THE BOY x ICELAND | EP 0 : เรื่องราวของผมกับไอซ์แลนด์
http://pantip.com/topic/35263996
THE BOY x ICELAND | EP 1 : เตรียมตัวออกเดินทาง
http://pantip.com/topic/35264937
THE BOY x ICELAND | EP 2 : Hej Danmark, Jeg er her!
http://pantip.com/topic/35268433
THE BOY x ICELAND | EP 3 : Ég koma til þín ! ไอซ์แลนด์ เรามาหาแล้วนะ
http://pantip.com/topic/35273271
THE BOY x ICELAND | EP 4 : DAY 1 - This is how Iceland welcome me.
http://pantip.com/topic/35280548
THE BOY x ICELAND | EP 5 : DAY 2 - สัมผัสกับกลิ่นอายของความเป็นไอซ์แลนด์
http://pantip.com/topic/35286578
THE BOY x ICELAND | EP 6 : DAY 3 - First day of summer
http://pantip.com/topic/35298681
THE BOY x ICELAND | EP 7 : DAY 4 - ชีวิตอาสาสมัครที่แท้จริง
http://pantip.com/topic/35302427
THE BOY x ICELAND | EP 8 : DAY 5 - ไปดวงจันทร์
http://pantip.com/topic/35312491
THE BOY x ICELAND | EP 9 : DAY 6 - Free Day กิน ๆ เดิน ๆ
http://pantip.com/topic/35323608
จะบอกว่า
ไม่ได้ยุ่งอะไรเลยครับที่มาต่อกระทู้ช้า แต่... ขี้เกียจมากไปหน่อย 5555555555 ขออภัยด้วยนะครับ หวังว่าจะยังมีคนตามอ่านอยู่บ้างนะ แงงงง
หลังจากที่ Free Day ได้จบลง ผมก็ต้องกลับมาทำงานอาสาสมัครต่อที่สุสาน แต่เป็นอีกสุสานนึงที่มีชื่อว่า "fossvogskirkjugarður"
งานที่ทำ ก็เหมือนเดิมครับ กวาดใบไม้ ตั้งแต่ 9 โมงถึงเที่ยง ตั้งแต่บ่ายโมงถึงสามโมง
วันนี้ทีมงานชุดเดิม แต่เปลี่ยนจากเอเดรียนมาเป็นลิซแทน ส่วนเอมิลี่เป็นหวัด ไม่สามารถมาได้
สุสานที่นี่ดูยังไงก็ไม่น่ากลัวเลยครับ กวาดใบไม้เพลินมาก เราไม่มีความรู้สึกว่าจะมีมือโผล่ขึ้นมาจากหลุมศพแล้วโบกมือทักทายเราเลยสักนิด
ทุกอย่างดูสดใส มุ้งมิ้ง ลั้ลลา วันนี้มีพลังทำงานเต็มที่ เพราะอากาศดีมาก ๆ ครับ
แป๊บ ๆ ได้เวลาพักเที่ยง ทุกคนก็ได้กินข้าวกล่องฟรีเหมือนเดิม คนอื่นหนีไปนั่งตากแดดกินตรงม้านั่งข้างนอกกันหมด ทิ้งผมกับจีซูไว้ข้างในสองคน เพราะม้านั่งเต็มแล้ว ทำให้ผมได้พูดคุยเสวนากับจีซูแบบยาว ๆ อีกรอบนึง
จุงกิ
อย่างที่เคยบอกไปว่าจีซูไม่ได้ชอบหรือติดตามดาราเกาหลีมากมาย แต่จีซูก็พอทราบว่า ซีรี่ย์เรื่อง The Descandants Of Sun นั้น เป็นที่โด่งดังมากในหมู่คนไทยและจีน
ผมบอกจีซูว่าสาวไทยกรี๊ดจุงกิมาก ๆ จีซูบอกว่า เพื่อนของจีซูเรียนที่มหาลัยเดียวกันกับจุงกิด้วยแหละ เมเจอร์เดียวกันด้วย!!
จีซูบอกว่า ปกติดาราเกาหลีส่วนใหญ่ ถ้าเข้าวงการบันเทิงแล้วก็จะทิ้งเรื่องเรียน แต่จุงกิเก่งมาก ๆ เรียนก็เรียน งานก็ทำนะจ๊ะ
สอนพิเศษ
ผมว่าหลาย ๆ คนก็มี stereotype ไม่ต่างจากผม ว่าคนเกาหลีใต้นั้นหัวดีมาก จีซูเคยหาเงินด้วยการสอนพิเศษคณิตศาสตร์ให้รุ่นน้อง จนน้องสอบติดมหาลัยอันดับต้น ๆ ของประเทศได้ จีซูบอกว่ายูก็สอนบ้างสิ มันไม่ได้ยากเลย เพราะว่าเราก็เคยเรียนผ่านกันมาหมดแล้ว
.......
