เริ่มยังไง เริ่มหรือยัง? How to start, and have you already started?

กระทู้สนทนา
From: www.bkkstartuplife.wixsite.com/bkkstartuplife

สวัสดีครับ ผมต้องขอแนะนำตัวเองอีกรอบนะครับ (สำหรับคนที่ยังไม่ได้อ่านประวัติเล็กๆ น้อยๆ ของผมหน้าเพจ) ผมชื่อน๊อบบี้ อายุ 21 ปี จบการศึกษาจากสวิสเซอร์แลนด์ พึ่งจบมาใหม่ๆ ได้ 1 เดือนเลยครับ ความฝันของผมก็คือการสร้าง Startup ที่จะช่วยพัฒนาสังคมในเมืองไทย จะเล็กหรือจะใหญ่แค่ไหน ผมขอได้เป็นส่วนร่วมกับการพัฒนาครั้งนี้ครับ ผมมีประสบการณ์ในด้านธุรกิจมาบ้างครับ ได้มีโอกาศทำธุรกิจตัวเองมา 3 อย่าง ได้เริ่มทำธุรกิจแรกตอนอายุ 18 ปี ตอนนี้เหลือแค่ 1 บริษัท ที่ตัวผมเองก็เป็น Founder & CEO อยู่ครับ (บริษัทอยู่ในประเทศสวิสเซอร์แลนด์ครับ) อีก 1 บริษัท จะพูดว่าเจ๊งก็พูดได้ครับ 555

ตอนนี้ได้กลับมาอยู่เมืองไทยได้ประมาณ 1 เดือน ผมต้องยอมรับนะครับว่าตอนก่อนจบตื่นเต้นมากๆ อยากออกไปเจอโลกแห่งความจริง ได้ออกไปทำสิ่งที่ตัวเองใฝ่ฝัน แต่พอจบแล้วจริงๆกลับรู้สึกกลัว และไม่รู้ว่าจะทำอะไร ไม่รู้จะเริ่มยังไง! ผ่านมา 1 เดือนกับการเป็นนิสิตจบใหม่ ชีวิตก็เริ่มมีเป้าหมายมากขึ้น ผมคิดว่านิสิตหลายๆคนที่พึ่งจบการศีกษา หรือที่จบมาสักพีกแล้วก็อาจจะมีปัญหาคล้ายๆผม โดยเฉพาะคนที่คิดมาตลอดว่าตัวเองจะไม่ไปเป็นลูกจ้างใคร จะไม่เป็นพนักงานบริษัทกินเงินเดือนไปวันๆ

คำถามที่เพื่อนๆ รุ่นเดียวกับผมถามกับผมคือ จะเริ่มยังไง? จะทำยังไง? จะทำอะไรดี? อยากรวยเร็วๆต้องทำอย่างไร? นี่เป็นคำถามยอดฮิตเลยครับ แต่ผมเชื่อว่าคำถามพวกนี้คนทุกๆวัยก็อยากได้คำตอบกัน ผมจะเริ่มตอบจากคำถามเล็กๆ นะครับ จะเริ่มทำธุรกิจ startup ยังไง?

