ทำอย่างไงให้แฟนเปลี่ยนมุมมองโลกในแง่ดีขึ้น เลิกทิฐิ

เพิ่งเขียนครั้งแรก เขียนวน เขียนอะไรอย่างไงต้องขอโทษด้วยนะคะ เนื่องจากเขียนด้วยอารมณ์อยากจะระบายบางอย่างให้กับคนอื่นฟัง ลงเฟสก็ไม่ได้เพราะแอบคบ ลงสื่อไม่ได้คนรู้จักเยอะ เลยต้องมาระบายอารมณ์ลงพันทิป อยากจะขอคำแนะนำจากทุกคนคะ ใครอยากจะเอามาเป็นประสบการณ์ก็ได้นะค่ะ

         คือเรากับแฟนคบกันมาจะสี่ปีแล้ว แต่ตอนนี้ความรู้สึกมันไม่เหมือนเดิม คนที่ไม่เหมือนเดิมคือแฟนเรา เรารู้สึกว่ามันมีบางอย่างมากั้นระหว่างเราสองคนอย่างไงไม่รู้ เมื่อวานเราเลยบอกกับเขาว่า ถ้าเราเลิกกัน คุณจะโกรธไหม
เขาบอกว่าไม่โกรธ แล้วเขาถามว่าทำไม เราก็บอกว่าเรารู้สึกว่าบางอย่างมันไม่เหมือนเดิม ความรู้สึกนี้มีมานานแล้ว มันอาจจะก่อตัวขึ้นอย่างช้าๆ จนมันเริ่มแตกหัก ตอนบอกคือต้องทำหน้านิ่งมาก ทั้งๆที่ในใจร้องไห้สุดๆ แต่คือควบคุมหน้าและเสียงให้ปกติที่สุดเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

          แล้วเราก็บอกเขาว่า คุณไม่ได้รักเราเหมือนเดิมแล้วใช่ไหม เขาก็บอกว่าใช่ เราก็เลยอืม นั้นแหละ เราเลิกกันดีกว่าเนาะ ในเมื่อคุณไม่ได้รักเราแล้ว อยู่กันไปมันก็ไม่เหมือนเดิม (เรากับแฟนอยู่ด้วยกันมาประมาณปีหนึ่งแล้ว)
เขาก็ถามเราว่า เรามีคนใหม่หรือป่าว เราบอกว่า คบกันมาหลายปีคุณไม่รู้เลยเหรอว่าเรา ตลอดเวลาที่คบกันมาเป็นอย่างไง เราไม่เคยมองคนอื่น ไม่เคยคิดอะไรกับใครเลย เปิดเผยตลอดด้วยซ้ำว่ามีแฟนแล้ว แฟนเราก็บอกว่า ผมรู้สึกระแวง ผมไม่อยากโดนสวมเขา ผมไม่เคยไว้ใจใคร(ที่เขาไม่ไว้ใจใครเป็นเพราะต้องแต่เด็กเขาโดนทุกคนหลอกมาตลอดตั้งแต่แม่เขาเอาเขาไปอยู่วัด พ่อเขาที่ทิ้งไปตั้งแต่เกิดแล้วกลับมาหาเขาตอนโตก็มาแต่จะเอาผลประโยชน์ เขาเลยระแวงตลอดเวลาว่าทุกคนไม่จริงใจกับเขา)

         เราก็เลยบอกว่า แล้วแต่คุณแล้วกัน เราไม่เคยปิดใครว่าเรามีแฟน เราบอกทุกคนด้วยซ้ำว่าวันนี้แฟนทำกับข้าวมาให้กินที่ทำงานอะไรบ้าง แล้วเขาก็ถามว่ามีใครมาจีบเราไหม เราก็ตอบว่ามี แต่เราไม่ยุ่ง ใครที่มาโต้งๆเราก็บอกตรงๆว่าเรามีแฟนแล้วห้ามจีบ คือเราเป็นคนตรงกับความรู้สึกตัวเองมาก ไม่เคยฝืนใจเรื่องความรัก ดังนั้นจะคุยตรงๆเสมอ แล้วที่เขารู้สึกกลัวเนื่องจากเรากับเขา ฐานะเราต่างกันมาก เขาตัวคนเดียว ไม่มีอะไรเลยมาแต่ตัว ในขณะที่เราจบมาการศึกษาดีจากมหาลัยดัง ครอบครัวก็ดีอบอุ่น เป็นที่รู้จัก แต่เราไม่เคยคิดจะดูถูกเขาเลย เรารักเขา เรายอมแลกทุกอย่างมา เราส่งเขาเรียน แต่เขากลับมองว่าเขาเป็นแมงดา เคยพูดกันหลายรอบแล้วว่าคนเราพื้นฐานไม่เหมือนกัน เรามีเราก็ให้ ไม่เห็นต้องคิดมาก แต่ผู้ชายชอบมองว่า ผู้ชายก็ต้องหาเลี้ยงดูตัวเอง

