เที่ยวด้วยภาพ กลับมาเล่าประสบการณ์เช่ารถขับเที่ยวในเยอรมันครั้งแรกครับ Chapter I “ Munchen - Fussen”

ก่อนอื่นขอออกตัวก่อนว่าตั้งแต่ไปเที่ยวต่างประเทศมาจำนวนน้อยครั้งก็ยังไม่เคยเช่ารถขับเที่ยวเลยครับ แต่เนื่องจากมาเที่ยวรอบนี้ผมต้องการแวะถ่ายภาพตามข้างทางรอเก็บแสงเช้าถ่ายแสงเย็นการขึ้นรถบัสหรือรถไฟคงไม่สะดวกแน่ ผมกับภรรยาจึงตกลงกันว่าเราจะลองเช่ารถขับเที่ยวกันดูเป็นครั้งแรกครับ
     
       
              *เนื่องจากไปเที่ยวมาหลายเดือนแล้วอาจจะหลง ๆ ลืม ๆ อะไรไปบ้างก็ขออภัยมา ณ ที่นี้นะครับ 

              **ภาพทั้งหมดถูกปรับแต่งด้วยโปรแกรม LR และ PS
** รูปจากกล้อง NIkon D750 ; Lens Tokina 16-28mm F2.8, Nikon 60mm Macro N, Nikon 85 mm F1.8 , Nikon 70-300 F4.5-5.6 ครับ




               การเตรียมตัวจากเมืองไทย เราก็ต้องไปทำใบขับขี่สากลที่เป็นเล่มสีขาว ไปทำที่ขนส่งจังหวัดนำครับ จังหวัดไหนก็ได้ สิ่งที่ต้องเตรียมไป 1.คือใบขับขี่แบบ Smart card ของเรา 2.รูปถ่าย 2 นิ้ว (ไม่สามารถใช้รูป 2 นิ้วที่เหลือจากการทำวีซ่าได้นะครับ) 3.เงินอีก 505 บาท ครับ ไปถึงกรอกเอกสารจ่ายเงิน รอประมาณ 1 อาทิตย์กลับไปรับที่ขนส่งก็ได้นะครับ จากนั้นก็ใช้ Google Map ค้นหาวางแผนเส้นทางที่จะไปเที่ยว ลองให้ Google Map คำนวณว่าในแต่ละวันต้องขับรถวันละกี่ชั่วโมงครับ



       รูปด้านบนนี่แผนแรกครับ แต่ไปเปลี่ยนแผนที่ Innsbruck เพราะไม่อยากขับรถไกล อยากขับใกล้ ๆ วันละ 1-2 ชั่วโมงพอ แผนสองจึงเปลี่ยนกระทันหันตามรูปด้านล่างครับ การจองโรงแรมจาก Booking.com ที่สามารถ Cancel ได้ก็จะยืดหยุ่นในการเที่ยวของเราได้ดีเลย



