ขอเล่าความประทับใจของคอนเสิร์ต Butterfly Kiss in Seoul นะครับ
ก่อนอื่นต้องขอบคุณเพื่อนที่อยู่เกาหลีที่เป็นธุระจัดหาตั๋วมาให้ จองตั๋วเองตอนเปิดจองไม่ทัน เร็วมาก มีตั๋วรอบละไม่ถึง 3 พันใบ ไม่กี่นาทีก็หมด เพื่อนก็ไปจัดตั๋วผีมาให้ในราคาโหดระดับหนึ่ง แต่ยังไงมันก็ไม่แพงกว่าตั๋วเครื่องบินหรอกว่ะ 555 ได้ตั๋วแบบดีมากๆ คือรอบที่ 2 Zone F1 แถว 1 ที่นั่งหมายเลข 12 (หมายเลข 15 คือตรงมุมด้านในสุด) ราคาตั๋วที่นี่ไม่แพงนะครับ ราคาป้าย 110,000KRW เท่านั้น ประมาณ 3,300 บาท ที่นั่งดีขนาดนี้ถ้าเป็นคอน SNSD ที่เมืองไทยก็ 6,000 บาท
ผมไปถึง Olympic Hall ที่ ซัก 2 โมงกว่าๆ (คอนเริ่ม 4 โมง) วันนั้นเป็นวันอากาศร้อนมหาโหดสำหรับบ้านเขา (32-33C) แดดเปรี้ยงๆ เดินเข้ามาจากสถาณีรถไฟ เข้ามาในโอลิมปิคปาร์ค กว่าจะมาถึงโอลิมปิกฮอลล์ ก็เหงื่อท่วมแล้ว Olympic Hall สถานที่จัดคอนครั้งนี้ เป็นคอนเสิร์ตฮอลขนาดเล็กจิ๋ว ปกติเห็นว่าความจุ 2,500 ที่นั่ง คอนแทยอนยัดมากหน่อยเห็นว่าเกือบ 3,000 ถึงนั่งแถวบนก็ไม่ห่างเวทีเหมือน Impact หน้าคอนก็มีขายของที่ระลึกตามปกติ ตอนผมมาก็เหลือไม่กี่อย่างแล้ว ผมซื้อแท่งไฟกับพัดแทยอน พัดได้เอามาใช้เลยตรงนั้นเลย
ชอบรถโปรโมต สวยงาม ในรถมีแผ่น why ขาย
เนื่องจากคนไม่เยอะ ที่นั่งก็มีหมายเลขตายตีว ผมก็ไม่รู้ว่าน้องๆ พวกนี้จะไปต่อแถวตากแดดให้มันร้อนทำไม ผมงี้ไปนั่งรอประตูเปิดใต้ต้นไม้ร่มๆ
ซัก 3 โมงกว่าๆ เขาเปิดให้เข้าครับ คนน้อยเข้าแป๊บเดียวก็หมด และจากที่ผมเข้าไปหลังจากพวกต่อแถวตากแดด มันก็ยังไม่เต็มฮอลล์ คงมีพวกรู้แนวไม่รีบร้อนเข้ามาอีกเยอะ
เข้ามานั่งถ่ายรูปเวทีตอนยังไม่เล่น ยังโดนดุ สต๊าฟดุจริงๆ ข้างๆ ผมก็ก๊วนตั๋วผีรายเดียวกัน ข้างซ้ายเป็นน้องผู้หญิงเกาหลี ข้างขวาเป็นคุณลุงจากญี่ปุ่น (จากการพูดคุยอายุ 58!!!) ถัดจากลุงมีป้าชาวญี่ปุ่น อายุน่าจะไม่หนีลุงซักเท่าไหร่ แต่ไม่ได้มากะลุงนะ
อันนี้ fan project มีภาษาอังกฤษให้อ่าน แต่ดันไม่แปลข้อความในป้าย ระหว่างรอคอนเริ่มผมเลยถามน้องข้างๆ น้องก็บอกมาแบบผมฟังแล้วยังงงๆ หน่อยๆ เลยใช้ google แปลดู ก็คล้ายๆ กับที่น้องเขาบอกครับ
คอนเสิร์ตเริ่มตรงเวลาครับ set list ประมาณนี้
จาก set list จะเห็นว่า จัดหนักจัดเต็มมาเกือบหมดทุกเพลง รวมทั้งเพลง ost เก่าๆ ถึง 3 เพลง และเพลงโฆษณาอีก 2 (atlantis princess กะเพลงน้ำเจจู) เพลงเด่นๆ ที่ขาดไปผมนึกออกแค่ set me free เท่านั้น
