คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 15
// ก่อนอื่น ขอชมเชยเจ้าของกระทู้ ที่เป็นครูสอนพิเศษ ที่มีหัวใจของครูที่ดี
เพราะที่ผมพบมา ครูสอนพิเศษตามบ้าน ส่วนใหญ่จะสอนให้จบๆ ไป แล้วรับเงิน
มีน้อยคน ที่จะใส่ใจถึงปัญหาของเด็ก
สำหรับเรื่องเด็กคนนี้ ผมมีคำแนะนำบางส่วน
// วิธีการสอน+แนวคิดที่ใช้
- อย่าสอนโจทย์ 100 ข้อ ถ้าเพียง 10 ข้อ เด็กยังทำได้ไม่ดี
- อย่าสอนโจทย์ 10 ข้อ ถ้าเพียง 1 ข้อ เด็กก็ยังทำไม่ได้ดี
- เด็กบางคน คิดทุกตัวเลือก ก่อนตอบ
- เด็กบางคน เจอตัวเลือกถูก แล้วตอบเลย
- เด็กที่มาเรียนพิเศษ ส่วนมากมีสองแบบ
1) เก่งมาก มาเรียนให้เก่งเป็นเลิศ
2) อ่อนมาก มาเรียนเพื่อให้เกาะกลุ่มเพื่อนในห้องได้
- เมื่อเจอเด็กที่เก่งมาก เราต้องไวกว่าเด็ก ถ้าสอนแล้วเราช้ากว่าเด็ก ให้เสนอครูคนอื่นที่เหมาะสมกว่าไปสอนแทน
- เมื่อเจอเด็กที่อ่อนมาก เด็กพวกนี้จะไม่เข้าใจ ว่าทำไมต้องคิดทุกตัวเลือก ให้โจทย์ 10 ข้อ ก็ยังทำได้ไม่ดี ผมจะยกตัวอย่างสักหนึ่งเคส
// เคสตัวอย่าง
เด็กผู้ชาย เรียน ม.3 กวดวิชาเพื่อสอบเข้า ม.4 โรงเรียนดังๆ แต่ผลการเรียนค่อนข้างอ่อน
วิธีการสอน จะสอนทีละข้อ ข้อละอย่างน้อย 3 รอบ
รอบแรก ทำให้เด็กดู เด็กจะได้รู้ว่ามีสิ่งนี้ในข้อสอบ รอบนี้ไม่ต้องให้จด ให้ดูเฉยๆ
รอบสอง ทำให้เด็กดูอีก เด็กจะจำได้ ว่าเคยดูครูทำมาก่อนแล้ว รอบนี้ให้จดตาม
ปิดตำรา แล้วให้ทำโจทย์ข้อนี้ด้วยตัวเอง
รอบสาม ทำให้เด็กดูอีกครั้ง เพื่อเฉลยคำตอบ และตรวจว่าเด็กทำตามได้แค่ไหน
*** สำคัญมาก ***
ดังนั้น หากเด็กไม่ได้คิดทุกตัวเลือก
ก็ถือเป็นความผิดของครู แสดงว่าครูไม่ได้ทำแบบนั้นให้เด็กเห็น จริงไหมครับ
ถ้าครูทำ แล้วสอนย้ำๆ ให้เด็กทำตาม เวลาเด็กทำ เด็กก็จะทำตามแน่นอน
เพราะเราจะไม่ไปข้ออื่น จนกว่าจะทำตามที่ครูสอนได้ทั้งหมด
เพราะฉะนั้น 2 ชม. แม้จะสอนได้แค่ 3-5 ข้อ ผมก็คิดว่าคุ้ม
เพราะสิ่งที่เด็กจะได้รับนั้น จะนำไปใช้ตลอดชีวิต
มันจะช้าช่วงแรกๆ แต่พอปรับพื้นฐานแน่นมากๆ แล้ว
เด็กคนนี้จะก้าวไปได้เร็ว และไปได้ไกล กว่าเพื่อนที่ไม่ได้เรียนพิเศษ มากมายนัก
ทั้งนี้ ขึ้นกับความสามารถของครูผู้สอนด้วย
ว่าการพูดซ้ำโจทย์ข้อเดิม 3 รอบนั้น
จะพูดอย่างไร ให้เด็กไม่รู้ตัว ว่าเราสอนซ้ำๆ
คือ ต้องหาถ้อยคำที่แตกต่าง มาสอนในเรื่องเดิม
ความยากมันอยู่ตรงนี้ และหัวใจการสอนมันก็อยู่ตรงนี้เช่นกัน
เบื้องต้นขอแนะนำเพียงเท่านี้ หวังว่าคงมีประโยชน์สำหรับเจ้าของกระทู้ครับ
