░ I N T R O ░
สวัสดีค่าชาวพันทิปทุกคน วันนี้เราอยากจะมาแบ่งปันประสบการณ์ทริปที่เราได้ไปเยือนเมือง 35.9078° N, 127.7669° E เป็นเวลาทั้งหมด 9 วัน (ช่วงปลายพฤษภาคม-มิถุนายน)ให้ทุกคนได้ชม เย่ ก่อนอื่นขอบอกก่อนเลยว่าเราไม่ได้ตั้งใจที่จะมารีวิวใดใดเลย แต่คือก่อนหน้านี้เราไปบนไว้ว่าถ้าได้บัตรคอนจะมารีวิวทริปเกาหลี ซึ่งเราไม่นก(ถือว่าเป็นเรื่องราวดีๆ) จึงเป็นที่มาของกระทู้เช่นนี้แล จขกท.ไปโซลครั้งนี้เป็นครั้งแรกเลย ปกติเวลาคนอื่นเค้าไปเค้าจะแบบเน้นเที่ยวไปเลย เน้นติ่งไปเลยถูกมะ แต่นี่ไม่ค่ะ! ไปทั้งทีตั๋วเครื่องบินก็ใช่ว่าจะถูก เราต้องเอาให้คุ้ม ทั้งกิน เที่ยว ไปติ่ง เราจะ make things possible. ส่วนมากก่อนไปเราจะเน้นหาข้อมูลตามทวิต พันทิป หรือไม่ก็ถามชาวบ้านนี่แหละ เดี๋ยวเราจะขออนุญาตรีวิวไปเป็นหมวดๆเลยเนอะจะได้หากันง่ายๆนะคะ มีรีวิวดรีมคอนด้วยน้าอย่าลืมติดตามนะคะ^^
░ B E F O R E W E B E G I N ░
ก่อนที่จะเริ่มจขกท.ขอแนะนำสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อการดำรงชีวิตในเกาหลีก่อนเลย นั่นก็คืออออออ
✿
APPLICATION
1.NAVER MAP
อันนี้เหมาะสำหรับคนที่พออ่านเกาหลีได้นิดหน่อย (แต่ถ้าอ่านไม่ได้แต่ยังพองมๆได้ก็โอเคน้า) คือตอนแรกจขกท.ไม่ได้คิดว่าจะหลงไงเลยไม่ได้โหลดมา คิดว่า google map คงเอาอยู่ แต่คือความจริงแล้วไม่เลยจ้า พวกร้านอาหาร ร้านค้าในเกาหลี ถ้าใช้google mapเราว่ามันไม่ค่อยเวิร์ค ตอนแรกหลงอยู่กลางฮงแดจะหาร้านนันดา google map ก็ไปโชว์นันดาที่ประเทศอื่นซะงั้น ถามคนแถวนั้นเห็นเค้าหยิบ Naver Map ขึ้นมากดให้ดู จบเลย มันดีตรงที่อยากไปร้านไหนก็หาภาษาเกาหลีได้เลย พิกัดแม่นยำอยู่ ถ้าแบบใกล้ๆจะถึงแล้วหาไม่เจอก็ถามคนแถวนั้นเอาก็ได้ (ขอบอกทริคนิดนึง เวลาถามทางไรงี้ให้ถามเป็นภาษาเกาหลีไปเลย เราว่ามันเวิร์คอยู่นา ถามภาษาอังกฤษบางคนเค้าก็จะแบบไม่รู้ๆไรงี้ แต่พอถามเป็นภาษาเกาหลีเค้าจะมีความรู้สึกอยากช่วยเราทันที แม้แต่คนแก่ก็ตาม แล้วเค้าก็จะบอกทางเราเป็นภาษาอังกฤษด้วยเพราะเค้ารู้ว่าเราเป็นต่างด้าว ดีงามมาก จริงๆถามภาษาอังกฤษก็ได้แหละแต่เราว่าถามเกาหลีเค้าจะมีความสงสารและอยากช่วยเรามากกว่าไรงี้5555555)
2.SUBWAY KOREA
อันนี้ใครเที่ยวด้วยตัวเองขอบอกว่าดีงามมากจริง ใครไม่ชินรถไฟฟ้านี่ไปตามแอพได้เลย แต่ขอเตือนนิดนึงเวลาดูทางออกหรือเปลี่ยนสายให้ดูป้ายดีๆ บางทีมันให้เดินขึ้นแล้วเดินลงอีกที บางสายให้แตะบัตรหลายรอบ นี่โดนไปแล้วหลายทีเหมือนกันบางทีมึนๆไม่ได้นับว่าแตะไปแล้วกี่ครั้ง แตะออกผิดทางเฉยเลย เสีย1,290วอนไปฟรีๆ เวลาดูป้ายต้องมีสติดีๆนะคะทุกคน
