ขายต้นอ่อนทานตะวัน

กระทู้ขายของ
ต้นอ่อนทานตะวัน🌻
ช่วยควบคุมน้ำหนักและดูแลผิวพรรณ วิตามิน B1 วิตามินB6
โอเมก้า 3, 6, 9
ราคาถุงละ 20 บาท ซื้อ 3 ถุง 50 บาท

สนใจสั่งซื้อ ผ่านช่องทางเพจ : www.facebook.com/BanHugFarmDee

สารอาหารในต้นอ่อนทานตะวันไว้ว่า ต้นอ่อนทานตะวันเป็นแหล่งไขมันชนิดที่ดีแก่ร่างกาย ใยอาหารที่มีประโยชน์ต่อระบบขับถ่าย เป็นแหล่งโปรตีน ธาตุเหล็ก แคลเซียม และจากข้อมูลการวิจัยของ Medical Center, University of Maryland สหรัฐ เมื่อปี 2553 ระบุว่า ต้นอ่อนทานตะวัน (Sunflower Sprouts) มีกรด Linoleic ในปริมาณมาก ช่วยในการบำรุงสมองและกระดูกให้แข็งแรง

ทั้งยังอุดมไปด้วยวิตามินบี วิตามินอี และโฟเลต ช่วยเพิ่มภูมิต้านทานให้แก่ร่างกาย ป้องกันโรคหัวใจและมะเร็ง และช่วยให้ระบบขับถ่ายดีด้วยนอกจากนี้ ข้อมูลการวิจัยของ International Sprout Growers Association เมื่อปี 2554 ระบุว่า ต้นอ่อนทานตะวันมีโปรตีนมากกว่าผักกาดเขียวถึง 2 เท่า วิตามิน A, B2, E, D, K และยังมีวิตามินA สูงกว่าน้ำมันเมล็ดข้าวโพดและเมล็ดถั่วเหลืองกว่า 3 เท่าเลยทีเดียว แต่เมื่อนำเมล็ดทานตะวันมาเพาะเป็นต้นอ่อนทานตะวัน คุณค่าทางอาหารจะเพิ่มมากขึ้น เช่น มีโปรตีนสูงกว่าถั่วเหลือง มีวิตามินA สูง ช่วยบำรุงสายตา ผิวพรรณ และชะลอความแก่

อีกทั้งยังมีวิตามิน B1, B6 โอเมก้า 3, 6, 9 ที่ช่วยบำรุงผิวพรรณ บำรุงสมอง ป้องกันโรคอัลไซเมอร์ และยังมีธาตุเหล็กสูง ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลได้อีกด้วยวิตามิน A, B2, E, D, K และยังมีวิตามินA สูงกว่าน้ำมันเมล็ดข้าวโพดและเมล็ดถั่วเหลืองกว่า 3 เท่าเลยทีเดียว แต่เมื่อนำเมล็ดทานตะวันมาเพาะเป็นต้นอ่อนทานตะวัน คุณค่าทางอาหารจะเพิ่มมากขึ้น เช่น มีโปรตีนสูงกว่าถั่วเหลือง มีวิตามินA สูง ช่วยบำรุงสายตา ผิวพรรณ และชะลอความแก่ อีกทั้งยังมีวิตามิน B1, B6 โอเมก้า 3, 6, 9 ที่ช่วยบำรุงผิวพรรณ บำรุงสมอง ป้องกันโรคอัลไซเมอร์ และยังมีธาตุเหล็กสูง ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลได้อีกด้วยในส่วนวิตามิน ต้นอ่อนทานตะวันนั้นมีวิตามิน A, B2, E, D, K และยังมีวิตามินA สูงกว่าน้ำมันเมล็ดข้าวโพดและเมล็ดถั่วเหลืองกว่า 3 เท่าเลยทีเดียว

แต่เมื่อนำเมล็ดทานตะวันมาเพาะเป็นต้นอ่อนทานตะวัน คุณค่าทางอาหารจะเพิ่มมากขึ้น เช่น มีโปรตีนสูงกว่าถั่วเหลือง
มีวิตามินA สูง ช่วยบำรุงสายตา ผิวพรรณ และชะลอความแก่
อีกทั้งยังมีวิตามิน B1, B6 โอเมก้า 3, 6, 9 ที่ช่วยบำรุงผิวพรรณ บำรุงสมอง ป้องกันโรคอัลไซเมอร์ และยังมีธาตุเหล็กสูง ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลได้อีกด้วย อีกทั้งกระบวนการเพาะปลูกของต้นอ่อนทานตะวันนั้นแสนง่าย และไม่ต้องพึ่งสารเคมีหรือยาฆ่าแมลงใด ๆ จึงทำให้เรามั่นใจว่าจะปลอดภัยจากสารเคมีตกค้างจากการเพาะปลูกกันอีกด้วยนะคะ และหากใครสนใจจะปลูกเองเพื่อรับประทาน ก็มีเมล็ดทานตะวันสำหรับการเพาะปลูกเองไว้ขาย พร้อมทั้งอธิบายวิธีการเพาะที่แสนจะง่าย และใช้เวลาเพียง 7-11วันก็สามารถรับประทานได้แล้ว

