[SR] [Mr. Coffee รีวิว 6/2559] ขุนพันธ์ (ไม่สปอยล์) : โม้ได้โล่ มันได้เลือด มั่วได้เรื่อง

ขุนพันธ์‬ - แอคชั่น แฟนตาซี ไสยศาสตร์ อาคม คาถา โม้สะบั้น มันสุดๆ ภาพสวย cg พอทน และห่างไกลกับหนังสารคดีชีวประวัติ ส่วนตัวชอบมาก!


     สวัสดีครับ ไม่ได้เจอกันเสียนาน คงเพราะหนังไทยขาดช่วงไป หลบหนัง Summer จากทาง Hollywood ด้วย ก็เลยหายหน้าหายตากันไป และเมื่อวานนี้ ผมก็ได้มีโอกาสชมหนังไทยอีกครั้ง กับหนังไทยเรื่อง "ขุนพันธ์" ในรอบสื่อมวลชน ต้องขอขอบคุณทางสหมงคลฟิล์ม มา ณ ที่นี้ด้วยครับ

     ขุนพันธ์ เป็นหนังไทยที่ผมรอคอยมานานมากครับ น่าจะเกิน 2 ปีเป็นอย่างน้อย ตั้งแต่มีข่าวว่า พี่โขม - ก้องเกียรติ โขมสิริ จะเป็นผู้กำกับ ซึ่งเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจอย่างยิ่งของตำรวจมือปราบระดับตำนานของเมืองไทย พลตำรวจตรี ขุนพันธรักษ์ราชเดช (บุตร พันธรักษ์) ผู้ปราบโจรชื่อดังมากมายมาทั่วประเทศไทย ไม่ว่าโจรผู้ร้ายรายใดจะมีข่าวว่าอยู่ยงคงกระพัน ยิงฟันไม่เข้า ก็โดนขุนพันธ์ปราบเสียทุกรายไป รวมถึงชื่อเสียงความชำนาญด้านไสยศาสตร์ เวทมนตร์ ของขลัง อาคม คาถา ตรงพิสูจน์ได้ยากแต่การที่ขุนพันธ์ ท่านอายุยืนยาวกว่า 103 ปี ทั้งที่ปราบโจรชื่ดังมากมาย ก็คงพอบอกเป็นนัยๆได้

      ตัวอย่างหนังที่ออกมา ค่อนข้างผิดจากที่คาดไว้ เพราะผมคาดไว้ถึงหนังแนว "อันธพาล" ที่เป็นผลงานของพี่โขมมาก่อนหน้านี้ แต่เรื่องนี้มันออกแนวเกินจริงมากๆ ฉากหยุดกระสุน ที่เชื่อว่าหลายคนเห็นคงคิดว่า นี่มันหนังตำรวจมือปราบ หรือหนังตำรวจยอดมนุษย์กันแต่ แต่ถึงอย่างไร การแสดงของ น้อย วงพรู ในบท “อะแวสะดอ ตาเละ” นั้นช่างดึงดูดให้เข้าไปดูเสียจริง

      ช่วงแรก หนังเปิดเรื่องมาด้วยสไตล์ค่อนข้างโบราณ แต่ก็ดูเข้ากับหนัง สิ่งที่เห็นชัดเจนคือ ถึงแม้จะมีการใช้ Voice Over พูดนำเรื่องบ้าง แต่ในบางช่วง ตัวหนังก็ออกจะดูรวบรัดแปลก ที่สิ่งที่ทำได้ดีอย่างชัดเจน ก็เห็นจะเป็นฉากต่างๆ อุปกรณ์ เครื่องแต่งกาย ที่ทำออกมาได้มาตรฐานสูงมากสำหรับหนังไทย อีกทั้งงานภาพที่ทำได้สวยงาม จนมันทำให้ผมหลงลืมความไม่ปะติดปะต่อของการเล่าเรื่องไปเฉยเลย ส่วนฉากต่อสู้นั้นมันมากครับ ออกจะโม้แต่สนุกใช้ได้

