"สวัสดีค่า...ทักทายทุกคน ที่กดเข้ามาอ่านกระทู้รีวิวกากๆนี้นะคะ"

"กระทู้นี้เป็นอีกครั้ง ที่ได้มีโอกาสมาเล่าประสบการณ์เวลาไปเที่ยวต่างประเทศ เพราะงั้นอย่าเรียกมันว่ารีวิวเลยค่า มันคือบันทึกการเดินทางของเราเอง 555 หวังว่าคนที่ได้อ่านอาจจะได้ประโยชน์ไปบ้าง จากการเสียเวลาอ่านครั้งนี้นะคะ"
"รอบนี้เราได้มีโอกาสไปเที่ยว
ประเทศฮ่องกงกันคะ เราไปกัน 4 วัน 3 คืน วันที่ 23-26 มิถุนายน '16 ที่ผ่านมาคะ เค้าว่ากันว่าฮ่องกงเป็นประเทศที่เที่ยวง่าย เที่ยวด้วยตัวเองได้สบายๆ เราจึงตัดสินใจว่าอยากจะลองไปเยี่ยมเยือนที่นี่ดูสักครั้ง"
"กระทู้
เที่ยวฮ่องกง...(หลง)ด้วยตัวเอง จะหลงอะไร หลงยังไง เอาเป็นว่า ตามมาหลงไปด้วยกันนะคะ"
เกาะฮ่องกงจากมุมที่เราเห็นได้จากเครื่องบินเมื่อไปถึงคะ สวยมากๆเลย
"ก่อนเดินทาง เราหาข้อมูลจากแหล่งต่างๆเยอะมากเลยคะ และแหล่งข้อมูลที่สำคัญหลักๆของเราเลยก็คือ กระทู้รีวิวในพันทิพย์นี่แหละคะ ช่วยได้เยอะเลย อีกหนึ่งแหล่งข้อมูลของเราก็คือ หนังสือคู่มือการท่องเที่ยวฮ่องกง สองเล่มนี้คะ"
"จากนั้นเราก็คัดเลือกสถานที่ที่เราจะไปคะ ตัดแล้วตัดอีก เพราะแหล่งท่องเที่ยวในฮ่องกงเยอะมากจริงๆคะ สามารถเลือกไปได้ตามสไตล์ของตัวเองเลย แต่เนื่องด้วยวันเวลา และงบอันจำกัดของเรา เอาจึงคัดเลือกมาจนเต็มทั้ง 4 วัน 3 คืน ที่เราไปคะ ได้มาเป็นแผนเที่ยวในแบบของเรา ที่อัดแน่นไปด้วยสถานที่ต่างๆ เรียกได้ว่าเสียดายทุกที่ อยากไปให้ครบจริงๆ ฮาาา"
"เมื่อได้วันเวลาที่จะเดินทางเรียบร้อยแล้ว ก็ทำการจองตั๋วเครื่องบิน และที่พักในฮ่องกงกันคะ ครั้งนี้เราก็ยังเลือกบินกับสายการบินหางแดง ที่มีณเดชเป็นพรีเซนเตอร์คะ (แหม...บอกขนาดนี้ บอกชื่อไปเลยเถอะ

555) ด้วยราคาที่ดีกับใจและเงินในกระเป๋า ทำให้เราเลือกบินกับสายการบินนี้คะ ตั้งแต่นั่งมาก็ยังไม่เคยเจอปัญหาอะไรนะคะ ก็คงจะดีกับใจไปอีกเรื่อยๆ 555"
"ต่อมาก็เป็นที่พักคะ ที่พักในฮ่องกงมีให้เลือกหลากหลายนะคะ ทั้งโรงแรม และเกสเฮ้าส์ เลือกได้ตามงบประมาณในกระเป๋าได้เลย ส่วนเราเลือกพักเกสเฮ้าส์กันคะ ตามงบ... แหล่งที่พักที่เราเลือกคือย่าน
