7
คู่หมั้น
โดย ฮาร์โมนิก้า
บรรยากาศยามเช้าในฤดูร้อนที่ไร่องุ่นทิวอลลี่ให้ความรู้สึกอบอุ่นสบาย
แอชลี่ย์จอดรถก่อนเดินนำแจนนาเพื่อนสาวตรงเข้าไปในวิลล่า กลิ่นกาแฟหอมกรุ่นปนกับกลิ่น
เบคอนทอดกรอบ กลิ่นครัวซองท์อบใหม่และกลิ่นเนยสร้างบรรยากาศน่าสบายให้กับบ้านไร่จน
แจนผิวปากหวิวอย่างถูกใจ
“อืม มื้อเช้านี้น่าจะอร่อย ฉันได้กลิ่นครัวซองท์ด้วยนะ” แจนนาทักน้ำเสียงมีความสุข
“อืม มื้อนี่เป็นมื้อพิเศษมั้ง ต้อนรับเธอ ปกติมีแต่ขนมปังปิ้ง ไม่เคยเห็นครัวซองท์” แอชลี่ย์พูด
หลิ่วตาให้เพื่อน
“เขาคงต้อนรับคนอื่นด้วยล่ะ ไม่ใช่แค่ฉัน” แจนนาแย้ง “นั่นไง มีคนอื่นจริงด้วย”
ร็อดจอดรถต่อจากแอชลี่ย์และกำลังเดินตามเข้ามาในบ้าน แบรดลงมายืนรออยู่ที่โถงด้านหน้า
รอต้อนรับแขก
“เชิญครับ” เขากล่าวแล้วเดินนำไปห้องรับประทานอาหารเช้าบริเวณหลังบ้าน เปิดออกสู่สระ
ว่ายน้ำและทิวทัศน์ในหุบเขาซึ่งปลูกไร่องุ่นกว้างลึกลงไปสุดตา ที่ดินต่อลงไปในหุบเขาถนน
หลวงด้านล่าง ตรงข้ามฟากถนนเป็นฟาร์มแกะขนาดใหญ่ แลเห็นแกะสีขาวๆ เป็นดุจก้อนสำลี
แผ่เต็มกระจายเป็นหย่อมเล็กใหญ่ ตัดกับฉากหลังสีเขียวของต้นไม้และทุ่งหญ้ากว้างในหุบเขา
“วันนี้เรามีแขกเพิ่มอีกคนนะครับ ด็อทตี้เป็นพยาบาลประจำไร่ที่คุณยายผมจ้างไว้ประจำห้องพยาบาล
ด็อทตี้มาทำงานสัปดาห์ละสี่วัน ศุกร์เสาร์อาทิตย์หยุด แต่ศุกร์นี้บังเอิญมิเรียมลูกสาวมาเรียป่วย
ด็อทตี้เลยแวะมาช่วยดูแลเบื้องต้น หากเป็นอะไรมากจึงค่อยพาส่งหมอ ผมเลยชวนด็อทตี้มารับ
ประทานมื้อเช้ากับเราด้วย”
แบรดอธิบายยาว เมื่อพูดจบก็พอดีกับที่หญิงสาววัยประมาณยี่สิบห้าปี ร่างเล็กบางจนเกือบเหมือนเด็ก
ผมสีทองดวงตาสีเทาท่าทางทะมัดแทมงเดินเข้ามาพร้อมถาดครัวซองท์ เมื่อเห็นแอชลี่ย์พยาบาลสาว
มีท่าทีตกใจ เธอชะงักและจ้องหน้าแอชลี่ย์อยู่หลายวินาทีก่อนยิ้มกลบเกลื่อน
“ด็อทตี้ครับ นี่แอชลี่ย์ ซิมมอนด์ แจนนา เอียน และร็อด คาร์สัน เพื่อนของผม แล้วก็นี่ด็อทตี้ โอไบรสัน”
แบรดแนะนำทุกคนให้รู้จักกัน ขณะที่ด็อทตี้ดูจะประหลาดใจเมื่อได้ยินชื่อแอชลี่ย์ ทว่าเธอก็รักษามารยาท
