พท.ขอ ก้าวข้ามปมวันเกิด “ทักษิณ” ชี้ ปมใครไปวันเกิดแล้วกลับเข้าประเทศไม่ได้ เหลวไหล!
เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีมีกระแสข่าว ระบุ คสช.แจ้งเตือนคนที่จะไปร่วมงานวันเกิดนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยนายทักษิณ ไม่อยากให้เดินทางกันไปเป็นจำนวนมาก และหากเดินทางออกไปกันแล้วอาจจะไม่สามารถเดินทางกลับเข้ามาประเทศไทยได้ ทำให้บรรดานักการเมืองไม่กล้าเสี่ยงเดินทางไปจนทำให้นายทักษิณ ตัดสินใจการยกเลิกการจัดงานวันเกิดที่ฮ่องกง และไปจัดงานวันเกิดเฉพาะครอบครัวที่กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีนแทน ว่า เรื่องนี้ไม่เป็นความจริง แต่อย่างใด จากการสอบถามคนที่จะเดินทางไป ยืนยันตรงกัน ว่า ไม่มีกรณี คสช.แจ้งเตือนห้ามเดินทางแต่อย่างใด เพราะคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 25/2559 ได้ยกเลิกการห้ามบุคคลเดินทางออกนอกราชอาณาจักรไปแล้ว ทำให้นักการเมืองสามารถเดินทางออกนอกประเทศไทยได้ จึงไม่ใช่หน้าที่ที่คสช.จะไปดำเนินการก้าวล่วงสิทธิการเดินทางใดๆ รวมถึงประเด็นกลัวว่าเดินทางออกไปแล้วจะกลับไม่ได้ ยิ่งไร้เหตุผล เพราะไม่มีรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายฉบับใดของประเทศ ห้ามคนไทยที่เดินทางออกไปโดยชอบแล้วกลับเข้าประเทศตัวเองไม่ได้ นายทักษิณ เป็นอดีตนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย ย่อมตระหนักและปรารถนาดีต่อประเทศชาติบ้านเมืองไม่ต่างจากคนไทยทุกคน แม้การจัดงานวันเกิดเป็นสิ่งที่คนทั่วโลกสามารถทำได้โดยชอบ แต่ท่านก็เกรงว่าอาจจะกระทบต่อบรรยากาศของบ้านเมือง โดยเฉพาะช่วงใกล้ถึงวันลงประชามติในวันที่ 7 สิงหาคม การยกเลิกงานวันเกิดเป็นการตัดสินใจของท่านเอง ไม่มีใครมาข่มขู่ ก่อนหน้านี้เคยขอให้ก้าวข้ามดร.ทักษิณ วันนี้ขอให้ก้าวข้ามการจัดงานวันเกิดนายทักษิณด้วย เรื่องนี้ควรจบได้แล้ว
ส่วนกรณี 2 รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) เรียกร้องให้นายทักษิณ กลับประเทศไทยเพื่อรับโทษตามกฎหมายนั้น ได้ชี้แจงหลายครั้งว่าคดีของนายทักษิณ เกิดจากผลพวงของการปฏิวัติรัฐประหารในปี 2549 ตั้งคตส.ที่รวบรวมเอาบุคคลที่มีอคติและมีจุดยืนเป็นปฏิปักษ์ทางการเมืองมาสอบสวน ซึ่งผิดหลักนิติธรรมชัดเจน ถ้า 2 รองโฆษกพรรคปชป.หาสิ่งที่เป็นสาระหรือเป็นประโยชน์ต่อบ้านเมืองมาสื่อสารไม่ได้ ก็หยุดพูดเสียบ้าง ไม่มีใครว่า ไม่จำเป็นต้องไปเอาประเด็นการเมืองเก่าๆซ้ำซากมากล่าวหาอีกฝ่าย ทำลายบรรยากาศปรองดองสมานฉันท์ของบ้านเมืองไปเปล่าๆ และสิ่งที่ฝ่ายการเมืองควรจะต้องทำในเวลานี้ คือร่วมกันหาทางออกหรือแนวทางที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติมานำเสนอต่อสังคม
