"หมดทุกอย่างแล้ว ไปเที่ยวไกลๆกันซักทีมั้ย................"
สวัสดีค้าาาบบบบ คุณผู้อ่านทุกท่าน กระทู้นี้ผมอยากจะมาแชร์ประสบการณ์ไปเที่ยวญี่ปุ่น ตามหัวข้อกะทู้เลยครับ นี่เป็นกะทู้แรกเลย ผิดพลาดประการใด ขออภัยล่วงหน้าเลยละกัน เพื่อไม่ให้เป็นการเปลืองค่าเน็ต เรามาเริ่มกันเลยครับ โดยช่วงแรกผมจะพูดถึงการเตรียมพร้อมและที่มาที่ไปก่อน แล้วค่อยเริ่มเป็นรายวันไปนะครับ ซึ่งทริปนี้ มีเรื่องพีคๆเยอะมาก ทั้งหลง ทั้งตำรวจมาเคาะหน้าบ้าน ทั้งการแช่ออนเซ็นครั้งแรก เรื่องจะเป็นยังไง ลุยยยยยยยยยยย
ขอย้ำว่า เพื่อนอีก 10 คนนี่เป็นเพื่อนที่สนิทกันเฮียๆเลยครับ ชายล้วน รู้ไส้รู้พุงกันหมด พวกเราวางแผนกันไว้ว่าหลังจากจบ ม.6 เราอยากจะไปเที่ยวกัน เอาแบบที่ไกลๆ ต่างประเทศเลย ซึ่งเราก็ได้ข้อสรุปว่าเราจะไปญี่ปุ่น ช่วง 15-24 พฤษภาคม 2559 โดยเราจะไปเที่ยวโตเกียวและฮาโกเน่ พวกเราวางแผนกันค่อนข้างนานและละเอียด (ถึงแม้ตามจริงแล้วมันก็ไม่ค่อยตามแผนเท่าไหร่ 55555) เราจองเครื่องของ Vietnam Airlines ครับ รู้สึกว่าเป็นช่วงโปรโมชั่น ไป-กลับ กรุงเทพ-โตเกียว ประมาณ 9000 บาท ต่อเครื่องที่เวียดนาม 3 ชั่วโมง (ถูกมาาาากกกกกก) และจองที่พัก ที่โตเกียวเราเช่าบ้านหลังนึงเลย ย่าน sasazuka (แถวๆชินจูกุ) 6 คืน และโรงแรมที่มีออนเซ็นที่ฮาโกเน่ 1 คืน ค่าที่พักตกคนละประมาณ 8000 บาท (ที่พักที่โตเกียวประมาณ 6000 กว่า ที่ฮาโกเน่อีก 1000 กว่า) รูปที่พักเด๋วตามมานะครับ พวกเรายังเป็นวัยรุ่น เลยพยายามหาที่ถูกๆเลยครับ ประหยัดตัง 55555555 ส่วน pocket money พวกเราเอาไปคนละ 100,000 เยน ครับ บวกลบนิดๆหน่อยๆ ว่าแล้วก็ไปเริ่มที่วันแรกเลยครับ
15/05/2559 วันออกเดินทาง
ไฟลท์ของพวกเราออกเดินทาง 19.00 น. ครับ ซึ่งความฮาก็บังเกิดตั้งแต่ด่าน ตม ออกนอกประเทศแล้วล่ะครับ 5555555555 คืองี้ เดี๋ยวนี้ ตม มันเป็นเครื่องแล้วครับ ไม่ต้องใช้พนักงานปั๊มตราบลาๆๆๆ มีแค่พนักงานคอยสอนว่าต้องทำอะไรยังไง หลังจากสแกนพาสพอร์ตกับตั๋วแล้วมันต้องถ่ายรูปครับ ซึ่งผมและเพื่อนคนอื่นๆก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่มีอยู่คนนึง.............
พนักงาน: น้องถอดแว่นตาแล้วมองกล้องเลยค่ะ
เพื่อน: *ถอดแว่นแล้วทำหน้างงๆ* เอ่อ........พี่ครับ
พนักงาน: คะ?
เพื่อน: ................
พนักงาน: ...............
เพื่อน: ........ กล้องอยู่ไหนครับ?
พนักงาน : เอ่อ............
