#SEOULWhyDontWeGo
ทำไมจะไม่ไปโซลกัน
สวัสดีค่า กระทู้รีวิวเป็นครั้งแรก เขิน~ มารีวิวเที่ยวกรุงโซล 5 วัน 4 คืนฉบับเรียลลิสติกกันค่ะ ที่บอกว่าฉบับเรียลลิสติกก็ตามนั้นเลยค่ะ เล่าประสบการ์ณการไปเกาหลีครั้งแรกแบบไปเองทุกรายละเอียด ทุกปัญหาที่ไปเจอมา ทุกอย่างที่กระทู้รีวิวอันอื่นอาจไม่ได้บอก
รีวิวครั้งแรก ผิดพลาดตรงไหนก็ขออภัยด้วยนะคะ ส่วนใหญ่จะเวิ่นเว้อ(เยอะมาก) บ่นนู้นนี่เรื่อยไป ทำเป็นเหมือนอ่านไดอารี่เที่ยวไปนะค่า ^^
♡ มาดูตารางเที่ยวของทริปเรากันหน่อยค่ะ
ชี้แจงก่อนว่าอันนี้เป็นทริปครอบครัวค่ะ ไปกันสี่คน คุณพ่อคุณแม่ พี่สาวและตัวจขกท แต่เพราะตัวเรากับพี่สาวนี่อยากไปติ่งด้วยนิดหน่อย เลยมีวันที่จะแยกกันไปค่ะ วินกันทั้งสองฝ่าย วันที่แยกกันจะเป็นเครื่องหมายปะๆในตารางเที่ยวนะคะ
~มาเริ่มทริปไปโซลกันเถอะ~
♡ เตรียมตัวก่อนไป
สำหรับการเดินทางทุกครั้งต้องคิดเรื่องวันไหนที่จะไปบ้าง สรุปได้วันที่ 4-8 มิย (เลือกวันไปกลับแบบนี้มีเหตุผลนะคะ อิอิ) ตอนแรกลังเลว่าระหว่างไปเองกับไปกับทัวร์อันไหนดีกว่า เพราะราคาทัวร์นี่พอๆกับค่าตั๋วเครื่องบินไปเองเลย แต่เพราะอยากไปติ่งกับซื้อของเยอะๆด้วย เลยเลือกไปเองดีกว่า
ตั๋วเครื่องบิน พอหาวันลงตัวแล้วก็เริ่มตามหาตั๋วโปรไปเกาหลีค่ะ เช็คหน้าเว็บของสายการบินโลวโคสทุกสาย และก็ได้มาของ JEJU Air ราคารวมไปกลับ 9,xxx บวกนน.กระเป๋า 15 โลแล้ว (จองแบบได้รวมนน.กระเป๋าก่อนที่เค้าจะเปลี่ยนกฎใหม่ค่ะ ตอนนี้ถ้าจองตั๋วลดกับเจจูแอร์เค้าจะให้เสียค่านนเพิ่มเอง)
พอดีหาอ่านรีวิวมาเยอะได้ตั๋วไปต่ำกว่าหมื่นสำหรับเราก็โอเคแล้วนะคะ
ที่พัก ไปสืบข้อมูลมาแล้วตัดสินใจจองกับโฮสเทลค่ะ แล้วเลือกย่านที่จะพักมาตามคำแนะนำคนอื่นว่ามาควรพักแถวฮงแด แล้วก็นั่งไล่หาที่พักที่ราคาโดนๆใน Agoda ค่ะ
สุดท้ายจองได้ที่นี้ค่ะ Orenge Hongdae Guesthouse อ่านรีวิวมาก็ดูโอเค จองแบบห้องแฟมิลี่ไป ตกคืนละ 16xx/คน
แลกเงิน ไปแลกที่ SuperRich ตรงประตูน้ำค่ะ ได้เรทแลกจะถูกที่สุดแล้ว จะแลกเป็นจำนวนเยอะเท่าไหร่ก็แล้วแต่ความต้องการเลย
Pocket Wifi นี่เช่าของ Asia Connex ตกวันละ 150 บาท ติดต่อโอนเงินผ่านทางไลน์ รับเครื่องก็ไปรับที่สุวรรณภูมิเลย
สัญญาณโอเคอยู่ค่ะ แบตก็ชาร์จกับพาวเวอร์แบงค์ได้ แต่ห่างกันได้ไม่เยอะเท่าไหร่ เดินออกห่างก็สัญญาณหายไปแหละ 5555
