ขอเข้าเรื่องเลยนะคะ...เนื่องจากงาน Kiriwong Cross Country เปิดรับสมัครตั้งแต่ในวันที่ 18 เมษายน 59 ด้วยการประชาสัมพันธ์ที่สวยหรูและชื่อหมู่บ้านที่อากาศดีที่สุดในประเทศไทย + กระแสงานวิ่งที่มาแรงมากปีนี้ ทำให้มีนักวิ่งรีบไปทำการสมัครกันเป็นจำนวนมาก (เพราะกลัวเต็มเร็วเหมือนงานอื่นๆ) เราเองก็เช่นกันที่สมัครไปด้วยความหวังว่าจะไปวิ่งทางวิบาก ผ่านป่า ผ่านน้ำตก และธรรมชาติสวยๆ แต่แล้วเมื่อเร็วๆ นี้ก็มีกระแสดราม่าต่อต้านจากคนในชุมชนที่เค้าบอกว่าไม่รู้เรื่องงานนี้เลย และการวิ่งจะไปธรรมลายธรรมชาติ ทำลายไร่ สวน ของชาวบ้าน เพราะทางวิ่งจะต้องไปเข้าสวนของเค้า ในตอนแรกเราที่อยากไปวิ่งไงก็ยังแอบคิดเข้าข้างผู้จัดงาน ว่าจะเป็นไปได้เหรอที่งานขนาดนี้ชาวบ้านและคนในชุมชนจะไม่รู้เรื่องเลย คงเป็นแค่กลุ่มต่อต้านบางกลุ่มเท่านั้นมั้งที่ออกมาโจมตี
แต่แล้วจนถึงตอนนี้เหลือเวลาอีกแค่ราว 2 สัปดาห์ เราและเพื่อนๆ นักวิ่งอีกหลายคนก็ได้เห็นชัดเจนว่าเหตุเกิดจากทางผู้จัดงานนั่นแหละที่ไม่มีความเป็นมืออาชีพ แถมยังวุฒิภาวะต่ำเกินกว่าจะมาแก้ไขปัญหาได้ โดยปัญหาที่เกิดขึ้นโดยสรุปขอแบ่งเป็นข้อ ดังนี้ค่ะ
1. งานวิ่ง Cross Country ตามที่ผู้จัดได้อธิบายความว่า "คือการวิ่งวิบาก เข้าไปตามพื้นดิน พื้นหญ้าป่าเขาลุยน้ำ ลุยทราย ลุยโคลนหรือเส้นทางชนบทแล้วแต่สภาพภูมิประเทศที่จะจัดแข่งขัน” ซึ่งในการจัดงานต้องมีข้อมูลเส้นทางและข้อมูลความปลอดภัยให้นักวิ่ง ซึ่งตอนนี้
ผู้จัดไม่สามารถชี้แจงเส้นทาง รวมถึงไม่สามารถรายละเอียดข้อมูลต่างๆ ที่จำเป็นของสภาพเส้นทาง มีให้ดูเฉพาะแผนที่และกราฟที่ไม่แสดงข้อมูลอะไรเลย ซึ่งเห็นว่าการวิ่งที่ลำบากและมีความเสี่ยงข้อมูลเพียงน้อยนิดขนาดนี้ไม่เพียงพอที่นักวิ่งจะเอาชีวิตไปฝากกับผู้จัดแน่ๆ
2. เรื่องการเปลี่ยนเส้นทาง โดยเมื่อวันที่ 2 ก.ค. 59 ผู้จัดได้แจ้งในเพจ Facebook ของงานว่า อาจมีการเปลี่ยนเส้นทาง ระยะ 50 กม. อาจมีการวิ่งสองรอบ ส่วนเส้นทางการวิ่งจะมีการปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสม และแจ้งว่าลักษณะเส้นทางวิ่ง เป็นทางซีเมนผ่านทางเข้าสวนของชาวบ้าน ที่มีความลาดชันสูง ซึ่งขัดแย้งกับภาพที่นำมาโฆษณาเส้นทางวิ่งสร้างฝันก่อนหน้านั้นในเพจ