Tsim Sha Tsui เพราะเดินทางง่าย สะดวกกับการเดินทางทั้งทางรถไฟใต้ดิน รถเมล์ และเรือ แล้วก็ใกล้แหล่งช็อปปิ้งด้วยคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้แต่เคยได้ยินเสียงลือเสียงเล่าอ้างมาว่า ที่พักในตึก Chungking Mansion นั้น แม้ราคาถูกและดีก็จริง แต่เนื่องจากคนในตึกเยอะ ทำให้ต้องรอลิฟท์นาน เห็นว่าบางทีต้องรอหลายสิบนาทีเชียวคะ และหน้าตึกตอนกลางคืน แม้กระทั้งตอนกลางวัน จะมีคนแขกจำนวนมาก เดินกันขวักไขว่ ซึงก็จริงคะ ยืนกันเต็มหน้าตึกเลย ถึงแม้เค้าจะไม่ได้มายุ่งอะไรกับเราก็ตาม แต่เราไม่ค่อยคุ้นเคยคะ 555 เราเลยเลี่ยงที่พักในตึกนั้น โดยลองหาที่พักที่อยู่ในย่านเดียวกันแต่เป็นอีกตึกนึงคะ ชื่อตึกว่า Harilela Mansion ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเยื้องๆกับตึก Chungkingคะ ตึกใกล้กับทางออก C2 สถานี MTR ในตึกนี้มีที่พักไม่กี่ที่คะ เป็นตึกเล็กๆ แต่มีความสะดวกในการเดินทาง และดูปลอดภัยดี ด้านล่างตึกมีลิฟท์เล็กๆ2ตัว แต่รอลิฟท์ไม่นานคะค่อนข้างสะดวกเลย จะมีรปภ.เฝ้าอยู่ตลอด24ช.ม.คะ และยังมีกล้องวงจรปิดติดอยู่ด้วย หน้าตึกก็คนไม่พลุกพล่าน สงบดีคะ เราเลยเลือกที่นี่ และได้จองที่พักทั้ง3คืนที่ Legend Guest Houseคะ ที่พักค่อนข้างโอเคนะคะ คือเตรียมใจมาแล้วว่าฮ่องกงที่แพง ห้องพักก็ไม่ต้องพูดถึงคะ เอาไว้นอนพักอย่างเดียวจริงๆ ใครที่สนใจมาพักย่านนี้ เราแนะนำนะคะ ค่อนข้างโอเคเลย"
ย่านที่พักใน Tsim Sha Tsui ทางเข้าตึกก็จะเป็นทางแคบๆแทรกตามร้านรวงต่างๆคะ
"จากนั้นก็จัดการจองตั๋วเข้าชม Hongkong Disneyland หนึ่งในโปรแกรมเที่ยวของเรา ซึ่งเราโชคดีมากที่ตอนเราไปเป็นช่วงครบรอบ 10ปี ของ Hongkong Disneylandพอดี เราเลยได้ตั๋วโปรโมชั่นที่ซื้อตั๋วเข้าชมแถมบัตรอาหาร1ใบ ประหยัดไปได้เยอะเลย เพราะอาหารที่ขายข้างในแพงมากจริงๆ เราจองทางเว็บไซน์ของดิสนีย์โดยตรง ตัดผ่านบัตรเครดิตไปเลยสะดวกมาก แล้วก็ปริ๊นใบจองไปขอออกตั๋วที่หน้าทางเข้าได้เลย"
"อีกอย่างที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับเด็กยุคโซเชียลอย่างเราๆ นั่นคือ อินเตอร์เน็ต!!! จะให้รอไปเล่นwifiที่โรงแรมอย่างเดียวคงไม่ไหว เมื่อคราวที่แล้วตอนไปเกาหลี เราเลือกเช่า Pocket Wifi กัน แต่มันมีข้อจำกัดอย่างนึงคือ ต้องเกาะกลุ่มกันไว้เมื่อจะใช้เน็ต ครั้งนี้เราเลยเลือกที่จะซื้อSIMในระบบของฮ่องกงใช้เลย ของใครของมันไม่ต้องแย่งกันใช้ 555 เราใช้บริการของ HongkongFanclub เป็นซิมที่มีเงินอยู่ในนั้น สามารถสมัครแพ็คเก็จเน็ต แล้วเล่นได้เลยคะ"
ซิมเป็นแบบ 3in1 หักซิมได้ตามรุ่นมือถือที่ใช้เลยคะ

"เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้วสำหรับการเที่ยวครั้งนี้ เราก็ออกเดินทางกันเลย....เย๊!!"