และก็ก่อนจะไปก็ต้องเช็คสภาพอากาศเมืองเค้าหน่อยค่ะ จะได้เตรียมเสื้อผ้าถูก เราไปช่วงต้นเดือนมิถุนายนจะเป็นช่วงเริ่มต้นของหน้าร้อนเกาหลี หาข้อมูลมาก็บอกว่าอากาศก็จะร้อนๆหน่อย แต่งตัวสบายๆได้เหมือนอยู่ที่เมืองไทยเลย อาจมีฝนตกบ้าง เลยพกร่มติดไป
เตรียมตัวพร้อมหมดทุกอย่างล่ะ วาร์ปไปวันไปโซลกันเลย
░160306 วันออกเดินทางค่ะ เครื่องออกตอน 1.30 ไปถึงสุวรรณภูมิสักสี่ทุ่มกว่า เช็คอินเรียบร้อย พนักงานของเจจูนี่น่ารักมากๆค่ะ
มีสแตนดี้กัปตันยูของคุณแม่ด้วยค่า
เครื่องออกตรงตามเวลาเป๊ะค่ะ อีกห้าชั่วโมงก็จะถึงเกาหลีแล้วเย้
รีวิวในเครื่องของเจจูหน่อยนะคะ คือตอนหาข้อมูลครั้งแรกนี่ก็เข้าใจว่าเป็นโลว์คอส สภาพที่นั่งไม่กว้าง และแอร์ก็ร้อน ซึ่งก็เป็นงั้นจริงค่า 555555 ตัวเราสูง 168 ขอบอกว่าอึดอัดมาก นั่งเหยียดขาไปได้ไม่สุด กะจะนอนบนเครื่องเอาแรงไปบุกโคเรีย แต่กลายเป็นว่านอนไม่หลับเพราะอยู่ในท่าไม่ถนัด ใครเคยเจอเหตุแบบนี้น่าจะพอเข้าใจนะคะว่ามันจะปวดหัวตุบๆ แถมแอร์ร้อนๆด้วย ปวดหัวจี๊ดขึ้นมาเลย 55555 และของเจจูมีแจกแต่น้ำเปล่านะคะ มีแอร์มาเสิร์ฟให้สองรอบ ความจริงขอเพิ่มได้แต่ไม่รู้จะสื่อสารไงเลยก็ได้กินแค่สองรอบ 55555
แอร์ของที่นี้เป็นคนเกาหลีหมดค่ะ สวยๆสูงๆกันทั้งนั้น ปัญหาอีกอย่างนึงของสายการบินเกาหลีก็คือ เวลาประกาศจะพูดแค่ภาษาเกาหลีกับอังกฤษ ซึ่งอังกฤษก็เป็นสำเนียงแบบบ้านเค้าอ่ะคะ บอกตรงว่าฟังไม่ออก ไม่เข้าใจเลย 55555
พอใกล้ๆจะถึงอินชอนแอร์จะเดินมาแจกใบเข้าตมค่ะ หน้าตาเป็นแบบนี้กับมีอีกใบสีขาวๆ แต่สำหรับชาวต่างชาติต้องเป็นภาษาอังกฤษนะคะ ภาษาเกาหลีสำหรับคนเกาหลี แอร์ยื่นให้เรากับพี่ผิดคงนึกว่าเป็นคนเกาหลี 5555 ช่องด้านล่างก็ติ้ก no หมดก็เข้าตมได้ล่ะ ข้อมูลอย่างอื่นก็กรอกให้ตรงกับพาสปอร์ต
░ 9.10 arrived Incheon International Airport
ถึงอินชอนแล้วค่า ที่นี้จะเล่าความเสียดายอย่างหนึ่ง คือที่กะไปวันที่ 4 มิ.ย. เป็นเพราะแอบทราบตารางงานหนุ่มๆบังทันว่ามีไป KCON ที่ปารีสวันที่ 2 เพราะงั้นคงกลับวันที่ 3 จากปารีสมาเกาหลีก็นานสัก 9 ชม คือคำนวณแล้วว่าน่าจะทันเราไปถึงพร้อมกัน โมเม้นเจอศิลปินในสนามบินเป็นอะไรที่ว้อนท์มาก นี่เช็คตารางบินของบังทันตั้งแต่อยู่ไทย น่าจะถึงเป๊ะๆเลย พอเครื่องแลนดิ้งปุ๊ปนี่เปิดทวิตเช็คทันทีค่ะ แต่ว่าเครื่องที่เรานั่งดันมีปัญหาไรไม่รู้จอดรอนานมาก จนดูจากทวิตว่าบังทันออกจากเกตเรียบร้อย คลาดกัน 5 นาทีเอง ฮืออออ นกมากกกกก
