[SR] รีวิว True Lenovo 4G VIBE C

นี่เป็นครั้งแรกที่ผมหยิบมือถือจากค่าย Lenovo ขึ้นมารีวิว หรือถ้าจะพูดให้ถูกก็คือมือถือจากความร่วมมือระหว่างทรูและ Lenovo เพราะเป็นรุ่นที่ออกแบบมาสำหรับ Truemove H  และนอกจากจะผูกโปรกับทรูแล้ว Lenovo VIBE C ยังเป็นมือถือรุ่นล่างที่เลือกใช้ซีพียูอย่าง Snapdragon 210 ซึ่งผมไม่เคยสัมผัสมาก่อน เนื่องด้วยปรกติแล้วรุ่นล่างมักเลือกใช้ MediaTek ซะเยอะ ซึ่งถ้ามองภาพรวมแล้ว Snapdragon มักมีสถาปัตยกรรมภายในที่ดีกว่า นั่นเลยทำให้ผมอยากลองทดสอบ Lenovo VIBE C เครื่องนี้นี่เอง

สเป็กของ True Lenovo 4G VIBE C
- ซีพียู Snapdragon 210
- แรม 1 GB
- หน่วยความจำภายใน 8 GB รองรับ microSD
- หน้าจอ 5 นิ้ว TFT-TN ความละเอียด FWVGA ( 854*480 )
- กล้องหลังความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช
- กล้องหน้าความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
- รองรับ 2 ซิมและ 4G
- แบตเตอรี่ 2,300 mAh

Lenovo VIBE C รุ่นนี้ถ้าเรียกแบบเต็มยศก็คือ True Lenovo 4G VIBE C เนื่องจากเป็นรุ่นที่ปรับแต่งมาเพื่อใช้งานกับทรูโดยเฉพาะ และมีการเขียนระบุไว้ที่สเป็กหลังกล่องว่า "รองรับการใช้งานเครือข่ายทรูมูฟ เฮช เท่านั้น" แต่ความน่าสนใจอยู่ตรงที่โปรโมชั่นและราคาครับ



ราคาเต็มอยู่ที่ 2,990 บาท แต่เมื่อเปิดใช้แพคเกจของทรูรายเดือน ก็จะได้รับเครื่องฟรีถ้าใช้แพคเกจรายเดือน 499 บาทขึ้นไป โดยค่าจ่ายบริการล่วงหน้า 2,000 บาท ( อ่านเพิ่ม )



สิ่งที่ให้มาในกล่องก็เหมือนมือถือทั่วไปคือ คู่มือ, สายชาร์จ, หูฟัง และมือถือนั่นเอง แม้ว่าในกล่องไม่มีเคสแถมมาให้ แต่ตัวเครื่องมีวัสดุที่เป็นพลาสติกที่ให้ความรู้สึกแบบกล้าใช้กล้าวางโดยไม่ต้องใส่เคส



ฝาหลังเป็นแบบขอบโค้งช่วยให้ถือได้สะดวกขึ้น และมีการจารึกโลโก้ทรูไว้เด่นชัดที่แผ่นหลัง เมื่อเปิดออกมาก็เป็นช่องใส่ซิมและ microSD โดยใช้ซิมขนาดปรกติคู่กับขนาดไมโคร ...แต่ที่แปลกหน่อยก็คือช่อง microUSB สำหรับชาร์จเครื่องถูกวางไว้ด้านบน ต่างจากมือถือส่วนใหญ่ที่วางไว้ด้านล่าง เมื่อมองที่ภาพรวมของวัสดุและงานประกอบ ก็ถือว่าทำได้ดีสำหรับมือถือที่มีราคาเต็ม 2,990 บาท



UI ของรุ่นนี้มาแบบสไตล์จีนในแบบที่ไม่มี app drawer ในลักษณะคล้ายกับ iPhone และอาจเป็นเพราะผมไม่ค่อยได้สัมผัส Lenovo มานานมาก เลยทำให้รู้สึกว่า UI รุ่นนี้ทำได้ลงตัวกว่าเดิมเยอะ ทั้งในส่วนของ Quick Settings ด้านบนและหน้า Settings ที่ยืนอยู่บนพื้นฐานของ Android 5.1.1



นอกจากนี้ Lenovo ยังได้ดึงคุณสมบัติการแจ้งเตือนระหว่างปิดหน้าจออย่าง Ambient Display ที่จะแจ้งเตือนด้วยหน้าจอเฉดสีขาว-ดำ ซึ่งเป็นความสามารถที่มีอยู่บน Nexus และหาได้ยากจากรุ่นอื่นๆ

รุ่นนี้มีระบบตั้งเวลาสำหรับเปิด-ปิดเครื่อง และยังมีปุ่มลัดสำหรับจับภาพหน้าจออยู่ที่แถบด้านบน ซึ่งน่าจะตอบโจทย์สำหรับลูกค้ากลุ่ม entry level ที่มักไม่ชินกับการจับภาพหน้าจอแบบกดปุ่ม Power+Vol Down