ที่เด็ดคือทุกเพลง นอกจากเพลงเดี่ยวของ Dean (D-halfmoon) ที่มาร้องคั่นหลังจาก Why ตอนรอเแทยอนปลี่ยนชุด มีวงดนตรีชุดใหญ่และนักร้องคอรัสมาเล่นสด นักดนตรีเล่นเนี๊ยบมาก แทยอนก็ร้องได้ดีทุกเพลง เพลงเต้นเยอะๆ ที่ใช้ไมค์คาดหัวเสียงอาจดรอปไปเล็กน้อย โดยรวมแนวสดนี่ผมรู้สึกดีกว่าฟัง backing track + lip sync บางเพลง แบบคอน SNSD เยอะเลย แทยอนร้องเพลงได้เยี่ยมยอดมากๆ ประทับใจสุดๆ เพลงช้าช่วง OST ก็อินเนอร์มาเต็ม เพลงเร็วก็ร้องได้มีสีสันดี
บนเวทีมีทีม backup dancers ชุดเดียวกับในเพลง why dance version มาเต้นให้ในเพลงเร็ว และบางเพลงมีสาวๆ pole dance อีก 4 คนมาเต้นรูดเสาด้วย
ช่วงคุยพูดไรมั่งผมฟังไม่รู้เรื่อง แต่มีทักแฟนเป็นภาษาอื่นด้วย มีญี่ปุ่นพูดเยอะหน่อย ส่วนจีน กะไทย มีแค่สวัสดีค่ะ แค่นี้ก็กรี๊ดกันสนั่นแล้ว (จากเสียงกรี๊ดมีคนไทยหลายคนนะ)
ตอนเพลงโฆษณาน้ำดื่มเจจู แทยอนเอาไข่เขย่าที่มีขายเป็นของที่ระลึกมาสอนเขย่าประกอบเพลงด้วย ผมไม่ได้ซื้อมาเพราะไม่รู้ว่าไอ้ที่มันเรียกว่า egg shake มันคืออะไร โชคดีที่น้องสาวเกาหลีที่นั่งข้างๆ เอามาให้ยืมเขย่าเล่นอันนึง (1 ชุดมีไข่ 2 ฟอง)
งานโปรดักชั่นของคอนเสิร์ต จัดว่าดีมากๆ แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจ ความคิดสร้างสรรค์เยี่ยม เทคนิคแสง effect ก็สวยงาม ผมชอบเพลง starlight ที่แทยอนถือแว่นขยายปริซึ่มกระจายแสงมากระจายแสงเลเซอร์สีขาวเป็นสีรุ้ง ระหว่างเดินจาก main stage มาตรงยื่นๆ ซ้ายทีขวาที เป็นเทคนิคที่สวยงามน่ารักเข้ากะเพลงสุดๆ
VCR Cutscene ทุกอันทำมาอย่างสวยงาม การถ่ายภาพสวยมากๆ ใน VCR บางอันแทยอนร้อง cover เพลงให้ฟังเล่นแบบเต็มเพลงอีกต่างหาก ผมชอบ VCR เพลงของ Nell - Time Walking On Memory (기억을 걷는 시간) มากเป็นพิเศษ ทำมายังกะเป็น MV ถ่ายภาพสวยสุดๆ VCR อีกอันที่น่าประทับใจคือ Uptown Funk ที่แทยอนเล่น MV กะทีมแดนเซอร์แบบขำๆ ลองไปหาดูและฟังใน youtube ได้
ในคอนมีเพลงใหม่ที่ยังไม่ release 1 เพลง คือ Pray เป็น soft ballad เพราะทีเดียว เพลงนี้ก็หาฟังใน youtube ได้
อังกอร์มีทีเด็ดคือ Gee แบบร้องคนเดียว แดนเซอร์ทั้งหญิงทั้งชายมาเต้น gee อารมณ์แบบเอาฮา
โปรดักชั่นคอนเสิร์ตระดับ 5 ดาวขนาดนี้ ลงทุนไม่ต่างจากคอน snsd world tour เลย ส่วนตัวผมคิดว่าคงไม่มีแค่คอนเสิร์ตเฉพาะในเกาหลีแน่ เพราะ Seoul 2 รอบ ไม่ถึง 6,000 คนเอง ปูซานก็ประมาณนี้ ผมคิดว่ามีโอกาสสูงที่จะมีคอนเสิร์ตนอกประเทศนะ ยังไงขอให้มีไทยละกัน จะไปดูอีกรอบ
รูปถ่ายทั้งหมด ถ่ายด้วย Samsung Galaxy S7 edge (ไม่ได้ค่าโฆษณา)
คอนเสิร์ตจบวลาประมาณ 18.20 รวมเวลาประมาณ 2.20ขม.
