การเผยแผ่พระพุทธศาสนา

ได้เห็นวาทะกรรมบ่อยๆว่า "อย่าทำอะไรเกินตัว"
เป็นสิ่งที่ดีที่ทำให้เรารู้จักประมาณตนเองว่าเรามีกำลังเท่าไหร่

ในการเผยแผ่พระพุทธศาสนานั้น จะเห็นว่าการที่พระศาสดาไปโปรดสัตว์ยังที่ต่างๆนั้น
พระองค์มิได้ไปเพียงแค่พระองค์เดียว แต่ยังรับสั่งให้พระภิกษุเที่ยวไปในทิศต่างๆ
เพื่อโอกาสแก่ผู้มีธุลีในดวงตาน้อย ให้ได้เข้าถึงธรรม

เมื่ออุบาสก อุบาสิกาเกิดปีติคิดถวายวัด ถวายวิหาร ถวายภัตตาหาร ถวายจตุปัจจัย ก็มิได้ห้าม
ด้วยว่าจะเกินกำลังของท่านนั้นๆไม่



เช่นมีบัณฑิตผู้หนึ่ง ได้ฟังธรรมว่า หากเราให้ทานด้วยตน และชวนผู้อื่นด้วย ก็จะมีทั้งทรัพย์และพวกพ้องบริวาร
ก็กราบอาราธนาพระพุทธองค์ พร้อมกับพระภิกษุสงฆ์ สองหมื่นรูปรับภัตตาจากตน ครั้นทราบว่าพระพุทธองค์ทรงรับแล้ว
ด้วยกำลังของตนก็ถวายได้ไม่ครบแน่นอน จึงใช้ปัญญาไปชักชวนผู้มีกำลัง ผู้มีศรัทธา ให้มาร่วมกันเอาบุญในการถวายภัตตาหารของตน
แม้แต่ผู้ที่ไม่มีทั้งกำลังและความศรัทธา เช่นมหาทุกขตะก็ยังไปชวนให้มาร่วมงานบุญด้วย

ผู้ไม่รู้ก็ด่า ว่า บริภาส ว่าเขาทำอะไรเกินกำลังตน ผู้ไม่เข้าใจ ก็ให้ร้าย นินทา แต่ผู้มีปัญญาเห็นโอกาสในการสั่งสมความดี
สั่งสมบุญกุศล ก็ต่างเร่งรีบขวนขวายตระเตรียมของมาทำบุญร่วมกับบัณฑิตนั้น จนเสร็จงานพระพุทธองค์ก็ทรงทำอนุโมทนา
ประโยชน์ใหญ่จึงเกิดกับทั้งบัณฑิตนั้น และมหาชนเป็นอันมาก



เราเชื่อว่าคนเรานั้นมีกำลังไม่มีประมาณ ศักยภาพที่เรามียังไม่ได้ถูกนำมาใช้อีกมาก
และเมื่อเราได้เห็นผู้อื่นใช้กำลัง ความสามารถ เพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนา ให้รุ่งเรือง ยิ่งทำให้เราปลื้มยิ่งขึ้นไปอีก
เรารู้สึกว่านี่แหละคือการประกาศคุณของพระรัตนตรัย เราไม่เคยอิจฉาเวลาที่เห็นพระองค์โตๆ เวลาที่เห็นวัดใหญ่ๆ
ยามที่เห็นศิลปะอันประณีตงดงามด้านศาสนา เรายิ่งรู้สึกปลาบปลื้มเป็นอย่างยิ่ง นึกชื่นชมความศรัทธาของคนในยุคนั้นๆ
ที่มีต่อพระพุทธศาสนา



บางคนว่าเราเป็นพวกวัตถุนิยม ชอบความใหญ่โต สวยงาม พระพุทธองค์สอนให้ไม่ยึดติด
เรายอมรับว่าใช่ เราชอบความใหญ่โต เพราะสามารถรองรับคนมาทำความดีจำนวนมากๆได้
เราชอบความสวยงามประณีต เพราะเป็นการแสดงถึงความเคารพ เลื่อมใสในพระรัตนตรัยเป็นอย่างยิ่งจึงพิถีพิถันทำออกมา

ในขณะเดียวกัน คนที่ว่าเราเป็นพวกวัตถุนิยม คุณเองก็เป็นพวกวัตถุนิยมเหมือนกัน เพียงแต่คุณนิยมวัตถุเล็กๆ นิยมความไม่งาม
นิยมความเศร้าหมอง เราไม่ตำหนิใดๆกับคุณที่นิยมแบบนั้น เพราะเป็นสิทธิส่วนบุคคล เช่นกัน



เราอยากชวนให้ทุกคนมาลองใช้ศักยภาพที่มีในตัวของเรา เอามาช่วยกันประกาศธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ให้ชาวโลกได้รับรู้ รับทราบ และมาลองปฏิบัติด้วยตนเองดู อยากชวนให้เราคิดถึงคนรุ่นถัดๆไปที่จะได้มีโอกาส
มาศึกษาคำสอนของพระพุทธองค์ด้วยความภาคภูมิใจ

ชีวิตหนึ่งของคนเรามันสั้น ในเมื่อจะทำทั้งที จะทำเล็ก หรือใหญ่ก็เสียเวลาเท่ากัน อยู่ที่ตัวเราเลือกแล้วล่ะ ว่าจะทำเฉพาะตัว เฉพาะกลุ่ม
หรือเพื่อมหาชน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่