เราอ่านข่าวที่คุณบุ๋มและเจนี่มีปัญหากันกรณีที่เช่ายิมออกกำลังกาย แต่เท่าที่อ่านมาก็มีแต่คอมเม้นที่ออกจะว่าทางเจนี่เยอะมากๆ ซึ่งเอาเข้าจริงเราก็ไม่เข้าใจเท่าไหร่ว่าเจนี่ผิดตรงไหน เราไม่ได้เป็นติ่งของทั้งเจนี่หรือคุณบุ๋ม แค่วิเคราะห์ตามรูปแบบการทำธุรกิจซึ่งเราเองก็ทำธุรกิจและสร้างแบรนด์ของตัวเองเช่นกัน
ถ้าฟังจากข้อมูลของทั้งคู่ ทางคุณบุ๋มนี่จะผิดจริง เนื่องจากไม่ชำระค่าเช่าหรือค่าใช้จ่ายส่วนกลางตามที่กำหนด แม้จะบอกว่าไม่มีสัญญาใหม่หรือเอกสารใหม่ใดๆก็ตาม ซึ่งถ้าของใหม่ยังไม่ได้ก็จำเป็นจะต้องจ่ายตามของเก่าไปก่อนแล้วทำเอกสารขอคืนกันย้อนหลังได้ ไม่ใช่ถือวิสาสะไม่จ่ายเลย เปรียบเทียบง่ายๆถ้าเราเช่าหอพัก แล้วบังเอิญต้องแก้ไขสัญญาเราจะมีสิทธิ์ไม่จ่ายค่าห้องเช่า/ค่าน้ำไฟไหมคะ ซึ่งถ้าพูดกันตามธุรกิจมันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะทำแบบนั้น แล้วคุณบุ๋มทำมากี่เดือน
ยิ่งบอกว่าเป็นคนรู้จักกันไม่น่าทำแบบนั้น ลองมองย้อนกลับไปในมุมของเจนี่สักนิดว่าเขาจะรูสึกยังไง สนิทกันแต่ไม่จ่ายค่าใช้จ่าย จะทวงก็ไม่กล้ารึเปล่า(อันนี้เราไม่ทราบ) แต่ที่แน่ๆ เจนี่คงจะลำบากใจเช่นกัน จนถึงวันที่คุณบุ๋มกล้าประกาศลงโซเชี่ยลว่าไม่เป็นธรรม เท่าที่เราตามข่าวมาก็ยังไม่เคยเห็นเอกสารจากทางคุณบุ๋มสักที เห็นเพียงแต่การออกมาพูดเพียงฝ่ายเดียว
ดังนั้นเราจึงไม่ค่อยเข้าใจว่าคนที่ไปรุมว่าเจนี่อันนี้เขาทำผิดในเรื่องไหนกัน เรื่องธุรกิจ มิตรภาพ ความมีน้ำใจ การเห็นแก่ตัว ดูท่าเรื่องเหล่านี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกันเลย การทำธุรกิจก็คือธุรกิจ มิตรภาพก็คือมิตรภาพ เราต้องมองว่าแล้วเรามีมิตรภาพให้เขาหรือไม่ แล้วภาพรวมของคนส่วนใหญ่นั้นเขารู้สึกยังไงกับใคร คนอื่นๆที่เช่าที่เขามีปัญหากับใครมากกว่ากัน ซึ่งคนในโลกโซเชี่ยลนั้นไม่มีส่วนได้เสียกับธุรกิจของเขา เราจะมองยังไงก็แล้วแต่สุดท้ายคนที่เป็นเจ้าของธุรกิจเขาจะต้องมองภาพรวมขององค์กรว่าอะไรที่ทำให้เกิดปัญหา แล้วปัญหานั้นๆกระทบต่อภาพรวมมากน้อยแค่ไหน ซึ่งถ้าสิ่งที่คุณบุ๋มทำดันไปกระทบกับคนอื่นๆในบริเวณนั้นๆก็เป็นไปได้ว่านั่นเป็นการไม่รักษามารยาททางธุรกิจเช่นกัน
