E.P. 2 เมื่อถ่านไฟเก่าคุกรุ่น by: Queen of the lost
ความเดิมตอนที่แล้ว
http://pantip.com/topic/35349710
พร่ำเพ้อกันไปถึงอดีตรักของสาววัยดึกรสแซ่บที่ตอนนี้กำลังรับรู้ข่าวร้ายว่าอดีตแฟนที่เลิกลากันไปกำลังจะแต่งงาน
>>>>> เอาแล้ว งานเข้าเลยทีนี้ ตั้มอดีตแฟนจะแต่งงาน ตั้งตัวไม่ทันที่รู้ข่าวจากสาวหมวยเพื่อนรักเพื่อนเลิฟ จริงๆ ฉันก็ไม่ได้รู้สึกเสียใจหรือเสียดายอะไรหนักหนาหร๊อก กะอีแค่ผู้ชายคนหนึ่งจะแต่งงาน มันไม่น่าจะเกี่ยวอะไรในชีวิตฉัน (เชิดๆ เลิศๆ เข้าไว้) แต่ทำไมมันรู้สึกเจ็บแปลบที่หน้าอกข้างซ้าย หัวใจเต้นยิ่งกว่ากลองรบที่กำลังตีรัวเรียกทหารทั้งกองพันออกศึก โอ๊ยยยย!!! หัวใจเจ้าขาทำไมมันยังไม่ชิน พอแล้ว... เหนื่อย เฝ้าถามตัวเองว่านี้เราเสียใจหรืออะไร ทบทวนความรู้สึกของตัวเองคิดกลับไปกลับมาเริ่มปวดสมองแหละ คงต้องจับความรู้สึกของหัวใจละกัน จน... อ๋อออ ที่เราเจ็บนี้ไม่ใช่อะไรหร๊อก++เป็นเพราะรู้สึกเสียหน้าที่ตั้มมาชิงแต่งงานก่อนเราได้ยังงัย ว่าแล้วก็ขอเข้าไปส่องดูหน้าว่าที่เจ้าสาวซะหน่อยละกัน อ่ะ อ่ะ ถึงฉันจะไม่ค่อยชอบโลกโซเซียสนี้สักเท่าไรแต่มันก็มีประโยชน์ก็ไอ้ตรงแหละ งานเผือกเป็นงานถนัด
ต๊ายยยย+++ หน้าตาก็งั้นๆ หึหึ สวยก็ไม่สวย อ้วนก็อ้วน ดูหน้าดูตาสิแก๊ แก่ ฮ่าฮ่าฮ่า ฉันชนะเลิศ!!! แต่...ทำไม๊ ทำไมถึงได้แต่งงาน

ฉันสิ!! สวยกว่า หุ่นก็เจ๋งแจ๋ว อีตาตั้มดันมาทิ้งไป เห้ย!! ไม่ใช่ ฉันสิเป็นฝ่ายบอกเลิกก่อน เจ็บใจนัก ถ้าจะแต่งทั้งทีหาให้สวย เลิศ กว่าฉันไม่ได้หรือยังไง หึหึ ว่าแล้วแผนการอันชั่วร้ายก็ผุดขึ้นในหัวสมอง
“ฮัลโหล+++ ตั้มหรา แหมจะแต่งงานนี้ไม่คิดจะบอกกล่าวกันเลยรึไง” ฉันหยอดเสียงหวานที่สุดในชีวิตที่จะดัดจริตได้ลงไป “อ๋อ... พิม!!! ปล่าวนะ เรา เราก็กะจะบอกพิมนั้นแหละ แต่ยังไม่มีโอกาส” ปลายสายอึกอัก พูดตะกุกตะกัก ฮึม!!! นี้ถ้าฉันไม่รู้จากหมวยก็คงปิดข่าวตายไปเลยนะสิ “หรา แล้วนี้เตรียมงานไปถึงไหนแล้วหละ” ฉันเลือกที่จะหยอดความห่วงใยไปนิดหน่อย “ก็ ยังไม่ได้เตรียมอะไรเท่าไรหรอก คงแต่งแบบง่ายๆ” เหร๊อะ++ แต่ที่รู้เนี้ยะเตรียมไว้ทุกอย่างครบแล้วนิ อีกตั้ง 3 สัปดาห์กว่าจะถึงวันงานเล่นจัดแจงครบตั้งแต่จัดหาพิธีกร ธีมงานเป็นแบบไหน แถมจ้างออแกไนซ์จัดงานเรียบร้อย ส่วนคุณแม่ฝ่ายชายก็ตัดชุดพร้อมแล้วนี้ แต่งเรียบง่ายมั๊กมากกกก สะตอเป็นที่สุด....
