ขั้นตอนที่1. หลังจากลงบำรุงหน้าและกันแดดแล้ว จะลงไพร์เมอร์กันก่อนเลยคะ ซึ่งตัวนี้จะช่วยให้ผิวหน้าดูสว่างขึ้นเล็กน้อย
ขั้นตอนที่2. จากนั้นมาลงรองพื้นกันเลยคะ สำหรับผิวหน้าแล้ว ชิแนะนำให้ลงเป็นรองพื้นเนื้อแมท ที่ไม่มีส่วนผสมของชิมเมอร์อะไรมากนัก เพื่อให้ดูสุภาพและไม่ขัดตาใคร ซึ่งรองพื้นตัวนี้ จะให้การปกปิด และผิวที่ดูแมทสนิท
ขั้นตอนที่3. ลงคอนซิลเลอร์ตามจุดต่างๆ เพื่อปิดร่องรอย ไม่ว่าจะเป็นใต้ตาหรือรอยสิว ซึ่งชิจะใช้คอนซิลเลอร์ในการไฮไลท์ด้วยทั้งหมด
ขั้นตอนที่4. จากนั้นมาลงครีมบรัชกันต่อเลย ซึ่งวันนี้ชิเลือกสีที่ดูสุภาพหน่อย และเป็นเนื้อแมทอีกเช่นเคย วันนี้จะใช้เป็นสีส้มนม ให้ดูธรรมชาติ
ขั้นตอนที่5. มาต่อกันที่การลงแป้งฝุ่นทั่วใบหน้าเลยคะ ซึ่งชิเลือกใช้เป็นแป้งฝุ่นโปร่งแสง
ขั้นตอนที่6. เก็บลายละเอียดกันด้วยแป้งพัฟผสมรองพื้น ซึ่งชิจะทาแค่บริเวณที่ต้องการ การปกปิดเพิ่มไปอีก เช่นใต้ตาเป็นต้น
เพราะการไปสัมภาษณ์งาน บางทีเราไม่รู้ว่าต้องรอนานมากแค่ไหน ฉะนั้นเอาให้อยู่นะคะ ถ้าเมคอัพเยิ้มจะไม่งามนะจ๊ะสาวๆ

ขั้นตอนที่7. มาเขียนคิ้วกันต่อดีกว่าคะ วันนี้จะใช้คิ้วสีน้ำตาลกลาง ให้เข้ากับสีผมที่สุด และเขียนทรงไม่ใหญ่จนเกินไป พยายามอย่าแต่งให้ดูทันสมัยหรืออินเทรนด์มากนัก
ขั้นตอนที่8. มาต่อกันที่ส่วนขอตาเลย ซึ่งชิจะใช้เป็นลิควิดอายแชร์โดวสีขาวมุก ทาลงไปทั่วทั้งเปลือกตา เพื่อให้อายแชร์โดวติดแน่นทนนานและมีสีสวยชัด
ขั้นตอนที่9. มาลงอายแชร์โดวแบบฝุ่นกันเลยย วันนี้ชิจะแต่งโทนสีน้ำตาลทอง ให้ดูสุขุม นุ่มลึกชวนมอง ตาเป็นสิ่งที่สำคัญนะคะ เพราะจะต้องใช้ตาจ้องตา ในการสื่อสาร ซึ่งชิจะใช้สีน้ำตาลคัดเบ้าไปก่อน (พยายามอย่าแต่งตาเข้มหรือดุจนเกินไป)
ขั้นตอนที่10. จากนั้นทาอายแชร์โดวสีทองลงที่กลางเปลือกตา ตัวนี้ที่ใช้จะผสมชิมเมอร์ (แต่อย่าลงที่มีกากกลิทเตอร์หรือชิมเมอร์ละเอียดจนวิ้งค์เกินไป จะดูไม่สุภาพ)
ขั้นตอนที่11. จากนั้นเขียนขอบตาล่างด้วยดินสอสีน้ำตาล เพื่อให้ตาดูไม่ดุ
ขั้นตอนที่12. ดัดขนตา และปัดมาสคาร่าเป็นฐานเพื่อเตรียมติดขนตากันเลยจ้า