"...วันแรก...เราเดินทางไปสนามบินดอนเมืองกันตั้งแต่เช้ามืดเลยคะ ไปถึงเกือบตี4 แต่คนเยอะมากๆ ขนาดบ้านอยู่ใกล้สนามบินนะเนี่ย แถวเช็คอินยาวเป็นกิโลเลย ใครบ้านไกลๆแล้วต้องบินเช้า เผื่อเวลากันนิดนึงนะคะ ก่อนเดินทางประมาณอาทิตย์นึง เราเช็คพยากรณ์อากาศของฮ่องกงกันทุกวันเลยคะ ลุ้นกันทุกวันไม่ให้เจอฝน เพราะเราไปกันหน้าฝนเลย เสี่ยงมาก ก่อนวันเราไปฝนก็ยังตกอยู่แทบทุกวัน ทำใจไว้แล้วว่าต้องไปเจอฝนแน่ๆเลย เตรียมร่มกันไปพร้อมมากอะ ก่อนเครื่องขึ้นที่ไทยฝนก็ตกด้วยละ กะว่าต้องเปียกกันทั้งทริปแน่เลย"
"มื้อเช้าของเราฝากท้องกับอาหารบนเครื่องคะ ตอนแรกกะว่าจะไปหาอะไรกินที่สนามบิน แต่ไม่ทัน 5555 อาหารบนเครื่องก็มีให้เลือกไม่กี่อย่างคะ เพราะเราไม่ได้เลือกซื้ออาหารไว้ก่อน ก็กินเท่าที่มีแล้วกันคะ มื้อนี้เราเลือกกินเป็นข้าวกระเพราไก่คะ...เมนูสิ้นคิดมากๆ 555 แต่รสชาติใช้ได้เลยทีเดียว"
ดูใบกระเพราที่พาดอยู่ด้านบนสิคะ...ใบเดียวจบ 555
"มื้ออาหารจบ....แต่เราไม่จบคะ มีความอยากลิ้มลองของหวานบนเครื่อง 555 เลยจัดเมนู Yamanashi Mochi หรือโมจิน้ำ มาลองกินกันคะ"
"ก่อนกินคาดว่า มันคงเป็นโมจินิ่มๆเหมือนพุดดิ้ง แต่ผิดคาดคะ ตัวโมจิใสๆนั่นมีความคงตัวสูงมาก ช้อนที่ให้มาตักแทบไม่เข้า 555"
"ตัวโมจิไม่มีรสนะคะจืดๆ แต่เค้าจะมีน้ำเชื่อมหวานๆ แล้วก็ผงถั่วมาให้ราดลงไปคะ"
"ผลสรุปคือ...เป็นรสชาติที่แปลกใหม่ดีคะ ไม่แน่ใจว่าอร่อยหรือไม่ เพราะไม่เคยกินโมจิน้ำของที่อื่นคะ ไม่กล้าตัดสิน แต่เราโอเคคะชอบๆ"
"นั่งอยู่บนเครื่องไม่นานนัก กัปตันก็เริ่มนำเครื่องลดระดับคะ และแจ้งว่าเราใกล้ถึงแล้ว วิวนอกหน้าต่างตอนนี้ถือว่าสวยมาก รอบๆเป็นเกาะเล็กเกาะน้อยเต็มไปหมดเลยคะ ไม่ค่อยได้เห็นวิวแบบนี้ ตื่นเต้นมากๆคะ นั่งไม่ติดเบาะเลย 555"
มองลงไปก็เห็นแต่ตึกคะ ตึก ตึก ตึกเต็มไปหมดเลย
"เครื่องLandingแล้วค่าาาา....สนามบินเช็กแล็บก็อก หรือ Hongkong International Airport เป็นสนามบินที่เท่มากอะ"
พอเครื่องเราลงแล้ว หันไปก็มีอีกลำลงต่อกันเลยคะ การจราจรคับคั่งมากๆ
"เมื่อลงจากเครื่องแล้วก็ไปด่านตรวจคนเข้าเมืองกันเลย เดินตามป้ายบอกทางไปเรื่อยๆคะ ต.ม.กับเกตจะอยู่คนละที่กันนะคะ เราต้องนั่งรถไฟเพื่อไปที่ด่าน จะคล้ายๆกับสนามบินอินชอนของเกาหลีเลยคะ"
