ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดคดีสุดแปลกขึ้นที่ประเทศอเมริกา เมื่อ น.ส.อะแมนด้า วอร์เฟิล สาวชาว อเมริกันวัย 25 ปี ถูกศาลตัดสินจำคุกเป็นเวลาระหว่าง 45-90 วัน หลังสร้างความเดือดร้อน รำคาญใจให้กับเพื่อนบ้าน อย่างหนัก ชนิดไม่ได้หลับไม่ได้นอน มาเป็นเวลานานกว่า 2 ปี เนื่องจากเธอและแฟนหนุ่มมีเซ็กส์กันเสียงดังสนั่นหวั่นไหว กระทั่งเพื่อนบ้านเกินจะทนไหวจึงได้แจ้งความร้องทุกข์ดังกล่าว
โดยครอบครัวเซย์เลอร์ เพื่อนบ้าน ที่ได้รับความเดือดร้อน เล่าว่า ครอบครัวของพวกเขา อาศัยอยู่ในอพาร์ทเมนต์รัฐเพนซิลเวเนีย สหรัฐฯ โดยอยู่ห้องติดกันกับห้องของอะแมนด้า โดยครอบครัวของพวกเขาต้องทนอยู่กับเสียงรบกวนของอะแมนด้ามานานเกือบ 2 ปี โดยเฉพาะห้องนอนของลูกสาว ที่อยู่ติดกับห้องของอะแมนด้า พวกเธอนอนหลับไม่สบายเลย เพราะเสียงการมีเซ็กส์ของอะแมนด้า ดังลั่นและรุนแรงหนักหน่วง กลางดึกอยู่บ่อยๆ ทำโต๊ะ-เตียงสั่นสะเทือนราวกับแผ่นดินไหว จนแทบไม่ได้หลับ ไม่ได้นอน สร้างความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก

ซึ่งเมื่อวันที่ 6 ก.ค. ที่ผ่านมา ศาลได้พิจารณาจำคุกอะแมนด้าเป็นเวลาระหว่าง 45-90 วัน และสั่งห้ามอะแมนด้า ยุ่งเกี่ยวกับครอบครัวเซย์เลอร์ทุกกรณี ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเผยว่าก่อนหน้าที่เธอถูกเพื่อนบ้านฟ้องร้องคดีนี้ เธอก็เพิ่งจะถูกจับคดีอื่นมา และถูกตัดสินให้จำคุกเช่นกัน
ขอบคุณ : เว็บไซต์มิเรอร์ของอังกฤษ
ข้อมูลจาก tnews
http://www.tnews.co.th/html/contents/195985/
ศาลสั่งจำคุกสาวเบญจเพส ก่อเหตุ "ตำน้ำพริก" เสียงดัง รบกวนเพื่อนบ้าน!!
โดยครอบครัวเซย์เลอร์ เพื่อนบ้าน ที่ได้รับความเดือดร้อน เล่าว่า ครอบครัวของพวกเขา อาศัยอยู่ในอพาร์ทเมนต์รัฐเพนซิลเวเนีย สหรัฐฯ โดยอยู่ห้องติดกันกับห้องของอะแมนด้า โดยครอบครัวของพวกเขาต้องทนอยู่กับเสียงรบกวนของอะแมนด้ามานานเกือบ 2 ปี โดยเฉพาะห้องนอนของลูกสาว ที่อยู่ติดกับห้องของอะแมนด้า พวกเธอนอนหลับไม่สบายเลย เพราะเสียงการมีเซ็กส์ของอะแมนด้า ดังลั่นและรุนแรงหนักหน่วง กลางดึกอยู่บ่อยๆ ทำโต๊ะ-เตียงสั่นสะเทือนราวกับแผ่นดินไหว จนแทบไม่ได้หลับ ไม่ได้นอน สร้างความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก
ซึ่งเมื่อวันที่ 6 ก.ค. ที่ผ่านมา ศาลได้พิจารณาจำคุกอะแมนด้าเป็นเวลาระหว่าง 45-90 วัน และสั่งห้ามอะแมนด้า ยุ่งเกี่ยวกับครอบครัวเซย์เลอร์ทุกกรณี ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเผยว่าก่อนหน้าที่เธอถูกเพื่อนบ้านฟ้องร้องคดีนี้ เธอก็เพิ่งจะถูกจับคดีอื่นมา และถูกตัดสินให้จำคุกเช่นกัน
ขอบคุณ : เว็บไซต์มิเรอร์ของอังกฤษ
ข้อมูลจาก tnews http://www.tnews.co.th/html/contents/195985/