ในแง่ความเร็วของ Snapdragon 210 บน True Lenovo 4G VIBE C จากการทดสอบ AnTuTu ก็พบความกระตุกในช่วง render 3D แต่เสียงก็มาแบบไม่มีสะดุด หรืออาจบอกได้ว่าตัวประมวลผลกราฟฟิกยังไม่ดีพอ... ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไรเพราะมือถือราคาเกือบหมื่นบางรุ่นยังกระตุกเลย

และเมื่อทดสอบเล่นเกม EvilBane ก็พบว่าช่วงโหลดระหว่างเปลี่ยนฉากเข้าเกมก็ไม่ทันใจเท่าไร และเมื่อเข้าสู่ช่วงการต่อสู้จริงๆ ก็สามารถเล่นได้ แต่ก็มีการกระตุกนิดๆ ให้เห็นอยู่เป็นระยะ ซึ่งก็ไม่ได้กระตุกมากจนทำให้หงุดหงิดอะไรขนาดนั้น ...ทั้งที่เป็น Snapdragon 210 แต่ทำได้ลื่นขนาดนี้ ผมก็รู้สึกว่ามันค่อนข้างเกินความคาดหมายอยู่พอสมควร แต่ก็อาจเป็นเพราะการใช้หน้าจอที่ความละเอียดไม่สูง เลยทำให้เครื่องไม่ต้องแบกภาระประมวลผลมากเกินไป ส่งผลให้ทำงานได้ลื่นไหลมากขึ้นนั่นเอง

ในช่วงแรกที่เริ่มเปิดเครื่องใช้งาน ผมรู้สึกว่ามันค่อนข้างหน่วงเอาเรื่อง แต่ผมก็ให้โอกาสตัวเครื่องได้พิสูจน์ตัวเอง เพราะผมเคยใช้มือถือแพงๆ ที่มีอาการหน่วงในช่วงแรกอย่างเช่น Nexus 5x หรือ Nexus 6p แต่พอใช้ไปราวๆ 1 วันให้ระบบต่างๆ มันลงตัวก็ลื่นไหลมากขึ้นครับ



แต่หลังจากที่ผมติดตั้งแอพสำหรับ benchmark และเกม EvilBane ก็มีคำเตือนว่าพื้นที่ใกล้เต็ม เลยเข้าไปดูใน Settings ก็เห็นว่ารุ่นนี้สามารถโยกแอพไปไว้ที่ microSD ได้ครับ ...แต่การย้ายมันก็ไม่ได้ไปทั้งหมด เพราะแต่ละแอพยังคงต้องการใช้พื้นที่ในตัวเครื่องอยู่ด้วย สุดท้ายแล้วผมก็ต้องลบ EvilBane ออกไปเพราะตัวเกมกินพื้นที่ไปราว 1.6 GB เลยทีเดียว



และเนื่องด้วยหลังกล่องเขียนไว้ชัดเจนว่ารุ่นนี้รองรับเครือข่ายทรูเท่านั้น ด้วยความอยากรู้ผมเลยลองเอาซิมค่ายอื่นเสียบเข้าไปที่ slot 2 และพบว่ามันสามารถรับสายได้แต่โทรออกไม่ได้ ...และในส่วน UI ของการโทรก็มีปุ่มแยกการโทรออกทั้ง 2 ซิมชัดเจน รวมถึงสามารถบันทึกเสียงการสนทนาได้อีกด้วย

มาในส่วนของการทดสอบเรื่องความปลอดภัย ผมลองสแกนหา malware บนมือถือเครื่องนี้ด้วย Avast และ AVG และผลก็คือปรกติสุขปลอดภัยดีไม่มีสิ่งแปลกปลอมเจือปนครับ



ส่วนเรื่องของกล้องถ้ามองในความเป็นมือถือราคานี้ก็คงไม่คาดหวังอะไรมาก ขอแค่เก็บภาพได้ก็น่าจะโอเคแล้วล่ะ

บทสรุป

จากประสบการณ์ส่วนตัวกับมือถือราคาราวๆ 2,000 บาท เห็นว่ากลุ่มผู้ใช้มักเป็นผู้ใหญ่วัย Analog ที่ต้องการมือถือไว้ใช้อะไรนิดๆ หน่อยๆ แค่ถ่ายรูปและแชทกับลูกหลานหรือเพื่อนฝูง ซึ่งผมคิดว่าความเร็วระดับนี้ก็ไม่น่าเป็นปัญหาสำหรับคนกลุ่มนี้ ...อีกกลุ่มที่ผมเจอบ่อยก็คือซื้อมาเป็นเครื่องสำรองหรือเอาไว้แชร์เน็ต แบบนั้นก็ยิ่งไม่ต้องการสเป็กเครื่องที่หรูหราอะไรมากมาย

แม้ว่า True Lenovo 4G VIBE C เครื่องนี้จะไม่หวือหวามากมาย แต่ก็ถือว่าทำได้ดีสำหรับราคาระดับนี้ และน่าจะตอบโจทย์หลายๆ ท่านด้วยล่ะ