✿
MONEY
เราแลกที่ super rich เรท
0.0305 แลกไปประมาณ 25,000 งับ ขอแนะนำสายชอปว่าเตรียมเงินไปดีๆ ระวังล้มละลายด้วยนะทุกคน ถ้าใครมีบัตรเดบิตก็สามารถเอาไปกดเงินได้นะคะแต่มีค่ากดประมาณ100กว่าบาท ตู้หาง่ายพอสมควร
✿
INTERNET
จขกท.ไปครั้งแรกก็อยากลองดีใช้ซิมการ์ดเลย จขกท.ใช้ของ Olleh EG Simcard สมัครและดูแพคเกจได้ที่นี่เลย
http://www.egsimcard.co.kr มันดีคือได้ทั้งเน็ตได้ทั้งโทรด้วย แต่ไม่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนใช้เน็ตล้างผลาญ เพราะนางให้เน็ตมาน้อย (เช่นเราเป็นต้น เพราะเราต้องเติมเพิ่ม) คือนางดีตรงถ้าซื้อเน็ตเกิน 500MB มันได้ olleh wifi ฟรี แต่ประเด็นคือสัญญาณนางบางที่ก็ไม่มี ส่วนมากจะมีตามรถไฟฟ้า หรือสถานที่เที่ยวใหญ่ๆ แต่รถไฟบางขบวนก็ไม่มีอะ บางสถานที่ก็ไม่มีสัญญาณ เช่นพวก world cup stadiumไรงี้ แถมบางทีสัญญาณก็ช้าเหลือเกิน ใครไม่ได้ใช้เน็ตเยอะก็โอเคอยู่ แต่ถ้าแบบชอบเล่นเน็ตเราขอแนะนำ pocket wifi ดีกว่า กะว่าคราวหน้าไปจะใช้ pocket wifi เหมือนกัน ;___; ถ้าใครอยากลองสามารถเข้าไปสมัครในเว็บได้เลย เสร็จแล้วก็เอาพาสปอร์ตไปรับได้ที่สนามบินตอนไปถึง แต่ว่าเสร็จแล้วยังจะใช้ olleh wifi ฟรีเลยไม่ได้นะ ต้องเข้าไปในเว็บมันก่อน แล้วไปตรง order history กรอกเลข imei, wifi mac address, รุ่นโทรศัพท์ก่อน พอกรอกเสร็จรอประมาณ 10 นาที พนักงานจะทำการ register ให้ถึงใช้ได้น้า ถ้าอยากเติมเงินเดินไป GS25 เลยบอกเค้าว่าเติมเงิน แล้วบอกเบอร์มือถือ เติมขั้นต่ำ 10,000 วอนงับ
✿
WHAT TO WEAR
ถ้าใครไปช่วงนี้ก็จะร้อนพอสมควร สามารถแต่งแบบที่ไทยได้เลย หรือถ้าใครอยากจะประหยัดน้ำหนักกระเป๋าก็สามารถไปตัวเปล่าแล้วไปชอปที่นู่นได้เหมือนกัน เสื้อผ้าที่นู่นส่วนมากจะราคา 10,000 วอน พวกกางเกงหรือกระโปรงจะประมาณ 15,000-20,000 วอน ดีไซน์น่ารักกุ๊กกิ๊กหรือฮิปๆก็มี ใครชอบแนวโคเรียแนะนำเลย แต่เราว่าเนื้อผ้าก็ไม่ได้ดีกว่าไทยเท่าไหร่ แต่ชอบดีไซน์นะ
░ F L I G H T S ░
เราได้ของ AirAsiaX มาในราคาไปกลับประมาณ 6,600 บาท + Big Point 500 แต้ม (แต่แนะนำว่าไม่ต้องแลกแต้มหรอก รอโปรดีกว่า ไม่เข้าใจจะแลกทำไมเหมือนกัน โปรก็ต่างกันไม่กี่ร้อย ._.) flight XJ700-XJ701 ตอนเช็คอินมีปัญหานิดนึงคือเราสะกดชื่อเพื่อนผิดไปตัวนึง ดีนะเค้าให้เปลี่ยนแต่ต้องเช็คอินใหม่ สอบถามมาเค้าบอกว่าแก้ได้ถ้าผิดได้ไม่เกิน3ตัวค่า ใครจะจองแนะนำว่าเช็คดีๆนา แล้วก็แนะนำสั่งอาหารกินด้วยจะดีมากสำหรับผู้ที่ชอบหิว สั่งบนเครื่องอาหารราคาแรงพอสมควร