สำหรับผู้ที่อยากจะขับ Uber X ************ โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสิน เป็นความเชื่อส่วนบุคคล

บทเกริ่น
    บทความที่ท่านจะได้อ่านต่อไปจากนี้ เป็นความเห็นส่วนตัว และเป็นประสบการณ์จริงจากตัวของผู้เขียนเอง ดังนั้น อาจจะมีบางสิ่งที่ผิดจากความเป็นจริงก็ได้ หรืออาจจะเป็นความเข้าใจผิดของตัวผู้เขียนเอง ดังนั้นขอให้ทุกท่านใช้วิจารณญาณในการตัดสิน ว่าสิ่งใดถูก สิ่งใดผิด

มารู้จักกับ Uber คร่าวๆ
    Uber เป็นบริการรถรับจ้างในรูปแบบ application ที่ใช้ในการเรียกรถ และ ผู้ขับจะใช้ application ในการรับเรียก โดยมีรถให้บริการอยู่ 2 รูปแบบ (เนื่องจากในรูปแบบ Uber Moto ถูกระงับชั่วคราว)

     1. Uber Black หรือที่เราน่าจะรู้จักในชื่อ รถลีมูซีน ซึ่งเป็นรถหรู มีขนาดใหญ่ สะดวกสบายในการนั่ง ซึ่งคุณจะได้รับประสบการณ์ที่แตกต่างจาก Taxi ทั่วไปแน่นอน โดยทั่วไปจะเป็นรถ Camry , Accord , Fortunner , Pajero เป็นต้น ค่าบริการก็จะเริ่มต้นที่ 50 บาท +รถติดนาทีละ 2.50 บาท + ระยะทาง 14 บาท/กม. ซึ่งรวมทั้งหมดแล้วต้องไม่ต่ำกว่า 75 บาท
     2. Uber X ก็จะเป็นรถส่วนบุคคลที่เราเห็นทั่วไป เป็นรถขนาดกลาง ถึง ขนาดเล็ก เช่น March, Vios, City, Civic, Altis เป็นต้น ค่าบริการจะเริ่มต้นที่ 25 +รถติดนาทีละ 1 บาท + ระยะทาง 4.5 บาท/กม. ซึ่งรวมทั้งหมดแล้วต้องไม่ต่ำกว่า 45 บาท

วิธีการสมัคร เพื่อเป็นพาร์ทเนอร์กับ Uber
มาดูกันครับ ว่าสมัครยังไง ง่ายมาก ไม่น่าเชื่อว่าแค่ขั้นตอนง่ายๆ ก็สามารถออกไปขับรถได้ ในเวลาไม่เกิน 10 นาที
    1.    เข้าเว็บ drive.uberthai.com แล้วคลิกที่ สมัครที่นี่
    2.    จากนั้นทำการลงทะเบียน ใส่ชื่อ นามสกุล อีเมล์ หมายเลขโทรศัพท์ รหัสผ่าน เมืองที่เราอยู่ และรหัสเชิญ (ในกรณีทีมีพาร์ทเนอร์ชักชวนให้มาขับ ซึ่งจะได้รับเงินสมนาคุณ ทั้งคนชวนและคนที่ถูกชวน)
    3.    ระบบจะแจ้งให้ไปที่สำนักงานของ Uber เพื่อลงทะเบียนให้เสร็จสิ้น ไม่ต้องสนใจครับ ดำเนินการต่อเลย
    4.    หลังจากนั้นทำการโหลดสำเนา บัตรประชาชน ใบขับขี่ ทะเบียนรถ ใบเสร็จจ่ายภาษีรถ
    5.    จากนั้น รอ SMS แจ้งจากระบบว่าสามารถขับรถได้เลย