ข้ามเรื่องติ่งไป555 ที่นี้มากังวลกับตมเกาหลีก่อน
ตมเกาหลีที่กล่าวขานกันเรื่องความโหดนี่ก็กังวลไปดิ อ่านมาหลายๆกระทู้ก็คือให้เตรียมเอกสารให้พร้อม ปริ้น e-ticket รายการจองที่พัก ใบลางานให้เรียบร้อย ครอบครัวเราก็เตรียมมายังกับเย็บเล่มวิจัย5555 บางคนบอกให้พกเงินวอนไว้กับตัวบ้าง นี่ก็เอาเงินแบ่งครบสี่ ดีที่พูดอังกฤษกันได้หมดถ้าถามไรมาคงไม่มีปัญหา แต่ก็ยังเดินไปตมด้วยความกังวล
พอเอาเข้าจริงไม่มีไรเลยค่ะ แบบชิลมากกกกก
พี่แกแค่มองหน้าแล้วปั๊มพาสปอร์ตคือไม่มีอะไรเลย กำใบที่ปริ้นมาต่างๆแน่น แต่ก็ดีแล้วเนาะ 555555
เดินเข้ามาในสนามบินก็ได้แต่ร้องว้าว มันโอ่อ่ามากจริงๆ
อึ้งมานานก็มองหาร้านมินิมาร์ทค่ะ เข้าของ CU ไปซื้อ T-Money เติมเงินอีกใบละหมื่นวอน แล้วก็ซื้อนมกล้วยอันเลื่องชื่อของเกาด้วยสักหน่อย (แต่ถ้ารสสตอร์เบอร์รี่มา 55555)
♡ T-Money ค่าบัตร 4000₩ ใช้บัตรนี้ได้ตลอดกลับไปเกาก็ใช้เจ้าบัตรนี้ได้ค่ะ อยากได้ลาย kakao friends มากกว่า แต่ของ line friends ก็น่ารักดีค่ะ
ได้บัตรทีมันนี่มาแล้วก็พร้อมเข้าเมืองแล้วค่ะ
!!ใครไปเกาหลีก็อย่าลืมโหลดแอพ Subway ของเกาไว้นะคะ สะดวกจริงๆ!!
จากนั้นก็ลากกระเป๋าไปขึ้น AREX เพื่อเข้าตัวเมืองค่ะ ไปตามป้ายที่บอกเลย พอดีครอบครัวเราไปกัน 4 คนแต่เอากระเป๋าไปเยอะมาก 7 ใบ นี่โดนมองทุกครั้งที่ลากผ่าน55555
เราพักที่ฮงแด ลงสถานี Hongik Univ. ค่ะ ใช้เวลาเดินทางเกือบชั่วโมงนึง ราคา 4050₩
พอลงจาก AREX ก็เชื่อมกับสถานีรถไฟฟ้าสีเขียวเลย ที่พักเราต้องออกตรง Exit1 ก็เดินไปตามป้าย ซึ่งตรงนี้เป็นจุดที่ทำให้เราช๊อคเล็กๆค่ะ
จากที่ตามอ่านรีวิวมา ก็มีแต่บอกว่ารถใต้ดินที่เกานี่เชื่อมกันหมดไปง่าย แต่เอาเข้าจริงจากสายหนึ่งไปอีกสายคือห่างกันเป็นกิโลอ่ะคะ เดินเป็นพันกิโลทุกวันที่มา หมดเวลาอยู่กับการเดินในใต้ดินนี้แหละค่ะ ㅠ ㅠ
เอาเป็นโผล่มาถึงที่พักแล้วนะคะ จากทางออกใต้ดินมาที่พักก็เดินอีกไกลอ่ะคะ ลากกระเป๋าใหญ่ๆกันมาหอบหายใจเหนื่อยๆกันเลย
ที่พักเรา Orange Hongdae Guesthouse บ้านสามชั้นสีขาวค่ะ จะมีน้องหมาสองตัวคอยต้อนรับอยู่ พอดีไม่ได้ถ่ายที่พักมาเลย 55555 เป็นตึกทรงธรรมดาๆเลยค่ะ ข้างในก็ห้องธรรมดาๆเหมือนกัน ก็ถือว่าโอเคกับราคา