“งานแต่งตั้มทั้งที เราต้องไปอยู่แล้วหละ” ยังไม่จบฉันยังหยอดลูกอ้อนไป ปลายสายอึกอักอีกครั้ง “อืม เราก็อยากให้พิมมานะ แต่ขอโทษด้วยที่ยังไม่ได้เชิญ เพราะเราไม่มีที่อยู่ปัจจุบันของพิม” นี่ง๊ะ>>ยังไม่ได้เชิญและคงไม่คิดจะเชิญด้วย ก็เล่นขาดการติดต่อไปแล้วจะมีได้ไงย่ะที่อยู่ฉันง่ะ ฉันออกจะเปิดเผยแหม...หลายคนติดตามฉันในโลกโซเซียสก็รู้แล้ว ข้อแก้ตัวชัดๆ แต่ฉันยังเก็บอาการ “ได้ ได้ แล้วเจอกันวันงานนะ” ฉันรีบวางสายไม่รอให้ปลายสายพูดอะไรต่อ เพราะเดี๋ยวจะมาล่วงรู้แผนการอันชั่วร้ายของฉัน เหอะ เหอะ>>>
“หมวย ฉันอยากได้หนุ่ม หุ่นล่ำ หน้าตาดี ที่สำคัญขอเป็นเกย์นะ” ฉันสั่งออเดอร์ตรงไปยังยายหมวยจอมซ่าส์
“เฮ๊ย!!! พิม แกจะเอาจริงหรา” หมวยเลิกลั่ก แต่ก็ไม่อยากขัดใจเพื่อนสาวสวยอย่างฉัน
“เออ!!! เพื่อความปลอดภัยจะได้ไม่ต้องมีการสานสัมพันธ์ต่อหลังจบงาน เอาเกย์นี้แหละ แต่แกเลือกหน่อยนะ เอาที่ออกจะดูแมนสักหน่อยอายุสัก 30 ต้นๆ หน้าตาน้องๆ ติ๊กเจษฎาพร ก็ OK ฉันชอบหน้าตาไทยๆ” ฉันสั่งอีกเป็นชุด หมวยรีบจดออเดอร์
ฉันนั่งนอนนับวันรอเลยคร้า งานนี้ไม่ใครก็ใครหงายหลังตึงแน่ๆ ดวงตาระยิบระยับเป็นประกายอยากให้ถึงวันงานเร็วไว ใจตื่นเต้นยิ่งกว่าจะไปเป็นเจ้าสาวเองเสียอีก ลุกขึ้นมาดูแลตัวเองอย่างดี เข้าฟิตเนสกระชับหุ่นกินคอลลาเจนเพิ่มความเต่งตึง ครีมหรือโลชั่นอะไรที่โฆษณาว่าลบรอยเหี่ยวย่นชะงัด มาเลยคร้าฉันจัดไปชุดใหญ่ งานนี้ตัวแม่ด้านแฟชั่นและความงามอย่างฉันไม่ยอมน้อยหน้าใครอยู่แล้ว
ยายหมวยส่งออเดอร์มาให้ตรงตามความต้องการของฉันมากมาย “ปั้น” หนุ่มใหญ่สเปคหญิงแก่แม่หม้ายมายืนตรงหน้าฉัน อืม!!!! ใบหน้าหล่อเหลาคมเข้มตามสไตส์ชายไทย หุ่นฟิตปั๋งน่าเจี๊ยะ หมวยช่างหามาจากไหนเนี้ยะ แต่เดี๋ยวฉันต้องพิสูจน์ก่อนว่าเป็นเกย์จริงป่าว ด้วยการเอาอีตามาร์ค ลูกน้องหนุ่มวิศวกรหน้าทะเล้นนี้แหละเป็นตัวล่อ
“มาร์ค เข้ามาหาพี่ในห้องหน่อย” ฉันโฟนอินเรียกลูกน้องจอมทะลึงเข้ามาในห้องขณะที่ “ปั้น”นั่งไขว้ขาอยู่บนโซฟา “พี่พิม มีอะไรคับถึงเรียกใช้กระผม” นายมาร์คยื่นหน้าทะเล้นมาก่อนเสียง สายตาหล่อกแหล่ก แล้วสายตานายมาร์คก็ประสบกับสายตายั่วยวนของปั้น สปาร์คทันที ฉึบ..ฉึบ.. มาร์คชะงักก่อนส่งยิ้มหวานให้ปั้น “ขอโทษคับนึกว่าพี่พิมอยู่คนเดียว” เจ้ามาร์ครีบนอบน้อมเมื่อเห็นแขกผู้มาเยือน ฉันรีบพูดขัดเพื่อไม่ให้รู้ว่าเป็นแผนการอันแยบยลของฉัน “มาร์คเดี๋ยวช่วยเอาแฟ้มงานที่อยู่บนชั้นข้างหลังพี่ เอาไปส่งที่ฝ่ายบัญชีทั้งหมดให้พี่ด้วยนะ” “คับพี่พิม” มาร์คกลายเป็นเด็กผู้ชายเรียบร้อยเสมอเมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่น แต่จังหวะนี้ฉันไม่สนใจหร๊อกว่ามาร์คจะเป็นไง โน้นเลย++ ปั้นต่างหากที่ไว้ฟอร์มทำเป็นนั่งนิ่ง แต่สายตาเล้าโลมพร้อมส่งประกายยั่วยวนเจ้ามาร์คยิ่งกว่าเด็กสาวที่เจอเหยื่อแล้วใช้เล่ห์มายาไร้เดียงสาของอิสตรีจู่โจมจนอดคิดไม่ได้ว่าหากไม่มีฉันในห้องนี้ เจ้ามาร์คจะเป็นยังไง บรือออ+++ คิดแล้วก็ขนลุก โอเค..ผ่านกะแบบทดสอบง่ายๆ ของฉัน แต่ยั้ง ยังไม่หมด ขออีกสักคนเพื่อความแน่ใจ