3.เรื่องข้อขัดแย้งกับคนในพื้นที่ เรื่องคนในพื้นที่เป็นเรื่องที่ผู้จัดต้องการให้เรียบร้อยก่อนทำการเปิดรับสมัครค่ะ ผู้จัดมีการจัดประชุมแต่ไม่สามารถหาข้อสรุป และเอกสารยืนยันให้นักวิ่งมั่นใจได้ว่า เส้นทางที่จะวิ่งนั้นเจ้าของพื้นที่สามารถให้เข้าไปได้จริงหรือไม่ มีเพียงข้อความลอยๆ ว่าจัดการเรียบร้อยแล้ว โดยในเพจของชุมชนเองนั้นเหมือนหนังคนละม้วน รวมถึงมีการตอดป้ายไวนิลต่อต้านกิจกรรมด้วย
4. เรื่องเสื้อที่จะจัดส่ง ตอนสมัครในเวบไซด์
http://run-rhythm.com/ ได้แจ้งวันจัดส่งไว้ในวันที่ 20 มิ.ย.59 แต่วันนี้ (12 ก.ค.) ผู้จัดแจ้งในเพจว่าไม่สามารถจัดส่งให้ทันได้ (ตอนสมัครนักวิ่งจ่ายค่าส่งไปรณีย์ด้วย) จึงไม่แน่ใจว่าเสื้อแข่ง เหรียญ ผ้าพันคอ ผู้จัดผลิตเสร็จแล้วหรือยัง
และตั้งแต่มีปัญหาต่างๆ มีผู้ที่เข้าไปสอบถามเรื่องต่างๆ ในเพจ
https://www.facebook.com/KiriwongCrossCountry/ แต่ผู้จัดก็แทบจะไม่เข้ามาอธิบายอะไรที่ให้ความกระจ่าง ไม่รับผิด และมีแต่การพูดจาที่ยิ่งอ่านเรายิ่งขึ้นอะ (ลองกดเข้าไปอ่านดูได้นะคะ) ทำให้จนตอนนี้หลายคนเกิดความไม่มั่นใจในหลายๆ เรื่อง โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัยของนักวิ่ง อยากวิ่งค่ะ แต่ไม่อยากเจ็บหรือตาย
จริงๆ เนื้อหาหลักที่ว่ามาทั้งหมดนี้ เราเอามาจากน้องคนหนึ่งที่เขียนเอาไว้ในกลุ่มวิ่งบน Facebook แต่เราว่าเรื่องราวอยู่แค่ในกลุ่มคนวิ่งมันยังไม่พอค่ะ นักวิ่งที่ถอดใจไม่ไปแล้วทุกคนเสียค่าสมัคร ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าที่พัก ไปหมดแล้ว แต่ทำไงได้คะ รักชีวิตตัวเองไว้ดีกว่า...ซึ่ง ณ จุดนี้ เราคิดว่าหลายคนผ่านเรื่องเงินไปแล้วค่ะ ไม่ใช่ปัญหาหลัก แต่สิ่งที่เราอยากออกมาเรียกร้องคือมาตรฐานและความรับผิดชอบของผู้จัด ระยะนี้งานวิ่งบูมมากจริงๆ ราคาแต่ละงานก็แพงขึ้นเกือบเท่าตัวจากตอนที่เราวิ่งแรกๆ และงานนี้ก็ไม่ใช่งานแรกที่ผู้จัดมีปัญหา แต่อาจจะเป็นงานแรกที่ปัญหาเยอะและใหญ่ที่สุด เพราะการจัดงานอาจก่อให้ผลกระทบมากมายค่ะ ทั้งผลกระทบต่อชุมชน ระบบนิเวศ ชีวิตและความปลอดภัยของนักวิ่ง ... เราคิดว่าปล่อยผ่านไปไม่ได้ อยากให้กรณีนี้เป็นกรณีตัวอย่างเพื่อสร้างให้เกิดมาตรฐานของการจัดงานค่ะ ย้ำอีกครั้ง...เราไม่ได้เรียกร้องเงินคืน เราถือว่าทำบุญให้ชุมชนตามที่ผู้จัดแจ้งไว้ว่าจะมอบเงินส่วนหนึ่งให้ชุมชนคีรีวง แต่เราต้องการให้มีบทลงโทษ แบน หรืออะไรก็ได้ที่ทำให้ผู้จัดออกมารับผิดชอบ ไม่ลอยนวลแล้วไปหลอกจัดงานหน้าในอนาคตได้อีกค่ะ
