ฟ้องเรียกค่าเสียหาย คู่กรณีกลับคำพูดเมื่อมีอาเป็นทนาย



ขอเริ่มบรรยายจากรูปภาพนะครับ
ถนนมี 4 เลน เราอยู่ในจุดสีเขียว คู่กรณีอยู่ในจุดสีแดง การจราจรตอนนั้นไม่มีสสภาพติดขัด มีการลื่นไหลปกติ ปรากฏว่าคู่กรณีขับออกมาจากซอยเล็กๆในระแวกนั้น เพื่อข้ามไปอีกเลน(ที่สวนกันกับเลนที่เราขับ) แต่การข้ามของเค้าเค้าไม่ได้รอรถเลนสองชะลอแต่เค้าข้ามมาเลย โดยอ้างว่าเลนหนึ่งหยุดรถให้เค้าแล้ว และเค้าไม่ได้มองรถขวาในเลนสองเลย(ตอนสอบสวนเค้ายอมรับเองด้วยว่าไม่ได้มอง) เค้ามองแต่รถที่มาจากทางซ้าย ซึ่งวิ่งอยู่เลนที่เค้าต้องการจะข้ามไป สุดท้ายรถมาระยะกระชั้นชิดแล้ว ซึ่งมีรถยนต์วิ่งตามหลังผมอยู่ และผมได้เบรคตามสมควรที่จะเป็นไปได้แล้ว แต่ก็ไม่ทันแล้วเพราะเค้าโผล่มาจ่อหน้ารถแล้ว ก็ชนไป รถเกิดความเสียหายมูลค่า หมื่นปลายๆ หลังจากที่ได้ให้ศูนย์ซ่อมตีราคาแล้ว และนี้เป็นในส่วนของเหตุการณ์ ณ ตอนเกิดเหตุ

ส่วนนี้ขอเป็นในเรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังจากเกิดเหตุรถชน ที่ทำให้โมโหมาก

