สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ทุกคน กระทู้นี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวญี่ปุ่นกันนะ กระทู้นี้เราตั้งใจจะสื่อสารผ่านทางรูปภาพ เราจะบรรยายเท่าที่จำเป็นต้องขยายความเพื่ออรรถรสในการรับชมและความกระจ่างของแต่ละสถานที่ เนื่องจากรูปเยอะจริงอะไรจริง จึงอยากเล่าเรื่องผ่านภาพซ๊ะส่วนใหญ่ของกระทู้นี้นะคะแต่ถ้าเพื่อนๆ พี่ๆ ท่านไหน อยากจะสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับทริปนี้ของเราก็ทิ้งข้อความไว้นะคะ จะพยายามเข้ามาตอบนะ หรือถ้าอยากพูดคุย สอบถามเกี่ยวกับทริปอื่นๆ ก็ตามไปคุยกันได้นะจ๊ะ ยินดีเป็นอย่างมาก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้Fanpage : คิดถึงโลกกว้าง
เคยเป็นไหม มันยากนะที่จะตัดรูปใดรูปนึงออกจากการแชร์ทริปๆ นึงให้เพื่อน ๆ เราได้เชยชมรูปของเรา สำหรับเรานะ เราคิดอยู่เสมอว่า
เราแค่อยากให้เพื่อนๆ ที่ดูรูปของเราอยู่ ชมกระทู้ของเราอยู่ เหมือนได้ไปเที่ยวกับเราด้วยในทุก ๆ ครั้งที่เราแชร์ประสบการณ์
งั้นเราเริ่มเดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่นพร้อม ๆ กันเลยนะคะ
เราเลือกเดินทางช่วงฤดูหนาว เป็นครั้งแรกสำหรับญี่ปุ่นฤดูหนาว อยากที่จะสัมผัสด้วยตาและสองมือของเราว่าหิมะของจริงจะเป็นแบบไหนกันน๊า
จะนุ่มไหม จะเย็นแค่ไหน ก่อนไปนี่ตื่นเต้นมากค่ะ มีความกังวลอยู่บ้างว่าจะทนหนาวได้ระดับไหน อุปกรณ์กันหนาวนี่เตรียมไปแน่นเป้ เดี๋ยวเดินทางไปพร้อมๆ กับเรานะ ดูซิ๊ว่าพอไปถึงสถานที่จริงจะหนาวแบบที่กังวลไว้ไหม ลุ้นจริงๆ เลยนะเนี่ย แล้วญี่ปุ่นฤดูหนาว ขาวโพลนในแบบฉบับที่เราจะสื่อออกมาจะเป็นแบบไหน ตามไปชมภาพกันเลยนะคะ



ช่วงเวลาการเดินทาง : 25 - 31 มกราคม 59 ครั้งนี้ถือเป็นการเดินทางท่องเที่ยวญี่ปุ่นเป็นครั้งที่สองของเราค่ะ เราตั้งเป้าหมายไว้ว่า
เราอยากจะเที่ยวญี่ปุ่นปีละครั้ง เก็บให้ครบทุกฤดูกาล พอครบทุกฤดูกาล เป้าหมายต่อไปคือ เก็บตามภูมิภาค แต่บางทีเราก็กำหนดจุดหมายปลายทางจากสิ่งที่เราชอบ สิ่งที่เราอยากจะได้เห็น ทริปของเราจึงค่อนข้างใช้เวลาพอสมควรกับการเดินทางไปแต่ละที่ค่ะ จึงเป็นที่ไปที่มาของการหาทำเลที่พักที่ต้องสะดวกในการเดินทางสักเล็กน้อยเพื่อจะได้ไม่เป็นการเสียเวลามากในการเดินไปขึ้นรถไฟค่ะ ทั้งครั้งแรกและครั้งที่สอง ส่วนใหญ่เราจะเลือกพักโรงแรมที่ราคาประหยัดและเดินทางสะดวก เราเลือกพัก Toyoko Inn เป็นลักษณะ Business Hotel ราคาขึ้นอยู่กับแต่ละสถานที่ ประเภทห้องพัก และวันที่เข้าพักค่ะ แต่ราคาเฉลี่ยจะอยู่ราวๆ 1600 - 2500 บาทค่ะ