               สรุปว่าหลังจากเปลี่ยนแผนภายหลังเมืองที่เราไปคือ
<ที่ไปลองผิดถูกมา> - Munich-Fussen-Innsbruck-Salzburg-Hallstatt-Cesky Krumlov-Konigssee-Mittlewald-Munich ครับ ขับวนไปไปมา ๆ แต่ ถ้าใครชอบขับเที่ยวใกล้ๆ ดูเทือกเขาแดนใต้อันสวยงามของแคว้นบาวาเรีย ผมจะแนะนำให้ไปตามนี้ครับ
<ที่แนะนำ> - Munich-Fussen-Mittenwald-Innsbruck-Konigssee-Salzburg-Hallstatt-Cesky krumlov-Passau-Munich ครับ
           หลังจากนั้นก็หาข้อมูลพวก Vignette Tolls กับพวกที่จอดรถในแต่ละเมืองครับทางที่ดีจองโรงแรมที่มีที่จอดรถให้แล้วเดินเที่ยวหรือนั่งรถสาธารณะในเมืองจะสะดวกกว่าครับจากนั้นจองรถ ผ่าน Website ไว้ก่อนเลย ผมจองผ่าน Avis ครับ ถ้าจองแล้วกลับมาคืนที่เดิมราคาก็ไม่แพงมากครับ Gear Auto นี่ประมาณวันละพันกว่าบาท  Gear Manual นี่วันละไม่ถึงพันบาทครับ ถ้าคืนรถต่างสถานที่กันเช่นเช่าที่ Munich ไปคืนที่ Vienna จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอีกหลายพันบาทเลยนะครับ แล้วก็ถ้าเช่าที่เยอรมันแล้วขับรถเข้า Czech ให้เช็ครุ่น ยี่ห้อรถดี ๆ หรือแจ้งพนักงานไว้ก่อนนะครับว่าเราจะขับเข้า Czech ด้วยเพราะบางรุ่น บางยี่ห้อเข้าไม่ได้

           เมื่อเตรียมตัวกันเรียบร้อยแล้ว เราข้ามจากประเทศไทยมากันที่เยอรมันเลยครับ ทริปนี้ขอเริ่มจากเรานั่งรถไฟจากเมือง Kassel มาลงที่ Munich ครับ เพราะก่อนหน้านี้มีรุ่นพี่ที่เคารพท่านนึงชวนผมไปเยอรมันทุกปีมาตลอด 4 ปีแต่ผมไม่มีเงินครับ กว่าจะเก็บเงินได้ก็เพิ่งเดือนเมษาที่ผ่านมานี่แหละครับ เราไปกินเที่ยวกับรุ่นพี่คนไทย ที่เปิดร้านอาหารอยู่ที่เมือง Kassel ชีวิตจึงอู้ฟู่สุขสบายกินฟรี เที่ยวฟรี จ่ายแค่เช่าโรงแรมคืนละ 50 ยูโร 3 คืนเท่านั้นเองครับ หลังจากใช้ชีวิตเยี่ยงราชาอยู่ Kassel มา 3 วัน 3 คืน วันที่ 4 เราก็ขึ้นรถไฟแต่เช้า ประมาณ 09.30 น ครับ นั่งรถไฟมาประมาณ 3 ชั่วโมง ก็ถึง Munich ประมาณ 11.30น. ครับ



อย่าลืมเข้าห้องน้ำบนรถไฟให้เรียบร้อยนะครับ เพราะที่สถานีต้องเสีย 1 ยูโร แล้วได้เงินคืนเป็นหางตั๋วซื้อของ 50 cent

หางบัตรห้องน้ำที่สถานีรถไฟ

นำไปซื้อของได้ที่ร้านร่วมโครงการดังนี้ครับ


                 

