เรือดำน้ำเยอรมัน Type XXIII
เป็นเรือดำน้ำชายฝั่งขนาดเล็ก ออกแบบมาเพื่อปฏิบัติการในทะเลตื้น บริเวณ ทะเลเหนือ, ทะเลดำ และ ทะเลเมอดิเตอเรเนี่ยน
ซึ่งเรือที่มีขนาดใหญ่กว่าอย่าง Type XXI นั้นมีความเสี่ยง
ตัวเรือมีขนาดเล็ก สามารถบรรทุกตอร์ปิโดได้แค่ 2 ลูก และต้องทำการโหลดจากด้านนอก
เรือรุ่นนี้สามารถดำได้นาน เนื่องจากมีการปรับปรุงรูปร่างตัวเรือ พัฒนาแบทเตอรี่
และมีสน็อคเกิ้ลซึ่งช่วยให้เครื่องยนต์ดีเซลทำงานได้ในขณะที่ดำน้ำ
เรือ Type XXIII ปฏิวัติการออกแบบเรือดำหน้ำช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สองอีกด้วย
เบื้องหลังการออกแบบ
เมื่อเริ่มตนปรับปรุงเรือรุ่น Type XXI ช่วงปลายปี 1942 มีความตั้งใจปรังปรุงเรือให้มีขนาดเล็กลง โดยให้เทคโนโลยีแบบเดียวกัน
เพื่อทดแทน เรือดำน้ำชายฝั่งรุ่น Type II นายพลเรือ คาร์ล โดนิทซ์ เพิ่มความต้องการสองอย่าง คือ
เรือต้องสามารถปฏิบัติการได้ในทะเลเมอดิเตอเรเนี่ยน และ ทะเลดำ
ต้องสามารถเคลื่อนย้ายได้โดยรถไฟ และใช้ตอร์ปิโดนาดท่อมาตรฐาน 53.3 ซ.ม.
เพื่อเป็นการย่นเวลา เฮลมุท วอลเธอร์ ออกแบบเรือดำน้ำรุ่นใหม่โดยใช้พื้นฐานจากเรือรุ่น Type XXII
ในวันที่ 30 มิถุนายน 1943 การออกแบบเสร็จสิ้นและพร้อมที่จะเริ่มต่อเรือ
โดยทำการต่อเรือที่อู่ต่อสองสามแห่ง ใน เยอรมัน ฝรั่งเศส อิตาลี่ และบริรัสเซียส่วนที่เยอรมันยึดครอง
รายละเอียดตัวเรือ
Type XXIII ทำการเชื่อมโดยมีลำเรือเดี่ยว เป็นเรือดำน้ำรุ่นแรกที่ใช้การออกแบบแบบนี้ ใช้ใบจักรแบบสามใบ หางเสือเดี่ยว
และเหมือกับ Type XXI โดยลำตัวทั้ง 8 ช่วง ทำการบรรจุแบทเตอรี่ขนาดใหญ่ 62 ลูก
บนเงื่อนไขที่ว่าเรือต้องสามรถเคลื่อนย้ายได้ด้วยรถไฟ ลำตัวเรือต้องมีขนาดพอดีกับแคร่
ลำตัวเรือแบ่งออกเป็นสี่ส่วน สะพานเดินเรือมีการตัดออกไป
เนื่องจากพื้นที่จำกัด ส่วนด้านหน้าเรือต้องทำให้สั้นที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งหมายความว่า จะสามารถบรรทุกตอร์ปิโดได้เพียงแค่ 2 ลูก
ในขณะที่บรรจุตอร์ปิโด จะต้องทำการยกตัวเรือขึ้นเหนือน้ำ และทำการโหลดจากด้านปากท่อยิง
Type XXIII พิสูจน์ว่าสามารถใช้งานได้ยอดเยี่ยมทั้งเหนือน้ำ และใต้น้ำ
ใช้เวลาในการดำลงจากผิวน้ำ 9 วินาที
ดำได้ลึกสุด 180 เมตร
ความเร็วขณะดำน้ำ อยู่ที่ 23.2 ก.ม./ช.ม.
ในขณะที่แล่นบนผิวน้ำทำได้ที่ 17 ก.ม./ช.ม.
ใช้ลูกเรือ 14 - 18 คน
ระยะทำการ 4,800 ก.ม. ที่ความเร็ว 15 ก.ม./ช.ม. บนผิวน้ำ หรือ 359 ก.ม. ที่ความเร็ว 7.4 ก.ม./ช.ม. เมื่อดำน้ำ
เมื่อดำโดยใช้สน็อคเกิ้ลสามารถทำความเร็วได้ที่ 19.4 ก.ม./ช.ม.