ส่วนของการสอบประวัติอาชญากรรม เอาไว้ทีหลังไม่ต้องรีบ ออกไปขับได้เลย

ที่สำคัญ รถของคุณต้องมีอายุไม่เกิน 10 ปีนะครับ

เมื่ออัศวินจะออกศึก ก็ต้องเรียนรู้อาวุธที่จะใช้
    เครื่องมือสำคัญในการออกไปเป็นพาร์ทเนอร์กับ Uber คือ รถ และ Smart Phone โดยคุณจะต้องโหลด application Uber partner มาไว้ในเครื่องก่อน ซึ่งรองรับทั้ง iOS และ Android ครับ



    ให้กรอกหมายเลขโทรศัพท์ หรือ อีเมล์ที่ได้ลงทะเบียน กรอกรหัสผ่าน ถ้ามีรถหลายคัน ก็ต้องเลือกก่อนครับ ว่าจะเอาคันไหนออกวิ่งบริการ หลังจากนั้นจะเข้าสู่หน้าจอการใช้งาน



บนหน้าจอก็จะมีเมนูให้ใช้งาน ดังภาพ ครับ ซึ่งเราสามารถที่จะดูรายได้ที่เราได้ ทั้งที่ผ่านมา และปัจจุบัน สามารถดูการให้คะแนนได้ และบัญชีผู้ใช้งาน สามารถตั้งค่าต่างๆ ได้

ส่วนด้านบนของจอ จะมีปุ่มสีฟ้า “ใช้งานแบบออนไลน์” หมายถึงถ้าเราพร้อมที่จะให้บริการ ให้เรากดที่ปุ่มนี้ ปุ่มสีฟ้าจะเปลียนเป็น ปุ่มสีดำ “ใช้งานแบบออฟไลน์” เท่านี้เราก็นั่งมองหน้าจอ รอลูกค้าเรียกได้เลยครับ
    เมื่อรถพร้อม แอพพร้อม จะรออะไร ก็เริ่มวิ่งได้เลย แต่..... เดี๋ยวก่อน ถ้าคุณออกไปวิ่งโดยที่ไม่รู้เลยว่าเค้ามีเงื่อนไข incentive ให้ด้วย คุณก็จะเหมือนออกไปเหนื่อยเปล่า ได้แค่ค่าน้ำมัน กับค่าก๋วยเตี๋ยวสักสองชาม

เงื่อนไข Incentive
    Uber มีการแจก Incentive ถ้าทำสามารถทำได้ตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในแต่ละสัปดาห์ไม่เหมือนกัน (ใครทำได้นี่โคตรเก่ง แท็กซี่มืออาชีพยังทำยากเลย) แต่ Uber บอกว่าทำได้ง่ายๆ เรามาดูตัวอย่าง ผมขอยกตัวอย่างแบบคนที่วิ่งแบบ Part time นะครับ

โปรโมชั่นอินเซนทีฟ
11 กรกฎาคม – 18 กรกฎาคม 2559

โปรโมชั่น 2 – SILVER
สำหรับโปรโมชั่น 2 นี้ ใช้หลักการเดียวกันกับโปรโมชั่น 1 เป๊ะๆ เพียงแต่ว่าคุณไม่จำเป็นต้องทำค่าโดยสารให้ได้ 3,700 บาท/สัปดาห์ ก็สามารถรับโปรโมชั่นอินเซนทีฟได้! พูดง่ายๆ คือเราเปิดโอกาสให้คุณขับและทำเงินได้ทุกเวลา สะดวกช่วงเวลาไหน ก็เลือกขับบล็อคนั้น หรือช่วงเวลาไหนขับยาก ก็ไม่ต้องกลัว เพราะทันทีที่เริ่มบล็อคใหม่ คุณก็มีโอกาสทำเงินใหม่อีกครั้ง
สำหรับประกันชั่วโมงรอบดึก SILVER ก็เพิ่มเหมือนกัน เป็น 200 บาท/ชั่วโมง จะตกโปรนี้หรือโปรไหน ยังไงก็ได้เยอะอยู่ดี!