ความประทับใจพิเศษตอนจบ มาจากลุงชาวญี่ปุ่นที่นั่งข้างๆ ให้ไฟ Girl & Peace Japan 3rd Tour มาให้เป็นที่ระลึก ^^ ลุงน่ารักมาก
ของที่ระลึกที่เก็บกลับมา

- CD Why + โปสเตอร์ใหญ่มากๆ ขนมาลำบากทีเดียว
- แท่งไฟ Butterfly Kiss
- พัด
- แท่งไฟ Love & Peace จากคุณลุง
ของที่ระลึกที่อยากได้แต่มันหมด
- สมุดภาพระบายสี + การ์ด
- พวงกุญแจ
- ไข่เขย่า (ไม่หมด แต่ตอนนั้นไม่รู้ว่ามันคืออะไร)
[CR] [K-Pop] รีวิวคอนเสิร์ตแทยอน Taeyon Butterfly Kiss in Seoul
ก่อนอื่นต้องขอบคุณเพื่อนที่อยู่เกาหลีที่เป็นธุระจัดหาตั๋วมาให้ จองตั๋วเองตอนเปิดจองไม่ทัน เร็วมาก มีตั๋วรอบละไม่ถึง 3 พันใบ ไม่กี่นาทีก็หมด เพื่อนก็ไปจัดตั๋วผีมาให้ในราคาโหดระดับหนึ่ง แต่ยังไงมันก็ไม่แพงกว่าตั๋วเครื่องบินหรอกว่ะ 555 ได้ตั๋วแบบดีมากๆ คือรอบที่ 2 Zone F1 แถว 1 ที่นั่งหมายเลข 12 (หมายเลข 15 คือตรงมุมด้านในสุด) ราคาตั๋วที่นี่ไม่แพงนะครับ ราคาป้าย 110,000KRW เท่านั้น ประมาณ 3,300 บาท ที่นั่งดีขนาดนี้ถ้าเป็นคอน SNSD ที่เมืองไทยก็ 6,000 บาท
ผมไปถึง Olympic Hall ที่ ซัก 2 โมงกว่าๆ (คอนเริ่ม 4 โมง) วันนั้นเป็นวันอากาศร้อนมหาโหดสำหรับบ้านเขา (32-33C) แดดเปรี้ยงๆ เดินเข้ามาจากสถาณีรถไฟ เข้ามาในโอลิมปิคปาร์ค กว่าจะมาถึงโอลิมปิกฮอลล์ ก็เหงื่อท่วมแล้ว Olympic Hall สถานที่จัดคอนครั้งนี้ เป็นคอนเสิร์ตฮอลขนาดเล็กจิ๋ว ปกติเห็นว่าความจุ 2,500 ที่นั่ง คอนแทยอนยัดมากหน่อยเห็นว่าเกือบ 3,000 ถึงนั่งแถวบนก็ไม่ห่างเวทีเหมือน Impact หน้าคอนก็มีขายของที่ระลึกตามปกติ ตอนผมมาก็เหลือไม่กี่อย่างแล้ว ผมซื้อแท่งไฟกับพัดแทยอน พัดได้เอามาใช้เลยตรงนั้นเลย
ชอบรถโปรโมต สวยงาม ในรถมีแผ่น why ขาย
เนื่องจากคนไม่เยอะ ที่นั่งก็มีหมายเลขตายตีว ผมก็ไม่รู้ว่าน้องๆ พวกนี้จะไปต่อแถวตากแดดให้มันร้อนทำไม ผมงี้ไปนั่งรอประตูเปิดใต้ต้นไม้ร่มๆ
ซัก 3 โมงกว่าๆ เขาเปิดให้เข้าครับ คนน้อยเข้าแป๊บเดียวก็หมด และจากที่ผมเข้าไปหลังจากพวกต่อแถวตากแดด มันก็ยังไม่เต็มฮอลล์ คงมีพวกรู้แนวไม่รีบร้อนเข้ามาอีกเยอะ