"การผ่านต.ม.ของฮ่องกงไม่ยุ่งยากคะ ผ่านง่ายมากๆ แทบไม่คุยอะไรกับเราเลยคะ ยิ้มให้ยังไม่มองเลย ใจร้าย 555 ถ้าเคยผ่านต.ม.เกาหลีมาแล้ว บอกเลยว่าต.ม.ฮ่องกงชิลล์มาก เมื่อผ่านต.ม.เรียบร้อยก็ออกมารอรับกระเป๋าคะ กระเป๋ามาไวมาก ต้องบอกว่ากระเป๋ามารอเรามากกว่าคะ"
"ภารกิจแรกของเราที่ฮ่องกงคือ การไปซื้อบัตรที่เราต้องใช้เดินทางขึ้นรถ ลงเรือ ในฮ่องกงคะ บัตรOctopus หรือบัตรปลาหมึกนั่นเอง เราสามารถซื้อบัตรนี้ได้ที่เคาท์เตอร์จำหน่ายตั๋วAirport Express บริเวณ Hall A คะ บัตรราคา 150 HK$ ซึ่งสามารถใช้เงินในบัตรได้ 100 HK$ อีก 50$จะเป็นมัดจำ ที่จะได้รับคืนเมื่อคืนบัตรคะ"
"และสามารถเติมเงินในบัตรได้ที่ตู้เติมเงินที่อยู่ตามสถานีMTR บัตรนี้นอกจากใช้เดินทางแล้ว ยังใช้ซื้อของตามร้านต่างๆได้ด้วยนะ"
"เสร็จเรียบร้อย พร้อมเที่ยวแล้วค่า เราจะเดินทางเข้าเมืองกันเลย การเดินทางก็มีหลายวิธีให้เลือกนะคะ จะนั่งAirport Express แล้วไปต่อShuttle Busเพื่อไปลงตามจุดที่ใกล้ที่พักก็ได้คะ แต่เราเลือกเดินทางเข้าเมืองด้วยรถเมล์คะ เพราะที่พักเราใกล้ป้ายรถเมล์เลย สะดวกกว่าคะ ที่สำคัญ ถูกกว่าด้วย 555 ให้เดินตามป้าย
To City ไปเลยคะ มันจะพาเราออกจากสนามบิน ไปตรงจุดให้บริการรถสาธารณะ ที่มีรถเมล์ทุกสายที่เราต้องการคะ หรือจะใช้บริการTaxi ตรงนี้ก็มีเช่นกันคะ"
เมื่อออกไปก็จะมีป้ายบอกคะว่าสายรถของเราจอดตรงไหน ส่วนเราจะไป จิมซาจุ่ย ขึ้นสาย A21 เลยคะ
[CR] "เที่ยวฮ่องกง...(หลง)ด้วยตัวเอง" ep.1
"กระทู้นี้เป็นอีกครั้ง ที่ได้มีโอกาสมาเล่าประสบการณ์เวลาไปเที่ยวต่างประเทศ เพราะงั้นอย่าเรียกมันว่ารีวิวเลยค่า มันคือบันทึกการเดินทางของเราเอง 555 หวังว่าคนที่ได้อ่านอาจจะได้ประโยชน์ไปบ้าง จากการเสียเวลาอ่านครั้งนี้นะคะ"
"รอบนี้เราได้มีโอกาสไปเที่ยวประเทศฮ่องกงกันคะ เราไปกัน 4 วัน 3 คืน วันที่ 23-26 มิถุนายน '16 ที่ผ่านมาคะ เค้าว่ากันว่าฮ่องกงเป็นประเทศที่เที่ยวง่าย เที่ยวด้วยตัวเองได้สบายๆ เราจึงตัดสินใจว่าอยากจะลองไปเยี่ยมเยือนที่นี่ดูสักครั้ง"
"กระทู้ เที่ยวฮ่องกง...(หลง)ด้วยตัวเอง จะหลงอะไร หลงยังไง เอาเป็นว่า ตามมาหลงไปด้วยกันนะคะ"