“อำมี่ ช่วยเอากาแฟมาให้แขกพี่ 1 ที่สิจ๊ะ” ฉันโฟนอินบอกแม่บ้านชายสุดสวยประจำออฟฟิต ไม่นาน “อำมี่หรืออำพล” ก็เคาะประตูเอากาแฟมาเสิร์ฟให้ปั้น แต่คราวนี้ปั้นส่งยิ้มให้นิดหน่อยแล้วหันเมินไปนอกหน้าต่าง จังหวะนั้นก่อนอำมี่จะเดินหายไปนอกห้องฉันรีบเดินตามไปดักนอกประตู ปล่อยให้ปั้นนั้งอ่านหนังสือคนเดียว
“อำมี่ เป็นไงแขกพี่หล่อไหม” ฉันกระซิบถามหน้าตาจริงจังก่อนที่นางจะตอบเสียงถอนหายใจลากยาว “เฮ้ออออ!! ก็หน้าตาดีอะค่ะพี่พิม เด็กใหม่พี่หรา แต่เป็นประเภทเดียวกะหนูนะ” ฉันรีบปฏิเสธก่อนถามต่อ “เป็นประเภทเดียวกะหนูคือ??” นางรีบจีบปากจีบคอบอก “สาบาน!! ว่าพี่ไม่รู้ ผีมันเห็นผีนะพี่ จะให้เก๊กหล่อยังไงอ่ะ แค่เห็นเงาหนู้ก็รู้แล้ว” ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ นั้นไง++ สำเร็จ อำมี่ถึงขั้นการันตีเองขนาดนี้ ฉันมั่นใจมากขึ้นงานนี้ไม่มีสานต่อแน่ๆ แต่เสียดายเหมือนกันนะ “ปั้น” ออกจะหล่อ สเปคฉันเลยถึงแม้จะอายุน้อยกว่าหลายปีก็เถ๊อะ แต่ถ้าเป็นชายแท้แถมโสดยังงี้ สงสัยฉันอาจต้องปัดฝุ่นเสน่ห์แล้วบริหารมันให้กับปั้นเป็นแน่
ก่อนที่เด็กๆ ในออฟฟิตฉันจะวุ่นวายไปมากกว่านี้ ฉันให้ปั้นไปเตรียมแต่งตัวที่ร้านห้องเสื้อของหมวย ไม่ได้สิฉันต้องเลิศและปั้นเองก็ต้องเป็นคู่ควงที่หล่อที่สุดในคืนนี้ด้วยเช่นกัน งานนี้ยอมลงทุนเพื่อความสะใจ ฉันแอบกระซิบถามหมวยว่า “แกไปหลอกล่อปั้นมาได้ยังไง กะอีแค่ค่าจ้างไม่กี่พันบาทที่บอกว่าจะเอามาเทสเป็นนายแบบพรีเซ็นเตอร์ให้กับบริษัทฉัน” ก็ได้รับคำตอบว่า ปั้นเป็นลูกค้าประจำของที่ร้านค่อนข้างสนิทกับหมวยตอนนี้กำลังอกหักขี้เกียจอยู่ว่างเลยหาอะไรทำดีกว่านอนเฉาอยู่ที่ห้อง แหมสวรรค์เข้าข้างฉันเสียจริงๆ
ฉันพอใจกับผลงานการจับแต่งตัวของหมวยที่แต่งให้ฉันกับปั้นมาก ผ้าซีทรูสีเนื้อเปิดไหล่มนขาวแนบเนื้อทำให้อวดองค์เอวอย่างชัดเจนไม่เสียแรงที่ฟิตหุ่นมาเพื่องานนี้ ใบหน้าที่ตกแต่งด้วยเครื่องสำอางค์สไตล์สาวเกาหลีโชว์ความใสและตาคมแก้มป่องปากนิดจมูกหน่อยและปกปิดริ้วรอยได้อย่างแนบเนียน ช่างเข้ากับหนุ่มคมเข้มบนชุดสูทสีน้ำตาลแถบดำผ้าบางเบาดูรีเล็กซ์กอปรกับใบหน้าที่นิ่งเฉยแต่มีเสน่ห์ของปั้น ไม่น่าเชื่อนี้ฉันสาววัยดึกที่ออกจะเป็นคุณป้าแต่หมวยกลับเนรมิตให้ดูอ่อนเยาว์ไปเกือบ 10 ปี โว่ะ โฮ่ะ โอะ ภูมิใจเสียจริงๆ
ไม่รอช้างานใหญ่รออยู่ข้างหน้า ฉันรีบพาปั้นไปที่งานของตั้ม ฉันสอดส่ายสายตาหาตั้มเพราะหน้างานคนค่อนข้างเยอะ เป็นเพราะฉันมาช้าไปนิดหน่อย นั้นไง เจ้าบ่าว-เจ้าสาวยืนต้อนรับถ่ายรูปคู่กับแขกอยู่ ฉันรีบคว้ามือปั้นเดินจ่ำไปทันที แต่ต้องสะดุ้งเพราะความเย็นเฉียบของมือปั้น จนฉันต้องถาม “เป็นอะไรหรือเปล่า” “พี่มางานนี้หราคับ เออ ผมว่า ผมไม่ขอเข้าไปในงานดีกว่า” อ้าวๆๆ ปั้นจะมาถอนตัวง่ายๆ ยังงี้ไม่ได้นะ ฉันอุตส่าห์ลงทุนไปเยอะ ฉันเลยต้องใช้ไม้อ่อน“ไม่เอานะปั้น เราคุยกันแล้ว เป็นอะไรหละเนี้ยะ มาถึงหน้างานแล้วนะ” “แต่ผมไม่อยากเข้าไปจริงๆ คับ นี่ถ้าผมรู้ก่อนก็คงไม่มา” เอ๊ะ+++จะเอาไงละเนี้ยะ มาดื้ออะไรตอนนี้ คงต้องใช้ไม้แข็งแหละ