เข้ามานั่งถ่ายรูปเวทีตอนยังไม่เล่น ยังโดนดุ สต๊าฟดุจริงๆ ข้างๆ ผมก็ก๊วนตั๋วผีรายเดียวกัน ข้างซ้ายเป็นน้องผู้หญิงเกาหลี ข้างขวาเป็นคุณลุงจากญี่ปุ่น (จากการพูดคุยอายุ 58!!!) ถัดจากลุงมีป้าชาวญี่ปุ่น อายุน่าจะไม่หนีลุงซักเท่าไหร่ แต่ไม่ได้มากะลุงนะ
อันนี้ fan project มีภาษาอังกฤษให้อ่าน แต่ดันไม่แปลข้อความในป้าย ระหว่างรอคอนเริ่มผมเลยถามน้องข้างๆ น้องก็บอกมาแบบผมฟังแล้วยังงงๆ หน่อยๆ เลยใช้ google แปลดู ก็คล้ายๆ กับที่น้องเขาบอกครับ
คอนเสิร์ตเริ่มตรงเวลาครับ set list ประมาณนี้
จาก set list จะเห็นว่า จัดหนักจัดเต็มมาเกือบหมดทุกเพลง รวมทั้งเพลง ost เก่าๆ ถึง 3 เพลง และเพลงโฆษณาอีก 2 (atlantis princess กะเพลงน้ำเจจู) เพลงเด่นๆ ที่ขาดไปผมนึกออกแค่ set me free เท่านั้น
ที่เด็ดคือทุกเพลง นอกจากเพลงเดี่ยวของ Dean (D-halfmoon) ที่มาร้องคั่นหลังจาก Why ตอนรอเแทยอนปลี่ยนชุด มีวงดนตรีชุดใหญ่และนักร้องคอรัสมาเล่นสด นักดนตรีเล่นเนี๊ยบมาก แทยอนก็ร้องได้ดีทุกเพลง เพลงเต้นเยอะๆ ที่ใช้ไมค์คาดหัวเสียงอาจดรอปไปเล็กน้อย โดยรวมแนวสดนี่ผมรู้สึกดีกว่าฟัง backing track + lip sync บางเพลง แบบคอน SNSD เยอะเลย แทยอนร้องเพลงได้เยี่ยมยอดมากๆ ประทับใจสุดๆ เพลงช้าช่วง OST ก็อินเนอร์มาเต็ม เพลงเร็วก็ร้องได้มีสีสันดี
บนเวทีมีทีม backup dancers ชุดเดียวกับในเพลง why dance version มาเต้นให้ในเพลงเร็ว และบางเพลงมีสาวๆ pole dance อีก 4 คนมาเต้นรูดเสาด้วย
ช่วงคุยพูดไรมั่งผมฟังไม่รู้เรื่อง แต่มีทักแฟนเป็นภาษาอื่นด้วย มีญี่ปุ่นพูดเยอะหน่อย ส่วนจีน กะไทย มีแค่สวัสดีค่ะ แค่นี้ก็กรี๊ดกันสนั่นแล้ว (จากเสียงกรี๊ดมีคนไทยหลายคนนะ)
ตอนเพลงโฆษณาน้ำดื่มเจจู แทยอนเอาไข่เขย่าที่มีขายเป็นของที่ระลึกมาสอนเขย่าประกอบเพลงด้วย ผมไม่ได้ซื้อมาเพราะไม่รู้ว่าไอ้ที่มันเรียกว่า egg shake มันคืออะไร โชคดีที่น้องสาวเกาหลีที่นั่งข้างๆ เอามาให้ยืมเขย่าเล่นอันนึง (1 ชุดมีไข่ 2 ฟอง)
