[SR] เมื่อฉันหนีแม่มาฝึกงานเชียงราย

สวัสดีค่ะ ฉันกำลังจะได้ไปฝึกงานเป็นระยะเวลา 2 เดือน ด้วยความที่เรียนมหาวิทยาลัยที่อยู่จังหวัดเดียวกับบ้าน จึงไป-กลับที่บ้านบ่อยมาก ถ้าสัปดาห์ไหนไม่ได้กลับบ้าน คุณแม่ก็จะมาหาที่หอ เรียกง่ายๆว่าติดแม่มากกกก พอใกล้ระยะเวลาปิดเทอมนั้น อาจารย์สั่งให้เลือกสถานที่ฝึกงานสักที่นึ่ง ซึ่งเป็นวิชาฝึกประสบการณ์บังคับ เมื่อคุณแม่รู้ คุณแม่จึงติดต่อกับเพื่อนให้ฝึกงานในสถานที่ราชการ เพื่อที่เรียนจบมาจะได้บรรจุทำงาน ซึ่งเราไม่ชอบมากๆ เราจึงเลือกสถานที่ฝึกงานเอง โดยที่คุณแม่ไม่รู้ 55

การเลือกสถานที่ฝึกงานของเรานั้น เราเป็นคนชอบดูหนังมาก จำว่าเคยได้ดูหนังเรื่องลิขิตรักขัดใจแม่ รักจัง และฝนตกที่ห้วยขาแข้ง ฮ่า ๆ จึงทำให้คิดว่า "เออว่ะ ลองไปจากแม่ดู ไปค้นหาตัวเอง ค้นหาว่าชอบอะไรจริงๆ อยากทำอะไรจริงๆ เผื่อเป็นไอเดียในชีวิต" เราจึงเลือกที่จะฝึกงานที่จังหวัดเชียงราย ที่ที่ไกลบ้านที่สุด และน่าค้นหาที่สุด


วันแรกที่ไปถึงได้ไปไร่ชาฉุยฟง
พิกัด : อำเภอแม่จัน

ไร่ชาฉุยฟง เป็นสถานที่ที่เหมาะกับคนรักชาเขียวมากก เพราะชาเขียวที่นี่เข้มมากกก มากซะจนรู้สึกเอียน ฮ่าๆ แล้วถ้าใครที่ชอบจะรู้สึกหอม วันที่ไปนั้นอยากกินขาหมูชาเขียวมากกก แต่ของหมด เลยได้สั่งของที่ยังมีเหลือมากินแทน


เมนูที่ได้กินนั้น ถึงจะเป็นชามะนาว กับทีรามิสุ แต่กลิ่นชาเขียวนี่เตะจมูกมากค่ะคุณขาาาา ฮ่า ฮา ฮ่า



จากนั้นจึงเดินทางไปตามหาที่ฝึกงาน เห้ย สถานที่ฝึกงานไกลมากกกกกกกก ตอนแรกคิดว่าสถานที่ฝึกงานเป็นอำเภอเมือง โอเคมันคงไม่ไกลเซนมากหรอก พอขับรถมาเรื่อยจึงรู้ว่า เชียงรายนี่ออกนอกเมืองเร็วมากค่ะ ออกนอกเมืองปุ๊บ เป็นป่าเขาทันที 55555
พิกัด : ตำบลแม่ยาว อำเภอเมือง


นี่คือภูเขาหลังบ้านพักกก ภาพแรกที่เห็น จะอยู่ได้หรอเรา โคตรไกล ไม่มีน้ำอุ่น ไม่มีแอร์ สัญญาณโทรศัพท์ก็มีแค่AIS


ถ้าอยากจะเข้าเซเว่นซักแห่ง ต้องขับรถจากสถานที่ฝึกงาน ลงเขา ผ่านสามหมู่บ้าน ระยะทางประมาณสิบกว่ากิโลค้าาาาาาาาา
ชีวิตนักศึกษาฝึกงาน ครั้งหนึ่งในชีวิตเราไม่กลัว เราคิดว่าเราขยัน เราเลยขับรถมอไซย์ลงมาทุกวัน ถึงไม่รู้จะซื้ออะไรแต่แค่มาเดินเล่นตากแอร์ก็พอใจแล้วววววว ~~~~~~~


การฝึกงานของเรานั้นไม่ได้อยู่แค่สำนักงานเท่านั้น เรายังได้มีโอกาสไปลงพื้นที่ยังที่ต่างๆ การลงพื้นที่นั้นไม่มีรถสำนักงาน เนื่องจากสถานที่ฝึกงานมีหลายโครงการอยู่ร่วมกัน เราจึงจำเป็นต้องขับรถมอไซย์ไปลงพื้นที่ต่างๆ

สถานที่ลงพื้นที่ฝึกงานครั้งแรกของเราคือ หมู่บ้านกระเหรี่ยงรวมมิตร
พิกัด : หมู่บ้านกระเหรี่ยงรวมมิตร ตำบลแม่ยาว อำเภอเมือง



