[CR] เช็คอินคันไซ สไตล์มนุษย์เงินเดือน(น้อย) งบหมื่นกว่าบาทก็สนุกแบบครบเครื่อง (ตอนจบ)

เช็คอินคันไซ สไตล์มนุษย์เงินเดือน(น้อย) งบหมื่นกว่าบาทก็สนุกแบบครบเครื่อง
วันที่1-2
http://pantip.com/topic/35381354

วันที่สาม
วันนี้พวกเราตื่นเช้ามากครับเพราะจะไปเกียวโต โดยออกจากรร.กัน6.30น.ครับ ก็เหมือนเดิมครับไปขึ้นรถไปที่อุเมดะ วันรีบเร่งแบบนี้เลยพึ่งข้าวห่อสาหร่ายจากfamilymartเอาครับ ขอบอกว่ารถไฟไปเกียวโตนี่คนแน่นมากครับ ผมไม่ได้นั่งเลย ยืนไปตลอดสายยาวไปๆครับ ขบวนไปเกียวโตทำให้ได้เห็นการใช้ชีวิตของคนญี่ปุ่น ไม่ว่าเป็นนักเรียนหรือพนักงานออฟฟิศที่มุ่งหน้าไปเกียวโตเหมือนผมต่างเร่งรีบ(เดินกึ่งวิ่ง)และในขบวนรถไฟนี่อัดเป็นปลากระป๋องเลย ยืนโหนราวแล้วก็ยังหลับได้ด้วย สามารถฝุดๆ

นี่ก็ถึงสถานีเกียวโตแล้วครับ เป็นไงล่ะ คนเพียบ

ทริปวันนี้จะไปตามกูรูที่เคยช่วยลำดับสถานที่ให้ครับ คือพอไปถึงช่วงเช้า7.30น. ให้ไปศาลเจ้าฟูชิมิ อินาริก่อนเลย เพราะที่นี่เปิด24ชม.ครับโดยการเดินทางสามารถใช้kansai through pass ลงสถานีเกียวโตแล้วซื้อตั๋วJRเพิ่มเพื่อต่อไปยังสถานีInariได้เลย


มาแล้วครับ เสาแดงๆแบบนี้ นับว่าเป็นแลนด์มาร์คที่ต้องมาเช็คอิน แล้วที่นี่เพิ่งได้โหวตให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันดับต้นๆของญี่ปุ่นเลยนะครับ


พวกเราเดินไม่สุดนะครับ เอาแค่พอเหงื่อซึมๆ และได้รูปเป็นที่ระลึกก็เดินย้อนกลับแล้ว ใช้เวลาอยู่ที่นี่ชั่วโมงกว่าๆ  อ้อลืมบอกว่าที่นี่เข้าฟรีด้วย

ที่ต่อไปก็คือวัดทอง kinkakuji อย่าสับสนกับวัดเงินนะครับเพราะชื่อคล้ายๆกัน วัดเงินคือ ginkakuji แต่ทั้งสองวัดนี้อยู่ห่างกันไปเลย
การเดินทางจากฟูชิมิ อินาริคือนั่งJRย้อนไปลงสถานีเกียวโต ขึ้นมาบนถนนแล้วเจอทาวเวอร์ก็แชะภาพสักหน่อย

จากตรงนี้ข้ามถนนไปขึ้นรถเมล์ครับ จะมีป้ายบนเกาะกลางถนน มีจนท.จัดคิวให้ด้วย ผมนั่งสาย205ไปลงป้ายkinkakujiเลยครับ จะบอกว่าบัตรkansai through passนั่งรถเมล์ที่เกียวโตฟรีด้วยนะครับ นั่งมาสัก40นาทีก็ถึงแล้วครับวัดทอง kinkakuji ก่อนถึงทางเข้าก็จัดไอติมและโมจิชาเขียวไปแบบชิลๆแล้วค่อยเดินเข้าวัดทอง

ผมมาถึงกันก็สิบโมงกว่าแล้ว เห็นคณะทัวร์เดินแถวมาพวกเรารีบspeedไปก่อนเลยครับ ซื้อตั๋วเสร็จสรรพก็เดินเข้าไปชมความงามสถาปัตยกรรมกัน แต่บอกตามตรงว่าอยู่ไม่นานครับ ประมาณชั่วโมงนึงก็เดินออกแล้วเพราะมวลมหาทัวร์จีนลงกันรัวๆ ขากลับนี่ไม่ต้องเดินไปขึ้นรถป้ายเดิมก็ได้ครับ ผมขึ้นรถเมล์ป้ายขวามือตรงหน้าวัดเลย จับสาย53เพื่อไปหาอะไรทานมื้อเที่ยงที่ในตัวเมืองครับ น่าจะใกล้ๆย่านgion เราเลือกร้านnagasaki champonครับ ติดใจตอนไปกินที่ฟุกุโอกะ
สั่งไซส์ใหญ่สุดทุกจานครับ เพื่อมาแบ่งกันทาน ร้านนี้เค้ามีชามเล็กๆให้มาแบ่งทานกันได้ครับ