ไม่พูดอะไร และกล่าวเชิญแอชลี่ย์กับแจนนาให้ลงนั่งก่อนที่ตัวเองจะเลือกที่นั่งที่เหลือ
แอชลี่ย์เขม้นมองพยาบาลสาวผู้นี้อย่างไม่สบอารมณ์นัก เธอดูเป็นคนมีน้ำใจ ช่วยมาเรียจัดการอาหารเช้า
และลำเลียงมาจัดโต๊ะ แถมยังเชื้อเชิญคนอื่นให้นั่งก่อนตัวเอง หากแต่แอชลี่ย์รู้สึกขัดตาอย่างบอกไม่ถูก
เพราะการช่วยเหลือทำโน่นนี่และยังเชิญแขกนั่งโต๊ะมันเหมือนด็อทตี้กำลังทำตัวเป็นเจ้าของบ้านไม่ใช่แขก
“มิสโอไบรสัน คุณมาอยู่ที่นี่นานแล้วหรือคะ” แจนนาชวนสนทนาตามมารยาท
พยาบาลสาวยิ้มเหลือบมองแอชลี่ย์อีกครั้งก่อนก้มหน้า ผมสีทองสลวยปล่อยยาวประบ่าและหวีเป๋ไว้ข้างหนึ่ง
ทำให้มันปรกหน้าด้านหนึ่งตลอดเวลา “ราวสี่ปีแล้วค่ะ แต่เพิ่งมาทำงานที่ไร่นี้ได้สองปีกว่า”
“ฟังสำเนียงเหมือนไม่ใช่คนที่นี่นะคะ” แจนนาตั้งข้อสังเกต
“ค่ะ ฉัน…มาจากออสเตรเลียค่ะ แอดเดอเลด” ด็อทตี้ตอบเร็ว
“แอดเดอเลดหรือ ตายจริง ความรู้ภูมิศาสตร์ฉันแย่มากเลย ช่วยหน่อยค่ะร็อด แอดเดอเลดอยู่ใกล้ไกลจาก
ซิดนี่ย์แค่ไหนคะ สารภาพค่ะว่ารู้จักชื่อแค่ไม่กี่เมืองในออสเตรเลีย และที่จริงก็ไม่เคยไปประเทศนี้มาก่อนเลย”
แจนนาบ่น
“แอดเดอเลด เป็นเมืองที่น่าอยู่มากครับ ไม่หนาวมาก เงียบสงบ ว่าแต่ทำไมจึงย้ายมาอยู่ที่นี่ล่ะครับ” ร็อดตอบ
แจนนาก่อนหันไปสานต่อการสนทนากับด็อทตี้
“อยากเห็นอะไรใหม่ๆ มั้งคะ” ด็อทตี้ตอบเลี่ยง
“ปกติคุณทำงานที่โรงพยาบาลหรือครับ” ร็อดถามอีก
“ค่ะ เป็นพยาบาลฝึกหัดที่โรงพยาบาลในดันนีดิน จนเห็นโฆษณารับพยาบาลประจำไร่ที่นี่ก็เลยสมัครมาค่ะ”
“อยู่ที่นี่ชอบมั้ยครับ คิดถึงบรรยากาศในโรงพยาบาลรึเปล่า” ร็อดยังคงซักไซร้
“ที่นี่ก็สงบดีนะคะ แต่เคสน้อย โอกาสฝึกฝนก็น้อยตามไปบ้าง แต่ฉันชอบความสงบของไร่นี้ค่ะ ฉันทำงานที่นี่
สัปดาห์ละสี่วัน วันหยุดที่เหลือก็เป็นพยาบาลพิเศษที่โรงพยาบาลในเกรย์เมาท์ ก็มีโอกาสศึกษาเคสมากขึ้น”
“ทำไมจึงไปเกรย์เมาท์ล่ะครับ ที่นี่ก็มีโรงพยาบาลนี่” แอชลี่ย์เริ่มไม่แน่ใจว่าร็อดซักถามตามมารยาทหรือ
สนใจด็อทตี้ขึ้นมาเป็นพิเศษ เพราะเขาแทบจะเข้าคุมการสนทนาต่อจากแจนนาเลยทีเดียว
ด็อทตี้อ้ำอึ้งนิดหนึ่ง “ค่ะ คือ ที่นี่ไม่มีตำแหน่งว่างค่ะ ทานครัวซองท์มั้ยคะ ฉันเพิ่งช่วยมาเรียอบมา ร้อนๆ