     ช่วงกลาง เมื่อเนื้อเรื่องพาเข้าสู่การเจอกันของยอดตำรวจกับยอดขุนโจร ความโม้ก็เริ่มทะลุพิกัด สิ่งที่ได้เห็นเริ่มเกินกว่าความเป็นหนังชีวประวัติที่ผมคาดไว้ไปไกลลิบ พลังพิเศษที่ใช้กัน ไม่ได้น้อยหน้ายอดมนุษย์ของ Marvel เลย ไม่ต้องพูดถึงความประหยัดประสุนปืนและความแม่นยำในการยิงปืนของขุนพันธ์ ที่ไม่เห็นพลาดสักนัด ยังมีพลังพิเศษเข้ามาช่วย เพียงแค่ร่ายมนตร์ โอ้โห ทั้งยอดตำรวจทั้งยอดขุนโจร ไป Avenger  ได้เลยล่ะครับ ไม่ขอบรรยายมากดีกว่า ถ้าอยากรู้ว่าโม้ขนาดไหนต้องไปดูเอง

     การที่หนังเน้นฉาก Action บู๊ ล้างผลาญ เลือดสาด ทำให้เส้นเรื่องดราม่าที่หนังพยายามจะปูทั้งด้านความรัก การเมือง ปัญหาสังคม ฯลฯ มันดูโดดไม่ต่อเนื่องอย่างยิ่ง น่าเสียดายที่หนังเอาบทตรงนี้ไม่อยู่ ความแกว่งทำให้การเข้าถึงดราม่าและประเด็นที่หนังต้องการค่อนข้างยาก ยิ่งการที่หนังเปิดประเด็นมาหลายทาง เช่น ว่าทำไมต้องเป็นโจร ปัญหาข้าราชการฉ้อราษฎร์บังหลวง จนไปถึงการขายชาติ ที่หนังพยายามจะไปให้ถึง ก็เลยขาดพลังไป

     ช่วงท้าย หนังเรื่องนี้เชื่อว่าคนดูคงพอจะเดาฉากจบได้ไม่ยากนัก แต่ผมมองว่า ถ้าหนังสามารถตีประเด็นลงลึกลงไปสู่ปัญหาต่างๆที่หนังโปรยมาได้มากกว่านี้ ก็คงจะดี เพราะผลจากการบู๊ระห่ำ โม้สะบั้นมาตลอดทั้งเรื่อง ย่อมจะให้โครงดราม่าเดิมที่วางไว้ให้ส่งอารมณ์ถึงคนดู ไม่ทำงานเอาง่ายๆ ส่วน End Credit นั้น (หนังเรื่องนี้มีฉาก End Credit นะครับ) ก็ยิ่งทำให้นึกถึงสไตล์ End Credit ของ Marvel เข้าไปใหญ่

     ในด้านการแสดง ที่โดดเด่นมากตั้งแต่ในตัวอย่าง ก็เห็นจะเป็น น้อย วงพรู ที่การแสดงในหนังทุกเรื่องของเขานั้น "สุดๆ" เรื่องก็เช่นเดียวกัน ส่วนอนันดา ก็ยังคงเป็นอนันดาที่แสดงได้ดี มีมาตรฐาน ฉากบู๊ก็ทำได้ดี ดูแล้วก็นึกถึงอินทรีแดง อีกคนที่ผมชื่นชอบการแสดงของเขาในเรื่องนี้ก็คือ แฟรงค์ The Star ที่มีแววการแสดงเจ๋งๆ มาตั้งแต่สมัยแสดงใน "อันธพาล" แล้ว ส่วนนักแสดงท่านอื่นก็ทำได้โอเคครับ จะมีติดขัดหน่อยสำหรับบางคนที่ต้องพูดภาษาใต้ ซึ่งยังดูขัดหูพอควร