อันนี้เป็นเกี๊ยวซ่าsignatureของร้านครับ ทอดทั้งวงเลย แบบยังไม่ตัด อร่อยมากครับ


เติมพลังกันเสร็จก็เดินมาขึ้นรถเมล์ป้ายตรงข้ามกับที่ลงเพื่อขึ้นรถเมล์ไปวัดน้ำใส kiyomisu temple ขึ้นสายอะไรนั้นก็เหมือนเดิมครับถามคนญี่ปุ่นเอาครับ เท่าที่สังเกตสายรถเมล์ที่ผ่านสถานที่ท่องเที่ยวดังๆคนจะยืนรอเยอะมากครับ พอขึ้นรถ207มาได้10นาทีก็ถึงแล้วครับวัดน้ำใส แต่ต้องเดินขึ้นไปอีกครับราวๆ1ชม.เลย

ระหว่างทางเดินเส้นนี้นักท่องเที่ยวนิยมเช่าชุดกิโมโนมาใส่มากเลย น่ารักดีครับ ชุดที่ใส่นะครับ555

ในที่สุดก็ถึงซะที รีบซื้อตั๋วเลยครับแต่ยังต้องเดินขึ้นไปตัววัดอีกนะ T T

พอถึงตัววัดแล้วก็ฟินกับบรรยากาศมากๆ อยากอยู่รอพระอาทิตย์ตกที่นี่

แต่ก็เกรงใจเพื่อนสมาชิก ก็เลยไหว้พระขอพรแล้วเดินลงกลับมา

ยามเย็นแบบนี้ที่ที่ผมจะไปต่อก็คือgionครับ นั่งรถเมล์ฝั่งตรงข้ามกับวัดน้ำใสกลับมาแป๊บเดียวก็ถึงgionแล้ว

ร้านรวงที่gionแปลกครับ ปิดประตูกันหมดเลยแบบว่าถ้าใครจะทานอะไรต้องพอรู้ว่าร้านไหนขายอะไร หรืออาจดูจากป้ายเล็กๆที่ติดหน้าร้าน ผมไม่ได้แวะชิมร้านไหนเลยครับ รีบกลับมาพักร่างที่รร.ดีกว่า ทริปวันนี้เลยจบเท่านี้เพราะหลังจากgionผมก็กลับมาหาอะไรทานแถวรร.ครับ





วันที่สี่
วันนี้ไม่พลาดแล้วครับ ใช้osaka amazing passแน่นอน แต่ก่อนอื่นขอเติมพลังมื้อเช้ากันก่อนครับแถวๆอุเมดะ อ่านรีวิวมาเค้าบอกมาเที่ยวญี่ปุ่นหน้าร้อนต้องห้ามพลาดเมนูปลาไหล




จากนั้นเราเริ่มลุยของฟรีจากpassนี้กันครับ



จากนั้นผมก็จะไปนั่งชิงช้าtempozan giant wheel กับล่องเรือsanta mariaครับ สองที่นี้อยู่ย่านเดียวกัน คือลงรถไฟสถานีosakakuแล้วเดินไปตามป้ายเลยครับ จะบอกว่าถ้าใครมา สามารถจัดมื้อเที่ยงระหว่างทางเดินไปชิงช้าได้เลย มีทั้งร้านsukiya ร้านเนื้อย่าง น่าทานมากๆ
เรือsanta mariaจะออกทุกชั่วโมงครับ แต่เราต้องมาเข้าคิวก่อนเรือออกอย่างน้อย15นาที ดูเวลาแล้วผมเลยไปนั่งชิงช้าก่อน ไม่ต้องรอคิวครับ(ยกเว้นตู้พื้นกระจกใส)

รูปวิวจากชิงช้าเบลอนะครับขอไม่ลงนะเพราะนั่งสั่นกลัวความสูงอยู่  นั่งได้15นาทีก็ลงไปต่อคิวเรือครับ ผมมาก่อนเรือออก20นาที ได้ขึ้นรอบ12.00น. (ขอบอกว่าควรมาขึ้นรอบ11.00 หรือไม่ก็12.00น.ให้ได้ครับ เพราะพอออกจากเรือแล้วเป็นรอบ13.00น.คนต่อแถวยาวเหยียดเลย)