จากเตาเลยค่ะ ถ้าไม่รีบทานตอนนี้จะน่าเสียดายมากนะคะ” เธอตอบแล้วเปลี่ยนเรื่องทันที
ร็อดยอมว่าตามโดยง่าย รับครัวซองท์มาใส่จาน แจนก็ด้วย แต่แอชลี่ย์กลับรู้สึกไม่ถูกชะตากับพยาบาลสาวผู้นี้
เธอไม่รับครัวซองท์ แต่กลับตั้งคำถามแทน “ไม่ทราบเราเคยเจอกันที่ไหนมาก่อนรึเปล่าคะมิสโอไบรสัน”
“เอ๊ะ ทำไมถามแบบนั้นคะคุณซิมมอนด์”
“ตอนเจอกันครั้งแรกดูคุณประหลาดใจที่เห็นฉัน ฉันเลยไม่แน่ใจว่าคุณเคยเจอฉันที่ไหนมาก่อนรึเปล่า”
“อ๋อ หน้าคุณคุ้นค่ะ แต่ไม่มีอะไรหรอก ฉันแค่รู้สึกว่าคุณหน้าคล้ายเพื่อนคนนึงของฉันเท่านั้น เธอผมแดงและ
ตาสีเขียว เป็นคนสวยน่ารักเหมือนคุณ เราสนิทกันเหมือนเป็นน้องสาวของฉันทีเดียว หวังว่าเราจะเป็นเพื่อนกัน
ได้เช่นกันนะคะมิสซิมมอนด์”
พยาบาลสาวผู้นี้มีวาทะศิลป์พอตัว คำพูดไม่กี่คำละลายความเป็นอริของแอชลี่ย์ลงไปได้กว่าครึ่งทีเดียว
“แน่นอนค่ะมิสโอไบรสัน เราเป็นเพื่อนกันได้แน่ ใช่มั้ยแจน” เธอหันไปดึงเพื่อนเข้ามารับลูกสนทนาต่อ
“ด้วยความยินดีค่ะคุณโอไบรสัน แต่เราคงต้องเป็นเพื่อนทางไกลกัน เพราะฉันจะกลับอังกฤษในอีกไม่กี่
สัปดาห์นี้แล้ว”
“นี่คุณตัดสินใจแน่นอนแล้วหรือครับแจนนา คุณไม่ชอบอยู่ที่นี่หรือ” ร็อดถามอย่างแปลกใจ
“ไม่คุ้นมากกว่าค่ะ อีกอย่าง ฉันมีข้อเสนอที่น่าสนใจที่ลอนดอน”
“น่าเสียดายจริง แล้วแอชลี่ย์ละครับ คุณมีแผนจะอยู่นี่ต่อหรือเปล่า”
“ฉันคิดว่าคงตามแจนนากลับน่ะค่ะ” แอชลี่ย์ตอบ ช้อนสายตามองแบรดนิดหนึ่งก่อนหันมายิ้มหวานกับร็อด
แบรดนั่งเงียบเป็นผู้สังเกตการณ์ตลอด ขณะที่ด็อทตี้คอยเอาใจตักโน่นส่งนี่ให้ทุกคนตลอดมื้ออาหาร ความ
เอื้อเฟื้อช่างเอาใจของด็อทตี้แม้จะทำให้แจนนารู้สึกชอบ แต่สำหรับแอชลี่ย์ เธอกลับยิ่งไม่ชอบใจมากขึ้น
ทว่า รูปร่างหน้าตาที่ดูจืดชืดแบบด็อทตี้ไม่คู่ควรที่ผู้หญิงสวยเซ็กซี่สะดุดตาแบบแอชลี่ย์จะต้องกังวล พยาบาล
สาวไม่มีทางเป็นคู่แข่งของเธอได้แน่ ถ้าเป็นมาเรีย ซีโมนแม่บ้านนั่นยังมีโอกาสมากกว่า
จริงสิ แม่บ้านคนสวยแม่ลูกอ่อนผู้ไร้สามีคนนั้นก็ไม่เคยแสดงท่าทีเป็นมิตรกับแอชลี่ย์เช่นกัน