น้ำเปล่า60บาทงี้ ไม่ไหวๆ น้ำหนักกระเป๋าเราแชร์กับเพื่อนขาไป 15kg ขากลับ 20kg ใครจะเอา carry on ไประวังเรื่องขนาดกับน้ำหนักให้ดี ขาไปเราเจอคนที่โดนเค้าจับชั่งแล้วมันเกิน สรุปเค้าต้องโหลดและจ่าย3,000กว่าบาท กับขากลับแอร์เดินมาคอยดูและลากกระเป๋าคนที่ไซส์เกินโดยไม่แคร์น้ำหนักเลยตอนที่มาหาcarry on ไซส์เกินนี่คือตอนอยู่หน้าเกทแล้วนะ ใจร้ายมาก ถ้าเราโดนคงเสียดายตังน่าดู
░ G U E S T H O U S E S ░
1.GAMJA GUESTHOUSE
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


*กลัวกระทู้จะยาวไป ใครอยากดูภาพเพิ่มเติมดูได้ใน spoil งับ
อันนี้เป็นที่แรกที่เราไปอยู่ พี่เจ้าของเป็นคนไทยน่ารักมากกกก แบบคอยให้คำแนะนำเป็นอย่างดี ตอนไปถึงพี่เค้าอธิบายละเอียดมาก พูดจนแบบเรากลัวพี่เค้าจะเหนื่อย แบบอธิบายที่เที่ยวแถวๆฮงแดให้ด้วย มีอะไรถามพี่เค้าในไลน์ได้ตลอด ตอนมาพี่เค้าช่วยลากกระเป๋าจากสาขาใหญ่ไปสาขา2ด้วย คือเกรงใจมาก ห้องที่เราอยู่เป็นห้อง triple room ราคา 800 กว่าบาท/คืน/คน โอนก่อน50% แล้วที่เหลือจ่ายที่เกาหลีงับ (คือจริงๆเป็นห้องสำหรับ3คนแต่พี่เค้าให้อยู่2คนได้ ราคาพอๆกับ double เลย) อันที่เราอยู่เป็นสาขา2 คือเป็นห้องนึงอยู่ใน apartment แล้วในห้องนั้นก็จะมีแบ่งเป็นห้องนอน2ห้อง มีส่วนกลางให้นั่งกินข้าวหรือทำอาหาร แล้วก็ห้องน้ำ1ห้อง คือทั้งสาขาจะมีแค่เรากับเพื่อน แล้วก็แขกคนอื่นอีก2คน สำหรับเราคือโอเคมากเป็นส่วนตัวดี (ยกเว้นพี่ห้องข้างๆเราพยายามชวนเค้าคุยแล้วแต่เค้าไม่คุยด้วย ฮือ ._.) ในห้องมีทีวีให้ดูด้วยช่องเยอะดี มีที่แขวนผ้า ที่แปลงขาปลั๊ก ปลั๊กราง ไดร์เป่าผมให้ด้วย ชอบมากตรงนี้ ตอนเช้ามีขนมปังกับแยมให้กินฟรี ในครัวมีที่กดน้ำด้วยชอบ55555 ข้อเสียคือเรารู้สึกว่ามันไม่ได้ใกล้สถานีมากสำหรับคนขี้เกียจอย่างเรา แต่ก็ไม่ได้เดินนานนะ (สงสัยจขกท.ขี้เกียจเองแหละ) ถ้าแบบใครไม่อยากเดินมีอปป้าปั่นจักรยานไปส่งถึงที่ด้วยจากสถานีฮงแดแต่เราไม่ได้ใช้บริการ (คือเพิ่งรู้ว่าคนปั่นจักรยานหล่ออะ เสียดาย ._.) ข้อเสียอีกอย่างคือห้องน้ำปรับน้ำร้อนน้ำเย็นยากพอสมควร มันไม่ตรงกลางสักที ถ้าจะร้อนก็ร้อนไปเลย หนาวก็หนาวไปเลย เลือกเอาจะหนาวหรือจะร้อน ;____; โดยรวมดีนะคะจขกท.ชอบมาก แนะนำเลย พิกัดอยู่ที่ฮงแดประตู 3 เดินน่าจะประมาณ10นาที จขกท.ไม่เคยจับเวลาสักที แต่ไม่นานมากถ้าไม่รีบแปปเดียวก็ถึงค่า ใครไม่รู้จะพักที่ไหนแนะนำฮงแด เพราะฮงแดย่านที่เค้าเที่ยวกันมันมีอะไรให้เที่ยวเยอะและปิดดึกมากกกก ไม่ต้องกังวลว่ารถไฟจะหมดเพราะเกินเที่ยงคืนก็ยังเดินกลับได้ ยกเว้นว่าถ้าเกินเที่ยงคืนมันเดินเข้าไปใต้สถานีไม่ได้เท่านั้นเอง ต้องเดินอ้อมข้างนอกแต่ก็ไม่ไกลอยู่ดี แถวนั้นมีสวนสาธารณะด้วยเดี๋ยวมารีวิวอีกทีนะคะ