เงื่อนไขโปรโมชั่น GOLD และ SILVER
เงื่อนไขประจำสัปดาห์
    •    จำนวนเที่ยว uberX ที่จบสมบูรณ์ (ไม่รวมเที่ยวที่มีการยกเลิก) ของทั้งสัปดาห์ 5 เที่ยวขึ้นไป
    •    พาร์ทเนอร์ต้องมีอัตราการกดรับผู้โดยสารเมื่อมีการเรียกเข้ามา 90% ขึ้นไป ถึงจะได้รับเงินโปรโมชั่นอินเซนทีฟและโปรโมชั่นต่างๆ
เงื่อนไขประจำบล็อค
    •    อัตราจำนวนเที่ยวต่อชั่วโมงที่ออนไลน์ของแต่ละบล็อคมากกว่าหรือเท่ากับ 1.0 หรือ 1.2 (หากช่วงเวลาใดคุณได้ TPH ต่ำกว่าที่กำหนด คุณจะไม่ได้รับเงินประกันค่าโดยสารในช่วงเวลานั้น) ทั้งนี้ เวลาที่ผู้โดยสารกดเรียก Uber คือตัวกำหนดว่ารอบการเดินทางดังกล่าวจะอยู่ในบล็อคใด
    •    50% ของเที่ยวการเดินทางต่อบล็อคต้องเริ่มในแผนที่ 1.0 (จุดที่รับผู้โดยสารและกดเริ่มต้นการเดินทาง) จากข้อมูลของเราพบว่าพื้นที่เหล่านี้มีการเรียกใช้บริการรถเป็นอันดับ 1 เมื่อเทียบกับพื้นที่ให้บริการทั้งหมด



จากประสบการณ์ของผม ตกม้าตายตรงแผนที่ 1.0 นี่แหละครับ มันเป็น area ในเมือง แหล่งรถติด บ้านผมอยู่รามอินทรา ต้องมาตั้งต้นในบริเวณแผนที่ 1.0 ระยะจากบ้านมา ไม่ต่ำว่า 30 กม. ตายครับ ไม่คุ้ม ผมจึงเรียกเองว่ามันคือแผนที่นรก ถ้าบ้านไม่ได้อยู่ละแวกแผนที่ ก็ตายครับ อย่าไปหวัง Incentive ครับ

Incentive ที่จะได้ จะเป็นไปตาม block ตารางสี ตามวันและเวลาที่ระบุ เป็นการประกันรายได้ต่อชั่วโมง เช่น เช้าวันจันทร์ ระหว่าง 6 โมงเช้า ถึง 10 โมงเช้า ระยะเวลา 4 ชั่วโมง คุณสามารถวิ่งได้ 4 เที่ยว เท่ากับว่าคุณสามารถทำได้โดยเฉลี่ย 1.0 เที่ยวต่อชั่วโมง (TPH = Trip Per Hour) โดยมี 2 เที่ยวที่คุณเริ่มต้นรับผู้โดยสารตามแผนที่นรก และใน 4 เที่ยวนั้นคุณไม่มีการปฏิเสธการรับงาน (แบบว่ามีงานเรียกเข้ามาแล้วคุณไม่กดรับ) แล้วใน 4 เที่ยวนั้น คุณมีรายได้ ก่อนหักค่าใช้จ่าย เท่ากับ 600 บาท Uber จะมีค่าสมนาคุณ ที่คุณสามารถทำได้ตามเงื่อนไข ชั่วโมงละ 230 บาท รวม 4 ชั่วโมง เป็นเงิน 920 บาท แต่คุณได้ไปแล้ว 600 บาท ดังนั้น Uber จะจ่ายเพิ่มให้คุณอีก 320 บาท แต่เดี๋ยวก่อน......... นั่นมันก่อนหักค่าธรรมเนียมนะ และคุณต้องขับให้ได้ 5 เที่ยวต่อสัปดาห์ ถ้าคุณวิ่ง 4 เที่ยวนี้ แล้วเลิกวิ่งทั้งสัปดาห์ก็ไม่ได้นะ แต่ถ้าคุณวิ่งอีกเที่ยวนึง คุณก็จะได้ incentive นี้ ดังนั้น คุณจะได้เงินจริงๆ 736 บาท สำหรับการวิ่ง 4 เที่ยวนี้นั่นเอง เท่ากับว่าคุณได้มา 184 บาทต่อชั่วโมง รวมค่าน้ำมัน ค่าสึกหรอ ค่าเหนื่อย ค่าง่วงนอน ค่าหงุดหงิด รถติด และทุกค่าที่คุณจะนึกออก คุ้มไม๊ครับ ถ้าคุ้มก็มาดูต่อ