ฮาแตกสิครับ 55555555555 คือมันสายตาสั้นมาก พอเค้าให้ถอดแว่นแล้วมองกล้อง เสรือกหากล้องไม่เจอครับ 5555555555 ยังไม่จบ!!!!!!! พอเค้าให้สแกนลายนิ้วมือ เครื่องสแกนไม่เจอครับ!!!!! (นี่ไม่มีลายนิ้วมือเรอะ?) สรุปต้องเดินออกไปทำแบบ manual กับพนักงานอีกฝั่งครับ กว่าจะเสร็จ
นี่ขนาดยังไม่ออกนอกประเทศเลยนะคุณผู้อ่าน
หลังจากนั้น พวกเราก็ขึ้นเครื่องกันไปตามระเบียบ กว่าจะถึงก็ 8.00 ของวันถัดไปเลยครับ
16/05/2559 ถึงญี่ปุ่น เที่ยวชินจูกุ
ถึงสนามบินนาริตะซะที!!!!!!!!!! (เห็นฟูจิซังด้วยยยยยยยย)
พอเครื่องลงปุ๊บแต่ละคนก็เห่อกันไปต่างๆนานา ญี่ปุ่นสวยจัง สะอาดมาก บลาๆๆ เพื่อไม่เสียเวลา รีบไปท่ีพักเถ๊อะ หนักเป๋า เราไปทำบัตร Pasmo ครับ อารมณ์เดียวกับบัตร rabbit บ้านเรา เติมเงิน เดินทาง อากาศช่วงนั้นประมาณ 10 กว่าองศาครับ เย็นๆสบายๆ เดินกว่าจะถึงที่พักก็บ่ายละครับ 555555 ซึ่งในที่พักนี่ก็คือบ้านหลัง 2 ชั้นนึงเลยครับ เรื่องนอนไม่มีปัญหา แต่เรื่องขี้นี่สิครับ มันมีห้องน้ำแค่ 2 ห้อง!!!!! (ห้องส้วม 1 ห้อง ห้องอาบน้ำ 1 ห้อง) อยู่กัน 11 คน แบ่งไงล่ะทีนี้ 55555 ในบ้านมีเครื่องอำนวยความสะดวกครบครับ ตะเกียบ ช้อนส้อม ตู้เย็น เครื่องทำน้ำอุ่น มี pocket wifi ให้ 1 เครื่อง(เพิ่งรู้ว่ามีตอนวันท้ายๆ ฮาาาา) มีห้องใต้หลังคาด้วย!!!!!!!!(แต่ก็เป็นที่โล่งๆไม่มีอะไร)
หลังจากเก็บกระเป๋าเสร็จแล้ว วันนี้เราไปเที่ยวชินจูกุกัน!!!!!! ซึ่ง เราก็แบ่งกันเดินเป็น 2 กลุ่มครับ กลุ่มผมก็ไปเดินเที่ยวห้าง บลาๆๆ นัดเจอกับอีกกลุ่มนึงที่สวนสาธารณะ (จำชื่อไม่ได้ละ) เดินไปถึงปั๊บ อึ้ง!!!!!!!!! แมร่งปิดทุกวันจันทร์!!!!!!!! วันนี้วันจันทร์!!!!!! สาสสสสสสสสสสสส สรุป ไปนัดเจอที่ร้านซูชิเลยละกัน ร้านที่เราจะไปกินนั้นเป็นร้านที่จัดเป็นซุชิบุฟเฟ่ต์ทุกวันจันทร์ครับ ถ้าจำไม่ผิดชื่อร้าน Midorisohouten ซักอย่างนี่แหละครับ
พอไปถึง รอคิว ไม่นานเท่าไหร่ครับ ประมาณ 2 ชั่วโมง T_T หิวเฮียๆ ที่เด็ดกว่านั้นคือ ทั้งร้าน คนญี่ปุ่นล้วน!!!!!! พนักงานพูดอังกฤษได้อยู่คนเดียว แต่ก็ได้งูๆปลาๆ เราแบ่งเป็น 3 โต๊ะ 4-4-3 ครับ ไอกลุ่ม 3 คนได้นั่งเคาน์เตอร์หน้าเชฟ ผมนั่งชั้น 3 ครับ หลังจากกินกันเสร็จ ไอ 3 คนมาเล่าให้ฟัง มันเขียนภาษาอังกฤษไปครับ salmon 8 tuna 8 อะไรก็ว่าไป พอยื่นให้เชฟปุ๊บ เชฟแมร่งตะโกน "โอ้วววววววววววววว!!!!!" พร้อมกับยื่นกระดาษคืน สรุป อ่านไม่ออก!!!!!!! เลยต้องอาศัยการจิ้มรูปเอาครับ แล้วเชฟคนนี้แมร่งกวนตีนมากครับ 555555 มีการหยิบวาซาบิก้อนใหญ่ (อารมณ์แบบว่า พลาด หยิบมาเยอะไปนิด) กำลังคิดว่า จะเขี่ยออกดีมั้ย หันมาสบตาเพื่อนผมปุ๊บ ป้าย