2.HELLO STRANGER GUESTHOUSE
*อันนี้ขออนุญาตเอารูปมาจากเว็บนะคะคือเราเช็คอินแล้วจะรีบไปหาโบกอมมากเลยไม่ได้ถ่ายไว้
อันนี้เป็นที่ๆสองที่เราอยู่ เจ้าของเป็นคนไทยใจดีเหมือนกัน แต่พี่เค้าจะคนละแนวกับพี่อีฟ พี่อีฟที่คัมจาจะคิ้วๆหน่อยส่วนพี่ดาวที่นี่จะแบบแมนๆคุยกันแต่ใจดีทั้งคู่นะ5555555 ที่นี่เดินไกลพอกับคัมจาเลยแต่ว่าจะเดินไปคนละเส้นกัน เราพักห้อง double room คืนละ 55,000 วอนต่อห้อง (ประมาณ 800 กว่าบาท/คน/คืน) โอนคืนแรกก่อนที่ไทยแล้วไปจ่ายที่เหลือที่เกาหลีงับ ที่นี่จะเป็นแบบบ้าน1หลัง แล้วมีห้องนอนหลายๆห้อง มีห้องน้ำทั้งหมด 3 ห้อง ใหญ่มากก ใหญ่กว่าห้องนอนเราอีกมั้ง สบู่หอมมากจนอยากไปหิ้วกลับไทย55555 ที่นี่มีปลั๊กรางให้ยืมนะคะแต่ว่าต้องซื้อขาแปลงปลั๊กเองนะ 1,000วอนมั้งรู้สึก แต่ที่นี่ไม่มีทีวีในห้องนะ แต่มีส่วนกลางให้นั่ง ถือว่าได้มาโซเชียลกับคนอื่นๆด้วย ตอนเช้ามีไข่ดาวกับขนมปังให้กินด้วย แต่ไข่ต้องทำกินเองนะ ห้องครัวโอเคอยู่ใหญ่พอสมควร มีที่กดน้ำให้กินเช่นกันค่า ข้อเสียเดียวที่เจอคือห้องนอนเราเล็กไปหน่อย แต่แอบไปส่องห้องอื่นโอเคนะ น่าจะมีแค่ห้องเราห้องเดียวที่เล็ก ._. โดยรวมชอบมากก รักทั้งสองที่เลยคราวหน้าถ้าไปเดี๋ยวคิดอีกทีว่าจะพักไหนคือชอบทั้งคู่ 5555555 พิกัดที่นี่อยู่ที่ฮงแดประตู 2 หรือ 3 งับ (แต่รู้สึกประตู 3เดินใกล้กว่าอะ) เดินประมาณ 8 นาที ระยะทางพอๆกับคัมจาเลยแต่อันนี้เดินเป็นเส้นตรง
░ I M M I G R A T I O N ░

มาถึงคิวของด่านตม.สุดหินกันบ้าง คือก่อนไปนี่ดูกระทู้ตม.เยอะมากกก ดูจนแบบเครียดเลยกลัวไม่ผ่าน เพราะพาสเราเพิ่งไปทำมาใหม่มันเลยขาวด้วย เราเลยเน้นเตรียมเอกสารไป ได้แก่ แพลนเที่ยว เอกสารจองตั๋วเครื่องบินไป-กลับ เอกสารการจองที่พัก เอาจริงๆพอไปถึงตอนแรกนี่แบบโอ้ยไม่เห็นจะมีใครโดนเลย แต่พอยืนไปสักพักก็มีจริงๆอะ เอาจริงๆเราสามารถมองออกได้เลยว่าคนไหนจะโดนเรียก คือคนที่โดนเรียกคือจะมีคนที่แบบแต่งตัวเวอร์มาก ชุดขนเฟอร์ไรงี้ (มันมีจริงๆนะถึงแม้จะเป็นหน้าร้อนก็ตาม) หรือไม่ก็ชุดสูทไรงี้ คือคนที่โดนส่วนมากจะแต่งตัวคล้ายๆกันอะค่ะ ตม.เค้าน่าจะมองออก (หนูไม่ได้ว่านะคะ .