เพื่อนๆ หลายคนบอกว่าให้ร้องเรียนไปที่ สคบ. และจะแจ้งกับหน่วยงานอื่นๆ แต่เราก็ไม่ได้มีความรู้เรื่องกฎหมายหรืออะไรประเภทนี้เลยจริงๆ ค่ะ หากใครมีคำแนะนำอะไรช่วยพวกเราด้วยนะคะ
ขอบคุณมากๆ ค่ะ
เพิ่มเติมเพจของชุมชนค่ะ
https://www.facebook.com/ThebestofOzone/?fref=ts
Kiriwong Cross Country งานวิ่งที่จะจำจนตาย...ว่าจะไม่โง่ให้ผู้จัดหลอกอีก (ครั้งแรกในชีวิตที่มาตั้งกระทู้ดราม่าในโซเชียล)
แต่แล้วจนถึงตอนนี้เหลือเวลาอีกแค่ราว 2 สัปดาห์ เราและเพื่อนๆ นักวิ่งอีกหลายคนก็ได้เห็นชัดเจนว่าเหตุเกิดจากทางผู้จัดงานนั่นแหละที่ไม่มีความเป็นมืออาชีพ แถมยังวุฒิภาวะต่ำเกินกว่าจะมาแก้ไขปัญหาได้ โดยปัญหาที่เกิดขึ้นโดยสรุปขอแบ่งเป็นข้อ ดังนี้ค่ะ
1. งานวิ่ง Cross Country ตามที่ผู้จัดได้อธิบายความว่า "คือการวิ่งวิบาก เข้าไปตามพื้นดิน พื้นหญ้าป่าเขาลุยน้ำ ลุยทราย ลุยโคลนหรือเส้นทางชนบทแล้วแต่สภาพภูมิประเทศที่จะจัดแข่งขัน” ซึ่งในการจัดงานต้องมีข้อมูลเส้นทางและข้อมูลความปลอดภัยให้นักวิ่ง ซึ่งตอนนี้ผู้จัดไม่สามารถชี้แจงเส้นทาง รวมถึงไม่สามารถรายละเอียดข้อมูลต่างๆ ที่จำเป็นของสภาพเส้นทาง มีให้ดูเฉพาะแผนที่และกราฟที่ไม่แสดงข้อมูลอะไรเลย ซึ่งเห็นว่าการวิ่งที่ลำบากและมีความเสี่ยงข้อมูลเพียงน้อยนิดขนาดนี้ไม่เพียงพอที่นักวิ่งจะเอาชีวิตไปฝากกับผู้จัดแน่ๆ
2. เรื่องการเปลี่ยนเส้นทาง โดยเมื่อวันที่ 2 ก.ค. 59 ผู้จัดได้แจ้งในเพจ Facebook ของงานว่า อาจมีการเปลี่ยนเส้นทาง ระยะ 50 กม. อาจมีการวิ่งสองรอบ ส่วนเส้นทางการวิ่งจะมีการปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสม และแจ้งว่าลักษณะเส้นทางวิ่ง เป็นทางซีเมนผ่านทางเข้าสวนของชาวบ้าน ที่มีความลาดชันสูง ซึ่งขัดแย้งกับภาพที่นำมาโฆษณาเส้นทางวิ่งสร้างฝันก่อนหน้านั้นในเพจ
3.เรื่องข้อขัดแย้งกับคนในพื้นที่ เรื่องคนในพื้นที่เป็นเรื่องที่ผู้จัดต้องการให้เรียบร้อยก่อนทำการเปิดรับสมัครค่ะ ผู้จัดมีการจัดประชุมแต่ไม่สามารถหาข้อสรุป และเอกสารยืนยันให้นักวิ่งมั่นใจได้ว่า เส้นทางที่จะวิ่งนั้นเจ้าของพื้นที่สามารถให้เข้าไปได้จริงหรือไม่ มีเพียงข้อความลอยๆ ว่าจัดการเรียบร้อยแล้ว โดยในเพจของชุมชนเองนั้นเหมือนหนังคนละม้วน รวมถึงมีการตอดป้ายไวนิลต่อต้านกิจกรรมด้วย