ตัวนี้ชื่อ เร้นจ์จี ไซบีเรียนที่ตัวใหญ่เท่าเราเลย ให้เล่นตลอดเลย น่ารักมาก
เข้าไปติดต่อเค้าเตอร์ห้องข้างล่างได้เลย มิสเตอร์คิมเจ้าของดูแลที่พักใจดีมาก
พอวางกระเป๋าแต่งตัวอะไรเสร็จก็เริ่มต้นทริปเที่ยวโซลกันเลย
[CR] #SEOULWhyDontWeGo เที่ยวโซลฉบับ realistic + ไปติ่งดรีมคอน2016
ทำไมจะไม่ไปโซลกัน
รีวิวครั้งแรก ผิดพลาดตรงไหนก็ขออภัยด้วยนะคะ ส่วนใหญ่จะเวิ่นเว้อ(เยอะมาก) บ่นนู้นนี่เรื่อยไป ทำเป็นเหมือนอ่านไดอารี่เที่ยวไปนะค่า ^^
♡ มาดูตารางเที่ยวของทริปเรากันหน่อยค่ะ
♡ เตรียมตัวก่อนไป
สำหรับการเดินทางทุกครั้งต้องคิดเรื่องวันไหนที่จะไปบ้าง สรุปได้วันที่ 4-8 มิย (เลือกวันไปกลับแบบนี้มีเหตุผลนะคะ อิอิ) ตอนแรกลังเลว่าระหว่างไปเองกับไปกับทัวร์อันไหนดีกว่า เพราะราคาทัวร์นี่พอๆกับค่าตั๋วเครื่องบินไปเองเลย แต่เพราะอยากไปติ่งกับซื้อของเยอะๆด้วย เลยเลือกไปเองดีกว่า
ตั๋วเครื่องบิน พอหาวันลงตัวแล้วก็เริ่มตามหาตั๋วโปรไปเกาหลีค่ะ เช็คหน้าเว็บของสายการบินโลวโคสทุกสาย และก็ได้มาของ JEJU Air ราคารวมไปกลับ 9,xxx บวกนน.กระเป๋า 15 โลแล้ว (จองแบบได้รวมนน.กระเป๋าก่อนที่เค้าจะเปลี่ยนกฎใหม่ค่ะ ตอนนี้ถ้าจองตั๋วลดกับเจจูแอร์เค้าจะให้เสียค่านนเพิ่มเอง)
พอดีหาอ่านรีวิวมาเยอะได้ตั๋วไปต่ำกว่าหมื่นสำหรับเราก็โอเคแล้วนะคะ
ที่พัก ไปสืบข้อมูลมาแล้วตัดสินใจจองกับโฮสเทลค่ะ แล้วเลือกย่านที่จะพักมาตามคำแนะนำคนอื่นว่ามาควรพักแถวฮงแด แล้วก็นั่งไล่หาที่พักที่ราคาโดนๆใน Agoda ค่ะ
สุดท้ายจองได้ที่นี้ค่ะ Orenge Hongdae Guesthouse อ่านรีวิวมาก็ดูโอเค จองแบบห้องแฟมิลี่ไป ตกคืนละ 16xx/คน
แลกเงิน ไปแลกที่ SuperRich ตรงประตูน้ำค่ะ ได้เรทแลกจะถูกที่สุดแล้ว จะแลกเป็นจำนวนเยอะเท่าไหร่ก็แล้วแต่ความต้องการเลย
Pocket Wifi นี่เช่าของ Asia Connex ตกวันละ 150 บาท ติดต่อโอนเงินผ่านทางไลน์ รับเครื่องก็ไปรับที่สุวรรณภูมิเลย
สัญญาณโอเคอยู่ค่ะ แบตก็ชาร์จกับพาวเวอร์แบงค์ได้ แต่ห่างกันได้ไม่เยอะเท่าไหร่ เดินออกห่างก็สัญญาณหายไปแหละ 5555
และก็ก่อนจะไปก็ต้องเช็คสภาพอากาศเมืองเค้าหน่อยค่ะ จะได้เตรียมเสื้อผ้าถูก เราไปช่วงต้นเดือนมิถุนายนจะเป็นช่วงเริ่มต้นของหน้าร้อนเกาหลี หาข้อมูลมาก็บอกว่าอากาศก็จะร้อนๆหน่อย แต่งตัวสบายๆได้เหมือนอยู่ที่เมืองไทยเลย อาจมีฝนตกบ้าง เลยพกร่มติดไป