__.) ตอนแรกคิดว่าแถวไหนมีโดนเรียกเราก็จะไม่ไปยืนแถวนั้น พยายามดูหน้าคนที่ใจดีๆ แต่สรุปคือ มีคนโดนเรียกทุกแถวอะแหละ บางคนก็ผ่านเร็ว ถ้าคนไหนเค้าสงสัยก็จะผ่านช้า แต่พอจะถึงคิวเราเค้าก็เปิดแถวใหม่ นี่แบบตื่นเต้นมากกลัวเค้าจะเรียกไป แต่คือเค้าไม่ถามไรเลยอะ มองหน้าทีนึง แสกนนิ้วแล้วปั๊มให้เลยแบบรีบๆไปเหอะ นี่คิดอยู่ว่าจะเสียเวลาเครียดทำไม สรุปคือ ถ้าเราจะไปเที่ยวจริงๆไม่ต้องคิดมากนะคะ ไม่ต้องกลัว แต่งกายให้สุภาพแล้วก็ไม่แต่งตัวประหลาดๆ ตม.เค้ามองออกแน่นอนค่าว่าคนไหนไปเที่ยว ถ้าเค้าสงสัยเค้าจะเรียกเอง เค้าไม่เรียกแบบไม่มีเหตุผลแน่นอน แต่ทางที่ดีเตรียมเอกสารไปด้วยให้อุ่นใจก็ดีค่า
กระทู้เต็มแล้วค่ะ TO BE CONTINUED
[CR] ❀마이 서울, my memories . | ไปทั้งทีต้องเอาให้คุ้ม {travel shopping food & kpop}
ก่อนที่จะเริ่มจขกท.ขอแนะนำสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อการดำรงชีวิตในเกาหลีก่อนเลย นั่นก็คืออออออ
✿ APPLICATION
1.NAVER MAP
อันนี้เหมาะสำหรับคนที่พออ่านเกาหลีได้นิดหน่อย (แต่ถ้าอ่านไม่ได้แต่ยังพองมๆได้ก็โอเคน้า) คือตอนแรกจขกท.ไม่ได้คิดว่าจะหลงไงเลยไม่ได้โหลดมา คิดว่า google map คงเอาอยู่ แต่คือความจริงแล้วไม่เลยจ้า พวกร้านอาหาร ร้านค้าในเกาหลี ถ้าใช้google mapเราว่ามันไม่ค่อยเวิร์ค ตอนแรกหลงอยู่กลางฮงแดจะหาร้านนันดา google map ก็ไปโชว์นันดาที่ประเทศอื่นซะงั้น ถามคนแถวนั้นเห็นเค้าหยิบ Naver Map ขึ้นมากดให้ดู จบเลย มันดีตรงที่อยากไปร้านไหนก็หาภาษาเกาหลีได้เลย พิกัดแม่นยำอยู่ ถ้าแบบใกล้ๆจะถึงแล้วหาไม่เจอก็ถามคนแถวนั้นเอาก็ได้ (ขอบอกทริคนิดนึง เวลาถามทางไรงี้ให้ถามเป็นภาษาเกาหลีไปเลย เราว่ามันเวิร์คอยู่นา ถามภาษาอังกฤษบางคนเค้าก็จะแบบไม่รู้ๆไรงี้ แต่พอถามเป็นภาษาเกาหลีเค้าจะมีความรู้สึกอยากช่วยเราทันที แม้แต่คนแก่ก็ตาม แล้วเค้าก็จะบอกทางเราเป็นภาษาอังกฤษด้วยเพราะเค้ารู้ว่าเราเป็นต่างด้าว ดีงามมาก จริงๆถามภาษาอังกฤษก็ได้แหละแต่เราว่าถามเกาหลีเค้าจะมีความสงสารและอยากช่วยเรามากกว่าไรงี้5555555)
2.SUBWAY KOREA
อันนี้ใครเที่ยวด้วยตัวเองขอบอกว่าดีงามมากจริง ใครไม่ชินรถไฟฟ้านี่ไปตามแอพได้เลย แต่ขอเตือนนิดนึงเวลาดูทางออกหรือเปลี่ยนสายให้ดูป้ายดีๆ บางทีมันให้เดินขึ้นแล้วเดินลงอีกที บางสายให้แตะบัตรหลายรอบ นี่โดนไปแล้วหลายทีเหมือนกันบางทีมึนๆไม่ได้นับว่าแตะไปแล้วกี่ครั้ง แตะออกผิดทางเฉยเลย เสีย1,290วอนไปฟรีๆ เวลาดูป้ายต้องมีสติดีๆนะคะทุกคน
✿ MONEY
เราแลกที่ super rich เรท 0.0305 แลกไปประมาณ 25,000 งับ ขอแนะนำสายชอปว่าเตรียมเงินไปดีๆ ระวังล้มละลายด้วยนะทุกคน ถ้าใครมีบัตรเดบิตก็สามารถเอาไปกดเงินได้นะคะแต่มีค่ากดประมาณ100กว่าบาท ตู้หาง่ายพอสมควร
✿ INTERNET