อันนี้คือความคิดเห็นของเรานะคะ อาจจะถูกใจหรือไม่ถูกใจใคร เราก็แค่คิดและแสดงความคิดเห็นในอีกมุมนึงเท่านั้นเอง ซึ่งอันนี้เป็นคนละเรื่องกับชีวิตส่วนตัวของทั้งคุณบุ๋มและเจนี่นะคะ
ทำไมกรณีคุณบุ๋มกับเจนี่ คนถึงรุมเจนี่ไม่ดี
ถ้าฟังจากข้อมูลของทั้งคู่ ทางคุณบุ๋มนี่จะผิดจริง เนื่องจากไม่ชำระค่าเช่าหรือค่าใช้จ่ายส่วนกลางตามที่กำหนด แม้จะบอกว่าไม่มีสัญญาใหม่หรือเอกสารใหม่ใดๆก็ตาม ซึ่งถ้าของใหม่ยังไม่ได้ก็จำเป็นจะต้องจ่ายตามของเก่าไปก่อนแล้วทำเอกสารขอคืนกันย้อนหลังได้ ไม่ใช่ถือวิสาสะไม่จ่ายเลย เปรียบเทียบง่ายๆถ้าเราเช่าหอพัก แล้วบังเอิญต้องแก้ไขสัญญาเราจะมีสิทธิ์ไม่จ่ายค่าห้องเช่า/ค่าน้ำไฟไหมคะ ซึ่งถ้าพูดกันตามธุรกิจมันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะทำแบบนั้น แล้วคุณบุ๋มทำมากี่เดือน
ยิ่งบอกว่าเป็นคนรู้จักกันไม่น่าทำแบบนั้น ลองมองย้อนกลับไปในมุมของเจนี่สักนิดว่าเขาจะรูสึกยังไง สนิทกันแต่ไม่จ่ายค่าใช้จ่าย จะทวงก็ไม่กล้ารึเปล่า(อันนี้เราไม่ทราบ) แต่ที่แน่ๆ เจนี่คงจะลำบากใจเช่นกัน จนถึงวันที่คุณบุ๋มกล้าประกาศลงโซเชี่ยลว่าไม่เป็นธรรม เท่าที่เราตามข่าวมาก็ยังไม่เคยเห็นเอกสารจากทางคุณบุ๋มสักที เห็นเพียงแต่การออกมาพูดเพียงฝ่ายเดียว
ดังนั้นเราจึงไม่ค่อยเข้าใจว่าคนที่ไปรุมว่าเจนี่อันนี้เขาทำผิดในเรื่องไหนกัน เรื่องธุรกิจ มิตรภาพ ความมีน้ำใจ การเห็นแก่ตัว ดูท่าเรื่องเหล่านี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกันเลย การทำธุรกิจก็คือธุรกิจ มิตรภาพก็คือมิตรภาพ เราต้องมองว่าแล้วเรามีมิตรภาพให้เขาหรือไม่ แล้วภาพรวมของคนส่วนใหญ่นั้นเขารู้สึกยังไงกับใคร คนอื่นๆที่เช่าที่เขามีปัญหากับใครมากกว่ากัน ซึ่งคนในโลกโซเชี่ยลนั้นไม่มีส่วนได้เสียกับธุรกิจของเขา เราจะมองยังไงก็แล้วแต่สุดท้ายคนที่เป็นเจ้าของธุรกิจเขาจะต้องมองภาพรวมขององค์กรว่าอะไรที่ทำให้เกิดปัญหา แล้วปัญหานั้นๆกระทบต่อภาพรวมมากน้อยแค่ไหน ซึ่งถ้าสิ่งที่คุณบุ๋มทำดันไปกระทบกับคนอื่นๆในบริเวณนั้นๆก็เป็นไปได้ว่านั่นเป็นการไม่รักษามารยาททางธุรกิจเช่นกัน
อันนี้คือความคิดเห็นของเรานะคะ อาจจะถูกใจหรือไม่ถูกใจใคร เราก็แค่คิดและแสดงความคิดเห็นในอีกมุมนึงเท่านั้นเอง ซึ่งอันนี้เป็นคนละเรื่องกับชีวิตส่วนตัวของทั้งคุณบุ๋มและเจนี่นะคะ