การเดินทางครั้งนี้เราเดินทางไปกับสายการบินหางแดง จองกันข้ามปีเลยทีเดียว แต่ส่วนใหญ่เราจะไม่เคยได้ราคาโปรแบบถูกๆ หรอก
เพราะวันที่เราสามารถลางานได้ ไม่เคยตรงกับวันที่ทางสายการบินออกโปรมาเลย แต่ก็เถอะนะ เป้าหมายอันสวยงามรอเราอยู่ อย่าได้รอช้าค่ะ กดจองโลด ว่างวันไหน สะดวกวันไหน กดจองวันนั้นจ้า เราเลือกลงที่สนามบินนาริตะ เนื่องจากขากลับมีทำธุระจังหวัดใกล้เคียงกับโตเกียว อ่อ ช่วงที่เราไปบางโซนก็ไม่มีหิมะแล้วนะคะ เช่น โตเกียว แต่ก็แอบมีลมหนาวโชยมาให้เราสั่นอยู่เป็นระยะนะคะ
สองวันแรกเราเข้าพัก Toyoko inn Akihabara ลงเครื่องปุ๊ป ดิ่งเข้าโรงแรมปั๊ป
ฝากกระเป๋าไว้ได้นะคะ เพราะส่วนใหญ่โรงแรมจะเปิดให้เช็คอินเวลาบ่ายสามเป็นต้นไปนะคะ อ่ะ สลัดสัมภาระที่ไม่จำเป็นทิ้งไปละ
ทีนี้ล่ะเจ๊จะลุยต่อละนะ อ่ะ วิ่งๆๆๆ วิ่งไปๆๆๆ เดินออกจากโรงแรมมานิดเดียวมีรถลุงขายสตอเบอรี่ดักตีหัวอยู่ รู้ว่าเขาขายไม่ได้ถูก
แต่มันอยากมากนะ ณ จุดนั้น 1000 Yen ก็ต้องยอมควักละล่ะ









Where : Tokyo Station, Tokyo
How to go : Exit Marunouchi Central
Where : Imperial Palace, Tokyo
How to go : ทางออก Marunouchi Central แล้วเดินตามป้ายบอกทางตรงไปเรื่อยๆ ประมาณ 500 เมตร จะมีชื่อพระราชวังอยู่ตลอดทางเลยค่ะ
Where : Wako Main Building, Ginza, Tokyo
How to go : Ginza Station, Exit A10
Where : Ameyoko - Ueno Station, Tokyo
How to go : ทางออก Central Gate
Where : Takeshita Street - Harajuku Station
How to go : ออกจากสถานณีรถไฟสถานี Harajuku Station เดินข้ามถนนไปเจอร้านเสื้อผ้า GAP แล้วเดินไปทางซ้าย จนเจอร้าน Yoshinoya Takeshita Street จะอยู่ทางขวามือ
Where : ชื่อร้าน Croquant Chou ZAKUZAKU, Takeshita Street - Harajuku Station
โอ๊ยยย อร่อยจังฮู้ คำอุทานหลังจากได้ลองชิมขนมตามรูป เราว่ามันเหมือนขนมชูครีมแต่ทำออกมาเป็นแท่งๆ ผลิตสดใหม่ หอมกรุ่นออกจากเตา อัดครีมกันสดๆ ครีมนมจากฮอกไกโด แนะนำให้ทานทันทีหลังจากซื้อ วันที่สองหมดไป 1 วันกับถนนช็อปปิ้งเส้นนี้ เราก็เคยมาครั้งก่อน แต่ครั้งก่อนแค่โฉบไปช็อปไลน์อย่างเดียว ครั้งนี้เราเลยตื่นตามตื่นใจแวะดูของขายน่ารัก ๆ แถมราคาไม่แพงบนถนนเส้นนี้จนเพลิน แต่เราก็ออกมาจากที่พักสายด้วยแหล่ะ ก่อนมาทริปนี้เราไม่สบาย เพิ่งออกจากโรงพยาบาลมาบ่ายสามของวันที่จะบิน เลยนอนตื่นสายเพื่อจะได้พักผ่อนให้เพียงพอและหายให้ไวที่สุด วันท้ายๆ จะได้เที่ยวลุยอย่างสนุก เชื่อเถอะวันท้ายๆ ไม่ได้เที่ยวสายชิลล์แบบสองวันแรกนี้แน่ๆ ค่ะ ป่ะ ไปชมภาพต่อกัน เน๊อะ