รักในรอยฝัน บทที่ 7 คู่หมั้น
คู่หมั้น
โดย ฮาร์โมนิก้า
บรรยากาศยามเช้าในฤดูร้อนที่ไร่องุ่นทิวอลลี่ให้ความรู้สึกอบอุ่นสบาย
แอชลี่ย์จอดรถก่อนเดินนำแจนนาเพื่อนสาวตรงเข้าไปในวิลล่า กลิ่นกาแฟหอมกรุ่นปนกับกลิ่น
เบคอนทอดกรอบ กลิ่นครัวซองท์อบใหม่และกลิ่นเนยสร้างบรรยากาศน่าสบายให้กับบ้านไร่จน
แจนผิวปากหวิวอย่างถูกใจ
“อืม มื้อเช้านี้น่าจะอร่อย ฉันได้กลิ่นครัวซองท์ด้วยนะ” แจนนาทักน้ำเสียงมีความสุข
“อืม มื้อนี่เป็นมื้อพิเศษมั้ง ต้อนรับเธอ ปกติมีแต่ขนมปังปิ้ง ไม่เคยเห็นครัวซองท์” แอชลี่ย์พูด
หลิ่วตาให้เพื่อน
“เขาคงต้อนรับคนอื่นด้วยล่ะ ไม่ใช่แค่ฉัน” แจนนาแย้ง “นั่นไง มีคนอื่นจริงด้วย”
ร็อดจอดรถต่อจากแอชลี่ย์และกำลังเดินตามเข้ามาในบ้าน แบรดลงมายืนรออยู่ที่โถงด้านหน้า
รอต้อนรับแขก
“เชิญครับ” เขากล่าวแล้วเดินนำไปห้องรับประทานอาหารเช้าบริเวณหลังบ้าน เปิดออกสู่สระ
ว่ายน้ำและทิวทัศน์ในหุบเขาซึ่งปลูกไร่องุ่นกว้างลึกลงไปสุดตา ที่ดินต่อลงไปในหุบเขาถนน
หลวงด้านล่าง ตรงข้ามฟากถนนเป็นฟาร์มแกะขนาดใหญ่ แลเห็นแกะสีขาวๆ เป็นดุจก้อนสำลี
แผ่เต็มกระจายเป็นหย่อมเล็กใหญ่ ตัดกับฉากหลังสีเขียวของต้นไม้และทุ่งหญ้ากว้างในหุบเขา
“วันนี้เรามีแขกเพิ่มอีกคนนะครับ ด็อทตี้เป็นพยาบาลประจำไร่ที่คุณยายผมจ้างไว้ประจำห้องพยาบาล
ด็อทตี้มาทำงานสัปดาห์ละสี่วัน ศุกร์เสาร์อาทิตย์หยุด แต่ศุกร์นี้บังเอิญมิเรียมลูกสาวมาเรียป่วย
ด็อทตี้เลยแวะมาช่วยดูแลเบื้องต้น หากเป็นอะไรมากจึงค่อยพาส่งหมอ ผมเลยชวนด็อทตี้มารับ
ประทานมื้อเช้ากับเราด้วย”
แบรดอธิบายยาว เมื่อพูดจบก็พอดีกับที่หญิงสาววัยประมาณยี่สิบห้าปี ร่างเล็กบางจนเกือบเหมือนเด็ก
ผมสีทองดวงตาสีเทาท่าทางทะมัดแทมงเดินเข้ามาพร้อมถาดครัวซองท์ เมื่อเห็นแอชลี่ย์พยาบาลสาว
มีท่าทีตกใจ เธอชะงักและจ้องหน้าแอชลี่ย์อยู่หลายวินาทีก่อนยิ้มกลบเกลื่อน
“ด็อทตี้ครับ นี่แอชลี่ย์ ซิมมอนด์ แจนนา เอียน และร็อด คาร์สัน เพื่อนของผม แล้วก็นี่ด็อทตี้ โอไบรสัน”
แบรดแนะนำทุกคนให้รู้จักกัน ขณะที่ด็อทตี้ดูจะประหลาดใจเมื่อได้ยินชื่อแอชลี่ย์ ทว่าเธอก็รักษามารยาท
