ปู้นๆ ฉึกฉัก ๆ ถึงก็ชั่งไม่ถึงก็ช่าง วันนี้ไม่ขอรีวิวสถานที่ท่อง แต่ขอเป็นการแชร์ประสบการณ์การนั่งรถไฟมาราธอนข้ามรัฐ ในอเมริกาดีกว่าค่ะ Amtrax คือ บริษัทรถไฟที่เป็นที่รู้จักในอเมริกา วิ่งระหว่างเมืองถึง 46 รัฐกันเลยทีเดียว และทริปนี้เป็นการเดินทางจากเมือง Paso Robles รัฐ California สู่เมืองAlbany รัฐ Oregonเป็นการเดินทางท่องเที่ยวข้ามรัฐในฝั่ง West รัฐ Oregon อยู่ติดกับ California ขึ้นไปทางเหนือ ระยะทาง 754 ไมล์ หรือ 1,206 กม.รวมระยะเวลา สู่จุดหมายปลายทางประมาณ 22 ชม. ถ้าเกิดการดีเลย์ หรือมีปัญหาระหว่างการเดินรถ ก็จะทำให้การเดินทางล่าช้าไปอีก เพราะฉะนั้นถ้าเลือกที่จะเดินทางโดยรถไฟ ต้องทำใจเรื่องเวลาค่ะ สรุปนั่งรถไฟข้ามรัฐครั้งนี้นานยิ่งกว่านั่งเครื่องบินกลับเมืองไทยอีกค่ะ
เรามาเริ่มเดินทางกันค่ะ นี่คือสถานีรถไฟ Paso Robles รัฐ Californiaเราจะขึ้นจากที่นี่ และที่นี่เขาก็มีบริการแจ้งข้อความผ่านโทรศัพท์หากรถไฟมีปัญหาหรือเกิดการล่าช้า ก็จะมีข้อความแจ้งให้ทราบค่ะ อย่างครั้งนี้ รถไฟของเราออก 16.30 น.มารอไม่ทันไรดันมี Message แจ้งเข้ามาว่า รถไฟจะดีเลย์ไป 1 ชม. แต่ถึงจะช้ายังไงก็เป็นประสบการณ์การเดินทางที่คุ้มค่าค่ะ
รถไฟมาแล้วค่า รถไฟที่นี่จะมี 2 ชั้น ชั้นแรกจะเป็นที่รู้กันว่าเหมาะสำหรับผู้สูงอายุ และคนพิการ เพราะฉะนั้นเวลาจองหรือเลือกที่นั่งคนปกติจะเลือกชั้นบนกัน ส่วนราคาตั๋วทริปนี้ ไปกลับก็ $200 พอดี เลือกแบบชั้นประหยัดถูกสุด ราคาจะถูกจะแพงก็ขึ้นอยู่กับว่าเราเลือกที่นั่งประเภทไหน ซึ่งก็มีทั้งแบบชั้นธรรมดา , Business Class ที่แพงสุดคือ Superliner roomette หรือรถนอนนั่นเอง ตู้นอนของที่นี่ ไฮโซ เก๋ไก๋ สะดวกสบายและแพงกว่านั่งเครื่องอีก ไว้มีโอกาสจะขอลองใช้บริการดูซักครั้ง ละจะมาเล่าสู่กันฟังนะคะ
และนี่ก็เป็นเบาะนั่งที่แสนจะสะดวกสบาย เพราะสามารถปรับเอนได้มาก แถมมีที่รองขา และที่รองเท้า สามารถปรับระดับสูงต่ำได้ตามใจชอบ บวกกับมีโต๊ะพับได้ สำหรับวางนู่นี่นั่น อ้อ.. ยังมีปลั๊กไฟให้สำหรับชารต์โทรศัพท์ข้างที่นั่งริมหน้าอีกด้วย ภาพนี้ขอยืมมาจากในเวป เพราะลืมถ่ายภาพนิ่งมาค่ะ
คราวนี้โชคนี้ไม่มีคนมาแชร์ที่นั่งข้างๆ ทำให้เราได้ที่นั่งเพิ่ม แถมได้ชมวิวทั้งในรถ (คู่นี้ สวีทวีดวิ้วจนตาร้อนเลย 555)