Where : Aizu-wakamatsu, Fukushima
How to go : จากสถานีโตเกียวนั่งรถไฟชินคันเซ็นสาย Tohoku นั่งไปลง Koriyama แล้วต่อรถขบวนท้องถิ่นสาย JR Ban-etsu-West Line นั่งจนสุดสายเลยค่ะ ใช้เวลาเดินทางจากโตเกียวประมาณประมาณเกือบสามชั่วโมงค่ะ
ออกจากฮาราจุกุก็เย็นแล้ว แย่ละ ในใจก็คิดจะทันรถไฟไหม มัวแต่ซื้อของฝากเพลิน เลยต้องรีบเร่งฝีเท้าไปให้ทันรถขบวนที่กำลังจะมาถึงช่วง 19.00 น. เพื่อเดินทางไปเมือง Aizu-wakamatsu มาถึง Aizu-wakamatsu ก็ดึกแล้วค่ะ ราวๆ สี่ทุ่มเห็นจะได้ค่ะ เข้าไปในตัวโรงแรมเช็คอิน หาที่อุ่นๆ พักพิงสักพักแล้วกัน แล้วค่อยออกมาหาอะไรกินกันและเดินเล่น ห๊ะ กินและเดินเล่น ใช่ค่ะอ่านกันไม่ผิด ถึงเราป่วยแต่ใจเรายังสู้ค่ะ ด้วยความที่มาถึงเมืองนี้ สิ่งที่เรารอคอยที่จะได้พบเจอก็คือ หิมะ มาถึงหิมะก็โปรยปรายไปทั่วเมือง Aizu-wakamatsu นาทีนั้นนี่ลืมป่วยไปเลยค่ะ ออกไปเล่นปั้นหิมะ แล้วปาลงพื้น ประหนึ่งว่าตัวเองเป็นเด็กอายุน้อยๆ อย่างไงอย่างนั้นเลยค่ะ เล่นไปเล่นมา ท้องร้องจ้า บริเวณนั้นก็ยังพอมีร้านที่เปิดดึกอยู่บ้าง เรายังตกใจเลย เวลาเปิด 21.00 - ตีสี่ตีห้า ถึงกับ งง ว่าเปิดขายใครช่วงเวลานั้น แต่ด้วยความหิวเลยลบความสงสัยออกไปเสียหมด เข้าไปสั่งอาหารกินรองท้องยามดึกกันก่อนละกัน ตอนกินไม่ค่อยรู้สึกอะไร เช็คบินมาเท่านั้นถึงกะอึ้งกิมกี่ เพราะดันมีค่านั่ง ใช่ค่ะ อ่านไม่ผิด สื่อสารกันอยู่นาน เพราะพนักงานบริการที่ร้านพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ เลยถกเถียงอยู่นานว่าคือค่าใช้จ่ายอะไร มา อ๋อ ตอน he ทำท่านั่ง คือ เราเห็นว่ามีค่าเซอร์วิสและค่า Vat แต่ดันมีค่านั่งเพิ่มเข้ามา เลยอยากแชร์ประสบการณ์ให้เพื่อนๆ ว่าถ้าจะเข้าร้านที่เปิดกลางดึก ลักษณะคล้ายร้านนั่งดื่ม อารมณ์มีแอลกอฮอร์กึ่มๆ นิดๆ ก็จะมีค่านั่งพ่วงเข้ามาด้วยและค่าชาแก้วนึงก็แพงนะจ๊ะ
จ่ายไป 4000 กว่าเยน เข่าแทบทรุด ถึงกะหิวรอบสอง เลยต้องพึ่งร้านสะดวกซื้ออีกตามเคยละเรา
ทริปเรายังไม่จบเพียงแค่นี้ ขอโทษด้วยที่ต้องเล่าขาดช่วงนะ อย่าเพิ่งหนีหายกันไปไหนนะคะ เดี๋ยวคืนนี้จะรีบกลับมาเล่าเรื่องราวการเดินทางของเรากันต่อนะคะ ฝากติดตามด้วยนะคะ คอมเม้นที่ 3 เลื่อนลง ตามไปเที่ยวต่อกันเลย
[CR] "Winter in Japan" ให้ภาพเล่าเรื่อง...