เรือดำน้ำเยอรมัน Type XXIII
เป็นเรือดำน้ำชายฝั่งขนาดเล็ก ออกแบบมาเพื่อปฏิบัติการในทะเลตื้น บริเวณ ทะเลเหนือ, ทะเลดำ และ ทะเลเมอดิเตอเรเนี่ยน
ซึ่งเรือที่มีขนาดใหญ่กว่าอย่าง Type XXI นั้นมีความเสี่ยง
ตัวเรือมีขนาดเล็ก สามารถบรรทุกตอร์ปิโดได้แค่ 2 ลูก และต้องทำการโหลดจากด้านนอก
เรือรุ่นนี้สามารถดำได้นาน เนื่องจากมีการปรับปรุงรูปร่างตัวเรือ พัฒนาแบทเตอรี่
และมีสน็อคเกิ้ลซึ่งช่วยให้เครื่องยนต์ดีเซลทำงานได้ในขณะที่ดำน้ำ
เรือ Type XXIII ปฏิวัติการออกแบบเรือดำหน้ำช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สองอีกด้วย
เบื้องหลังการออกแบบ
เมื่อเริ่มตนปรับปรุงเรือรุ่น Type XXI ช่วงปลายปี 1942 มีความตั้งใจปรังปรุงเรือให้มีขนาดเล็กลง โดยให้เทคโนโลยีแบบเดียวกัน
เพื่อทดแทน เรือดำน้ำชายฝั่งรุ่น Type II นายพลเรือ คาร์ล โดนิทซ์ เพิ่มความต้องการสองอย่าง คือ
เรือต้องสามารถปฏิบัติการได้ในทะเลเมอดิเตอเรเนี่ยน และ ทะเลดำ
ต้องสามารถเคลื่อนย้ายได้โดยรถไฟ และใช้ตอร์ปิโดนาดท่อมาตรฐาน 53.3 ซ.ม.
เพื่อเป็นการย่นเวลา เฮลมุท วอลเธอร์ ออกแบบเรือดำน้ำรุ่นใหม่โดยใช้พื้นฐานจากเรือรุ่น Type XXII
ในวันที่ 30 มิถุนายน 1943 การออกแบบเสร็จสิ้นและพร้อมที่จะเริ่มต่อเรือ
โดยทำการต่อเรือที่อู่ต่อสองสามแห่ง ใน เยอรมัน ฝรั่งเศส อิตาลี่ และบริรัสเซียส่วนที่เยอรมันยึดครอง
รายละเอียดตัวเรือ
Type XXIII ทำการเชื่อมโดยมีลำเรือเดี่ยว เป็นเรือดำน้ำรุ่นแรกที่ใช้การออกแบบแบบนี้ ใช้ใบจักรแบบสามใบ หางเสือเดี่ยว
และเหมือกับ Type XXI โดยลำตัวทั้ง 8 ช่วง ทำการบรรจุแบทเตอรี่ขนาดใหญ่ 62 ลูก
บนเงื่อนไขที่ว่าเรือต้องสามรถเคลื่อนย้ายได้ด้วยรถไฟ ลำตัวเรือต้องมีขนาดพอดีกับแคร่
ลำตัวเรือแบ่งออกเป็นสี่ส่วน สะพานเดินเรือมีการตัดออกไป
เนื่องจากพื้นที่จำกัด ส่วนด้านหน้าเรือต้องทำให้สั้นที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งหมายความว่า จะสามารถบรรทุกตอร์ปิโดได้เพียงแค่ 2 ลูก
ในขณะที่บรรจุตอร์ปิโด จะต้องทำการยกตัวเรือขึ้นเหนือน้ำ และทำการโหลดจากด้านปากท่อยิง
Type XXIII พิสูจน์ว่าสามารถใช้งานได้ยอดเยี่ยมทั้งเหนือน้ำ และใต้น้ำ
ใช้เวลาในการดำลงจากผิวน้ำ 9 วินาที
ดำได้ลึกสุด 180 เมตร
ความเร็วขณะดำน้ำ อยู่ที่ 23.2 ก.ม./ช.ม.
ในขณะที่แล่นบนผิวน้ำทำได้ที่ 17 ก.ม./ช.ม.
ใช้ลูกเรือ 14 - 18 คน
ระยะทำการ 4,800 ก.ม. ที่ความเร็ว 15 ก.ม./ช.ม. บนผิวน้ำ หรือ 359 ก.ม. ที่ความเร็ว 7.4 ก.ม./ช.ม. เมื่อดำน้ำ
เมื่อดำโดยใช้สน็อคเกิ้ลสามารถทำความเร็วได้ที่ 19.4 ก.ม./ช.ม.