“อ้าวพิม มาแล้วหรา” นั้นไง ก่อนที่ฉันจะจัดการปั้น เสียงเจ้าบ่าวดังมาแต่ไกลจากด้านหลังฉันเลย ฉันไม่ลืมควงแขนปั้นไว้ข้างตัวก่อนที่จะหันขวับไปส่งยิ้มหวานให้ตั้ม “ยินดีด้วยจ๊ะ” เป็นไงหละตั้มคงกำลังตะลึงกับความสวยของฉันอยู่ละสิ เชิดๆ เลิศๆ เข้าไว้ ตั้มยืนนิ่งมองไปที่ปั้น ก่อนที่จะปล่อยให้ตั้มตั้งตัวติดฉันรีบฮุกไปอีกหมัด ดึงแขนปั้นมาแนบตัวแล้วทำตัวลั้นลาสุดชีวิต ก่อนแนะนำ “ตั้ม นี่ปั้นแฟนพิม” ปล่อยหมัดเด็ดไปยังงี้ ตั้มยืนนิ่งหน้าเหวอกว่าเดิม สะใจฉันจริงๆ ระหว่างที่ฉันกำลังรู้สึกสะใจ จนลืมสังเกตหน้าของปั้นที่ยืนนิ่งเหมือนจะร้องไห้ “แฟนพิมหรา” ตั้มพูดเสียงกระเสร่าแต่ชั่วครู่ตั้มก็รีบเปลี่ยนสีหน้าบอกเชิญๆ ไปนั่งในงานก่อน
เป็นไปตามที่คาดระหว่างทางฉันเดินไปที่โต๊ะทุกสายตามองมาที่ฉันกับปั้น เหอะเหอะ>> นี่ฉันไม่ได้ต้องการมาเด่นกว่าเจ้าสาวนะเพราะถึงไงฉันก็สวยกว่าเย๊อะ ปั้นยังคงหน้าซีด จนฉันเริ่มสังเกตได้ก่อนที่ปั้นจะขอตัวไปห้องน้ำ ฉันจะเดินตามไปแยกเข้าห้องน้ำด้วย แต่ถูกบรรดาเพื่อนตัวแสบของตั้มที่ฉันรู้จักดึงตัวไว้ “พิม มางานนี้ด้วยหรา สวยเชียวนะ แล้วมากับใครอ่ะ นี่แต่งงานหรือยัง หรือมีลูกแล้วอ่ะ บรา บรา บรา” เยอะแยะมากมายกับคำถามแต่ไม่ปล่อยช่วงให้ฉันตอบเลยจนฉันบอกขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะแล้วจะมาตอบจึงสามารถหลุดออกมาจากวงได้
ระหว่างทางไปห้องน้ำ ปั้นมายืนแอบอะไรอยู่ตรงซอกหลืบทางหนีไฟ ด้วยความเผือกบวกความเป็นห่วงฉันรีบเดินเข้าไปหาแต่ต้องชะงักเมื่อปั้นไม่ได้ยืนเพียงลำพังแต่นั้นตั้มยืนโอบไหล่อยู่ด้วย รู้สึกชาที่เท้าก้าวขาไม่ออก แต่หูทำงานส่งเรดาร์ดีเหลือเกิน
“ปั้น ไม่ได้ต้องการมาเจอคุณแค่จะมาเป็นเพื่อนพี่พิม ปั้นไม่รู้ว่าเป็นงานของคุณ” ปั้นพูดเสียงสั่นเครือ ตั้มเอื้อมมือมาเช็ดน้ำตาบนแก้มปั้นก่อนจะพูด “คุณก็รู้ว่ามันจำเป็น ผมไม่ได้รักผู้หญิงคนนั้น ผมยังรักคุณอยู่เสมอ” อะไร๊หนะ “รักคุณอยู่เสมอ” หมายความว่าไง บรึ๊ยยยยย ขนลุกซู่ ลมออกหู อื้ออึงไม่ได้ยินคำพูดใดๆ ใบหน้าร้อนผ่าว ขาก้าวถอยหลังอย่างไม่รู้ตัว ฉันเดินออกมาจากจุดนั้นได้ยังไงไม่รู้ แต่หัวหูและสมองตอนนี้กำลังสับสน แล้วที่ผ่านมาตอนที่ตั้มเป็นแฟนฉันหละมันยังไง เป็นตั้งแต่เมื่อไร โอ๊ยยยยย Oh My God!!! ทีแรกกะจะมาเซอร์ไพรส์เจ้าบ่าวให้นึกเสียดายในความสวย ใส ไม่ไร้สมองของฉัน แต่ไหงฉันกลายเป็นคนถูกเซอร์ไพรส์เสียเอง หลายคำถามผุดขึ้นในหัวสมองโดยไม่อยากหาคำตอบ อยู่ยากขึ้นแล้วจริงๆ แฟนเราไปเป็นสามีผู้ชาย แล้วยังงี้สาววัยดึก โสด สวยอย่างฉันจะปรับตัวยังไง ดีนะที่ฉันเลิกรากันไปกับตั้ม ฉันวิ่งออกมาจากโรงแรมอย่างเร็ว ลืมไปแล้วว่าจะต้องกลับไปตอบคำถามแบบสวยๆ เลิศๆ
