวนึงก็พอค่ะ ดูทรงแล้ว ครีมจะคุ้มกว่า แต่คนผิวมันอาจจะไม่ชอบก็ได้ค่ะ
ตัวต่อมาเป็น ครีม Madre magic ตัวนี้เป็นครีมที่ทำเลียนแบบแบรนด์ Egyptian magic ที่ราคาแพงลิบลิ่วซื้อมาก็ไม่ได้อะไรมาก อยากลองเฉยๆ
พอมาลองจริงปรากฏว่า นางเป็นเสมือนวาสลีน เอามาโบกๆตอนหน้าแห้งลอก ก็ให้ผลดีอยู่ค่ะถามว่าซื้อต่อไหม ถ้าเจอนาง Sale เหลือซัก 1-5 USD ก็จะซื้อค่ะแต่ถ้าราคาเต็ม 400 กว่าบาท ก็ขอบาย
ตัวต่อมาเป็นครีม Elastin ของ Reviva labs ราคาประมาณ 300 บาทค่ะ
อันนี้ซื้อมาลองเล่น เพราะเห็นเขาเคลมว่าเป็นครีม Elastin เจ้าแรกใน USA พอลองก็แบบว่า อืม ค่ะ ก็ไม่ได้อะไรมาก นางเป็น Night cream ดูในกระปุกเนื้อข้นมาก แต่เอามาทาจริงๆ เบากว่าที่คิด มี่ผิวแห้งเอามาทางกลางวันยังไม่ชุ่มเลยค่ะ ส่วนเรื่องริ้วรอยนั้น มี่ลองมาประมาณ 2 อาทิตย์ ก็ยังไม่ได้รู้สึกอะไรค่ะ ถ้านาง sale ก็คงจะซื้อต่อไป แต่ถ้าไม่ก็ปล่อยไปเถอะค่ะ
ตัวสุดท้ายเป็น Witch hazel Toner สูตรกุหลาบ ของ Madre labs ค่ะ
เห็นเต็มๆขวดนี่ ขวดที่สองนะจ๊ะ
มี่จัดมาตอนมัน Sale น่าจะราวๆ 150 บาทค่ะ มีพี่ที่รู้จัก cap รูปตอนมัน Sale ที่ 1USD ด้วย แต่ไม่ทันดึงไว้ แอบเสียดายอยู่
ตอนสั่งมาก็แอบลุ้น ว่าจะโดนภาษีไหมเพราะขวดค่อนข้างใหญ่ ถ้าวัดราคาเท่ากัน ราวๆ 30 - 50 USD ส่วนมากกล่องใหญ่ มักจะโดนภาษี แต่กล่องเล็กๆมักจะรอด
นางก็เป็นโทนเนอร์น้ำใสทั่วไปค่ะ
เช็ดแล้วก็แห้งไวดีค่ะ ไม่แห้งตึง จะได้ผิวนุ่มๆอยู่
ส่วนผสมก็ค่อนข้างเรียบง่ายเช่นกันค่ะ
สำหรับส่วนผสมก็ค่อนข้างธรรมชาติ มี rose oil extract มาเป็นอันดับ 2 คือ นางมีความเล่นคำ ถ้าใครอยู่ในวงการ Aromatherapy จะรู้ว่า rose oil นั้นมีความแพงมาก Rose oil เกรดดีๆ อาจจะมีมูลค่าถึง กก. ละแสนเลยค่ะ แต่นี่คืออะไรคะ Rose oil extract จ้ะ มีเนื้อแท้ rose oil เท่าไหร่นี่เราไม่มีทางรู้ได้เลยค่ะ อาจจะแค่เอา rose oil 1 หยด มาละลายในน้ำ 100 ml คนๆๆๆๆๆ ตีๆๆๆ ก็ได้ rose oil extract ละ
แต่ก็เอาเถอะเนอะ คุ้มค่าคุ้มราคาดีค่ะ ใช้เช็ดหลังล้างหน้า เก็บตกและทำความสะอาดเป็นงวดสุดท้ายค่ะ
อีกตัวที่น่าสนใจคือ Gluconolactone ซึ่งน่าจะใส่มาเป็นสารกันเสีย ในความเข้มข้นต่ำหน่อย แต่สารตัวนี้ผิวเราน่าจะยังได้ประโยชน์ (คหสต.) เพราะสารนี้เป็น Polyhydroxy acid หรือ PHA ที่ให้ผลดีในด้านการเติมน้ำ ริ้วรอย และการฆ่าเชื้อดูแลสิว
จบแล้วค่า ขอบคุณที่ติดตามรับชมมาจนจบนะคะ ^^
ถ้าใครสนใจอยากลอง มี่มีโค้ดลดราคา 5 USD สำหรับสมาชิกใหม่ให้นะคะ
ใช้โค้ด VVQ751 ตอนสั่งซื้อได้เลยค่ะ
พบกันใหม่โอกาสถัดไปค่า
Disclaimer: ผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นซื้อด้วยตัวเอง การรีวิวครั้งนี้เป็นการวิเคราะห์ส่วนผสมตามหลักการทางวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางและอาศัยความเห็นส่วนบุคคลและผู้เขียนไม่ได้มีผลประโยชน์ใดๆในการขายสินค้า โปรดใช้วิจารณญาณ
สุดท้ายนี้ก็ขอฝากเพจด้วยค่ะ ไปเมาท์มอยหอยสังข์กันได้นะคะ ขอบคุณทุกๆท่านที่ติดตามรับชมมาจนจบค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้