ไม่พูดอะไร และกล่าวเชิญแอชลี่ย์กับแจนนาให้ลงนั่งก่อนที่ตัวเองจะเลือกที่นั่งที่เหลือ
แอชลี่ย์เขม้นมองพยาบาลสาวผู้นี้อย่างไม่สบอารมณ์นัก เธอดูเป็นคนมีน้ำใจ ช่วยมาเรียจัดการอาหารเช้า
และลำเลียงมาจัดโต๊ะ แถมยังเชื้อเชิญคนอื่นให้นั่งก่อนตัวเอง หากแต่แอชลี่ย์รู้สึกขัดตาอย่างบอกไม่ถูก
เพราะการช่วยเหลือทำโน่นนี่และยังเชิญแขกนั่งโต๊ะมันเหมือนด็อทตี้กำลังทำตัวเป็นเจ้าของบ้านไม่ใช่แขก
“มิสโอไบรสัน คุณมาอยู่ที่นี่นานแล้วหรือคะ” แจนนาชวนสนทนาตามมารยาท
พยาบาลสาวยิ้มเหลือบมองแอชลี่ย์อีกครั้งก่อนก้มหน้า ผมสีทองสลวยปล่อยยาวประบ่าและหวีเป๋ไว้ข้างหนึ่ง
ทำให้มันปรกหน้าด้านหนึ่งตลอดเวลา “ราวสี่ปีแล้วค่ะ แต่เพิ่งมาทำงานที่ไร่นี้ได้สองปีกว่า”
“ฟังสำเนียงเหมือนไม่ใช่คนที่นี่นะคะ” แจนนาตั้งข้อสังเกต
“ค่ะ ฉัน…มาจากออสเตรเลียค่ะ แอดเดอเลด” ด็อทตี้ตอบเร็ว
“แอดเดอเลดหรือ ตายจริง ความรู้ภูมิศาสตร์ฉันแย่มากเลย ช่วยหน่อยค่ะร็อด แอดเดอเลดอยู่ใกล้ไกลจาก
ซิดนี่ย์แค่ไหนคะ สารภาพค่ะว่ารู้จักชื่อแค่ไม่กี่เมืองในออสเตรเลีย และที่จริงก็ไม่เคยไปประเทศนี้มาก่อนเลย”
แจนนาบ่น
“แอดเดอเลด เป็นเมืองที่น่าอยู่มากครับ ไม่หนาวมาก เงียบสงบ ว่าแต่ทำไมจึงย้ายมาอยู่ที่นี่ล่ะครับ” ร็อดตอบ
แจนนาก่อนหันไปสานต่อการสนทนากับด็อทตี้
“อยากเห็นอะไรใหม่ๆ มั้งคะ” ด็อทตี้ตอบเลี่ยง
“ปกติคุณทำงานที่โรงพยาบาลหรือครับ” ร็อดถามอีก
“ค่ะ เป็นพยาบาลฝึกหัดที่โรงพยาบาลในดันนีดิน จนเห็นโฆษณารับพยาบาลประจำไร่ที่นี่ก็เลยสมัครมาค่ะ”
“อยู่ที่นี่ชอบมั้ยครับ คิดถึงบรรยากาศในโรงพยาบาลรึเปล่า” ร็อดยังคงซักไซร้
“ที่นี่ก็สงบดีนะคะ แต่เคสน้อย โอกาสฝึกฝนก็น้อยตามไปบ้าง แต่ฉันชอบความสงบของไร่นี้ค่ะ ฉันทำงานที่นี่
สัปดาห์ละสี่วัน วันหยุดที่เหลือก็เป็นพยาบาลพิเศษที่โรงพยาบาลในเกรย์เมาท์ ก็มีโอกาสศึกษาเคสมากขึ้น”
“ทำไมจึงไปเกรย์เมาท์ล่ะครับ ที่นี่ก็มีโรงพยาบาลนี่” แอชลี่ย์เริ่มไม่แน่ใจว่าร็อดซักถามตามมารยาทหรือ
สนใจด็อทตี้ขึ้นมาเป็นพิเศษ เพราะเขาแทบจะเข้าคุมการสนทนาต่อจากแจนนาเลยทีเดียว
ด็อทตี้อ้ำอึ้งนิดหนึ่ง “ค่ะ คือ ที่นี่ไม่มีตำแหน่งว่างค่ะ ทานครัวซองท์มั้ยคะ ฉันเพิ่งช่วยมาเรียอบมา ร้อนๆ