เราเรียนแล้วเราก็เทอ่ะจีซู เราสอนไม่ได้ 55555555555555
แสงเหนือ
ว่าจะไม่พูดถึง..แต่ก็อดพูดไม่ได้ครับ 5555555
นั่ง ๆ กินข้าวกันอยู่สองคน คุณลุงที่เป็นเจ้าหน้าที่ที่ทำงานที่สุสาน ก็เปิดเว็บไซต์เช็คแสงเหนือ แล้วก็บอกกับพวกเราว่า วันที่ 30 จะมีแสงเหนือ แรงด้วยนะ น่าจะเป็นแสงเหนือรอบสุดท้ายก่อนที่หน้าร้อนจริง ๆ จะมาถึงแล้ว
ในขณะที่จีซูวี้ดว้าย บอกว่าโอ้ยยยย ไออยากเห็นมากกก จะต้องร้องไห้แน่ ๆ เลย
..........
ผมก็ช็อคในโชคชะตาของตัวเอง เพราะวันที่ 30 ผมกำลังกลับได้จากไอซ์แลนด์ได้ 1 วัน :'( ก็จริงอยู่ที่ว่าผมไม่ได้อะไรกับแสงเหนือมากมายแบบที่เล่าไว้ในกระทู้แรก แต่ว่า มีโอกาสก็อยากจะเห็นแหละครับ จุดนั้นรู้สึกเซ็งเลย คือคนอื่นพอค่ายจบ (วันที่ 29) เค้าก็อยู่ต่อกันอีกสามสี่วันบ้าง แต่ผมคือจบค่ายปุ๊บแล้วกลับเลย ไม่ได้เผื่ออะไรไว้ ว่าจะไปเที่ยวที่ที่อยากเที่ยวอะไรงี้ v_v ก็เซ็ง ๆ กันไป แต่ก็ไม่อะไรมากครับ แสงเหนือมาดูอีกเมื่อไหร่ก็ได้ !
กลับมาทำงานต่อ ขอโชว์รูปสุสานอีกสักหน่อยนะฮะ
ที่เคยบอกไว้เมื่อกระทู้ EP 7 ว่าสุสานที่ไอซ์แลนด์เค้าจะปลูกต้นไม้ไว้บนหลุมศพ แล้วพอมันโตมันจะโตไม่สุด เนื่องด้วยสภาพอากาศและลมหรืออะไรก็ตามแต่ ทำให้มันมีลักษณะค่อนข้าง creepy
แบบนี้ไงจ๊ะ
ถ้ามาตอนกลางคืนนี่ผมว่าก็แอบหลอนเหมือนกันนะเนี่ย เพราะฉะนั้น หลุมศพน่ารักสดใสแบบนี้ ก็ให้มันสดใสในตอนกลางวันเถอะครับ 55555
ขออนุญาตเจ้าของหลุมศพด้วยนะครับ Takk fyrir ._.) แต่หลุมนี้สวยจริง ๆ เพราะมีดอกไม้อยู่เต็มเชียว ถ้าไม่ขึ้นเอง ก็คงเป็นลูกหลานที่รู้ใจว่าเค้าชอบดอกไม้ชนิดนี้ละมั้งครับ

ผมมองว่าน่ารักดีนะ ชมหลุมศพ ฝังดูไม่เป็นมงคลเลย แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า หลุมศพนี้ เอาท์สะแตนดิ้งชายยยน์ มาก
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว เพราะงานของเรานั้นช่างมีความสุข อาาาห์ สุดท้ายก็ได้กลับบ้าน
มีหรอจะไม่เซลฟี่ ไม่พลาดแน่นอน ฮี่ๆ
วันนี้เป็นวันที่สดใสเหลือเกิน
จากนั้นเจ้าหน้าที่ของสุสานก็ส่งพวกเรากลับบ้าน พร้อมกับคำขอบคุณสำหรับพวกเราที่ช่วยงานพวกเขา
คืนนี้มี Jazz Night ที่ผับในเมือง ชื่อว่า Húrra ครับ..
จริง ๆ ก็กลัวประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยนะ ว่าแบบ ไปผับ อีกแล้วอ่อ เราจะกร่อยมั้ยนะ
แต่อย่างน้อยมันก็เป็นเพลง Jazz ผมคิดว่าก็คงโอเคอยู่แหละมั้งงง ก็เลยตัดสินใจไปด้วย
แต่กว่าคอนเสิร์ตจะเริ่มก็ 3 ทุ่ม... และตอนนี้มันก็เพิ่งจะทุ่มนึงอยู่เลย
ที่สำคัญ.. บัตรรถบัส One Day Pass ก็ยังเหลืออยู่ด้วย โอ้ยยยย! ไม่ได้การแล้ว ต้องใช้ ต้องใช้ ไม่งั้นไม่คุ้มม !