ต้องบอกก่อนว่ารถที่คู่กรณีผมใช้ขับมานั้นเป็นรถที่เค้ายืมมาอีกทีนึง เหตุเกิดตอนช่วงเย็น หลังจากเกิดเหตุแล้วตัวผมเองได้ซักถามพูดคุยกับคู่กรณีแล้ว แต่ไร้การสื่อสารและตอบกลับข้อความใดๆ เจ้าของรถที่คู่กรณีขับมา(พี่เอ)ได้มาจุดเกิดเหตุ ตอนนั้นก็ตกลงว่าจะมาคุยและมาเคลียในวันรุ่งขึ้น เพราะคู่กรณีหนีไปโรงพยาบาลแล้ว และผมก็กลับบ้านมาพี่เอโทรมาคุยตามปกติ ซักถามและบอกว่าคู่กรณีผมยืนยันว่าเค้าไม่ผิด ผมก็เลยบอกไปงั้นพรุ่งนี้ให้เอาเค้ามาด้วย มาคุยกันเพราะถ้าเค้าอ้างว่าไม่ผิดจริงก็ขอให้มายืนยัน มาคุยกัน จนกระทั่งวันรุ่งขึ้น ผมโทรบอกพี่เอว่าถึงแล้ว พี่เอได้บอกว่าคู่กรณีผมบอกว่ามาไม่ไหวนู่นนี่นั่น ผมก็เลยขอเบอร์คู่กรณีมา และโทรหาเพื่อสอบถาม แต่เค้าไม่รับสายใดๆเลย พี่เอเลยโทรให้และผมบอกพี่เอว่าให้บอกเค้าช่วยรับสายหน่อยไม่งั้นก็ไม่ได้คุยกันสักที ซึ่งเค้ายอมรับสายพี่เอ และผมก็โทรกลับไปอีกครั้งหลังจากพี่เอบอกว่าเค้ารับสายนะ แต่สุดท้ายเค้าก็ไม่ยอมรับสายผมอยู่ดี ผมเลยบอกพี่เอว่า โอเคพี่ผมมีธุระ เดี๋ยวผมนัดเจออีก 2 ชั่วโมงนะ พี่เอก็ขับรถไปหาคู่กรณีผมถึงที่เลย และคู่กรณีไม่ยอมมา บอกมาไม่ไหว พี่เอเลยบอกไปว่า ถ้าไม่มาจะเอาตำรวจมาคุยถึงที่เลย เค้าเลยยอมมา สุดท้ายพี่เอก็พาเค้ามาเจอกับผมจนได้และทิ้งเค้าไว้ที่ศูนย์ซ่อมรถ เพราะพี่เอต้องไปธุระต่อ ผมก็บอกเค้าไปว่าเนี่ยๆคือค่าเสียหายที่เกิดขึ้นนะ แต่เดี๋ยวผมจะตัดรายการที่มันเป็นแผลเล็กๆออก เค้าก็โอเค บอกจะชดใช้ให้ แต่ตอนนี้เค้ายังไม่มีเงินนะ ให้ผมรอสิ้นเดือน แต่คือตอนนั้นรถต้องซ่อมและต้องจ่ายมัดจำด้วย เค้าก็บอกไม่มี ผมก็เลยโอเคพี่ งั้นผมขอแจ้งความไว้ก่อนนะ เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันว่าพี่จะจ่าย เพราะไม่งั้นผมจะไม่มีอะไรยืนยันเลย แต่...เค้าไม่ได้พกบัตรประชาขนหรือบัตรอะไรมาเลย ผมก็พาเค้าไปเอาบัตร ซึ่งเค้าพักอยู่แถวสถานีตำรวจ และเค้าก็ขอตัวไปเอาบัตร บอกว่าผมไม่หนีหรอกมาขนาดนี้แล้วไม่ต้องกลัว ผมก็นั่งรอเค้าไปเอาบัตรอยู่เป็นชั่วโมงๆ ก็เลยโทรหาเค้าซึ่งไม่รับสายอีกเช่นเคย โทรไปหลายสายด้วย พี่เอโทรไปเค้าก็ไม่รับสาย จนผมก็เลยไปตามหาเค้าถึงที่ ปรากฏว่าไม่เจอ แต่เค้าโทรมาเองหลังจากนั้น บอกว่าอยู่สถานีตำรวจอีกที่นึง ผมนี่ตอนนั้นโมโหมาก ว่าไปทำไม เพราะผมก็รออยู่สถานีตำรวจตรงนี้ แล้วพี่จะไปทำไมไม่เห็นบอกสักคำให้นั่งรออยู่ทำไมตั้งนานเป็นชั่วโมง (ผมเข้าใจว่าเป็นเขตรับผิดชอบของสถานีนี้) ทีนี้ผมก็เลยบอกพี่เอไปว่าเป็นแบบนี้ๆนะครับ พี่เอเค้าก็เลยไปหาคู่กรณีผมที่สถานีตำรวจก่อนผม คู่กรณีผมถามพี่เอว่าผมจะมามั้ยเนี่ย เดี๋ยวสถานีตำรวจปิดทำการ(ตลกละ) หนีผมไปแล้วยังจะมาเร่ง พี่เอโทรถามถึงไหนแล้ว ผมเลยบอกว่ากำลังจะไปอีก สน.นึง เพราะไปถามตำรวจว่าเหตุตรงนี้เขตรับผิดชอบ สน. ไหน พี่เอบอกให้มา สน.ที่เค้ารออยู่ มาถึงก็เข้าแจ้งความ ร้อยเวรสอบสวนชี้แล้วว่าใครผิดใครถูก คู่กรณีตกลงเอ่ยปากบอกยินดีชดใช้ค่าเสียหาย พอถึงขั้นตอนลงบันทึก คู่กรณีไม่ยอมลงเพราะบอกว่ารอคุณอาของเค้า นั่งรออยู่เป็นชั่วโมงเหมือนกัน ก็ลุ้นว่าจะมาจริงมั้ย จนค่ำแล้ว แต่ก็มาจริง  มาถึงก็อ้างตัวว่าเป็นทนาย และแย้งทุกข้อชีแจ้งตำรวจ บอกให้ไปฟ้องเอา ไม่ให้รับผิด มันพีคตรงที่พอทนายคนนี้มา คู่กรณีผมเปลี่ยนคำพูด และพูดเก่งขึ้นมาสะงั้น แต่สอบสวนนะ มึนน พูดจาไม่รู้เรื่อง แต่สรุปทั้งหมดที่เกิดขึ้นบน สน.นี้ ต้องไปเริ่มใหม่เพราะไม่ได้เป็นเขตรับผิดชอบของ สน.ที่คู่กรณีผมหนีไป แต่คือ สน.ที่ผมจะไปตอนแรก พอออกมาจาก สน. ทนายคนนี้สอบถามหลานตัวเองว่าจะเอายังไง มันก็ไม่พูด แต่พูดว่าผมก็จะยอมชดใช้ค่าเสียหายให้รถพี่เอ เค้าพูดแค่นี้จริงๆ และไม่พูดอะไรต่อเลย ทนายถามผมจะเอายังไง ผมไม่คุยแล้ว บอกไปเจอกันอีก สน.นึง มาถึงก็เหมือนเดิม ตำรวจชี้เหมือนเดิม เค้าก็ยอมรับเหมือนเดิมว่าจะชดใช้ให้ แต่ก็กลับคำไม่รับผิดอีกครั้งตอนที่ทนายเข้ามา .... ลงบันทึกตำรวจถามรับผิดมั้ย คู่กรณีนี้บอก "ครับ" หันไปมองหน้าทนายแล้วกลับมาพูดว่า "ไม่รับ" และจบด้วยการที่ทนายเค้าบอกให้ฟ้องเอา

ผมจะต้องดำเนินอย่างไรดี เมื่อขึ้นศาลแล้ว โอกาศชนะมีมั้ยครับ

ถ้าผมพิมพ์ทำให้อ่านสับสน ขออภัยมา ณ ที่นี้ครับ ผมพยายามเล่าตามขั้นตอนสถาณการที่เกิดขึ้น

..เพิ่มเติมครับ
- ฝั่งคู่กรณีอ้างว่าฝั่งเค้าไม่ผิด เพราะผมไม่รักษาเลนซ้าย
- รถมอเตอร์ไซทั้งคู่
- ไม่มีประกัน
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่