ลงซูชิเลย 55555555 ความกวนตีนดูได้ในรูปเพิ่มเติมนะครับ ยังไม่จบ!!!!! มีเพื่อนกลุ่มนึงกินเหลือ โดนปรับ!!!!!!! คนละ 1000 เยนมั้งครับ ดีนะไม่ใช่โต๊ะผม ญี่ปุ่นเค้าไม่ใจดีเหมือนบ้านเรานะครับ เหลือก็คือปรับจริงๆ ใครไปกินก็สั่งแต่พอกินนะครับ หลังจากเรากินเสร็จก็ค่อนข้างดึก เลยกลับที่พักครับ
เอาไว้แค่นี้ก่อน ไม่อยากให้กะทู้ยาวไป นี่เพิ่งเริ่มวันแรกนะครับ 5555555 รูปและวันต่อๆไปจะตามมาในคอมเม้นนะครับ ใครที่อ่านแล้ว คอมเม้นด้วยนะครับ ว่าเป็นยังไง ถูกใจก็ช่วยๆแชร์กันต่อด้วยนะคร้าบ ติดตามวันต่อไปในอีกไม่ช้าคร้าาาาบบบบบบ
ปล. เพื่อนผมคนนึงทำคลิปด้วย ไปดูได้ที่
https://www.youtube.com/watch?v=qt5HmJxc9Fw อย่าลืมกดไลค์กดแชร์ด้วยนะคร้าบ
ปล.2 สามารถติดตามรูปภาพที่เพื่อนผมได้ที่
https://www.facebook.com/benz.tantipisit/media_set?set=a.1311198515575765.1073741829.100000568873075&type=3&__mref=message_bubble
ปล. 3 รูปทั้งหมดเป็นของเพื่อนผมนะครับ รูปในมือถือผมหายหมดเลยยยยย T_T
ความวุ่นวาย+ความฮาบังเกิด เมื่อผมกับเพื่อนสนิทอีก 10 คน ไปเที่ยวญี่ปุ่น 8 วัน 7 คืน!!!!!!!!!
สวัสดีค้าาาบบบบ คุณผู้อ่านทุกท่าน กระทู้นี้ผมอยากจะมาแชร์ประสบการณ์ไปเที่ยวญี่ปุ่น ตามหัวข้อกะทู้เลยครับ นี่เป็นกะทู้แรกเลย ผิดพลาดประการใด ขออภัยล่วงหน้าเลยละกัน เพื่อไม่ให้เป็นการเปลืองค่าเน็ต เรามาเริ่มกันเลยครับ โดยช่วงแรกผมจะพูดถึงการเตรียมพร้อมและที่มาที่ไปก่อน แล้วค่อยเริ่มเป็นรายวันไปนะครับ ซึ่งทริปนี้ มีเรื่องพีคๆเยอะมาก ทั้งหลง ทั้งตำรวจมาเคาะหน้าบ้าน ทั้งการแช่ออนเซ็นครั้งแรก เรื่องจะเป็นยังไง ลุยยยยยยยยยยย
ขอย้ำว่า เพื่อนอีก 10 คนนี่เป็นเพื่อนที่สนิทกันเฮียๆเลยครับ ชายล้วน รู้ไส้รู้พุงกันหมด พวกเราวางแผนกันไว้ว่าหลังจากจบ ม.6 เราอยากจะไปเที่ยวกัน เอาแบบที่ไกลๆ ต่างประเทศเลย ซึ่งเราก็ได้ข้อสรุปว่าเราจะไปญี่ปุ่น ช่วง 15-24 พฤษภาคม 2559 โดยเราจะไปเที่ยวโตเกียวและฮาโกเน่ พวกเราวางแผนกันค่อนข้างนานและละเอียด (ถึงแม้ตามจริงแล้วมันก็ไม่ค่อยตามแผนเท่าไหร่ 55555) เราจองเครื่องของ Vietnam Airlines ครับ รู้สึกว่าเป็นช่วงโปรโมชั่น ไป-กลับ กรุงเทพ-โตเกียว ประมาณ 9000 บาท ต่อเครื่องที่เวียดนาม 3 ชั่วโมง (ถูกมาาาากกกกกก) และจองที่พัก ที่โตเกียวเราเช่าบ้านหลังนึงเลย ย่าน sasazuka (แถวๆชินจูกุ) 6 คืน และโรงแรมที่มีออนเซ็นที่ฮาโกเน่ 1 คืน ค่าที่พักตกคนละประมาณ 8000 บาท (ที่พักที่โตเกียวประมาณ 6000 กว่า ที่ฮาโกเน่อีก 1000 กว่า) รูปที่พักเด๋วตามมานะครับ พวกเรายังเป็นวัยรุ่น เลยพยายามหาที่ถูกๆเลยครับ ประหยัดตัง 55555555 ส่วน pocket money พวกเราเอาไปคนละ 100,000 เยน ครับ บวกลบนิดๆหน่อยๆ ว่าแล้วก็ไปเริ่มที่วันแรกเลยครับ
15/05/2559 วันออกเดินทาง
ไฟลท์ของพวกเราออกเดินทาง 19.00 น. ครับ ซึ่งความฮาก็บังเกิดตั้งแต่ด่าน ตม ออกนอกประเทศแล้วล่ะครับ 5555555555 คืองี้ เดี๋ยวนี้ ตม มันเป็นเครื่องแล้วครับ ไม่ต้องใช้พนักงานปั๊มตราบลาๆๆๆ มีแค่พนักงานคอยสอนว่าต้องทำอะไรยังไง หลังจากสแกนพาสพอร์ตกับตั๋วแล้วมันต้องถ่ายรูปครับ ซึ่งผมและเพื่อนคนอื่นๆก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่มีอยู่คนนึง.............
พนักงาน: น้องถอดแว่นตาแล้วมองกล้องเลยค่ะ
เพื่อน: *ถอดแว่นแล้วทำหน้างงๆ* เอ่อ........พี่ครับ
พนักงาน: คะ?
เพื่อน: ................
พนักงาน: ...............
เพื่อน: ........ กล้องอยู่ไหนครับ?
พนักงาน : เอ่อ............
ฮาแตกสิครับ 55555555555 คือมันสายตาสั้นมาก พอเค้าให้ถอดแว่นแล้วมองกล้อง เสรือกหากล้องไม่เจอครับ 5555555555 ยังไม่จบ!!!!!!! พอเค้าให้สแกนลายนิ้วมือ เครื่องสแกนไม่เจอครับ!!!!! (นี่ไม่มีลายนิ้วมือเรอะ?) สรุปต้องเดินออกไปทำแบบ manual กับพนักงานอีกฝั่งครับ กว่าจะเสร็จ
นี่ขนาดยังไม่ออกนอกประเทศเลยนะคุณผู้อ่าน
หลังจากนั้น พวกเราก็ขึ้นเครื่องกันไปตามระเบียบ กว่าจะถึงก็ 8.00 ของวันถัดไปเลยครับ
16/05/2559 ถึงญี่ปุ่น เที่ยวชินจูกุ
ถึงสนามบินนาริตะซะที!!!!!!!!!! (เห็นฟูจิซังด้วยยยยยยยย)
พอเครื่องลงปุ๊บแต่ละคนก็เห่อกันไปต่างๆนานา ญี่ปุ่นสวยจัง สะอาดมาก บลาๆๆ เพื่อไม่เสียเวลา รีบไปท่ีพักเถ๊อะ หนักเป๋า เราไปทำบัตร Pasmo ครับ อารมณ์เดียวกับบัตร rabbit บ้านเรา เติมเงิน เดินทาง อากาศช่วงนั้นประมาณ 10 กว่าองศาครับ เย็นๆสบายๆ เดินกว่าจะถึงที่พักก็บ่ายละครับ 555555 ซึ่งในที่พักนี่ก็คือบ้านหลัง 2 ชั้นนึงเลยครับ เรื่องนอนไม่มีปัญหา แต่เรื่องขี้นี่สิครับ มันมีห้องน้ำแค่ 2 ห้อง!!!!! (ห้องส้วม 1 ห้อง ห้องอาบน้ำ 1 ห้อง) อยู่กัน 11 คน แบ่งไงล่ะทีนี้ 55555 ในบ้านมีเครื่องอำนวยความสะดวกครบครับ ตะเกียบ ช้อนส้อม ตู้เย็น เครื่องทำน้ำอุ่น มี pocket wifi ให้ 1 เครื่อง(เพิ่งรู้ว่ามีตอนวันท้ายๆ ฮาาาา) มีห้องใต้หลังคาด้วย!!!!!!!!