จขกท.ไปครั้งแรกก็อยากลองดีใช้ซิมการ์ดเลย จขกท.ใช้ของ Olleh EG Simcard สมัครและดูแพคเกจได้ที่นี่เลย http://www.egsimcard.co.kr มันดีคือได้ทั้งเน็ตได้ทั้งโทรด้วย แต่ไม่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนใช้เน็ตล้างผลาญ เพราะนางให้เน็ตมาน้อย (เช่นเราเป็นต้น เพราะเราต้องเติมเพิ่ม) คือนางดีตรงถ้าซื้อเน็ตเกิน 500MB มันได้ olleh wifi ฟรี แต่ประเด็นคือสัญญาณนางบางที่ก็ไม่มี ส่วนมากจะมีตามรถไฟฟ้า หรือสถานที่เที่ยวใหญ่ๆ แต่รถไฟบางขบวนก็ไม่มีอะ บางสถานที่ก็ไม่มีสัญญาณ เช่นพวก world cup stadiumไรงี้ แถมบางทีสัญญาณก็ช้าเหลือเกิน ใครไม่ได้ใช้เน็ตเยอะก็โอเคอยู่ แต่ถ้าแบบชอบเล่นเน็ตเราขอแนะนำ pocket wifi ดีกว่า กะว่าคราวหน้าไปจะใช้ pocket wifi เหมือนกัน ;___; ถ้าใครอยากลองสามารถเข้าไปสมัครในเว็บได้เลย เสร็จแล้วก็เอาพาสปอร์ตไปรับได้ที่สนามบินตอนไปถึง แต่ว่าเสร็จแล้วยังจะใช้ olleh wifi ฟรีเลยไม่ได้นะ ต้องเข้าไปในเว็บมันก่อน แล้วไปตรง order history กรอกเลข imei, wifi mac address, รุ่นโทรศัพท์ก่อน พอกรอกเสร็จรอประมาณ 10 นาที พนักงานจะทำการ register ให้ถึงใช้ได้น้า ถ้าอยากเติมเงินเดินไป GS25 เลยบอกเค้าว่าเติมเงิน แล้วบอกเบอร์มือถือ เติมขั้นต่ำ 10,000 วอนงับ
✿ WHAT TO WEAR
ถ้าใครไปช่วงนี้ก็จะร้อนพอสมควร สามารถแต่งแบบที่ไทยได้เลย หรือถ้าใครอยากจะประหยัดน้ำหนักกระเป๋าก็สามารถไปตัวเปล่าแล้วไปชอปที่นู่นได้เหมือนกัน เสื้อผ้าที่นู่นส่วนมากจะราคา 10,000 วอน พวกกางเกงหรือกระโปรงจะประมาณ 15,000-20,000 วอน ดีไซน์น่ารักกุ๊กกิ๊กหรือฮิปๆก็มี ใครชอบแนวโคเรียแนะนำเลย แต่เราว่าเนื้อผ้าก็ไม่ได้ดีกว่าไทยเท่าไหร่ แต่ชอบดีไซน์นะ
เราได้ของ AirAsiaX มาในราคาไปกลับประมาณ 6,600 บาท + Big Point 500 แต้ม (แต่แนะนำว่าไม่ต้องแลกแต้มหรอก รอโปรดีกว่า ไม่เข้าใจจะแลกทำไมเหมือนกัน โปรก็ต่างกันไม่กี่ร้อย ._.) flight XJ700-XJ701 ตอนเช็คอินมีปัญหานิดนึงคือเราสะกดชื่อเพื่อนผิดไปตัวนึง ดีนะเค้าให้เปลี่ยนแต่ต้องเช็คอินใหม่ สอบถามมาเค้าบอกว่าแก้ได้ถ้าผิดได้ไม่เกิน3ตัวค่า ใครจะจองแนะนำว่าเช็คดีๆนา แล้วก็แนะนำสั่งอาหารกินด้วยจะดีมากสำหรับผู้ที่ชอบหิว สั่งบนเครื่องอาหารราคาแรงพอสมควร น้ำเปล่า60บาทงี้ ไม่ไหวๆ น้ำหนักกระเป๋าเราแชร์กับเพื่อนขาไป 15kg ขากลับ 20kg ใครจะเอา carry on ไประวังเรื่องขนาดกับน้ำหนักให้ดี ขาไปเราเจอคนที่โดนเค้าจับชั่งแล้วมันเกิน สรุปเค้าต้องโหลดและจ่าย3,000กว่าบาท กับขากลับแอร์เดินมาคอยดูและลากกระเป๋าคนที่ไซส์เกินโดยไม่แคร์น้ำหนักเลยตอนที่มาหาcarry on ไซส์เกินนี่คือตอนอยู่หน้าเกทแล้วนะ ใจร้ายมาก ถ้าเราโดนคงเสียดายตังน่าดู