“โอ๊ยยย” ฉันร้องดังลั่น ไม่รู้ชนเข้ากับอะไร “ขอโทษคับคุณ” เฮ้อ!!! อะไรหนักหนาเนี้ยะจะอะไรกับฉันอีก เตรียมตัววีนแตกกะชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า “อ้าวพี่พิม!!!” เสียงนั่น “หรั่ง” จำได้ไหมหนุ่มนักธุรกิจรุ่นน้องเจ้าของบริษัทส่งออกแห่งหนึ่งที่ทำให้หัวใจฉันกระชุ่มกระชวย
แล้วหรั่งมาทำอะไรตรงนี้ เวลานี้ด้วยเนี้ยะ เอาอีกแล้วชอบมาในจังหวะที่หัวใจฉันอ่อนแอทุกทีเลย “นายหรั่ง”
ความลับ...สาววัยดึก E.P. 3 คงต้องเล่นกับไฟ by: Queen of the lost
ความลับ...สาววัยดึก E.P. 2 เมื่อถ่านไฟเก่าคุกรุ่น by: Queen of the los
ความเดิมตอนที่แล้ว http://pantip.com/topic/35349710
พร่ำเพ้อกันไปถึงอดีตรักของสาววัยดึกรสแซ่บที่ตอนนี้กำลังรับรู้ข่าวร้ายว่าอดีตแฟนที่เลิกลากันไปกำลังจะแต่งงาน
>>>>> เอาแล้ว งานเข้าเลยทีนี้ ตั้มอดีตแฟนจะแต่งงาน ตั้งตัวไม่ทันที่รู้ข่าวจากสาวหมวยเพื่อนรักเพื่อนเลิฟ จริงๆ ฉันก็ไม่ได้รู้สึกเสียใจหรือเสียดายอะไรหนักหนาหร๊อก กะอีแค่ผู้ชายคนหนึ่งจะแต่งงาน มันไม่น่าจะเกี่ยวอะไรในชีวิตฉัน (เชิดๆ เลิศๆ เข้าไว้) แต่ทำไมมันรู้สึกเจ็บแปลบที่หน้าอกข้างซ้าย หัวใจเต้นยิ่งกว่ากลองรบที่กำลังตีรัวเรียกทหารทั้งกองพันออกศึก โอ๊ยยยย!!! หัวใจเจ้าขาทำไมมันยังไม่ชิน พอแล้ว... เหนื่อย เฝ้าถามตัวเองว่านี้เราเสียใจหรืออะไร ทบทวนความรู้สึกของตัวเองคิดกลับไปกลับมาเริ่มปวดสมองแหละ คงต้องจับความรู้สึกของหัวใจละกัน จน... อ๋อออ ที่เราเจ็บนี้ไม่ใช่อะไรหร๊อก++เป็นเพราะรู้สึกเสียหน้าที่ตั้มมาชิงแต่งงานก่อนเราได้ยังงัย ว่าแล้วก็ขอเข้าไปส่องดูหน้าว่าที่เจ้าสาวซะหน่อยละกัน อ่ะ อ่ะ ถึงฉันจะไม่ค่อยชอบโลกโซเซียสนี้สักเท่าไรแต่มันก็มีประโยชน์ก็ไอ้ตรงแหละ งานเผือกเป็นงานถนัด
ต๊ายยยย+++ หน้าตาก็งั้นๆ หึหึ สวยก็ไม่สวย อ้วนก็อ้วน ดูหน้าดูตาสิแก๊ แก่ ฮ่าฮ่าฮ่า ฉันชนะเลิศ!!! แต่...ทำไม๊ ทำไมถึงได้แต่งงาน
“ฮัลโหล+++ ตั้มหรา แหมจะแต่งงานนี้ไม่คิดจะบอกกล่าวกันเลยรึไง” ฉันหยอดเสียงหวานที่สุดในชีวิตที่จะดัดจริตได้ลงไป “อ๋อ... พิม!!! ปล่าวนะ เรา เราก็กะจะบอกพิมนั้นแหละ แต่ยังไม่มีโอกาส” ปลายสายอึกอัก พูดตะกุกตะกัก ฮึม!!! นี้ถ้าฉันไม่รู้จากหมวยก็คงปิดข่าวตายไปเลยนะสิ “หรา แล้วนี้เตรียมงานไปถึงไหนแล้วหละ” ฉันเลือกที่จะหยอดความห่วงใยไปนิดหน่อย “ก็ ยังไม่ได้เตรียมอะไรเท่าไรหรอก คงแต่งแบบง่ายๆ” เหร๊อะ++ แต่ที่รู้เนี้ยะเตรียมไว้ทุกอย่างครบแล้วนิ อีกตั้ง 3 สัปดาห์กว่าจะถึงวันงานเล่นจัดแจงครบตั้งแต่จัดหาพิธีกร ธีมงานเป็นแบบไหน แถมจ้างออแกไนซ์จัดงานเรียบร้อย ส่วนคุณแม่ฝ่ายชายก็ตัดชุดพร้อมแล้วนี้ แต่งเรียบง่ายมั๊กมากกกก สะตอเป็นที่สุด....