"ก่อนเดินทาง เราหาข้อมูลจากแหล่งต่างๆเยอะมากเลยคะ และแหล่งข้อมูลที่สำคัญหลักๆของเราเลยก็คือ กระทู้รีวิวในพันทิพย์นี่แหละคะ ช่วยได้เยอะเลย อีกหนึ่งแหล่งข้อมูลของเราก็คือ หนังสือคู่มือการท่องเที่ยวฮ่องกง สองเล่มนี้คะ"
"จากนั้นเราก็คัดเลือกสถานที่ที่เราจะไปคะ ตัดแล้วตัดอีก เพราะแหล่งท่องเที่ยวในฮ่องกงเยอะมากจริงๆคะ สามารถเลือกไปได้ตามสไตล์ของตัวเองเลย แต่เนื่องด้วยวันเวลา และงบอันจำกัดของเรา เอาจึงคัดเลือกมาจนเต็มทั้ง 4 วัน 3 คืน ที่เราไปคะ ได้มาเป็นแผนเที่ยวในแบบของเรา ที่อัดแน่นไปด้วยสถานที่ต่างๆ เรียกได้ว่าเสียดายทุกที่ อยากไปให้ครบจริงๆ ฮาาา"
"เมื่อได้วันเวลาที่จะเดินทางเรียบร้อยแล้ว ก็ทำการจองตั๋วเครื่องบิน และที่พักในฮ่องกงกันคะ ครั้งนี้เราก็ยังเลือกบินกับสายการบินหางแดง ที่มีณเดชเป็นพรีเซนเตอร์คะ (แหม...บอกขนาดนี้ บอกชื่อไปเลยเถอะ
"ต่อมาก็เป็นที่พักคะ ที่พักในฮ่องกงมีให้เลือกหลากหลายนะคะ ทั้งโรงแรม และเกสเฮ้าส์ เลือกได้ตามงบประมาณในกระเป๋าได้เลย ส่วนเราเลือกพักเกสเฮ้าส์กันคะ ตามงบ... แหล่งที่พักที่เราเลือกคือย่าน Tsim Sha Tsui เพราะเดินทางง่าย สะดวกกับการเดินทางทั้งทางรถไฟใต้ดิน รถเมล์ และเรือ แล้วก็ใกล้แหล่งช็อปปิ้งด้วยคะ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ ชื่อตึกว่า Harilela Mansion ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเยื้องๆกับตึก Chungkingคะ ตึกใกล้กับทางออก C2 สถานี MTR ในตึกนี้มีที่พักไม่กี่ที่คะ เป็นตึกเล็กๆ แต่มีความสะดวกในการเดินทาง และดูปลอดภัยดี ด้านล่างตึกมีลิฟท์เล็กๆ2ตัว แต่รอลิฟท์ไม่นานคะค่อนข้างสะดวกเลย จะมีรปภ.เฝ้าอยู่ตลอด24ช.ม.คะ และยังมีกล้องวงจรปิดติดอยู่ด้วย หน้าตึกก็คนไม่พลุกพล่าน สงบดีคะ เราเลยเลือกที่นี่ และได้จองที่พักทั้ง3คืนที่ Legend Guest Houseคะ ที่พักค่อนข้างโอเคนะคะ คือเตรียมใจมาแล้วว่าฮ่องกงที่แพง ห้องพักก็ไม่ต้องพูดถึงคะ เอาไว้นอนพักอย่างเดียวจริงๆ ใครที่สนใจมาพักย่านนี้ เราแนะนำนะคะ ค่อนข้างโอเคเลย"
"จากนั้นก็จัดการจองตั๋วเข้าชม Hongkong Disneyland หนึ่งในโปรแกรมเที่ยวของเรา ซึ่งเราโชคดีมากที่ตอนเราไปเป็นช่วงครบรอบ 10ปี ของ Hongkong Disneylandพอดี เราเลยได้ตั๋วโปรโมชั่นที่ซื้อตั๋วเข้าชมแถมบัตรอาหาร1ใบ ประหยัดไปได้เยอะเลย เพราะอาหารที่ขายข้างในแพงมากจริงๆ เราจองทางเว็บไซน์ของดิสนีย์โดยตรง ตัดผ่านบัตรเครดิตไปเลยสะดวกมาก แล้วก็ปริ๊นใบจองไปขอออกตั๋วที่หน้าทางเข้าได้เลย"
"อีกอย่างที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับเด็กยุคโซเชียลอย่างเราๆ นั่นคือ อินเตอร์เน็ต!!! จะให้รอไปเล่นwifiที่โรงแรมอย่างเดียวคงไม่ไหว เมื่อคราวที่แล้วตอนไปเกาหลี เราเลือกเช่า Pocket Wifi กัน แต่มันมีข้อจำกัดอย่างนึงคือ ต้องเกาะกลุ่มกันไว้เมื่อจะใช้เน็ต ครั้งนี้เราเลยเลือกที่จะซื้อSIMในระบบของฮ่องกงใช้เลย ของใครของมันไม่ต้องแย่งกันใช้ 555 เราใช้บริการของ HongkongFanclub เป็นซิมที่มีเงินอยู่ในนั้น สามารถสมัครแพ็คเก็จเน็ต แล้วเล่นได้เลยคะ"
"เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้วสำหรับการเที่ยวครั้งนี้ เราก็ออกเดินทางกันเลย....เย๊!!"
"...วันแรก...เราเดินทางไปสนามบินดอนเมืองกันตั้งแต่เช้ามืดเลยคะ ไปถึงเกือบตี4 แต่คนเยอะมากๆ ขนาดบ้านอยู่ใกล้สนามบินนะเนี่ย แถวเช็คอินยาวเป็นกิโลเลย ใครบ้านไกลๆแล้วต้องบินเช้า เผื่อเวลากันนิดนึงนะคะ ก่อนเดินทางประมาณอาทิตย์นึง เราเช็คพยากรณ์อากาศของฮ่องกงกันทุกวันเลยคะ ลุ้นกันทุกวันไม่ให้เจอฝน เพราะเราไปกันหน้าฝนเลย เสี่ยงมาก ก่อนวันเราไปฝนก็ยังตกอยู่แทบทุกวัน ทำใจไว้แล้วว่าต้องไปเจอฝนแน่ๆเลย เตรียมร่มกันไปพร้อมมากอะ ก่อนเครื่องขึ้นที่ไทยฝนก็ตกด้วยละ กะว่าต้องเปียกกันทั้งทริปแน่เลย"
"มื้อเช้าของเราฝากท้องกับอาหารบนเครื่องคะ ตอนแรกกะว่าจะไปหาอะไรกินที่สนามบิน แต่ไม่ทัน 5555 อาหารบนเครื่องก็มีให้เลือกไม่กี่อย่างคะ เพราะเราไม่ได้เลือกซื้ออาหารไว้ก่อน ก็กินเท่าที่มีแล้วกันคะ มื้อนี้เราเลือกกินเป็นข้าวกระเพราไก่คะ...เมนูสิ้นคิดมากๆ 555 แต่รสชาติใช้ได้เลยทีเดียว"
"มื้ออาหารจบ....แต่เราไม่จบคะ มีความอยากลิ้มลองของหวานบนเครื่อง 555 เลยจัดเมนู Yamanashi Mochi หรือโมจิน้ำ มาลองกินกันคะ"
"ก่อนกินคาดว่า มันคงเป็นโมจินิ่มๆเหมือนพุดดิ้ง แต่ผิดคาดคะ ตัวโมจิใสๆนั่นมีความคงตัวสูงมาก ช้อนที่ให้มาตักแทบไม่เข้า 555"