ประสบการณ์จริง หลังจากวิ่งให้บริการครบ 2 สัปดาห์
    คราวนี้มาดูประสบการณ์จริงๆ ของผมกันนะครับ สิ่งที่เล่ามาก่อนหน้านี้ มโน ล้วนๆ บอกก่อนนะครับ รายได้ที่จะบอกต่อไปนี้ ยังไม่หักค่าแก๊ส ค่าสึกหรอ ค่าเหนื่อย ค่ากิน ค่าหงุดหงิดกับรถติด แต่ไม่ได้หงุดหงิดกับลูกค้าเลยครับ

    เที่ยวแรก เป็นพนักงานออฟฟิศ เรียกจากศูนย์ราชการกลับออฟฟิศ แถวบางซื่อ ค่าโดยสาร 136.75 ระยะทาง 16.2 กม ใช้เวลา 38 นาที ซึ่งรวมค่าทางด่วน 15 บาทด้วย โดยหักค่าธรรมเนียม Uber 27.35 บาท ได้เงินเข้ากระเป๋าเที่ยวแรก 124.40 บาท วิ่งออนไลน์มาเรื่อยๆ ถึงถนนพระราม 6 ไม่มีใครเรียก เลิกครับ

    คิดว่าเที่ยวแรก เอานะ เดี๋ยวลองใหม่ วันเสาร์นั้น ก็ออกไปวิ่งอีก ใช้เวลาออนไลน์ 6.22 ชั่วโมง วิ่งได้ 4 เที่ยว ตั้งแต่ 11 โมง ถึง 5 โมงกว่าๆ วิ่งได้ 4 เที่ยว พระเจ้า เพราะว่ารถติดบรรลัย ได้เงินมา 639.90 บาท โดยหักค่าธรรมเนียม Uber 127.98 บาท ได้เงินเข้ากระเป๋า 511.92 บาท

    สัปดาห์แรก ผมได้เงินทั้งหมด 636.32 บาท กับการวิ่ง 5 เที่ยว ไม่ได้รับ incentive แต่อย่างใด้ เนื่องจากยังไม่เข้าใจกับ incentive ของ Uber อย่างที่บอกครับ ยังไม่หักค่าแก๊ส ค่า.... สารพัดนะครับ

    เอาใหม่ สัปดาห์ที่ 2 incentive จะคล้ายๆ กับตารางเงื่อนไขด้านบน แต่มีเงื่อนไขที่ว่า ถ้าวิ่งทั้งสัปดาห์ได้ 15 เที่ยว จะได้เงินพิเศษ 1000 บาท
    เอาซิครับ รออะไร ลองดูอีกสักตั้งว่าจะได้ไม๊



ดูซิครับ ว่าได้ไม๊ ทั้งสัปดาห์ วิ่งได้ 13 เที่ยว อดครับ และ incentive ในแต่ละ block หล่ะ ก็อดครับ เพราะระบบบอกว่าผมกดรับงาน 77% เท่านั้น อ๊ะ..... ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น ผมไม่แน่ใจเรื่องการคำนวณ แต่มีเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นดังนี้

    1.    กดรับแล้ว หลุด
    2.    กดรับแล้ว ผู้โดยสารยกเลิก
    3.    ลูกค้ากำลังลง กำลังทอนเงิน แอพเรียกเข้ามา จะกดรับยังไง เพราะมันดังแค่ 15 วินาที
    4.    ลูกค้าเรียกมา รับแล้ว แต่ใช้เวลานานกว่าจะไปถึงลูกค้า ลูกค้าเลยขอยกเลิก แล้วขอเรียกใหม่ พอยกเลิกปุ๊บ ก็เจ้าเดิมนั่นแหละ เรียกเข้ามาอีก เราก็ไม่รับซิ