“งานแต่งตั้มทั้งที เราต้องไปอยู่แล้วหละ” ยังไม่จบฉันยังหยอดลูกอ้อนไป ปลายสายอึกอักอีกครั้ง “อืม เราก็อยากให้พิมมานะ แต่ขอโทษด้วยที่ยังไม่ได้เชิญ เพราะเราไม่มีที่อยู่ปัจจุบันของพิม” นี่ง๊ะ>>ยังไม่ได้เชิญและคงไม่คิดจะเชิญด้วย ก็เล่นขาดการติดต่อไปแล้วจะมีได้ไงย่ะที่อยู่ฉันง่ะ ฉันออกจะเปิดเผยแหม...หลายคนติดตามฉันในโลกโซเซียสก็รู้แล้ว ข้อแก้ตัวชัดๆ แต่ฉันยังเก็บอาการ “ได้ ได้ แล้วเจอกันวันงานนะ” ฉันรีบวางสายไม่รอให้ปลายสายพูดอะไรต่อ เพราะเดี๋ยวจะมาล่วงรู้แผนการอันชั่วร้ายของฉัน เหอะ เหอะ>>>
“หมวย ฉันอยากได้หนุ่ม หุ่นล่ำ หน้าตาดี ที่สำคัญขอเป็นเกย์นะ” ฉันสั่งออเดอร์ตรงไปยังยายหมวยจอมซ่าส์
“เฮ๊ย!!! พิม แกจะเอาจริงหรา” หมวยเลิกลั่ก แต่ก็ไม่อยากขัดใจเพื่อนสาวสวยอย่างฉัน
“เออ!!! เพื่อความปลอดภัยจะได้ไม่ต้องมีการสานสัมพันธ์ต่อหลังจบงาน เอาเกย์นี้แหละ แต่แกเลือกหน่อยนะ เอาที่ออกจะดูแมนสักหน่อยอายุสัก 30 ต้นๆ หน้าตาน้องๆ ติ๊กเจษฎาพร ก็ OK ฉันชอบหน้าตาไทยๆ” ฉันสั่งอีกเป็นชุด หมวยรีบจดออเดอร์
ฉันนั่งนอนนับวันรอเลยคร้า งานนี้ไม่ใครก็ใครหงายหลังตึงแน่ๆ ดวงตาระยิบระยับเป็นประกายอยากให้ถึงวันงานเร็วไว ใจตื่นเต้นยิ่งกว่าจะไปเป็นเจ้าสาวเองเสียอีก ลุกขึ้นมาดูแลตัวเองอย่างดี เข้าฟิตเนสกระชับหุ่นกินคอลลาเจนเพิ่มความเต่งตึง ครีมหรือโลชั่นอะไรที่โฆษณาว่าลบรอยเหี่ยวย่นชะงัด มาเลยคร้าฉันจัดไปชุดใหญ่ งานนี้ตัวแม่ด้านแฟชั่นและความงามอย่างฉันไม่ยอมน้อยหน้าใครอยู่แล้ว
ยายหมวยส่งออเดอร์มาให้ตรงตามความต้องการของฉันมากมาย “ปั้น” หนุ่มใหญ่สเปคหญิงแก่แม่หม้ายมายืนตรงหน้าฉัน อืม!!!! ใบหน้าหล่อเหลาคมเข้มตามสไตส์ชายไทย หุ่นฟิตปั๋งน่าเจี๊ยะ หมวยช่างหามาจากไหนเนี้ยะ แต่เดี๋ยวฉันต้องพิสูจน์ก่อนว่าเป็นเกย์จริงป่าว ด้วยการเอาอีตามาร์ค ลูกน้องหนุ่มวิศวกรหน้าทะเล้นนี้แหละเป็นตัวล่อ
“มาร์ค เข้ามาหาพี่ในห้องหน่อย” ฉันโฟนอินเรียกลูกน้องจอมทะลึงเข้ามาในห้องขณะที่ “ปั้น”นั่งไขว้ขาอยู่บนโซฟา “พี่พิม มีอะไรคับถึงเรียกใช้กระผม” นายมาร์คยื่นหน้าทะเล้นมาก่อนเสียง สายตาหล่อกแหล่ก แล้วสายตานายมาร์คก็ประสบกับสายตายั่วยวนของปั้น สปาร์คทันที ฉึบ..ฉึบ.. มาร์คชะงักก่อนส่งยิ้มหวานให้ปั้น “ขอโทษคับนึกว่าพี่พิมอยู่คนเดียว” เจ้ามาร์ครีบนอบน้อมเมื่อเห็นแขกผู้มาเยือน ฉันรีบพูดขัดเพื่อไม่ให้รู้ว่าเป็นแผนการอันแยบยลของฉัน “มาร์คเดี๋ยวช่วยเอาแฟ้มงานที่อยู่บนชั้นข้างหลังพี่ เอาไปส่งที่ฝ่ายบัญชีทั้งหมดให้พี่ด้วยนะ” “คับพี่พิม” มาร์คกลายเป็นเด็กผู้ชายเรียบร้อยเสมอเมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่น แต่จังหวะนี้ฉันไม่สนใจหร๊อกว่ามาร์คจะเป็นไง โน้นเลย++ ปั้นต่างหากที่ไว้ฟอร์มทำเป็นนั่งนิ่ง แต่สายตาเล้าโลมพร้อมส่งประกายยั่วยวนเจ้ามาร์คยิ่งกว่าเด็กสาวที่เจอเหยื่อแล้วใช้เล่ห์มายาไร้เดียงสาของอิสตรีจู่โจมจนอดคิดไม่ได้ว่าหากไม่มีฉันในห้องนี้ เจ้ามาร์คจะเป็นยังไง บรือออ+++ คิดแล้วก็ขนลุก โอเค..ผ่านกะแบบทดสอบง่ายๆ ของฉัน แต่ยั้ง ยังไม่หมด ขออีกสักคนเพื่อความแน่ใจ