1.GAMJA GUESTHOUSE
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
*กลัวกระทู้จะยาวไป ใครอยากดูภาพเพิ่มเติมดูได้ใน spoil งับ
อันนี้เป็นที่แรกที่เราไปอยู่ พี่เจ้าของเป็นคนไทยน่ารักมากกกก แบบคอยให้คำแนะนำเป็นอย่างดี ตอนไปถึงพี่เค้าอธิบายละเอียดมาก พูดจนแบบเรากลัวพี่เค้าจะเหนื่อย แบบอธิบายที่เที่ยวแถวๆฮงแดให้ด้วย มีอะไรถามพี่เค้าในไลน์ได้ตลอด ตอนมาพี่เค้าช่วยลากกระเป๋าจากสาขาใหญ่ไปสาขา2ด้วย คือเกรงใจมาก ห้องที่เราอยู่เป็นห้อง triple room ราคา 800 กว่าบาท/คืน/คน โอนก่อน50% แล้วที่เหลือจ่ายที่เกาหลีงับ (คือจริงๆเป็นห้องสำหรับ3คนแต่พี่เค้าให้อยู่2คนได้ ราคาพอๆกับ double เลย) อันที่เราอยู่เป็นสาขา2 คือเป็นห้องนึงอยู่ใน apartment แล้วในห้องนั้นก็จะมีแบ่งเป็นห้องนอน2ห้อง มีส่วนกลางให้นั่งกินข้าวหรือทำอาหาร แล้วก็ห้องน้ำ1ห้อง คือทั้งสาขาจะมีแค่เรากับเพื่อน แล้วก็แขกคนอื่นอีก2คน สำหรับเราคือโอเคมากเป็นส่วนตัวดี (ยกเว้นพี่ห้องข้างๆเราพยายามชวนเค้าคุยแล้วแต่เค้าไม่คุยด้วย ฮือ ._.) ในห้องมีทีวีให้ดูด้วยช่องเยอะดี มีที่แขวนผ้า ที่แปลงขาปลั๊ก ปลั๊กราง ไดร์เป่าผมให้ด้วย ชอบมากตรงนี้ ตอนเช้ามีขนมปังกับแยมให้กินฟรี ในครัวมีที่กดน้ำด้วยชอบ55555 ข้อเสียคือเรารู้สึกว่ามันไม่ได้ใกล้สถานีมากสำหรับคนขี้เกียจอย่างเรา แต่ก็ไม่ได้เดินนานนะ (สงสัยจขกท.ขี้เกียจเองแหละ) ถ้าแบบใครไม่อยากเดินมีอปป้าปั่นจักรยานไปส่งถึงที่ด้วยจากสถานีฮงแดแต่เราไม่ได้ใช้บริการ (คือเพิ่งรู้ว่าคนปั่นจักรยานหล่ออะ เสียดาย ._.) ข้อเสียอีกอย่างคือห้องน้ำปรับน้ำร้อนน้ำเย็นยากพอสมควร มันไม่ตรงกลางสักที ถ้าจะร้อนก็ร้อนไปเลย หนาวก็หนาวไปเลย เลือกเอาจะหนาวหรือจะร้อน ;____; โดยรวมดีนะคะจขกท.ชอบมาก แนะนำเลย พิกัดอยู่ที่ฮงแดประตู 3 เดินน่าจะประมาณ10นาที จขกท.ไม่เคยจับเวลาสักที แต่ไม่นานมากถ้าไม่รีบแปปเดียวก็ถึงค่า ใครไม่รู้จะพักที่ไหนแนะนำฮงแด เพราะฮงแดย่านที่เค้าเที่ยวกันมันมีอะไรให้เที่ยวเยอะและปิดดึกมากกกก ไม่ต้องกังวลว่ารถไฟจะหมดเพราะเกินเที่ยงคืนก็ยังเดินกลับได้ ยกเว้นว่าถ้าเกินเที่ยงคืนมันเดินเข้าไปใต้สถานีไม่ได้เท่านั้นเอง ต้องเดินอ้อมข้างนอกแต่ก็ไม่ไกลอยู่ดี แถวนั้นมีสวนสาธารณะด้วยเดี๋ยวมารีวิวอีกทีนะคะ
2.HELLO STRANGER GUESTHOUSE
*อันนี้ขออนุญาตเอารูปมาจากเว็บนะคะคือเราเช็คอินแล้วจะรีบไปหาโบกอมมากเลยไม่ได้ถ่ายไว้