และวิวนอกรถแบบชิว ชิว นอนหลับเพลินยั่งกะนั่ง First class ไปเลย
ที่สุดของรถไฟขบวนนี้ต้องตู้นี้เลย Lounge car หรือตู้ชมวิว กระจกรอบทิศทางสามารถเสพวิว ถ่ายรูปได้อย่างจุใจ ที่ตรงนี้แหละที่เราสามารถพบกับมิตรภาพระยะสั้น และเพื่อนใหม่หลากหลายวัย พูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องราวก่อนจากกันไป ตรงนี้เป็นที่เปิด ว่างตรงไหนก็นั่งได้เลย บางคนถึงขั้นเอาผ้าห่มมานอนตอนกลางคืนเลยก็มี
ถัดจากตู้ชามวิว คือ Dining Car ตู้เสบียงค่ะ จะทานอาหารที่นี่ต้องจองก่อนนะคะ โดยเฉพาะมื้อกลางวันและมื้อเย็น ยกเว้นมื้อเช้าเท่านั้นที่ไม่ต้องจอง ส่วนเวลาให้บริการก็ตามนี้ค่ะ
Breakfast 6.30 am.-10.00 am.
Lunch 11.30 am.-3.00 am.
Dinner 5.00 pm.-9.30 pm.
ส่วนคนที่อยากกินอะไรง่ายๆ เขาก็มี Cafe car ให้บริการเช่นกัน มีขายทั้งเครื่องดื่ม กาแฟ แซนวิช เบอร์เกอร์ ขนมขบเคี้ยว สะดวกไม่สบายไม่ต้องกลัวหิว แต่ราคาอาหารบนรถไฟค่อนข้างแพง ถ้าจะให้ดีเอาพกไปกินเองจะอร่อยและถูกกว่าค่ะ บริเวณนี้ก็จะมีโต๊ะให้นั่งกินข้าวและชมวิวเพลินๆ แถมให้อีกเช่นกัน
สำหรับคนที่ชอบเดินทางลองนั่งรถไฟในอเมริกาเที่ยวกันดูนะคะ สะอาด สะดวกสบาย และปลอดภัยมาก ฝรั่งที่นี่ส่วนใหญ่เป็นกันเองและเป็นมิตรมาก เป็นประสบการณ์ที่หาซื้อไม่ได้ ไม่มีขายที่ไหนนอกจากออกเดินทาง ถ้าไม่ก้าวก็ไม่มีวันถึงจุดหมายนะคะ แถมคลิปวิดิโอทิ้งท้ายที่ทำขึ้นระหว่างเดินทางมาให้ดูกันด้วยจ้า
[CR] 22 ชม.ลุยเดี่ยว นั่งรถไฟข้ามรัฐ แคลิฟอร์เนียสู่โอเรก้อน
เรามาเริ่มเดินทางกันค่ะ นี่คือสถานีรถไฟ Paso Robles รัฐ Californiaเราจะขึ้นจากที่นี่ และที่นี่เขาก็มีบริการแจ้งข้อความผ่านโทรศัพท์หากรถไฟมีปัญหาหรือเกิดการล่าช้า ก็จะมีข้อความแจ้งให้ทราบค่ะ อย่างครั้งนี้ รถไฟของเราออก 16.30 น.มารอไม่ทันไรดันมี Message แจ้งเข้ามาว่า รถไฟจะดีเลย์ไป 1 ชม. แต่ถึงจะช้ายังไงก็เป็นประสบการณ์การเดินทางที่คุ้มค่าค่ะ