เราเลือกรับรถของ Avis ที่สถานีรถไฟ Munich ครับ หลังลงจากรถไฟเราก็เดินลากกระเป๋าพะรุพะรังหา Office Avis ครับ เดินงงไปงงมาหายังไงก็ไม่เจอ จะถามใครก็ไม่เจอเจ้าหน้าที่ซักคนครับ สรุปว่า Office ของ Car rent ทั้งหมด ทั้ง Avis , Sixt , Hertz , Europe car rental  จะอยู่ห้องเดียวกันหมดบริเวณชั้น 2 ในสถานีครับ แต่จะแบ่งเป็นแต่ละเคาเตอร์ เมื่อหา Avis เจอผมก็นำใบจองที่ Print มาให้พนักงาน พร้อมกับใบขับขี่สากลที่ไปทำมานั่นแหละครับ พนักงานบอกว่าขอใบขับขี่แบบ Smart Card (ภาพในหัวของผมเมื่อ 6 วันที่ผ่านมา ตอนที่หยิบใบขับขี่แบบ Smart Card ออกจากกระเป๋าสตางค์ วางไว้บนโต๊ะกินข้าวที่บ้าน เพราะคิดว่าไม่ต้องใช้ผุดขึ้นมาในสมอง ... ทั้งคิดในใจว่า ซวยละ วางแผนไว้ซะดิบดี จะตกม้าตายตอนเช่ารถเนี่ยนะ เพราะโรงแรมที่จองไว้แต่ละที่ ถ้าเปลี่ยนแผนมานั่งรถไฟนี่ ชีวิตจะบัดซบมากเลย) โชคดีมากครับที่ภรรยาไม่เอาบัตร Smart Card ออกจากกระเป๋า ก็เลยใช้ใบขับขี่ภรรยาเช่ารถไป นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า เพื่อความมั่นใจ นำติดมันมาทั้ง 2 บัตรแหละครับ ทั้ง Smart Card และใบขับขี่สากล ไม่ว่าไปเช่ารถประเทศไหนก็ตามครับ หลังจากได้รถแล้ว พนักงานจะไม่เดินพามาหารถเหมือนบ้านเรานะครับ เค้าจะให้กุญแจ แผนที่อาคารจอดรถ และบัตรเสียบออกจากอาคารจอดรถครับ 


            อีกซักนิดนึงก่อนออกจากสถานีรถไฟครับ หลังจากได้กุญแจรถมาแล้ว ดังที่เกริ่นไปเมื่อต้นกระทู้ครับว่าผมไปอาศัยอยู่กับรุ่นพี่ที่เปิดร้านอาหารไทย กินอยู่แบบราชาอู้ฟู่มา 3 วัน แต่หลังจากนี้ต้องหากินตามยถากรรมแล้วครับ แล้วสถานที่ที่จะหาของทานได้หลากหลายก็คือที่สถานีรถไฟนี่เองครับ ดังนั้นไม่รอช้าครับ ทานไส้กรอกเยอรมันที่รุ่นพี่ชี้ให้ดูหลายครั้งในสถานีรถไฟก่อนหน้านี้ รองท้องกันไว้ก่อนเลย ร้านส่วนใหญ่ที่เจอเค้าจะขาย ซอสมะเขือเทศ กับ มาสตาดเป็นซอง ๆ แยกนะครับ แต่สถานี Munich (Munchen HBF) ร้านตรงมุมทางออกนี่ดีครับ มีซอสให้กดเกือบ 10 อย่างเลย เราก็เลยทานไส้กรอกกับขนมปังแบบฮอทดอก กันเกือบตอนบ่ายสองประทังชีวิตกันก่อนออกจากสถานีรถไฟครับ



เรารับกุญแจในสถานี ลูกศรชี้ Europa ครับ แล้วต้องเดินไปที่ตึกรูปหัวใจ ครับ

ด้านหลังตึกติดกับถนน Marsstrabe เป็นแบบนี้นะครับ

พนักงานแจ้งเราแค่ว่ารถอยู่ในช่อง 7XX ซึ่งหมายถึงชั้น 7 แต่ลิฟท์มีแค่ 6 ชั้น... หาไม่เจอ งงเลยครับ แสดงความโง่อยู่นานถามใครก็ไม่ได้ ภรรยาก็รอ...
สรุปว่าเป็นชั้นดาดฟ้าครับเดินหาทางขึ้นอยู่นาน พอเราได้รถก็เอามือถือถ่าย VDO ถ่ายรูปรอบคันรถไว้เป็นหลักฐานก่อนครับ เราจองรถ Wolk รุ่น Golf จากเมืองไทยไป แต่ว่าได้รถ  Grade เดียวกันคือ Seat Leon แทนครับ...ขับดีมาก หนึบแน่น ทันสมัยออกแนวสปอร์ต เหยียบที พุ่งหลังติดเบาะเลย ลืมป้า Jazz แก่ ๆ ที่บ้านไปเลย



มีต่อ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่