เราแค่อยากให้เพื่อนๆ ที่ดูรูปของเราอยู่ ชมกระทู้ของเราอยู่ เหมือนได้ไปเที่ยวกับเราด้วยในทุก ๆ ครั้งที่เราแชร์ประสบการณ์
งั้นเราเริ่มเดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่นพร้อม ๆ กันเลยนะคะ
จะนุ่มไหม จะเย็นแค่ไหน ก่อนไปนี่ตื่นเต้นมากค่ะ มีความกังวลอยู่บ้างว่าจะทนหนาวได้ระดับไหน อุปกรณ์กันหนาวนี่เตรียมไปแน่นเป้ เดี๋ยวเดินทางไปพร้อมๆ กับเรานะ ดูซิ๊ว่าพอไปถึงสถานที่จริงจะหนาวแบบที่กังวลไว้ไหม ลุ้นจริงๆ เลยนะเนี่ย แล้วญี่ปุ่นฤดูหนาว ขาวโพลนในแบบฉบับที่เราจะสื่อออกมาจะเป็นแบบไหน ตามไปชมภาพกันเลยนะคะ
เราอยากจะเที่ยวญี่ปุ่นปีละครั้ง เก็บให้ครบทุกฤดูกาล พอครบทุกฤดูกาล เป้าหมายต่อไปคือ เก็บตามภูมิภาค แต่บางทีเราก็กำหนดจุดหมายปลายทางจากสิ่งที่เราชอบ สิ่งที่เราอยากจะได้เห็น ทริปของเราจึงค่อนข้างใช้เวลาพอสมควรกับการเดินทางไปแต่ละที่ค่ะ จึงเป็นที่ไปที่มาของการหาทำเลที่พักที่ต้องสะดวกในการเดินทางสักเล็กน้อยเพื่อจะได้ไม่เป็นการเสียเวลามากในการเดินไปขึ้นรถไฟค่ะ ทั้งครั้งแรกและครั้งที่สอง ส่วนใหญ่เราจะเลือกพักโรงแรมที่ราคาประหยัดและเดินทางสะดวก เราเลือกพัก Toyoko Inn เป็นลักษณะ Business Hotel ราคาขึ้นอยู่กับแต่ละสถานที่ ประเภทห้องพัก และวันที่เข้าพักค่ะ แต่ราคาเฉลี่ยจะอยู่ราวๆ 1600 - 2500 บาทค่ะ
การเดินทางครั้งนี้เราเดินทางไปกับสายการบินหางแดง จองกันข้ามปีเลยทีเดียว แต่ส่วนใหญ่เราจะไม่เคยได้ราคาโปรแบบถูกๆ หรอก
เพราะวันที่เราสามารถลางานได้ ไม่เคยตรงกับวันที่ทางสายการบินออกโปรมาเลย แต่ก็เถอะนะ เป้าหมายอันสวยงามรอเราอยู่ อย่าได้รอช้าค่ะ กดจองโลด ว่างวันไหน สะดวกวันไหน กดจองวันนั้นจ้า เราเลือกลงที่สนามบินนาริตะ เนื่องจากขากลับมีทำธุระจังหวัดใกล้เคียงกับโตเกียว อ่อ ช่วงที่เราไปบางโซนก็ไม่มีหิมะแล้วนะคะ เช่น โตเกียว แต่ก็แอบมีลมหนาวโชยมาให้เราสั่นอยู่เป็นระยะนะคะ
สองวันแรกเราเข้าพัก Toyoko inn Akihabara ลงเครื่องปุ๊ป ดิ่งเข้าโรงแรมปั๊ป
ฝากกระเป๋าไว้ได้นะคะ เพราะส่วนใหญ่โรงแรมจะเปิดให้เช็คอินเวลาบ่ายสามเป็นต้นไปนะคะ อ่ะ สลัดสัมภาระที่ไม่จำเป็นทิ้งไปละ
ทีนี้ล่ะเจ๊จะลุยต่อละนะ อ่ะ วิ่งๆๆๆ วิ่งไปๆๆๆ เดินออกจากโรงแรมมานิดเดียวมีรถลุงขายสตอเบอรี่ดักตีหัวอยู่ รู้ว่าเขาขายไม่ได้ถูก
แต่มันอยากมากนะ ณ จุดนั้น 1000 Yen ก็ต้องยอมควักละล่ะ
จ่ายไป 4000 กว่าเยน เข่าแทบทรุด ถึงกะหิวรอบสอง เลยต้องพึ่งร้านสะดวกซื้ออีกตามเคยละเรา