(แต่ก็เป็นที่โล่งๆไม่มีอะไร)
หลังจากเก็บกระเป๋าเสร็จแล้ว วันนี้เราไปเที่ยวชินจูกุกัน!!!!!! ซึ่ง เราก็แบ่งกันเดินเป็น 2 กลุ่มครับ กลุ่มผมก็ไปเดินเที่ยวห้าง บลาๆๆ นัดเจอกับอีกกลุ่มนึงที่สวนสาธารณะ (จำชื่อไม่ได้ละ) เดินไปถึงปั๊บ อึ้ง!!!!!!!!! แมร่งปิดทุกวันจันทร์!!!!!!!! วันนี้วันจันทร์!!!!!! สาสสสสสสสสสสสส สรุป ไปนัดเจอที่ร้านซูชิเลยละกัน ร้านที่เราจะไปกินนั้นเป็นร้านที่จัดเป็นซุชิบุฟเฟ่ต์ทุกวันจันทร์ครับ ถ้าจำไม่ผิดชื่อร้าน Midorisohouten ซักอย่างนี่แหละครับ
พอไปถึง รอคิว ไม่นานเท่าไหร่ครับ ประมาณ 2 ชั่วโมง T_T หิวเฮียๆ ที่เด็ดกว่านั้นคือ ทั้งร้าน คนญี่ปุ่นล้วน!!!!!! พนักงานพูดอังกฤษได้อยู่คนเดียว แต่ก็ได้งูๆปลาๆ เราแบ่งเป็น 3 โต๊ะ 4-4-3 ครับ ไอกลุ่ม 3 คนได้นั่งเคาน์เตอร์หน้าเชฟ ผมนั่งชั้น 3 ครับ หลังจากกินกันเสร็จ ไอ 3 คนมาเล่าให้ฟัง มันเขียนภาษาอังกฤษไปครับ salmon 8 tuna 8 อะไรก็ว่าไป พอยื่นให้เชฟปุ๊บ เชฟแมร่งตะโกน "โอ้วววววววววววววว!!!!!" พร้อมกับยื่นกระดาษคืน สรุป อ่านไม่ออก!!!!!!! เลยต้องอาศัยการจิ้มรูปเอาครับ แล้วเชฟคนนี้แมร่งกวนตีนมากครับ 555555 มีการหยิบวาซาบิก้อนใหญ่ (อารมณ์แบบว่า พลาด หยิบมาเยอะไปนิด) กำลังคิดว่า จะเขี่ยออกดีมั้ย หันมาสบตาเพื่อนผมปุ๊บ ป้าย
เอาไว้แค่นี้ก่อน ไม่อยากให้กะทู้ยาวไป นี่เพิ่งเริ่มวันแรกนะครับ 5555555 รูปและวันต่อๆไปจะตามมาในคอมเม้นนะครับ ใครที่อ่านแล้ว คอมเม้นด้วยนะครับ ว่าเป็นยังไง ถูกใจก็ช่วยๆแชร์กันต่อด้วยนะคร้าบ ติดตามวันต่อไปในอีกไม่ช้าคร้าาาาบบบบบบ
ปล. เพื่อนผมคนนึงทำคลิปด้วย ไปดูได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=qt5HmJxc9Fw อย่าลืมกดไลค์กดแชร์ด้วยนะคร้าบ
ปล.2 สามารถติดตามรูปภาพที่เพื่อนผมได้ที่ https://www.facebook.com/benz.tantipisit/media_set?set=a.1311198515575765.1073741829.100000568873075&type=3&__mref=message_bubble
ปล. 3 รูปทั้งหมดเป็นของเพื่อนผมนะครับ รูปในมือถือผมหายหมดเลยยยยย T_T