ผ่านสะพานminatoด้วยครับ แปลกดีแฮะถ่ายภาพมาสักหน่อย
ล่องเรือใช้เวลา45นาที


จากนั้นพวกเราไปตลาดkuromonต่อครับ เพื่อไปหามื้อเที่ยงกัน เพราะพวกเราอยากจัดsushi sashimiมากๆ เลยไปร้านตามลายแทงครับ หยิบเลือกจากตู้แช่ที่เค้าทำออกมาสดๆ แล้วไปจ่ายเงิน แล้วก็ถือไปนั่งโต๊ะที่เค้าจัดไว้ให้ครับ  สำหรับคอปลาแซลมอน สามารถเลือกเป็นชื้นใหญ่ๆแล้วให้เค้าแล่สดๆได้เลยครับ
เท่าที่สั่งก็มีเท่านี้ครับกินกันสี่คน ปลาอะไรบ้างก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าหวาน สด และชิ้นหนา ใหญ่เอาซะมากๆ สะใจสมาชิกที่มากันครับ แต่จะบอกว่าร้านนี้ราคาสูงนิดนึง  หากเดินเลยร้านนี้ไปนิดจะมีอีกร้านอยู่ขวามือขายเหมือนกันซึ่งแล่ปลาชิ้นบางกว่าหน่อย แต่ราคาต่างกันเกือบครึ่งครับ ก็เอาไว้เป็นทางเลือกดูได้ครับ



จากนั้นผมก็มาตะลุยย่านนัมบะ-ดงทงบุริ ครับ วางแผนไว้ว่าเอานัมบะก่อนแล้ววันสุดท้ายค่อยมาเก็บซินไชบาชิ
มาทั้งทีขอกินsignatureของที่นี่สักหน่อยนึง




พอได้เวลา18.30น. ก็นั่งรถไฟไปอุเมดะครับ จะไปชมวิวเมืองโอซาก้าก่อนจบทริปวันนี้
จากสถานีอุเมดะไปumeda sky buildingไกลเหมือนกันครับ เดินประมาณ40นาทีได้
ในที่สุดก็ถึงครับ


สงสัยจะเป็นน่าร้อนครับ ที่ฟ้ามืดช้ามาก ทำให้ไฟตามตึกต่างๆก็เปิดช้าไปด้วย ผมรอจนเกือบสองทุ่มก็ได้เท่าที่เห็นในภาพ เซ็งเบยยยย เพราะฝนก็พรำๆลงมาแล้ว ทำให้ต้องถอยทัพกลับรร. เพราะบริเวณจุดชมวิวเค้าห้ามกางร่มครับ ไม่แน่ใจว่าเค้ากลัวบังวิวคนอื่นหรือกลัวถูกฟ้าผ่า55


วันที่ห้า วันสุดท้าย
วันนี้เริ่มต้นสายกว่าทุกวันที่ผ่าน คือประมาณเจ็ดโมงครึ่ง ก็ไปทานมื้อเช้ากันแถวอุเมดะเหมือนเดิม



แล้วก็กลับมาสถานีนัมบะ นั่งรถไฟไปนารา นาร้า นารา กันครับ โดยผมแพลนไว้เป็นนาราครึ่งวันเช้า
บรรยากาศเมืองนาราดูสงบร่มรื่นดี



ที่หน้าสถานีนาราก็ขึ้นรถเมล์มาnara parkเลยครับ ค่ารถเมล์ต่อเที่ยวค่อนข้างแพงครับ 210เยน

วันนี้ที่นารา จะเรียกว่าgreen day ก็ดูเหมาะสมดีครับ




กวางที่นี่เชื่องมากๆ ไม่ตื่นคน ให้ลูบหัวลูบหลังได้หมด ผมมีขนมข้าวทอดเค็มๆจากไทยมาด้วย เลยเอามาป้อนน้องกวางซะเลย ไม่ต้องซื้อเซมเบ้ที่ขายกัน150เยนแต่มีนิดเดียวเอง

จากnara parkสามารถเดินต่อเข้าไปวัดหลวงโทไดจิได้เลยครับ


จากนั้นก็กลับมาที่ย่านซินไชบาชิ แวะห้างyodobashi ระหว่างทางไปเจอทาโกะยากิร้านนี้หมึกเป็นดุ้นเลย

แล้วก็มาต่อที่นัมบะเพื่อหามื้อเที่ยงก่อนกลับไปรร.แพ็กของกลับไทย

สรุปค่าตั๋วเครื่องบิน6360,ค่ารร.4คืน4000,ค่ารถไฟรถเมล์2600,ค่าเข้าสถานที่ต่างๆ1000บาท,ค่ากิน4000 รวมๆก็ราว18000บาทครับ
ชื่อสินค้า:   โอซาก้า เกียวโต นารา โกเบ ฮิเมจิ ญี่ปุ่น ไม่แพง
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่