ทั้งหมดนี้ ทำให้ผมกดรับงานเหลือแค่ 77% เท่านั้น

สรุป ถ้าใครทำ Incentive ได้ ช่วยมาสอนผมหน่อยครับ ว่าต้องทำยังไง


ตัวคูณคืออะไร



หากคุณเปิดหน้าแรก จะเห็นบริเวณที่มีสี เหลือง ถึงสี แดง มันหมายถึงว่า บริเวณนั้นมีความต้องการใช้บริการสูงไปตามสัญลักษณ์ของสี บางครั้งสีแดงเข้มจัด ตัวคูณถึง 4.0 ก็เป็นได้

แล้วมันคืออะไร ถ้าหากคุณรับผู้โดยสารบริเวณที่มีตัวคูณหมายความว่า เมื่อสิ้นสุดการเดินทาง ค่าโดยสารเป็นเท่าไหร่ จะเอาตัวคูณนั้นเข้าไปคูณ และจะเป็นค่าโดยสารที่ผู้โดยสารจะต้องจ่าย แต่เดี๋ยวก่อน....... ยังไม่ได้หักค่าธรรมเนียม Uber นะ คูณได้เท่าไหร่ ก็ต้องโดยหัก 20% เข้า Uber ไป



คุณจะไม่มีโอกาสได้รู้เลยว่า ผู้โดยสารที่เรียกเข้ามานั้น จะไปที่ไหนของกรุงเทพหรือประเทศไทย เนื่องจากเป็นนโยบายของ Uber ที่ไม่มีการปฏิเสธลูกค้า

ผมเคยรับผู้โดยสารจาก บางกะปิ ไปส่ง บางกรวย ส่งเสร็จออกมาถนนจรัลฯ โดยเรียกไปส่ง พุทธมณฑลสาย 1 ต้องตีรถเปล่ากลับไป ถนนพระราม 3 โดยเรียกกลับไปส่งที่กัลปพฤกษ์ จบครับ วันนั้น 4 เที่ยว 6 ชั่วโมงกว่า

อีกครั้งผู้โดยสายต่างชาติ เรียกให้ไปรับที่ สุขุมวิท 11 ทุกครั้ง เมื่อคุณรับงานแล้วควรจะต้องโทรไป confirm เวลากับลูกค้า เนื่องจาก GPS จะแจ้งว่าใช้เวลากี่นาที ที่จะไปถึงลูกค้า แต่เที่ยวนี้ ลูกค้าต่างช่าติ ให้เบอร์โทรเป็นเบอร์ต่างประเทศ ผมจะโทรกลับยังไงหล่ะครับ ว่าจะใช้เวลาประมาณ 15 นาที กว่าจะไปรับ ก็ไม่ได้โทรซิครับ พอไปถึง ลูกค้าบอกว่าจะไป พัทยา ..... หา ...... พัทยา จะเป็นลม ตอนนั้น สี่โมงเย็น แล้วค่าโดยสารยังไงหล่ะ เค้าบอกว่าใน uber บอกว่าไปพัทยา 1250 บาท แต่เดี๋ยวก่อน...... ยังไม่หักค่าธรรมเนียม Uber 250 บาท คุณจะเหลือ 1000 บาท

แล้วยังไง ไปถึงพัทยา จะมีลูกค้าเรียกกลับมากรุงเทพไม๊ แล้วต้องตีรถเปล่ากลับกรุงเทพ ... บ้า ไปแล้ว ผมเลยถามลูกค้าครับ ว่ายกเลิกได้ไม๊ ลูกค้าก็เข้าใจนะ ยกเลิกให้ ...... ฝ่ารถติด ไปรับ แต่ไม่ได้ผู้โดยสาร รถติดฟรีครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่