เพราะที่ผมพบมา ครูสอนพิเศษตามบ้าน ส่วนใหญ่จะสอนให้จบๆ ไป แล้วรับเงิน
มีน้อยคน ที่จะใส่ใจถึงปัญหาของเด็ก
สำหรับเรื่องเด็กคนนี้ ผมมีคำแนะนำบางส่วน
// วิธีการสอน+แนวคิดที่ใช้
- อย่าสอนโจทย์ 100 ข้อ ถ้าเพียง 10 ข้อ เด็กยังทำได้ไม่ดี
- อย่าสอนโจทย์ 10 ข้อ ถ้าเพียง 1 ข้อ เด็กก็ยังทำไม่ได้ดี
- เด็กบางคน คิดทุกตัวเลือก ก่อนตอบ
- เด็กบางคน เจอตัวเลือกถูก แล้วตอบเลย
- เด็กที่มาเรียนพิเศษ ส่วนมากมีสองแบบ
1) เก่งมาก มาเรียนให้เก่งเป็นเลิศ
2) อ่อนมาก มาเรียนเพื่อให้เกาะกลุ่มเพื่อนในห้องได้
- เมื่อเจอเด็กที่เก่งมาก เราต้องไวกว่าเด็ก ถ้าสอนแล้วเราช้ากว่าเด็ก ให้เสนอครูคนอื่นที่เหมาะสมกว่าไปสอนแทน
- เมื่อเจอเด็กที่อ่อนมาก เด็กพวกนี้จะไม่เข้าใจ ว่าทำไมต้องคิดทุกตัวเลือก ให้โจทย์ 10 ข้อ ก็ยังทำได้ไม่ดี ผมจะยกตัวอย่างสักหนึ่งเคส
// เคสตัวอย่าง
เด็กผู้ชาย เรียน ม.3 กวดวิชาเพื่อสอบเข้า ม.4 โรงเรียนดังๆ แต่ผลการเรียนค่อนข้างอ่อน
วิธีการสอน จะสอนทีละข้อ ข้อละอย่างน้อย 3 รอบ
รอบแรก ทำให้เด็กดู เด็กจะได้รู้ว่ามีสิ่งนี้ในข้อสอบ รอบนี้ไม่ต้องให้จด ให้ดูเฉยๆ
รอบสอง ทำให้เด็กดูอีก เด็กจะจำได้ ว่าเคยดูครูทำมาก่อนแล้ว รอบนี้ให้จดตาม
ปิดตำรา แล้วให้ทำโจทย์ข้อนี้ด้วยตัวเอง
รอบสาม ทำให้เด็กดูอีกครั้ง เพื่อเฉลยคำตอบ และตรวจว่าเด็กทำตามได้แค่ไหน
*** สำคัญมาก ***
ดังนั้น หากเด็กไม่ได้คิดทุกตัวเลือก
ก็ถือเป็นความผิดของครู แสดงว่าครูไม่ได้ทำแบบนั้นให้เด็กเห็น จริงไหมครับ
ถ้าครูทำ แล้วสอนย้ำๆ ให้เด็กทำตาม เวลาเด็กทำ เด็กก็จะทำตามแน่นอน
เพราะเราจะไม่ไปข้ออื่น จนกว่าจะทำตามที่ครูสอนได้ทั้งหมด
เพราะฉะนั้น 2 ชม. แม้จะสอนได้แค่ 3-5 ข้อ ผมก็คิดว่าคุ้ม
เพราะสิ่งที่เด็กจะได้รับนั้น จะนำไปใช้ตลอดชีวิต
มันจะช้าช่วงแรกๆ แต่พอปรับพื้นฐานแน่นมากๆ แล้ว
เด็กคนนี้จะก้าวไปได้เร็ว และไปได้ไกล กว่าเพื่อนที่ไม่ได้เรียนพิเศษ มากมายนัก
ทั้งนี้ ขึ้นกับความสามารถของครูผู้สอนด้วย
ว่าการพูดซ้ำโจทย์ข้อเดิม 3 รอบนั้น
จะพูดอย่างไร ให้เด็กไม่รู้ตัว ว่าเราสอนซ้ำๆ
คือ ต้องหาถ้อยคำที่แตกต่าง มาสอนในเรื่องเดิม
ความยากมันอยู่ตรงนี้ และหัวใจการสอนมันก็อยู่ตรงนี้เช่นกัน
เบื้องต้นขอแนะนำเพียงเท่านี้ หวังว่าคงมีประโยชน์สำหรับเจ้าของกระทู้ครับ
แสดงความคิดเห็น
จะทำอย่างไรดีครับ เมื่อสอนเด็กชายคนหนึ่ง แล้วลองให้ทำข้อสอบ แต่เด็กไม่ใส่ใจในการสอบเลย ทั้งๆถ้าจี้ให้ทำจริงๆก็ทำได้
แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่าผมให้แกลองทำข้อสอบง่ายๆ 10 ข้อ เพราะใกล้จะสอบมิทเทอมแล้ว อย่างเช่น จำนวนใดต่อไปนี้ ไม่มี 4 เป็นตัวประกอบ มันก็มีตัวเลือกสี่ข้อ ง่ายๆก็นำมาตัวเลือกมาหารด้วย 4 ตัวเลือกไหนไม่ลงตัวก็ตอบข้อนั้น แกรู้นะว่าต้องทำยังงัยเพราะผมสักเกตุตอนแกทำในกระดาษทด แกก็นำมาหารสี่ แต่แกทำแค่ 2 ตัวเลือก คือ ข กับ ง แล้วข้อ ง ยังทำไม่เสร็จเลยด้วยซ้ำ นอกนั้นไม่ทำต่อแล้ว มันก็ผิดสิครับ เพราะตัวเลือกที่แกไม่ได้เอามาคิดมันถูก ผมให้เวลา 25 นาที 10 ข้อ แต่แกทำแค่ 15 นาที แถมกระดาษทดแทบจะไม่ได้คิด เป็นแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว และตอนนี้จะกำลังสอบแล้ว แกก็ยังทำนิสัยแบบนี้อยู่ ทั้งๆที่เราเตือนแล้วว่าเวลามีตั้งเยอะทำไมไม่คิด ไม่คำนวน ถ้าทำไม่ทันแต่มันถูกเยอะ ก็ยังดีกว่าทำ 10 ข้อ แล้วถูก2 ข้อจากการเดา ไม่ใช่ว่าเด็กไม่เข้าใจหรือทำไม่ได้นะครับ เพราะถ้าจี้ให้ทำเป็นข้อๆจริงๆ มันก็ทำได้ โดยที่เราไม่ต้องช่วย แต่พอปล่อยให้ทำจริงๆ เหมือนกำลังสอบจริงๆ ก็ทำแบบนี้ตลอด เราก็ถามว่าไม่เข้าใจให้ถามก็บอกเข้าใจ ให้ทำแบบฝึกหัดก็ทำได้ ผมปวดหัวมากครับไม่รู้จะทำยังงัยใครมีวิธีหรือบอกเหตุผลได้ไหมครับทำไหมเป็นแบบนี้
อีกประการนะครับ สมัยก็อยู่ประถมผมขอดูหนังสือเก่าพวกแบบฝึกหัด ส่วนใหญ่โล่งมาก ไม่ทำเลย เหมือนแกไม่ยอมส่งงานไม่ทำสนใจที่จะรับผิดชอบอะไรเลย จนเราต้องแอบบอกแม่เค้าว่าช่วยตามการบ้านจากโรงเรียนด้วย แม่แกก็ช่วยตามจากกลุ่มไลน์ผู้ปกครองให้และช่วยพยายามฝึกแกให้มีความรับผิดชอบ มีบ้างงานโกหกเอาตัวรอดว่าไม่มีการบ้าน แต่แม่เค้าก็บอกว่าดีกว่าแต่ก่อนเยอะ แต่พอเห็นวิธีการสอบแบบนี้ผมไม่รู้ว่าจะทำยังงัยกับเด็กแล้วครับ ถ้าไม่เข้าใจ ทำไม่ได้ผมจะไม่ว่าอะไรเลย สอนกันใหม่ แต่นี่ทำได้แต่ไม่ทำ เหมือนขี้เกียจ ผมยอมรับว่าผมสอนแพงนะครับ และถ้าเป็นแบบนี้ผมเสียดายเงินที่ผู้ปกครองออกค่าเรียนแทนมากๆ ผมก็อธิบายไปแล้ว นะว่าไม่เห็นใจแม่บ้างหรือยังงัย อยู่ม.1 แล้ว แม่ทำงานเหนื่อย ยังต้องให้แม่ตามการบ้านให้อีก แล้วถ้าทำแบบนี้ไม่สงสารแม่หรอ ก็เงียบ ตอนสอนผมเล่นบ้าง จริงจังบ้างไม่ได้เครงเครียดอะไร แต่มีเมื่อวันก่อนนี่แหละครับ ผมพูดเรื่องนี้กับแกหลังสอบเสร็จ ตอนนี้ผมรู้สึกผิดครับถ้ามิทเทอมเด้กคนนี้สอบไม่ผ่าน ผมจะทำยังงัย ผมสอนมาหลายปี แต่ผมไม่เคยเจอเคสแบบนี้กับเด็กโตขนาดนนี้ครับ