          และสิ่งหนึ่งที่เขาบอกว่าเราไม่ใช่สเปกเขาเคยคือ งานบ้าน เรายอมรับว่างานบ้านเราไม่ได้เรื่อง เราทำงาน เราเหนื่อย เราจะทำงานบ้านก็เฉพาะช่วงเสาร์อาทิตย์ ไม่ก็เลิกงานเร็ว เมื่อก่อนเขาเป็นคนทำทั้งหมด เพราะเรียนอย่างเดียว (เขาจะมองว่าผู้หญิงต้องเป็นเหมือนทาสผู้ชายสมัยก่อนคือต้องทำงานบ้านทุกอย่าง ปรนนิบัติสามี แต่นี้มันยุคไหนไง เขาบอกว่าก็ผู้หญิงของพ่อก็ทำให้แบบนี้ ไหนจะพี่ที่เขารู้จักแฟนพี่เขาก็ทำแบบนี้ แต่ในมุมมองเราพี่คนนั้นไม่ได้เท่ห์เลย ทุกวันนี้เอาแต่กินเหล้างานไม่ค่อยจะทำ ให้แต่แฟนไปทำงานหาเงินกลับมาทำงานบ้าน เราก็บอกเลยว่าเราทำไม่ได้ เราไม่ใช่ขี้ข้าใคร และเรามองว่าพี่คนนั้นโคตรเห็นแก่ตัว ทะเลาะกันเรื่องนี้หลายรอบมองเรื่องมุมมองการมองผู้หญิง)

          จนเมื่อหนึ่งเดือนที่ผ่านมาเขารับงานPart time งานหนัก เนื่องจากเรามีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น เราหาเงินคนเดียวไม่พอ เราเลยขอให้เขาช่วย พองานหนัก ต่างคนต่างเหนื่อย บ้านก็เริ่มรก เราก็ปรับปรุงได้ช่วงหนึ่ง คือทำงานบ้านเพิ่มขึ้น แต่พอมาช่วงนี้เราไปรับ Part time เพิ่ม เรียกว่าไม่หยุดเลย (คนหรือแรมโบ้) ยอมรับว่าเหนื่อยมาก แต่อยากให้แฟนสบาย เราเคยพูดว่าถ้าหมดภาระ ซึ่งก็แค่อีกไม่กี่เดือน อยากจะให้เขาเลิกทำงานแล้วตั้งใจเรียนได้ไหม เขาบอกว่าเขาไม่อยากหวังพึ่งเราอีกแล้ว เขาไม่อยากจะขอเงินจากเราอีก มันอึดอัด เราไปกดดันเขาเรื่องเรียนที่ว่าอยากให้เขาเรียนอย่างนั้นอย่างนี้ คือเราก็ไม่ได้กดดันนะ แต่เราก็แนะนำในสิ่งที่เราเคยผ่านมาแล้วให้เขาตัดสินใจเอง แต่บางทีที่เขาบอกว่าเขาทำไม่ได้อย่างนั้นอย่างนี้ เรารู้ว่าศักยภาพของเขาถึง แต่เขาชอบดูถูกตัวเองว่าทำไม่ได้ เราเคยบอกว่างั้นก็แพ้ตั้งแต่ยังไม่ได้ชกเลยสิ เขาเคยแกล้งลองใจเราว่า เขาสอบได้เกรด D เราบอกว่าได้ไง เป็นไปไม่ได้ เราไม่เชื่อ สุดท้ายเขาเฉลยว่าเขาได้ B เราก็บอกว่าเห็นไหมคุณไม่มีทางได้ D หรอก เขาก็เลยถามว่าถ้าเขาได้ D จะอย่างไงหรอ เราก็บอกว่าเป็นไปไม่ได้หรอก เรารู้ว่าเขาขยันแค่ไหน ศักยภาพเขาแค่ไหน เขาควรจะได้เกรดอะไร แต่ติดที่ความใจร้อนของเขา

          และอีกเรื่องหนึ่งที่ทำให้เราสองคนไม่เป็นเหมือนเดิมคือ เราสองคนทะเลาะกันเรื่องเก็บโทรศัพท์ เขาสั่งให้เราเก็บโทรศัพท์ในเกะรถ แต่เราเก็บแต่แพตให้เขา แล้วเช้ามาหาโทรศัพท์ไม่เจอ ไอ้เราก็จำได้ตลอดว่าเขาให้เราเก็บแต่แพต แล้วรถเราดันให้คนอื่นยืมไปใช้รับพระตอนเช้า เขาก็กลัวว่าโทรศัพท์จะหาย สุดท้ายหาเจอ แต่ด้วยทิฐิของเราทั้งคู่ต่างคนต่างไม่ยอม เขาก็ตะโกนด่าเราลั่น เราก็ไม่ตอบอะไร จนมาถึงหน้าบ้านเขาก็ยังงอนเราอยู่ เขาก็กระแทกปิดหลังรถจนมันหัก ปิดกระโปรงหลังรถไม่ได้ พี่ชายเขาก็จะตบเขาเพราะเขาด่าเราหนักมากต่อหน้าคนอื่น ตั้งแต่นั้นมามันก็ไม่เหมือนเดิม เขาเปิดใจกับเราว่าเขาเริ่มอยากลงไม้ลงมือกับเรา เราก็โอเคไม่เป็นไร แต่ถ้าคุณลงไม้ลงมือกับเรา เราไม่ยอมนะ เราสวน ซึ่งนิสัยนี้เราเข้าใจเขานะ คือที่บ้านเขาพ่อเขาก็ซ้อมผู้หญิงที่บ้าน ลุงเขาก็ซ้อมผู้หญิงที่บ้าน พี่คนเขารู้จักก็ลงไม้ลงมือผู้หญิงที่บ้าน เราพยายามจะเปลี่ยนเขา

          เราเลยอย่างจะถามทุกคนๆว่าเราจะสามารถเปลี่ยนเขาได้ไง เขาเป็นคนทิฐิแรง ใครพูดอะไรไม่ฟัง เขาเชื่อตัวเขาคนเดียว จะเปลี่ยนให้เขามองโลกในแง่ดีขึ้นบ้างทำอย่างไงดีค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่