อันนี้เป็นที่ๆสองที่เราอยู่ เจ้าของเป็นคนไทยใจดีเหมือนกัน แต่พี่เค้าจะคนละแนวกับพี่อีฟ พี่อีฟที่คัมจาจะคิ้วๆหน่อยส่วนพี่ดาวที่นี่จะแบบแมนๆคุยกันแต่ใจดีทั้งคู่นะ5555555 ที่นี่เดินไกลพอกับคัมจาเลยแต่ว่าจะเดินไปคนละเส้นกัน เราพักห้อง double room คืนละ 55,000 วอนต่อห้อง (ประมาณ 800 กว่าบาท/คน/คืน) โอนคืนแรกก่อนที่ไทยแล้วไปจ่ายที่เหลือที่เกาหลีงับ ที่นี่จะเป็นแบบบ้าน1หลัง แล้วมีห้องนอนหลายๆห้อง มีห้องน้ำทั้งหมด 3 ห้อง ใหญ่มากก ใหญ่กว่าห้องนอนเราอีกมั้ง สบู่หอมมากจนอยากไปหิ้วกลับไทย55555 ที่นี่มีปลั๊กรางให้ยืมนะคะแต่ว่าต้องซื้อขาแปลงปลั๊กเองนะ 1,000วอนมั้งรู้สึก แต่ที่นี่ไม่มีทีวีในห้องนะ แต่มีส่วนกลางให้นั่ง ถือว่าได้มาโซเชียลกับคนอื่นๆด้วย ตอนเช้ามีไข่ดาวกับขนมปังให้กินด้วย แต่ไข่ต้องทำกินเองนะ ห้องครัวโอเคอยู่ใหญ่พอสมควร มีที่กดน้ำให้กินเช่นกันค่า ข้อเสียเดียวที่เจอคือห้องนอนเราเล็กไปหน่อย แต่แอบไปส่องห้องอื่นโอเคนะ น่าจะมีแค่ห้องเราห้องเดียวที่เล็ก ._. โดยรวมชอบมากก รักทั้งสองที่เลยคราวหน้าถ้าไปเดี๋ยวคิดอีกทีว่าจะพักไหนคือชอบทั้งคู่ 5555555 พิกัดที่นี่อยู่ที่ฮงแดประตู 2 หรือ 3 งับ (แต่รู้สึกประตู 3เดินใกล้กว่าอะ) เดินประมาณ 8 นาที ระยะทางพอๆกับคัมจาเลยแต่อันนี้เดินเป็นเส้นตรง
มาถึงคิวของด่านตม.สุดหินกันบ้าง คือก่อนไปนี่ดูกระทู้ตม.เยอะมากกก ดูจนแบบเครียดเลยกลัวไม่ผ่าน เพราะพาสเราเพิ่งไปทำมาใหม่มันเลยขาวด้วย เราเลยเน้นเตรียมเอกสารไป ได้แก่ แพลนเที่ยว เอกสารจองตั๋วเครื่องบินไป-กลับ เอกสารการจองที่พัก เอาจริงๆพอไปถึงตอนแรกนี่แบบโอ้ยไม่เห็นจะมีใครโดนเลย แต่พอยืนไปสักพักก็มีจริงๆอะ เอาจริงๆเราสามารถมองออกได้เลยว่าคนไหนจะโดนเรียก คือคนที่โดนเรียกคือจะมีคนที่แบบแต่งตัวเวอร์มาก ชุดขนเฟอร์ไรงี้ (มันมีจริงๆนะถึงแม้จะเป็นหน้าร้อนก็ตาม) หรือไม่ก็ชุดสูทไรงี้ คือคนที่โดนส่วนมากจะแต่งตัวคล้ายๆกันอะค่ะ ตม.เค้าน่าจะมองออก (หนูไม่ได้ว่านะคะ .__.) ตอนแรกคิดว่าแถวไหนมีโดนเรียกเราก็จะไม่ไปยืนแถวนั้น พยายามดูหน้าคนที่ใจดีๆ แต่สรุปคือ มีคนโดนเรียกทุกแถวอะแหละ บางคนก็ผ่านเร็ว ถ้าคนไหนเค้าสงสัยก็จะผ่านช้า แต่พอจะถึงคิวเราเค้าก็เปิดแถวใหม่ นี่แบบตื่นเต้นมากกลัวเค้าจะเรียกไป แต่คือเค้าไม่ถามไรเลยอะ มองหน้าทีนึง แสกนนิ้วแล้วปั๊มให้เลยแบบรีบๆไปเหอะ นี่คิดอยู่ว่าจะเสียเวลาเครียดทำไม สรุปคือ ถ้าเราจะไปเที่ยวจริงๆไม่ต้องคิดมากนะคะ ไม่ต้องกลัว แต่งกายให้สุภาพแล้วก็ไม่แต่งตัวประหลาดๆ ตม.เค้ามองออกแน่นอนค่าว่าคนไหนไปเที่ยว ถ้าเค้าสงสัยเค้าจะเรียกเอง เค้าไม่เรียกแบบไม่มีเหตุผลแน่นอน แต่ทางที่ดีเตรียมเอกสารไปด้วยให้อุ่นใจก็ดีค่า