"ตัวโมจิไม่มีรสนะคะจืดๆ แต่เค้าจะมีน้ำเชื่อมหวานๆ แล้วก็ผงถั่วมาให้ราดลงไปคะ"
"ผลสรุปคือ...เป็นรสชาติที่แปลกใหม่ดีคะ ไม่แน่ใจว่าอร่อยหรือไม่ เพราะไม่เคยกินโมจิน้ำของที่อื่นคะ ไม่กล้าตัดสิน แต่เราโอเคคะชอบๆ"
"นั่งอยู่บนเครื่องไม่นานนัก กัปตันก็เริ่มนำเครื่องลดระดับคะ และแจ้งว่าเราใกล้ถึงแล้ว วิวนอกหน้าต่างตอนนี้ถือว่าสวยมาก รอบๆเป็นเกาะเล็กเกาะน้อยเต็มไปหมดเลยคะ ไม่ค่อยได้เห็นวิวแบบนี้ ตื่นเต้นมากๆคะ นั่งไม่ติดเบาะเลย 555"
"เครื่องLandingแล้วค่าาาา....สนามบินเช็กแล็บก็อก หรือ Hongkong International Airport เป็นสนามบินที่เท่มากอะ"
"เมื่อลงจากเครื่องแล้วก็ไปด่านตรวจคนเข้าเมืองกันเลย เดินตามป้ายบอกทางไปเรื่อยๆคะ ต.ม.กับเกตจะอยู่คนละที่กันนะคะ เราต้องนั่งรถไฟเพื่อไปที่ด่าน จะคล้ายๆกับสนามบินอินชอนของเกาหลีเลยคะ"
"การผ่านต.ม.ของฮ่องกงไม่ยุ่งยากคะ ผ่านง่ายมากๆ แทบไม่คุยอะไรกับเราเลยคะ ยิ้มให้ยังไม่มองเลย ใจร้าย 555 ถ้าเคยผ่านต.ม.เกาหลีมาแล้ว บอกเลยว่าต.ม.ฮ่องกงชิลล์มาก เมื่อผ่านต.ม.เรียบร้อยก็ออกมารอรับกระเป๋าคะ กระเป๋ามาไวมาก ต้องบอกว่ากระเป๋ามารอเรามากกว่าคะ"
"ภารกิจแรกของเราที่ฮ่องกงคือ การไปซื้อบัตรที่เราต้องใช้เดินทางขึ้นรถ ลงเรือ ในฮ่องกงคะ บัตรOctopus หรือบัตรปลาหมึกนั่นเอง เราสามารถซื้อบัตรนี้ได้ที่เคาท์เตอร์จำหน่ายตั๋วAirport Express บริเวณ Hall A คะ บัตรราคา 150 HK$ ซึ่งสามารถใช้เงินในบัตรได้ 100 HK$ อีก 50$จะเป็นมัดจำ ที่จะได้รับคืนเมื่อคืนบัตรคะ"
"และสามารถเติมเงินในบัตรได้ที่ตู้เติมเงินที่อยู่ตามสถานีMTR บัตรนี้นอกจากใช้เดินทางแล้ว ยังใช้ซื้อของตามร้านต่างๆได้ด้วยนะ"
"เสร็จเรียบร้อย พร้อมเที่ยวแล้วค่า เราจะเดินทางเข้าเมืองกันเลย การเดินทางก็มีหลายวิธีให้เลือกนะคะ จะนั่งAirport Express แล้วไปต่อShuttle Busเพื่อไปลงตามจุดที่ใกล้ที่พักก็ได้คะ แต่เราเลือกเดินทางเข้าเมืองด้วยรถเมล์คะ เพราะที่พักเราใกล้ป้ายรถเมล์เลย สะดวกกว่าคะ ที่สำคัญ ถูกกว่าด้วย 555 ให้เดินตามป้าย To City ไปเลยคะ มันจะพาเราออกจากสนามบิน ไปตรงจุดให้บริการรถสาธารณะ ที่มีรถเมล์ทุกสายที่เราต้องการคะ หรือจะใช้บริการTaxi ตรงนี้ก็มีเช่นกันคะ"