เตรียมตัวพร้อมหมดทุกอย่างล่ะ วาร์ปไปวันไปโซลกันเลย
░160306 วันออกเดินทางค่ะ เครื่องออกตอน 1.30 ไปถึงสุวรรณภูมิสักสี่ทุ่มกว่า เช็คอินเรียบร้อย พนักงานของเจจูนี่น่ารักมากๆค่ะ
มีสแตนดี้กัปตันยูของคุณแม่ด้วยค่า
เครื่องออกตรงตามเวลาเป๊ะค่ะ อีกห้าชั่วโมงก็จะถึงเกาหลีแล้วเย้
รีวิวในเครื่องของเจจูหน่อยนะคะ คือตอนหาข้อมูลครั้งแรกนี่ก็เข้าใจว่าเป็นโลว์คอส สภาพที่นั่งไม่กว้าง และแอร์ก็ร้อน ซึ่งก็เป็นงั้นจริงค่า 555555 ตัวเราสูง 168 ขอบอกว่าอึดอัดมาก นั่งเหยียดขาไปได้ไม่สุด กะจะนอนบนเครื่องเอาแรงไปบุกโคเรีย แต่กลายเป็นว่านอนไม่หลับเพราะอยู่ในท่าไม่ถนัด ใครเคยเจอเหตุแบบนี้น่าจะพอเข้าใจนะคะว่ามันจะปวดหัวตุบๆ แถมแอร์ร้อนๆด้วย ปวดหัวจี๊ดขึ้นมาเลย 55555 และของเจจูมีแจกแต่น้ำเปล่านะคะ มีแอร์มาเสิร์ฟให้สองรอบ ความจริงขอเพิ่มได้แต่ไม่รู้จะสื่อสารไงเลยก็ได้กินแค่สองรอบ 55555
แอร์ของที่นี้เป็นคนเกาหลีหมดค่ะ สวยๆสูงๆกันทั้งนั้น ปัญหาอีกอย่างนึงของสายการบินเกาหลีก็คือ เวลาประกาศจะพูดแค่ภาษาเกาหลีกับอังกฤษ ซึ่งอังกฤษก็เป็นสำเนียงแบบบ้านเค้าอ่ะคะ บอกตรงว่าฟังไม่ออก ไม่เข้าใจเลย 55555
พอใกล้ๆจะถึงอินชอนแอร์จะเดินมาแจกใบเข้าตมค่ะ หน้าตาเป็นแบบนี้กับมีอีกใบสีขาวๆ แต่สำหรับชาวต่างชาติต้องเป็นภาษาอังกฤษนะคะ ภาษาเกาหลีสำหรับคนเกาหลี แอร์ยื่นให้เรากับพี่ผิดคงนึกว่าเป็นคนเกาหลี 5555 ช่องด้านล่างก็ติ้ก no หมดก็เข้าตมได้ล่ะ ข้อมูลอย่างอื่นก็กรอกให้ตรงกับพาสปอร์ต
░ 9.10 arrived Incheon International Airport
ถึงอินชอนแล้วค่า ที่นี้จะเล่าความเสียดายอย่างหนึ่ง คือที่กะไปวันที่ 4 มิ.ย. เป็นเพราะแอบทราบตารางงานหนุ่มๆบังทันว่ามีไป KCON ที่ปารีสวันที่ 2 เพราะงั้นคงกลับวันที่ 3 จากปารีสมาเกาหลีก็นานสัก 9 ชม คือคำนวณแล้วว่าน่าจะทันเราไปถึงพร้อมกัน โมเม้นเจอศิลปินในสนามบินเป็นอะไรที่ว้อนท์มาก นี่เช็คตารางบินของบังทันตั้งแต่อยู่ไทย น่าจะถึงเป๊ะๆเลย พอเครื่องแลนดิ้งปุ๊ปนี่เปิดทวิตเช็คทันทีค่ะ แต่ว่าเครื่องที่เรานั่งดันมีปัญหาไรไม่รู้จอดรอนานมาก จนดูจากทวิตว่าบังทันออกจากเกตเรียบร้อย คลาดกัน 5 นาทีเอง ฮืออออ นกมากกกกก
ข้ามเรื่องติ่งไป555 ที่นี้มากังวลกับตมเกาหลีก่อน