รถไฟมาแล้วค่า รถไฟที่นี่จะมี 2 ชั้น ชั้นแรกจะเป็นที่รู้กันว่าเหมาะสำหรับผู้สูงอายุ และคนพิการ เพราะฉะนั้นเวลาจองหรือเลือกที่นั่งคนปกติจะเลือกชั้นบนกัน ส่วนราคาตั๋วทริปนี้ ไปกลับก็ $200 พอดี เลือกแบบชั้นประหยัดถูกสุด ราคาจะถูกจะแพงก็ขึ้นอยู่กับว่าเราเลือกที่นั่งประเภทไหน ซึ่งก็มีทั้งแบบชั้นธรรมดา , Business Class ที่แพงสุดคือ Superliner roomette หรือรถนอนนั่นเอง ตู้นอนของที่นี่ ไฮโซ เก๋ไก๋ สะดวกสบายและแพงกว่านั่งเครื่องอีก ไว้มีโอกาสจะขอลองใช้บริการดูซักครั้ง ละจะมาเล่าสู่กันฟังนะคะ
และนี่ก็เป็นเบาะนั่งที่แสนจะสะดวกสบาย เพราะสามารถปรับเอนได้มาก แถมมีที่รองขา และที่รองเท้า สามารถปรับระดับสูงต่ำได้ตามใจชอบ บวกกับมีโต๊ะพับได้ สำหรับวางนู่นี่นั่น อ้อ.. ยังมีปลั๊กไฟให้สำหรับชารต์โทรศัพท์ข้างที่นั่งริมหน้าอีกด้วย ภาพนี้ขอยืมมาจากในเวป เพราะลืมถ่ายภาพนิ่งมาค่ะ
คราวนี้โชคนี้ไม่มีคนมาแชร์ที่นั่งข้างๆ ทำให้เราได้ที่นั่งเพิ่ม แถมได้ชมวิวทั้งในรถ (คู่นี้ สวีทวีดวิ้วจนตาร้อนเลย 555)
และวิวนอกรถแบบชิว ชิว นอนหลับเพลินยั่งกะนั่ง First class ไปเลย
ที่สุดของรถไฟขบวนนี้ต้องตู้นี้เลย Lounge car หรือตู้ชมวิว กระจกรอบทิศทางสามารถเสพวิว ถ่ายรูปได้อย่างจุใจ ที่ตรงนี้แหละที่เราสามารถพบกับมิตรภาพระยะสั้น และเพื่อนใหม่หลากหลายวัย พูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องราวก่อนจากกันไป ตรงนี้เป็นที่เปิด ว่างตรงไหนก็นั่งได้เลย บางคนถึงขั้นเอาผ้าห่มมานอนตอนกลางคืนเลยก็มี
ถัดจากตู้ชามวิว คือ Dining Car ตู้เสบียงค่ะ จะทานอาหารที่นี่ต้องจองก่อนนะคะ โดยเฉพาะมื้อกลางวันและมื้อเย็น ยกเว้นมื้อเช้าเท่านั้นที่ไม่ต้องจอง ส่วนเวลาให้บริการก็ตามนี้ค่ะ
Breakfast 6.30 am.-10.00 am.
Lunch 11.30 am.-3.00 am.
Dinner 5.00 pm.-9.30 pm.
ส่วนคนที่อยากกินอะไรง่ายๆ เขาก็มี Cafe car ให้บริการเช่นกัน มีขายทั้งเครื่องดื่ม กาแฟ แซนวิช เบอร์เกอร์ ขนมขบเคี้ยว สะดวกไม่สบายไม่ต้องกลัวหิว แต่ราคาอาหารบนรถไฟค่อนข้างแพง ถ้าจะให้ดีเอาพกไปกินเองจะอร่อยและถูกกว่าค่ะ บริเวณนี้ก็จะมีโต๊ะให้นั่งกินข้าวและชมวิวเพลินๆ แถมให้อีกเช่นกัน
สำหรับคนที่ชอบเดินทางลองนั่งรถไฟในอเมริกาเที่ยวกันดูนะคะ สะอาด สะดวกสบาย และปลอดภัยมาก ฝรั่งที่นี่ส่วนใหญ่เป็นกันเองและเป็นมิตรมาก เป็นประสบการณ์ที่หาซื้อไม่ได้ ไม่มีขายที่ไหนนอกจากออกเดินทาง ถ้าไม่ก้าวก็ไม่มีวันถึงจุดหมายนะคะ แถมคลิปวิดิโอทิ้งท้ายที่ทำขึ้นระหว่างเดินทางมาให้ดูกันด้วยจ้า