ตัวผมเองสมัยก่อนเป็นคนไม่ชอบอ่านหนังสือมาตั้งแต่เด็กๆครับ แต่พอได้เริ่มทำธุรกิจ การอ่านหนังสือและข่าวสารต่างๆเป็นกิจกรรมประจำวันในชีวิตเลยครับ นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จหลายๆคนก็พูดกันทุกคนนะครับว่าต้องอ่านหนังสือ จะเป็นหนังสืออะไรก็ได้ แต่ขอให้อ่านแล้วได้ความรู้ ผมเองตอนนี้ก็อ่านหนังสือ 1 เล่ม ต่อ 1 อาทิตย์ ทำไมผมแนะนำให้อ่านหนังสือก่อนสร้างธุรกิจ startup? อย่างแรกเลยคือ ต้องรู้ว่าธุรกิจ startup คืออะไร ผมเชื่อเลยนะครับว่าหลายๆคนรู้ว่า startup คืออะไร แต่ผมคิดว่าความหมาย startup ของแต่ละคนคงจะไม่เหมือนกัน สำหรับผมธุรกิจ startup คือธุรกิจที่สามารถเติบโตได้เฉลี่ยปีละ 10 เท่า (growth rate x 10) ตัวเลขและความหมายของแต่ละคนอาจจะไม่เหมือนกัน แต่ไม่เป็นไรครับ ขอให้คุณได้อ่านหนังสือเกี่ยวกับธุรกิจ startup แล้วคุณจะนิยามความหมายของตัวเองได้ชัดเจนขึ้น พอได้อ่านหนังสือและมีความรู้เกี่ยวกับ startup ไอเดียหลายๆอย่างจะเริ่มเข้ามาในหัวคุณครับ

สิ่งทำสำคัญอีกอย่างก็คือการใช้ชีวิตประจำวัน ผมได้เริ่มเปลี่ยนการใช้ชีวิตประจำวันของตัวเองตั้งแต่อายุ 18 ปี มานอนเร็วและตื่นเช้า พูดง่ายนะครับ แต่ทำยากมากๆ กว่าจะเริ่มทำได้เต็มที่จริงๆก็อายุ 20 ปีครับ ลองทำกันดูนะครับแล้วจะสังเกตได้เลยว่าวันๆนึงของเราสามารถทำอะไรได้หลายอย่างมากๆ

"Early to bed and early to rise makes a man healthy, wealthy and wise" - Benjamin Franklin
"นอนเร็วและตื่นเช้าทำให้คนเราสุขภาพดี รวย และเฉลียวฉลาด" - เบนจามิน แฟรงคลิน

สมัยก่อนเวลาผมทำงานก็ทำงานที่บ้าน ที่โรงเรียน หรือในดอร์มรูม (dorm room) พอเรียนจบมาแล้วก็ยังทำเหมือนเดิมจนรู้สึกว่าเราเสียสมาธิไปเยอะมากเวลาทำงานอยู่บ้านหรือที่ร้านกาแฟ ผมจึงตัดสินใจหาที่ทำงานส่วนตัวหรือ co-working space ผมได้ดูอยู่หลายๆที่ ซึ่งมีหลายที่มากๆในกรุงเทพ ผมแนะนำว่าให้อยู่แถวสถานที่พักของคุณครับ เพราะอย่างตัวผมเองเป็นคนขี้ลืมข้อง เวลาลืมของที่บ้านจะได้ไม่เสียเวลากลับไปเอา การทำงานอยู่ใน co-working space ไม่ได้หมายความว่าคุณจะนั่งหน้าแลปทอปทำงานจนตัวเกลียวนะครับ จุดสำคัญหลักๆของ co-working space คือสังคม (sense of community) คุณจะได้นั่งทำงานกับคนอีกเป็นสิบเป็นร้อยที่ทำธุรกิจ startup หรืออย่างอื่นอยู่ ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและไอเดียต่างๆ อีกอย่างนึงที่สำคัญสำหรับผมเลยคือความกดดันที่ได้เห็นคนอื่นนั่งทำงาน ปกติแล้วเรานั่งทำงานคนเดียวก็จะชิลๆ ทำไปเรื่อยๆ แต่พอนั่งทำงานอยู่ใน co-working space ทุกคนนั่งทำงานกันอย่างตั้งใจ ทำให้ผมเองก็ต้องตั้งใจในสิ่งที่ทำไปด้วยครับ co-working space ยังมีน้ำดื่ม ชา กาแฟ ให้รับประทานกันด้วยนะครับ ผมรับรองว่าคุ้มกว่าไปในคาเฟ่เหมือนสมัยก่อนแน่นอน!
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่