JJNY : พท.ขอก้าวข้ามปมวันเกิด”ทักษิณ”โต้รองโฆษกปชป.ปมร้องให้ทักษิณกลับมารับโทษ
เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีมีกระแสข่าว ระบุ คสช.แจ้งเตือนคนที่จะไปร่วมงานวันเกิดนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยนายทักษิณ ไม่อยากให้เดินทางกันไปเป็นจำนวนมาก และหากเดินทางออกไปกันแล้วอาจจะไม่สามารถเดินทางกลับเข้ามาประเทศไทยได้ ทำให้บรรดานักการเมืองไม่กล้าเสี่ยงเดินทางไปจนทำให้นายทักษิณ ตัดสินใจการยกเลิกการจัดงานวันเกิดที่ฮ่องกง และไปจัดงานวันเกิดเฉพาะครอบครัวที่กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีนแทน ว่า เรื่องนี้ไม่เป็นความจริง แต่อย่างใด จากการสอบถามคนที่จะเดินทางไป ยืนยันตรงกัน ว่า ไม่มีกรณี คสช.แจ้งเตือนห้ามเดินทางแต่อย่างใด เพราะคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 25/2559 ได้ยกเลิกการห้ามบุคคลเดินทางออกนอกราชอาณาจักรไปแล้ว ทำให้นักการเมืองสามารถเดินทางออกนอกประเทศไทยได้ จึงไม่ใช่หน้าที่ที่คสช.จะไปดำเนินการก้าวล่วงสิทธิการเดินทางใดๆ รวมถึงประเด็นกลัวว่าเดินทางออกไปแล้วจะกลับไม่ได้ ยิ่งไร้เหตุผล เพราะไม่มีรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายฉบับใดของประเทศ ห้ามคนไทยที่เดินทางออกไปโดยชอบแล้วกลับเข้าประเทศตัวเองไม่ได้ นายทักษิณ เป็นอดีตนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย ย่อมตระหนักและปรารถนาดีต่อประเทศชาติบ้านเมืองไม่ต่างจากคนไทยทุกคน แม้การจัดงานวันเกิดเป็นสิ่งที่คนทั่วโลกสามารถทำได้โดยชอบ แต่ท่านก็เกรงว่าอาจจะกระทบต่อบรรยากาศของบ้านเมือง โดยเฉพาะช่วงใกล้ถึงวันลงประชามติในวันที่ 7 สิงหาคม การยกเลิกงานวันเกิดเป็นการตัดสินใจของท่านเอง ไม่มีใครมาข่มขู่ ก่อนหน้านี้เคยขอให้ก้าวข้ามดร.ทักษิณ วันนี้ขอให้ก้าวข้ามการจัดงานวันเกิดนายทักษิณด้วย เรื่องนี้ควรจบได้แล้ว
ส่วนกรณี 2 รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) เรียกร้องให้นายทักษิณ กลับประเทศไทยเพื่อรับโทษตามกฎหมายนั้น ได้ชี้แจงหลายครั้งว่าคดีของนายทักษิณ เกิดจากผลพวงของการปฏิวัติรัฐประหารในปี 2549 ตั้งคตส.ที่รวบรวมเอาบุคคลที่มีอคติและมีจุดยืนเป็นปฏิปักษ์ทางการเมืองมาสอบสวน ซึ่งผิดหลักนิติธรรมชัดเจน ถ้า 2 รองโฆษกพรรคปชป.หาสิ่งที่เป็นสาระหรือเป็นประโยชน์ต่อบ้านเมืองมาสื่อสารไม่ได้ ก็หยุดพูดเสียบ้าง ไม่มีใครว่า ไม่จำเป็นต้องไปเอาประเด็นการเมืองเก่าๆซ้ำซากมากล่าวหาอีกฝ่าย ทำลายบรรยากาศปรองดองสมานฉันท์ของบ้านเมืองไปเปล่าๆ และสิ่งที่ฝ่ายการเมืองควรจะต้องทำในเวลานี้ คือร่วมกันหาทางออกหรือแนวทางที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติมานำเสนอต่อสังคม