ผมก็เลยปิ๊งไอเดียว่า เออออ เราไปเยี่ยมชม มหาวิทยาลัยไอซ์แลนด์ หรือ Háskóli Ísland ดีกว่าาา
จัดการบอกเอวาให้เรียบร้อย จะได้ไม่เสียมารยาท ว่าไอจะตามไปทีหลังนะ ไอต้องใช้บัตรรถบัสให้หมด !
จริง ๆ การมาเที่ยวไอซ์แลนด์ของผม
ผมไม่ได้อยากให้ตัวเองมีความรู้สึกเป็นนักท่องเที่ยว เพราะผมอยากมาอยู่ที่นี่จริง ๆ
ผมจึงทำตัวให้ local ที่สุด เสื้อผ้าไม่ต้องหนาอะไรมากมาย กล้องใหญ่ก็ไม่ต้องพก (ความจริงคือขี้เกียจ) ผมรู้ตัวดีว่ามันคือการมโน 5555555555
แต่มันก็ช่วยพอให้ผมตัดสินใจได้บ้าง ว่าผมอยากมาอยู่ที่นี่จริง ๆ รึเปล่า
วิวระหว่างทางไปมหาลัยครับ
ยังไงวิวของภูเขาลูกนี้ ก็ไม่เคยทำให้ผมเบื่อจริง ๆ
Næsta stopp er...
Háskóli Ísland !
ยอมรับว่ามาถึงก็รู้สึกว่า เออ... นี่เรามาทำอะไรวะ
คือมันไม่มีจุดหมายจริง ๆ คืออยากมามโน ว่าแบบ เฮ้ยแกร เราเรียนอยู่ที่นี่นะเว้ย
ก็จัดไปครับ มโนก็มโน 5555555
เสียดายที่ผมมโน แต่ไม่มีความกล้าที่จะถ่ายห้องโถง ที่นักศึกษาทุกคนมานั่งรวมกัน แล้วทำการบ้านกันอย่างขมักเขม้น
บางคนก็หันมามองผมบาง และพลางคิดในใจว่า เอ๊ะ นังเอเชียนี่เป็นใคร
ขอโทษที่ไม่มีรูปครับ ไม่มีข้อมูลอะไรสักอย่างที่เป็นความรู้ให้ได้ มีแต่บรรยากาศมาให้ดู บอกได้เลยว่า กระตุ้นต่อมอยากเรียนรู้มาก 55555 ทำให้ผมอยากซื้อหนังสือเรียนภาษาไอซ์แลนดิกขึ้นมาทันทีเลยแหละ
จากนั้นก็เดินดูมหาลัยไปเรื่อย ๆ ครับ เข้าตึกนั้น ซอกนี้ ถนนนี่สะอาดมากกกกก แทบจะอยากลงไปนอนกลิ้ง
เสียดาย พยายามจะหาโต๊ะ Information แต่ก็ไม่เจอ เผื่อจะถามว่ามีเมตตากรุณาให้คนบ้าประเทศไอซ์แลนด์แบบเราบ้างมั้ย
วิวรอบ ๆ มหาลัยครับ.. เห็นเมืองทั้งเมือง เห็นภูเขาด้วย
เพิ่มความน่าเรียนไปอีกสักร้อยเท่า
ด้วยบรรยากาศดี ๆ เหล่านี้
ด้วยความขมักเขม้นของนักศึกษาเหล่านั้น
ทำให้ผม...
ไม่ไหวแล้ว!!! ชั้นต้องการหนังสือเรียนภาษาไอซ์แลนดิก !!!!
แต่ร้านหนังสืออยู่ไหนวะ... -_-
ก็เลยโทรไปถามพี่ติวว่า มีร้านหนังสือไหมในดาวน์ทาวน์
พี่ติวก็บอกว่า ก็ตรงใกล้ ๆ ร้านเบอร์เกอร์ที่เราไปกินเมื่อวานไง
อ่ะโอเค นังเด๋อ เราจะไปซื้อหนังสือกัน เราจะเอามาให้ได้ !!!