จากเตาเลยค่ะ ถ้าไม่รีบทานตอนนี้จะน่าเสียดายมากนะคะ” เธอตอบแล้วเปลี่ยนเรื่องทันที
ร็อดยอมว่าตามโดยง่าย รับครัวซองท์มาใส่จาน แจนก็ด้วย แต่แอชลี่ย์กลับรู้สึกไม่ถูกชะตากับพยาบาลสาวผู้นี้
เธอไม่รับครัวซองท์ แต่กลับตั้งคำถามแทน “ไม่ทราบเราเคยเจอกันที่ไหนมาก่อนรึเปล่าคะมิสโอไบรสัน”
“เอ๊ะ ทำไมถามแบบนั้นคะคุณซิมมอนด์”
“ตอนเจอกันครั้งแรกดูคุณประหลาดใจที่เห็นฉัน ฉันเลยไม่แน่ใจว่าคุณเคยเจอฉันที่ไหนมาก่อนรึเปล่า”
“อ๋อ หน้าคุณคุ้นค่ะ แต่ไม่มีอะไรหรอก ฉันแค่รู้สึกว่าคุณหน้าคล้ายเพื่อนคนนึงของฉันเท่านั้น เธอผมแดงและ
ตาสีเขียว เป็นคนสวยน่ารักเหมือนคุณ เราสนิทกันเหมือนเป็นน้องสาวของฉันทีเดียว หวังว่าเราจะเป็นเพื่อนกัน
ได้เช่นกันนะคะมิสซิมมอนด์”
พยาบาลสาวผู้นี้มีวาทะศิลป์พอตัว คำพูดไม่กี่คำละลายความเป็นอริของแอชลี่ย์ลงไปได้กว่าครึ่งทีเดียว
“แน่นอนค่ะมิสโอไบรสัน เราเป็นเพื่อนกันได้แน่ ใช่มั้ยแจน” เธอหันไปดึงเพื่อนเข้ามารับลูกสนทนาต่อ
“ด้วยความยินดีค่ะคุณโอไบรสัน แต่เราคงต้องเป็นเพื่อนทางไกลกัน เพราะฉันจะกลับอังกฤษในอีกไม่กี่
สัปดาห์นี้แล้ว”
“นี่คุณตัดสินใจแน่นอนแล้วหรือครับแจนนา คุณไม่ชอบอยู่ที่นี่หรือ” ร็อดถามอย่างแปลกใจ
“ไม่คุ้นมากกว่าค่ะ อีกอย่าง ฉันมีข้อเสนอที่น่าสนใจที่ลอนดอน”
“น่าเสียดายจริง แล้วแอชลี่ย์ละครับ คุณมีแผนจะอยู่นี่ต่อหรือเปล่า”
“ฉันคิดว่าคงตามแจนนากลับน่ะค่ะ” แอชลี่ย์ตอบ ช้อนสายตามองแบรดนิดหนึ่งก่อนหันมายิ้มหวานกับร็อด
แบรดนั่งเงียบเป็นผู้สังเกตการณ์ตลอด ขณะที่ด็อทตี้คอยเอาใจตักโน่นส่งนี่ให้ทุกคนตลอดมื้ออาหาร ความ
เอื้อเฟื้อช่างเอาใจของด็อทตี้แม้จะทำให้แจนนารู้สึกชอบ แต่สำหรับแอชลี่ย์ เธอกลับยิ่งไม่ชอบใจมากขึ้น
ทว่า รูปร่างหน้าตาที่ดูจืดชืดแบบด็อทตี้ไม่คู่ควรที่ผู้หญิงสวยเซ็กซี่สะดุดตาแบบแอชลี่ย์จะต้องกังวล พยาบาล
สาวไม่มีทางเป็นคู่แข่งของเธอได้แน่ ถ้าเป็นมาเรีย ซีโมนแม่บ้านนั่นยังมีโอกาสมากกว่า
จริงสิ แม่บ้านคนสวยแม่ลูกอ่อนผู้ไร้สามีคนนั้นก็ไม่เคยแสดงท่าทีเป็นมิตรกับแอชลี่ย์เช่นกัน