มาดูกันต่อว่าเจ้าต้นอ่อนทานตะวันสามารถนำไปปรุงอาหารอะไรได้บ้าง ซึ่งในปัจจุบันก็มีสูตรต่าง ๆ มากมายที่นำต้นอ่อนทานตะวันมาปรุงเป็นอาหาร เช่น ต้นอ่อนทานตะวันผัดไฟแดง ผัดกับกุ้งสดต้มจืดหรือจะทานเป็นผักใส่ลงในสลัดใส่ในไข่เจียวลวกจิ้มน้ำพริก และใช้แทนถั่วงอกใส่ลงในก๋วยเตี๋ยวเป็นต้น

สรุปว่า ต้นอ่อนทานตะวันสดนั้น ปลอดสารพิษ ให้โปรตีนสูง
บำรุงสมอง ป้องกันโรคหัวใจและมะเร็ง เห็นประโยชน์มากมานขนาดนี้ เห็นทีพวกเราคนรักสุขภาพจะต้องหาเจ้าต้นอ่อนทานตะวันมาปรุงเป็นอาหารเพื่อเพิ่มสารอาหารดีๆ มีประโยชน์ให้แก่ร่างกายกันบ้างแล้ว


อุปกรณ์ เพาะต้นอ่อนทานตะวัน สิ่งที่ต้องเตรียม

1. ถาดสำหรับปลูก เช่น ถาด หรือตระกร้า ซื้อร้าน 20 บาททุกอย่าง
2. ดิน สำหรับต้นอ่อน หรือดินจากร้านขายต้นไม้ก็ได
3. เมล็ดทานตะวัน ซื้อได้ตามร้านอาหารเลี้ยงสัตว์ เลี้ยงนก
4. หลังจากได้เมล็ดมา ควรตากแดดจัด 1 วัน ก่อนแช่ เพื่อให้เมล็ดดีดออกจะใบได้ง่าย


ขั้นตอนที่ 1 นำเมล็ดแช่น้ำ 4-6 ชม. ระหว่างแช่จะมีฟองอากาศซึ่งเกิดจากน้ำเข้าไปในเมล็ดครับ หลังจากนั้นเทน้ำออก



ขั้นตอนที่ 2 นำเมล็ดบ่มในผ้าขนหนู ประมาณ 18-20 ชม. ทุก ๆ 5 ชม. ให้คนกลับไปกลับมา เมล็ดจะเริ่มงอกเป็นตุ่ม ๆ ดังภาพ แสดงว่าเริ่มเพาะได้แล้ว ให้เรานำดินใส่ถาดที่เตรียมไว้ เคล็ดลับ รากที่งอกออกมาไม่ควรปล่อยให้ยาวมากนะครับ ประมาณ 2-3 มิล


ขั้นตอนที่ 3 โรยเมล็ดลงดิน โดยไม่ให้หนา หรือบางจนเกินไป เคล็ดลับ อัตราส่วน ถาด 30*60 ซม. ต่อเมล็ด 1.5 ขีด


ขั้นตอนที่ 4 โรยดินกลบบาง ๆ และรดน้ำพอชุ่ม เคล็ดลับ ดินที่ได้มาควรร่อนเอากากใบไม้ ขุยมะพร้าวออกก่อน การโรยควรใช้ดินละเอียด


ขั้นตอนที่ 5 แยกถาดออกไว้ในร่ม รดน้ำวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น เคล็ดลับ หลังจากแยกถาด ควรคุมเรื่องแสงนะครับ เพื่อให้ต้นยืดหาแสง จะทำให้ได้ต้นยาว


ขั้นตอนที่ 6 เข้าสู่วันที่ 3 รดน้ำต่อวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น พอประมาณ
ขั้นตอนที่ 7 เข้าสู่วันที่ 5 รดน้ำต่อเช้า-เย็น พอประมาณ เคล็ดลับ ก่อนวันตัด 1-2 วัน ค่อยให้โดนแสง ต้นจะยาวและเขียวสวย


ขั้นตอนที่ 8 เข้าสู่วันที่ 6-7 รดน้ำเช้า-เย็นปกติ และนำออกมารับแสงในวันที่จะตัด ต้นจะเริ่มเขียว สามารถตัดได้ในวันที่ 6-7 หรือมากกว่าก็ได้ครับ แล้วแต่ความยาวของต้น เคล็ดลับ ถ้าเริ่มเห็นใบจริงแทรกออกมาจากปลายต้นอ่อน ควรจะตัดได้แล้ว

การตัด : ใช้มือรวบโคนต้นเป็นกระจุก นำกรรไกร หรือคัตเตอร์คม ๆ ตัดที่โคนต้น สาเหตุที่ต้องใช้คมมาก ๆ เพื่อป้องกันโคนต้นช้ำครับ ล้างในกะละมัง 2 น้ำ เก็บเศษดิน เศษราก และเมล็ดที่ติดมาออก ผึ่งให้แห้ง พร้อมรับประทาน หรือจะแพ็คใส่ถุงเข้าตู้เย็น โดยมัดปากถุงให้แน่น ไม่ต้องเจาะรู แต่ต้องผึ่งให้สะเด็ดน้ำก่อนนะครับ สามารถเก็บได้ถึง 5-7 วัน
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  อาหารไทย
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่