ตมเกาหลีที่กล่าวขานกันเรื่องความโหดนี่ก็กังวลไปดิ อ่านมาหลายๆกระทู้ก็คือให้เตรียมเอกสารให้พร้อม ปริ้น e-ticket รายการจองที่พัก ใบลางานให้เรียบร้อย ครอบครัวเราก็เตรียมมายังกับเย็บเล่มวิจัย5555 บางคนบอกให้พกเงินวอนไว้กับตัวบ้าง นี่ก็เอาเงินแบ่งครบสี่ ดีที่พูดอังกฤษกันได้หมดถ้าถามไรมาคงไม่มีปัญหา แต่ก็ยังเดินไปตมด้วยความกังวล
พอเอาเข้าจริงไม่มีไรเลยค่ะ แบบชิลมากกกกก
พี่แกแค่มองหน้าแล้วปั๊มพาสปอร์ตคือไม่มีอะไรเลย กำใบที่ปริ้นมาต่างๆแน่น แต่ก็ดีแล้วเนาะ 555555
เดินเข้ามาในสนามบินก็ได้แต่ร้องว้าว มันโอ่อ่ามากจริงๆ
อึ้งมานานก็มองหาร้านมินิมาร์ทค่ะ เข้าของ CU ไปซื้อ T-Money เติมเงินอีกใบละหมื่นวอน แล้วก็ซื้อนมกล้วยอันเลื่องชื่อของเกาด้วยสักหน่อย (แต่ถ้ารสสตอร์เบอร์รี่มา 55555)
♡ T-Money ค่าบัตร 4000₩ ใช้บัตรนี้ได้ตลอดกลับไปเกาก็ใช้เจ้าบัตรนี้ได้ค่ะ อยากได้ลาย kakao friends มากกว่า แต่ของ line friends ก็น่ารักดีค่ะ
ได้บัตรทีมันนี่มาแล้วก็พร้อมเข้าเมืองแล้วค่ะ
จากนั้นก็ลากกระเป๋าไปขึ้น AREX เพื่อเข้าตัวเมืองค่ะ ไปตามป้ายที่บอกเลย พอดีครอบครัวเราไปกัน 4 คนแต่เอากระเป๋าไปเยอะมาก 7 ใบ นี่โดนมองทุกครั้งที่ลากผ่าน55555
เราพักที่ฮงแด ลงสถานี Hongik Univ. ค่ะ ใช้เวลาเดินทางเกือบชั่วโมงนึง ราคา 4050₩
พอลงจาก AREX ก็เชื่อมกับสถานีรถไฟฟ้าสีเขียวเลย ที่พักเราต้องออกตรง Exit1 ก็เดินไปตามป้าย ซึ่งตรงนี้เป็นจุดที่ทำให้เราช๊อคเล็กๆค่ะ
จากที่ตามอ่านรีวิวมา ก็มีแต่บอกว่ารถใต้ดินที่เกานี่เชื่อมกันหมดไปง่าย แต่เอาเข้าจริงจากสายหนึ่งไปอีกสายคือห่างกันเป็นกิโลอ่ะคะ เดินเป็นพันกิโลทุกวันที่มา หมดเวลาอยู่กับการเดินในใต้ดินนี้แหละค่ะ ㅠ ㅠ
เอาเป็นโผล่มาถึงที่พักแล้วนะคะ จากทางออกใต้ดินมาที่พักก็เดินอีกไกลอ่ะคะ ลากกระเป๋าใหญ่ๆกันมาหอบหายใจเหนื่อยๆกันเลย
ที่พักเรา Orange Hongdae Guesthouse บ้านสามชั้นสีขาวค่ะ จะมีน้องหมาสองตัวคอยต้อนรับอยู่ พอดีไม่ได้ถ่ายที่พักมาเลย 55555 เป็นตึกทรงธรรมดาๆเลยค่ะ ข้างในก็ห้องธรรมดาๆเหมือนกัน ก็ถือว่าโอเคกับราคา
ตัวนี้ชื่อ เร้นจ์จี ไซบีเรียนที่ตัวใหญ่เท่าเราเลย ให้เล่นตลอดเลย น่ารักมาก
เข้าไปติดต่อเค้าเตอร์ห้องข้างล่างได้เลย มิสเตอร์คิมเจ้าของดูแลที่พักใจดีมาก
พอวางกระเป๋าแต่งตัวอะไรเสร็จก็เริ่มต้นทริปเที่ยวโซลกันเลย
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น