คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
ถ้าจำไม่ผิด
เสมาได้เป็นพระยารามจัตุรงค์ ซึ่งตามพระอัยการนาทหาร เป็นตำแหน่งของจางวางกรมอาสาหกเหล่า มีศักดินา ๑๐๐๐๐ ไร่ เท่ากับสมุหพระกลาโหมครับ
ในบรรดาขุนนางฝ่ายทหาร มีเพียง ๔ ตำแหน่งที่มีศักดินา ๑๐๐๐๐ ไร่คือ (บรรดาศักดิ์เป็นเจ้าพระยา หรือ พระยา ไม่ตายตัวครับ)
- เจ้าพระยามหาเสนาบดีวิรียภักดีบดินทรสุรินทรทฤๅไชยอไภยพิรียปรากรมภาหุ สมุหพระกลาโหม
- พระยารามจัตุรงค์
- พระยาศรีราชเดโชไชยอะไภยพิรียปรากรมภาหุ
- พระยาศรีราชเดชไชยท้ายน้ำอะไภยพิรียปรากรมภาหุ
รายละเอียดเกี่ยวกับตำแหน่งเหล่านี้อาจจะอ่านจากลิ้งค์นี้ครับ https://www.gotoknow.org/posts/335688
ส่วนขุนไกรมีบรรดาศักดิ์สุดท้ายรู้สึกจะเป็น พระยาสีหราชฤทธิไกรครับ
สมัยอยุทธยาไม่มีทินนามนี้ (เช่นเดียวกับอีกหลายๆ ทินนามในสายโลหิต อย่าง พิริยะแสนพลพ่าย เสนาสุรภาค ซึ่งเหมือนแต่งขึ้นเองมากกว่า อย่างทิมนนามของขุนไกรจะมีคำว่า ไกร อยู่หมดจนดูเหมือนจงใจเกินไปครับ) เข้าใจว่าคงได้ไอเดียมาจากพระยาสีหราชฤทธิไกร (ทองคำ สีหอุไร) ข้าราชการในสมัยรัชกาลที่ ๕ ครับ
เสมาได้เป็นพระยารามจัตุรงค์ ซึ่งตามพระอัยการนาทหาร เป็นตำแหน่งของจางวางกรมอาสาหกเหล่า มีศักดินา ๑๐๐๐๐ ไร่ เท่ากับสมุหพระกลาโหมครับ
ในบรรดาขุนนางฝ่ายทหาร มีเพียง ๔ ตำแหน่งที่มีศักดินา ๑๐๐๐๐ ไร่คือ (บรรดาศักดิ์เป็นเจ้าพระยา หรือ พระยา ไม่ตายตัวครับ)
- เจ้าพระยามหาเสนาบดีวิรียภักดีบดินทรสุรินทรทฤๅไชยอไภยพิรียปรากรมภาหุ สมุหพระกลาโหม
- พระยารามจัตุรงค์
- พระยาศรีราชเดโชไชยอะไภยพิรียปรากรมภาหุ
- พระยาศรีราชเดชไชยท้ายน้ำอะไภยพิรียปรากรมภาหุ
รายละเอียดเกี่ยวกับตำแหน่งเหล่านี้อาจจะอ่านจากลิ้งค์นี้ครับ https://www.gotoknow.org/posts/335688
ส่วนขุนไกรมีบรรดาศักดิ์สุดท้ายรู้สึกจะเป็น พระยาสีหราชฤทธิไกรครับ
สมัยอยุทธยาไม่มีทินนามนี้ (เช่นเดียวกับอีกหลายๆ ทินนามในสายโลหิต อย่าง พิริยะแสนพลพ่าย เสนาสุรภาค ซึ่งเหมือนแต่งขึ้นเองมากกว่า อย่างทิมนนามของขุนไกรจะมีคำว่า ไกร อยู่หมดจนดูเหมือนจงใจเกินไปครับ) เข้าใจว่าคงได้ไอเดียมาจากพระยาสีหราชฤทธิไกร (ทองคำ สีหอุไร) ข้าราชการในสมัยรัชกาลที่ ๕ ครับ
แสดงความคิดเห็น
ขุนไกร ในเรื่องสายโลหิต กับ เสมา ในเรื่องขุนศึก บรรดาศักดิ์สุดท้ายก่อนออกจากราชการ ของทั้งสองคนคืออะไรหรอครับ