“อำมี่ ช่วยเอากาแฟมาให้แขกพี่ 1 ที่สิจ๊ะ” ฉันโฟนอินบอกแม่บ้านชายสุดสวยประจำออฟฟิต ไม่นาน “อำมี่หรืออำพล” ก็เคาะประตูเอากาแฟมาเสิร์ฟให้ปั้น แต่คราวนี้ปั้นส่งยิ้มให้นิดหน่อยแล้วหันเมินไปนอกหน้าต่าง จังหวะนั้นก่อนอำมี่จะเดินหายไปนอกห้องฉันรีบเดินตามไปดักนอกประตู ปล่อยให้ปั้นนั้งอ่านหนังสือคนเดียว
“อำมี่ เป็นไงแขกพี่หล่อไหม” ฉันกระซิบถามหน้าตาจริงจังก่อนที่นางจะตอบเสียงถอนหายใจลากยาว “เฮ้ออออ!! ก็หน้าตาดีอะค่ะพี่พิม เด็กใหม่พี่หรา แต่เป็นประเภทเดียวกะหนูนะ” ฉันรีบปฏิเสธก่อนถามต่อ “เป็นประเภทเดียวกะหนูคือ??” นางรีบจีบปากจีบคอบอก “สาบาน!! ว่าพี่ไม่รู้ ผีมันเห็นผีนะพี่ จะให้เก๊กหล่อยังไงอ่ะ แค่เห็นเงาหนู้ก็รู้แล้ว” ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ นั้นไง++ สำเร็จ อำมี่ถึงขั้นการันตีเองขนาดนี้ ฉันมั่นใจมากขึ้นงานนี้ไม่มีสานต่อแน่ๆ แต่เสียดายเหมือนกันนะ “ปั้น” ออกจะหล่อ สเปคฉันเลยถึงแม้จะอายุน้อยกว่าหลายปีก็เถ๊อะ แต่ถ้าเป็นชายแท้แถมโสดยังงี้ สงสัยฉันอาจต้องปัดฝุ่นเสน่ห์แล้วบริหารมันให้กับปั้นเป็นแน่
ก่อนที่เด็กๆ ในออฟฟิตฉันจะวุ่นวายไปมากกว่านี้ ฉันให้ปั้นไปเตรียมแต่งตัวที่ร้านห้องเสื้อของหมวย ไม่ได้สิฉันต้องเลิศและปั้นเองก็ต้องเป็นคู่ควงที่หล่อที่สุดในคืนนี้ด้วยเช่นกัน งานนี้ยอมลงทุนเพื่อความสะใจ ฉันแอบกระซิบถามหมวยว่า “แกไปหลอกล่อปั้นมาได้ยังไง กะอีแค่ค่าจ้างไม่กี่พันบาทที่บอกว่าจะเอามาเทสเป็นนายแบบพรีเซ็นเตอร์ให้กับบริษัทฉัน” ก็ได้รับคำตอบว่า ปั้นเป็นลูกค้าประจำของที่ร้านค่อนข้างสนิทกับหมวยตอนนี้กำลังอกหักขี้เกียจอยู่ว่างเลยหาอะไรทำดีกว่านอนเฉาอยู่ที่ห้อง แหมสวรรค์เข้าข้างฉันเสียจริงๆ
ฉันพอใจกับผลงานการจับแต่งตัวของหมวยที่แต่งให้ฉันกับปั้นมาก ผ้าซีทรูสีเนื้อเปิดไหล่มนขาวแนบเนื้อทำให้อวดองค์เอวอย่างชัดเจนไม่เสียแรงที่ฟิตหุ่นมาเพื่องานนี้ ใบหน้าที่ตกแต่งด้วยเครื่องสำอางค์สไตล์สาวเกาหลีโชว์ความใสและตาคมแก้มป่องปากนิดจมูกหน่อยและปกปิดริ้วรอยได้อย่างแนบเนียน ช่างเข้ากับหนุ่มคมเข้มบนชุดสูทสีน้ำตาลแถบดำผ้าบางเบาดูรีเล็กซ์กอปรกับใบหน้าที่นิ่งเฉยแต่มีเสน่ห์ของปั้น ไม่น่าเชื่อนี้ฉันสาววัยดึกที่ออกจะเป็นคุณป้าแต่หมวยกลับเนรมิตให้ดูอ่อนเยาว์ไปเกือบ 10 ปี โว่ะ โฮ่ะ โอะ ภูมิใจเสียจริงๆ
ไม่รอช้างานใหญ่รออยู่ข้างหน้า ฉันรีบพาปั้นไปที่งานของตั้ม ฉันสอดส่ายสายตาหาตั้มเพราะหน้างานคนค่อนข้างเยอะ เป็นเพราะฉันมาช้าไปนิดหน่อย นั้นไง เจ้าบ่าว-เจ้าสาวยืนต้อนรับถ่ายรูปคู่กับแขกอยู่ ฉันรีบคว้ามือปั้นเดินจ่ำไปทันที แต่ต้องสะดุ้งเพราะความเย็นเฉียบของมือปั้น จนฉันต้องถาม “เป็นอะไรหรือเปล่า” “พี่มางานนี้หราคับ เออ ผมว่า ผมไม่ขอเข้าไปในงานดีกว่า” อ้าวๆๆ ปั้นจะมาถอนตัวง่ายๆ ยังงี้ไม่ได้นะ ฉันอุตส่าห์ลงทุนไปเยอะ ฉันเลยต้องใช้ไม้อ่อน“ไม่เอานะปั้น เราคุยกันแล้ว เป็นอะไรหละเนี้ยะ มาถึงหน้างานแล้วนะ” “แต่ผมไม่อยากเข้าไปจริงๆ คับ นี่ถ้าผมรู้ก่อนก็คงไม่มา” เอ๊ะ+++จะเอาไงละเนี้ยะ มาดื้ออะไรตอนนี้ คงต้องใช้ไม้แข็งแหละ