แต่ที่เราไปนั้นขับรถเข้าไปอีกไกลมากๆ ขับจนไปถึงถนนดินแดง

ขับตรงเข้าไป จนไปเจอแม่น้ำกก


การแว๊นมอไซย์ไปลงพื้นที่ต่างๆที่ได้ไปนั้น ไกลสุดที่เคยแว๊นไปก็คือ เพลงพี่ชาติเข้ามาในหัวเลย การเดินทางของฉันและเธอคือการเรียนรู้ ~~~~~~
พิกัด : บ้านหล่อชา อำเภอแม่จัน



วันต่อมา ก็ได้ลงพื้นที่ไกลกว่าเดิมอีกอีกแต่ครั้งนี้ดีกว่าเดิมที่ไปรถยนต์สำนักงานที่บ้านสันป่าสัก อำเภอแม่สาย
ขากลับนั้นพี่ฝึกงานได้ พาเราไปเที่ยวผ่อนคลายด้วย
พิกัด : วัดถ้ำปุ่ม บ้านสันป่าสัก อำเภอแม่สาย






*ปล.ลิงที่นี่ดุมากกกกกก

ไหนๆ ก็ได้มาแม่สายแล้ว งั้นเราไปเที่ยวแม่สายกันเถอะ
พิกัด : ชายแดนไทย-พม่า



วันไหนที่ไม่ได้ลงพื้นที่ไปไหน
พอหลังจากการทำงานแล้ว ถ้าไม่เล่นวอลเลย์บอล

เราก็จะนั่งตกปลา


หรือกินน้ำปั่นร้านพี่อ้อ


แต่พี่ที่สำนักงานก็มีกิจกรรมให้เราได้สนุกร่วมกัน ใช้แรง ลงแรงอยู่เสมอ
บางวันก็ปลูกไผ่ หรือไม่ก็ลงทำฝาย


ในวันที่เราไปช่วยกิจกรรมลงฝายของหมู่บ้านนั้น ได้ทำกิจกรรมร่วมกับอีกหลายกลุ่ม โดยเฉพาะมัดปุ๊กเจียงฮาย ขอบอกได้ว่า อื้ออออ หื้ออออ วงแขนกล้ามเป็นมัดๆ อุ๊ยน่าจะกัดแขนเล่นเบาๆ >.<



การหนีแม่มาฝึกงานที่เชียงรายครั้งนี้ ไม่ได้แค่ประสบการณ์ใหม่ๆ ยังได้ท่องเที่ยวไม่มีเบื่อ เช่น สำนักงานของเรานั้นใกล้วัดห้วยปลากั้ง ถ้าเรานั่งเครื่องบินมา เราจะเห็นเจ้าแม่กวนอิมอย่างใหญ่มากมาแต่ไกล
พิกัด : วัดห้วยปลากั้ง อำเภอเมือง



พิกัด : วัดร่องขุน อำเภอเมือง
ถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ที่สำคัญมาก เพราะใครมาเชียงรายแล้วไม่มาวัดร่องขุนถือว่าพลาดมากกกกกกก




โดยส่วนตัวคิดว่า วัดที่นี่มีการผสมผสานหลายความเชื่อมารวมกันมาก ทั้งพุทธ พรามหม์ เจ้าแม่กวนอิน จนกระทั้งผี

หลังจากไปวัดร่องขุนแล้ว ก็ต่อไปพิพิธภัณฑ์บ้านดำ ถึงจะครบเครื่อง
พิกัด : พิพิธภัณฑ์บ้านดำ อ.ถวัล






     การฝึกงานที่นี่ไม่ได้เคร่งมาก แต่ก็ไม่ได้หย่อนมากเกินไป ที่เราสัมผัสได้จากเจ้าหน้าที่ทุกคนที่นี่คือ ทุกคนนั้นสมัครใจในการทำงานจริงๆ ไม่ได้หวังอะไรตอบแทน ต่อให้ไกลแค่ไหน ลำบากเพียงใดเราก็จะพร้อมช่วยเหลือทุกคนก่อนเสมอ
     สุดท้ายนี่อยากบอกว่าคำว่า"อาสาสมัคร"อาจเป็นคำเชยๆคำหนึ่ง ที่วัยรุ่นไทยเมินเฉยและไม่รู้สึกอะไร ขอบคุณเวลา 1 เดือนที่ผ่านมาขอบคุณสำนักงานมูลนิธิ ที่สร้างเราให้เจอตัวเอง แค่ระยะเวลาแค่นี้เรายังรู้สึกคุ้มกับประสบการณ์มาก การฝึกงานอยู่บนดอย อยู่ที่ไกล ไม่ได้ลำบากอย่างที่คิดน่ะ บางทีน่ะเว้ย เราเหนื่อยกับชีวิตสำเร็จรูป ที่ต้องรวดเร็ว อยากทิ้งโทรศัพท์ไว้ แล้วขึ้นเหนือ ใช้ชีวิตง่ายๆอย่างช้าๆ ค่อยๆเก็บรายละเอียดชีวิต
  ยังเหลือเวลาอีก 1 เดือนในการเก็บความทุกข์ ความสุข ใส่กระเป๋า แล้วค้นหาตัวตนต่อไป "สร้างคน สร้างนวัตกรรม สร้างการเปลี่ยนแปลง" ขอบคุณค่ะ
ชื่อสินค้า:   มูลนิธิกระจกเงา
คะแนน:     
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่