     ส่วนที่ชอบในเรื่องนี้มีหลายอย่างเลยครับ ทั้งความสนุก มัน ลุ้น ซึ่งตรงนี้ก็อาจเป็นรสนิยมในการดูหนังของแต่ละคนด้วยนะครับ งานด้านฉาก ด้านภาพ ที่ดีและลงตัว ด้านเสียงมีฉากหนึ่งที่ผมชอบมาก เพราะสื่อได้ชัดเจนว่า ถ้าเราเป็นคนที่อยู่ในเหตุการณ์ อาการของหูของเรา จะเป็นอย่างไร และเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่จำนวนลูกกระสุนปืน ดูพอจะเชื่อถือได้ ไม่ใช่ว่ามีไม่จำกัดแบบในหนังหลายๆเรื่อง และที่สุดก็เห็นจะเป็นเรื่องของไสยศาสตร์ คาถาอาคมต่างๆ มันโม้ได้ใจผมจริงๆครับ

     ส่วนที่ไม่ชอบก็มีพอสมควรครับ ทั้งเรื่องของความต่อเนื่อง ความลื่นไหลของตัวหนัง ที่บางช่วงมันดูโดดๆ แต่บางช่วงดูอืด การรักษาสมดุลในจุดนี้ยังไม่ลงตัวนัก บางฉากก็ดูเป็น ละค้อน ละคร ไม่รู้ว่าพี่โขมไปติดบางส่วนมาจากตอนทำละครหรือเปล่า รวมถึง CGI ที่ยังค่อนข้างโดดออกมา อยู่ในระดับแค่พอรับได้เท่านั้น และประเด็นการเมือง ที่เหมือนแย่เข้าไปลึก แต่ไม่เขี่ยให้มันสะเทือนได้สักเท่าไรนัก

     ข้อสังเกตในบางฉากที่หลายคนอาจจะสงสัยว่า ลอกหนังชื่อดังมากหรือไม่ ตรงนี้ผมมองว่าเท่าที่ผมมีข้อมูล หนังเรื่องนี้ถ่ายทำมาก่อนหน้าที่หนังชื่อดังเรื่องนั้นจะออกฉายนะครับ การลอกซีนอะไรแบบนั้นที่รู้ว่าทำออกมาโดนด่าแน่ คงไม่มีผู้กำกับไทยคนไหนในยุคนี้ที่จะทำแบบนั้น ลอกฉากหนังดังระดับคอหนังดูทั้งเมืองมาใส่ที่ฆ่าตัวตายชัดๆ แต่ที่จริง ซีนแบบนี้ก็มีมาก่อนหนังชื่อดังเมื่อปีที่แล้วอีกนะครับ...

     สรุป - หนังเรื่องนี้ ถ้าใครชอบ ก็คงชอบไปเลย และคงมองผ่านข้อเสียไปได้อย่างง่ายดาย เพราะสนุกกับตัวหนัง แต่ถ้าใครไม่ชอบ หนังเรื่องนี้จะมีสิ่งขัดหูขัดตาท่านจนรำคาญได้อย่างง่ายดาย คอหนังบู๊ ที่ชอบหนังโม้ๆ เกินจริง น่าจะชอบหนังเรื่องนี้ แต่คอหนังบู๊สายเน้นความสมจริง หรือชอบหนัง "อันธพาล" ที่สมจริง อาจจะไม่ชอบหนังเรื่องนี้ได้ไม่ยากเช่นกัน ส่วนตัว ผมชอบมากครับ (ย้ำว่าส่วนตัว!) เพราะถ้ามองรวมๆ ข้อเสียมันก็ชัดจริงๆนั่นแหล่ะ แต่ผมดูเพลินมากๆ

ความคาดหวังก่อนชม / หลังชม – คาดหวังค่อนข้างสูง / แปลกกว่าที่หวังไว้??

เกรดหนัง – สไตล์ใครสไตล์มัน

คะแนนเฉลี่ย  6.75/10

****รีวิว เกรดหนัง และคะแนน อยู่บนพื้นฐานของหนังไทยเท่านั้น ไม่นำหนังเทศมารวมแต่อย่างใด***
ชื่อสินค้า:   ขุนพันธ์
คะแนน:     
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่