งานโปรดักชั่นของคอนเสิร์ต จัดว่าดีมากๆ แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจ ความคิดสร้างสรรค์เยี่ยม เทคนิคแสง effect ก็สวยงาม ผมชอบเพลง starlight ที่แทยอนถือแว่นขยายปริซึ่มกระจายแสงมากระจายแสงเลเซอร์สีขาวเป็นสีรุ้ง ระหว่างเดินจาก main stage มาตรงยื่นๆ ซ้ายทีขวาที เป็นเทคนิคที่สวยงามน่ารักเข้ากะเพลงสุดๆ
VCR Cutscene ทุกอันทำมาอย่างสวยงาม การถ่ายภาพสวยมากๆ ใน VCR บางอันแทยอนร้อง cover เพลงให้ฟังเล่นแบบเต็มเพลงอีกต่างหาก ผมชอบ VCR เพลงของ Nell - Time Walking On Memory (기억을 걷는 시간) มากเป็นพิเศษ ทำมายังกะเป็น MV ถ่ายภาพสวยสุดๆ VCR อีกอันที่น่าประทับใจคือ Uptown Funk ที่แทยอนเล่น MV กะทีมแดนเซอร์แบบขำๆ ลองไปหาดูและฟังใน youtube ได้
ในคอนมีเพลงใหม่ที่ยังไม่ release 1 เพลง คือ Pray เป็น soft ballad เพราะทีเดียว เพลงนี้ก็หาฟังใน youtube ได้
อังกอร์มีทีเด็ดคือ Gee แบบร้องคนเดียว แดนเซอร์ทั้งหญิงทั้งชายมาเต้น gee อารมณ์แบบเอาฮา
โปรดักชั่นคอนเสิร์ตระดับ 5 ดาวขนาดนี้ ลงทุนไม่ต่างจากคอน snsd world tour เลย ส่วนตัวผมคิดว่าคงไม่มีแค่คอนเสิร์ตเฉพาะในเกาหลีแน่ เพราะ Seoul 2 รอบ ไม่ถึง 6,000 คนเอง ปูซานก็ประมาณนี้ ผมคิดว่ามีโอกาสสูงที่จะมีคอนเสิร์ตนอกประเทศนะ ยังไงขอให้มีไทยละกัน จะไปดูอีกรอบ
รูปถ่ายทั้งหมด ถ่ายด้วย Samsung Galaxy S7 edge (ไม่ได้ค่าโฆษณา)
คอนเสิร์ตจบวลาประมาณ 18.20 รวมเวลาประมาณ 2.20ขม.
ความประทับใจพิเศษตอนจบ มาจากลุงชาวญี่ปุ่นที่นั่งข้างๆ ให้ไฟ Girl & Peace Japan 3rd Tour มาให้เป็นที่ระลึก ^^ ลุงน่ารักมาก
ของที่ระลึกที่เก็บกลับมา
- CD Why + โปสเตอร์ใหญ่มากๆ ขนมาลำบากทีเดียว
- แท่งไฟ Butterfly Kiss
- พัด
- แท่งไฟ Love & Peace จากคุณลุง
ของที่ระลึกที่อยากได้แต่มันหมด
- สมุดภาพระบายสี + การ์ด
- พวงกุญแจ
- ไข่เขย่า (ไม่หมด แต่ตอนนั้นไม่รู้ว่ามันคืออะไร)