ขั้นตอนที่13. ขนตาที่ชิเลือกใช้วันนี้เป็นเบอร์ที่ดูยาวและฟุ้ง แต่ไม่หนา หรือฟรุ้งฟริ้งเกินไป
ขั้นตอนที่14. กรีดตากันต่อเลยค่า วันนี้จะกรีดตาบางๆ และตวัดลงหรือทำตาเฉี่ยวใดๆทั้งสิ้น
ขั้นตอนที่15. มาเฉดดิ้งเก็บกรอบหน้ากันเลย ซึ่งวันนี้ชิไม่ได้ลงเฉดดิ้งเนื้อครีมเลย ฉะนั้นจะลงแบบฝุ่นสีเข้มไปบริเวณปีกจมูก ให้ดูมีสันและโครงหน้าที่ชัดเจนมากขึ้น และเปลี่ยนมาใช้สีน้ำตาลกลางในการเก็บกรอบหน้า
ขั้นตอนที่16. ถ้าสังเกตุในคลิปจะเห็นว่าสีแก้มของชิ ยังคงหลงเหลือจากการใช้ครีมบรัชอยู่บ้าง ถ้าหากใครต้องการให้แก้มดูใสๆแบบธรรมชาติก็ไม่ต้องปัดเพิ่มก็ได้ แต่ถ้าใครต้องการเล่นสนุกกับการแต่งหน้าให้มากขึ้น หรืออยากให้สีแก้มติดทนนานก็ให้ปัดทับด้วยแบบฝุ่นได้ ซึ่งวันนี้ชิจะปัดทับด้วยแบบฝุ่นสีชมพูตุ่นๆ ให้เข้ากับลุคนี้
ขั้นตอนที่17. จากนั้นมาไฮไลท์กันต่อ จะได้ครบสูตร แต่โปรดไฮไลท์อย่างเบา เพราะถ้ามากไป กว่าจะได้สัมภาษณ์อาจจะกลายเป็นมันเยิ้มแทนสวยฉ่ำก็เป็นได้ ซึ่งชิจะไฮไลท์สันจมูก หน้าผาก กระจับปากและคางเท่านั้น
ขั้นตอนที่18. และทริคของชิอีกอย่างคือชิชอบที่จะนำไฮไลท์มาย้ำอีกครั้งบริเวณหัวตา ให้ตาพุ่งและดูสว่างสดใสขึน
ขั้นตอนที่19. มาทาลิปกันเพื่อปิดท้ายเลยดีกว่า เนื่องจากว่าตาเข้มแล้วชิจะเลือกทาลิปสีอ่อนหวานๆ หากใครเป็นคนที่ทาสีอ่อนแล้วยิ่งดูซีด ให้เลือกสีลิปที่เข้ากับบุคลิคหน้าตาของตนเองจะดีกว่า ซึ่งชิทาสีนี้แล้วรอด จึงทาสีชมพูด้านในปาก
ขั้นตอนที่20. และทาสีชมพูนมอ่อนๆ ที่ขอบปากนอก เพื่อให้ดูไล่เฉดสีสวยงาม ซึงลิปสองตัวนี้ที่ใช้จะเป็นเนื้อแมทนะคะ

เครื่องสำอางที่ใช้ในลุคนี้
illuminating primer - Tomford
Foundation - Muji (Ocher)
Concealer - Muji
Translucent powder - Three
Powder Foundation - Muji
4D eyeshadow - Three (06 Treasure in the soul)
Perfect shadow - Archita (Blondie)
Tarteist contour - Tarte
Extreme shine eye liner - Nyx (Brown perfection)
Perfect extension mascara - D.up
Fake eyelash - Onnbaby (Bring it on)
Clear white eyelash - Duo
Tattoo liner - Kat von D
Shade+Light contour palette - Kat von D
Amazonian clay 12-hour blush - Tarte (Supreme)
Shimmering skin perfector - Becca (Opal)
Lip - Giorgio Amarni (500)
Glamour lipstick - illamasqua (Rosepout)