4. เรื่องเสื้อที่จะจัดส่ง ตอนสมัครในเวบไซด์ http://run-rhythm.com/ ได้แจ้งวันจัดส่งไว้ในวันที่ 20 มิ.ย.59 แต่วันนี้ (12 ก.ค.) ผู้จัดแจ้งในเพจว่าไม่สามารถจัดส่งให้ทันได้ (ตอนสมัครนักวิ่งจ่ายค่าส่งไปรณีย์ด้วย) จึงไม่แน่ใจว่าเสื้อแข่ง เหรียญ ผ้าพันคอ ผู้จัดผลิตเสร็จแล้วหรือยัง
และตั้งแต่มีปัญหาต่างๆ มีผู้ที่เข้าไปสอบถามเรื่องต่างๆ ในเพจ https://www.facebook.com/KiriwongCrossCountry/ แต่ผู้จัดก็แทบจะไม่เข้ามาอธิบายอะไรที่ให้ความกระจ่าง ไม่รับผิด และมีแต่การพูดจาที่ยิ่งอ่านเรายิ่งขึ้นอะ (ลองกดเข้าไปอ่านดูได้นะคะ) ทำให้จนตอนนี้หลายคนเกิดความไม่มั่นใจในหลายๆ เรื่อง โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัยของนักวิ่ง อยากวิ่งค่ะ แต่ไม่อยากเจ็บหรือตาย
จริงๆ เนื้อหาหลักที่ว่ามาทั้งหมดนี้ เราเอามาจากน้องคนหนึ่งที่เขียนเอาไว้ในกลุ่มวิ่งบน Facebook แต่เราว่าเรื่องราวอยู่แค่ในกลุ่มคนวิ่งมันยังไม่พอค่ะ นักวิ่งที่ถอดใจไม่ไปแล้วทุกคนเสียค่าสมัคร ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าที่พัก ไปหมดแล้ว แต่ทำไงได้คะ รักชีวิตตัวเองไว้ดีกว่า...ซึ่ง ณ จุดนี้ เราคิดว่าหลายคนผ่านเรื่องเงินไปแล้วค่ะ ไม่ใช่ปัญหาหลัก แต่สิ่งที่เราอยากออกมาเรียกร้องคือมาตรฐานและความรับผิดชอบของผู้จัด ระยะนี้งานวิ่งบูมมากจริงๆ ราคาแต่ละงานก็แพงขึ้นเกือบเท่าตัวจากตอนที่เราวิ่งแรกๆ และงานนี้ก็ไม่ใช่งานแรกที่ผู้จัดมีปัญหา แต่อาจจะเป็นงานแรกที่ปัญหาเยอะและใหญ่ที่สุด เพราะการจัดงานอาจก่อให้ผลกระทบมากมายค่ะ ทั้งผลกระทบต่อชุมชน ระบบนิเวศ ชีวิตและความปลอดภัยของนักวิ่ง ... เราคิดว่าปล่อยผ่านไปไม่ได้ อยากให้กรณีนี้เป็นกรณีตัวอย่างเพื่อสร้างให้เกิดมาตรฐานของการจัดงานค่ะ ย้ำอีกครั้ง...เราไม่ได้เรียกร้องเงินคืน เราถือว่าทำบุญให้ชุมชนตามที่ผู้จัดแจ้งไว้ว่าจะมอบเงินส่วนหนึ่งให้ชุมชนคีรีวง แต่เราต้องการให้มีบทลงโทษ แบน หรืออะไรก็ได้ที่ทำให้ผู้จัดออกมารับผิดชอบ ไม่ลอยนวลแล้วไปหลอกจัดงานหน้าในอนาคตได้อีกค่ะ
เพื่อนๆ หลายคนบอกว่าให้ร้องเรียนไปที่ สคบ. และจะแจ้งกับหน่วยงานอื่นๆ แต่เราก็ไม่ได้มีความรู้เรื่องกฎหมายหรืออะไรประเภทนี้เลยจริงๆ ค่ะ หากใครมีคำแนะนำอะไรช่วยพวกเราด้วยนะคะ
ขอบคุณมากๆ ค่ะ
เพิ่มเติมเพจของชุมชนค่ะ https://www.facebook.com/ThebestofOzone/?fref=ts