“อ้าวพิม มาแล้วหรา” นั้นไง ก่อนที่ฉันจะจัดการปั้น เสียงเจ้าบ่าวดังมาแต่ไกลจากด้านหลังฉันเลย ฉันไม่ลืมควงแขนปั้นไว้ข้างตัวก่อนที่จะหันขวับไปส่งยิ้มหวานให้ตั้ม “ยินดีด้วยจ๊ะ” เป็นไงหละตั้มคงกำลังตะลึงกับความสวยของฉันอยู่ละสิ เชิดๆ เลิศๆ เข้าไว้ ตั้มยืนนิ่งมองไปที่ปั้น ก่อนที่จะปล่อยให้ตั้มตั้งตัวติดฉันรีบฮุกไปอีกหมัด ดึงแขนปั้นมาแนบตัวแล้วทำตัวลั้นลาสุดชีวิต ก่อนแนะนำ “ตั้ม นี่ปั้นแฟนพิม” ปล่อยหมัดเด็ดไปยังงี้ ตั้มยืนนิ่งหน้าเหวอกว่าเดิม สะใจฉันจริงๆ ระหว่างที่ฉันกำลังรู้สึกสะใจ จนลืมสังเกตหน้าของปั้นที่ยืนนิ่งเหมือนจะร้องไห้ “แฟนพิมหรา” ตั้มพูดเสียงกระเสร่าแต่ชั่วครู่ตั้มก็รีบเปลี่ยนสีหน้าบอกเชิญๆ ไปนั่งในงานก่อน
เป็นไปตามที่คาดระหว่างทางฉันเดินไปที่โต๊ะทุกสายตามองมาที่ฉันกับปั้น เหอะเหอะ>> นี่ฉันไม่ได้ต้องการมาเด่นกว่าเจ้าสาวนะเพราะถึงไงฉันก็สวยกว่าเย๊อะ ปั้นยังคงหน้าซีด จนฉันเริ่มสังเกตได้ก่อนที่ปั้นจะขอตัวไปห้องน้ำ ฉันจะเดินตามไปแยกเข้าห้องน้ำด้วย แต่ถูกบรรดาเพื่อนตัวแสบของตั้มที่ฉันรู้จักดึงตัวไว้ “พิม มางานนี้ด้วยหรา สวยเชียวนะ แล้วมากับใครอ่ะ นี่แต่งงานหรือยัง หรือมีลูกแล้วอ่ะ บรา บรา บรา” เยอะแยะมากมายกับคำถามแต่ไม่ปล่อยช่วงให้ฉันตอบเลยจนฉันบอกขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะแล้วจะมาตอบจึงสามารถหลุดออกมาจากวงได้
ระหว่างทางไปห้องน้ำ ปั้นมายืนแอบอะไรอยู่ตรงซอกหลืบทางหนีไฟ ด้วยความเผือกบวกความเป็นห่วงฉันรีบเดินเข้าไปหาแต่ต้องชะงักเมื่อปั้นไม่ได้ยืนเพียงลำพังแต่นั้นตั้มยืนโอบไหล่อยู่ด้วย รู้สึกชาที่เท้าก้าวขาไม่ออก แต่หูทำงานส่งเรดาร์ดีเหลือเกิน
“ปั้น ไม่ได้ต้องการมาเจอคุณแค่จะมาเป็นเพื่อนพี่พิม ปั้นไม่รู้ว่าเป็นงานของคุณ” ปั้นพูดเสียงสั่นเครือ ตั้มเอื้อมมือมาเช็ดน้ำตาบนแก้มปั้นก่อนจะพูด “คุณก็รู้ว่ามันจำเป็น ผมไม่ได้รักผู้หญิงคนนั้น ผมยังรักคุณอยู่เสมอ” อะไร๊หนะ “รักคุณอยู่เสมอ” หมายความว่าไง บรึ๊ยยยยย ขนลุกซู่ ลมออกหู อื้ออึงไม่ได้ยินคำพูดใดๆ ใบหน้าร้อนผ่าว ขาก้าวถอยหลังอย่างไม่รู้ตัว ฉันเดินออกมาจากจุดนั้นได้ยังไงไม่รู้ แต่หัวหูและสมองตอนนี้กำลังสับสน แล้วที่ผ่านมาตอนที่ตั้มเป็นแฟนฉันหละมันยังไง เป็นตั้งแต่เมื่อไร โอ๊ยยยยย Oh My God!!! ทีแรกกะจะมาเซอร์ไพรส์เจ้าบ่าวให้นึกเสียดายในความสวย ใส ไม่ไร้สมองของฉัน แต่ไหงฉันกลายเป็นคนถูกเซอร์ไพรส์เสียเอง หลายคำถามผุดขึ้นในหัวสมองโดยไม่อยากหาคำตอบ อยู่ยากขึ้นแล้วจริงๆ แฟนเราไปเป็นสามีผู้ชาย แล้วยังงี้สาววัยดึก โสด สวยอย่างฉันจะปรับตัวยังไง ดีนะที่ฉันเลิกรากันไปกับตั้ม ฉันวิ่งออกมาจากโรงแรมอย่างเร็ว ลืมไปแล้วว่าจะต้องกลับไปตอบคำถามแบบสวยๆ เลิศๆ
“โอ๊ยยย” ฉันร้องดังลั่น ไม่รู้ชนเข้ากับอะไร “ขอโทษคับคุณ” เฮ้อ!!! อะไรหนักหนาเนี้ยะจะอะไรกับฉันอีก เตรียมตัววีนแตกกะชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า “อ้าวพี่พิม!!!” เสียงนั่น “หรั่ง” จำได้ไหมหนุ่มนักธุรกิจรุ่นน้องเจ้าของบริษัทส่งออกแห่งหนึ่งที่ทำให้หัวใจฉันกระชุ่มกระชวย
แล้วหรั่งมาทำอะไรตรงนี้ เวลานี้ด้วยเนี้ยะ เอาอีกแล้วชอบมาในจังหวะที่หัวใจฉันอ่อนแอทุกทีเลย “นายหรั่ง”
ความลับ...สาววัยดึก E.P. 3 คงต้องเล่นกับไฟ by: Queen of the lost