พอมาถึงดาวน์ทาวน์ก็...เออ ร้านเบอร์เกอร์ที่เรากินเมื่อวานอยู่ตรงไหน จำไม่ได้ -_- แต่ช่างเถอะ เดินตรงไปก่อนละกัน
อ๋า เจอแล้ว ร้านหนังสือร้านนี้ ถึงแม้จะไม่ใช่ที่พี่ติวบอก แต่ก็ถามไปก็ไม่เสียหาย
"ขอโทษนะครับ มีหนังสือเรียนภาษาไอซ์แลนดิกที่เป็นภาษาอังกฤษมั้ยครับ"
"มีค่าา ตามมาทางนี้เลย"
จากนั้นพนักงานก็มองซ้ายมองขวา หื้มมม บั่บ อืมมมม เนาะ บั่บ หื้มมม (อ่านถึงตรงนี้ก็รู้กันแล้วนะว่าเราเป็นชาวน้อง)
"อืมม ดูเหมือนว่าที่สาขาเราไม่มีนะคะ ยังไงลองไปดูที่สาขาใหญ่ดูเนอะ ตรงไปซัก 500 เมตร แล้วก็เลี้ยวซ้ายนะคะ"
พนักงานที่นี่เค้าบริการด้วยใจจริง ๆ ยิ้มแย้ม สดใส น่ารัก ประทับใจเสมอครับ
แต่ถามว่าไอ่ 500 เมตรแล้วเลี้ยวซ้ายเนี่ย ผมไปไม่ถูกแน่นอน ก็เลยเปิด Maps ครับ (Google Maps เยียวยาทุกสิ่ง)
ร้านหนังสือชื่อว่าร้าน "Eymundsson" น่าจะเป็นร้านหนังสือที่ใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์แล้วแหละครับ
ไปถึงผมก็วิ่งปรี่เข้าไปถามคำถามเดิม และพนักงานก็พาผมไปดูเหมือนเดิม...
คราวนี้มีครับ !! กรี๊ดดดดดด เป็นหนังสือแพ็ค 2 เล่ม เล่มนึงเป็นสนทนาทั่วไป มีแผ่นซีดีให้ ส่วนอีกเล่มเป็นแบบฝึกหัดแกรมม่าร์ หน้าตาเป็นแบบนี้ครับ
ตัดภาพมาที่ราคา...
อืม...
4200 ISK
ประมาณ 1200 บาทนิดๆ...
ตัดภาพมาที่เงินในกระเป๋าตัง
อืม...
5000 ISK...
ก็พออยู่แหละ.. แต่ไม่เหลือใช้ในเดนมาร์กแน่
สุดท้าย
ตัดภาพมาที่บัตรเครดิต
โอเคไม่เป็นไรเรื่องเรียนพ่อไม่ว่าแน่นอน
เย้ ๆ เสียบบัตร เรียบร้อย ง่าย สบายใจ หายห่วง ได้เรียนภาษาไอซ์แลนดิกแบบเป็นชิ้นเป็นอันแล้ว หลังจากที่เรียนแบบเงอะ ๆ งะ ๆ มานาน ฮา ๆ
จากนั้นก็มุ่งหน้าไปยังผับ Húrra ต่อ เพื่อไปฟังเพลง Jazz
ก็เพราะดีนะครับ.. เค้าเล่นกันมันส์มาก คราวนี้ถือว่าสนุกกว่าคอนเสิร์ตฮิปฮอปที่ Príkið มากกก
แต่ ก็ยังง่วงเหมือนเดิม =_= เพราะมันไม่มีอะไรให้ทำนอกจากนั่งฟัง ผมก็เลยขอกลับก่อนตามเคยครับ
กลับมาถึงบ้าน ก็เจอซาช่า เอมิลี่ และเคลอานที่กำลังเม้ามอยกันอยู่
ผม : เฮ้กายยยยส์~~
ซาช่า : ฮายยยยย วันนี้ไปไหนมา
ผม : กลับมาจาก Jazz night น่ะ ละก็วันนี้ไปมหาลัยไอซ์แลนด์มา
ซาช่า : จริงหรออออ!! เป็นไงบ้าง?
ผม : สวยงามมาก ดีงาม ทุกอย่าง บรรยากาศ น่าเรียนมากกก ไออยากเรียนมากเลยอ่ะ
เคลอานที่ : แต่รู้สึกว่ายูต้องเรียนภาษาไอซ์แลนดิกก่อนนะถึงจะเรียนที่นั่นได้อะ ไอเคยไปหาข้อมูลมา
ผม : อ่อใช่...
ละก็ไอก็ไปซื้อหนังสือเรียนภาษาไอซ์แลนดิกมานี่ไง
จากนั้นเอมิลี่ที่นั่งฟังบทสนทนาอยู่ก็หัวเราะก๊ากกกกขึ้นมา แล้วบอกว่าทำไมมันตลกจังเลย 5555555555555555 เหมือนกับว่าแบบผมพร้อมที่จะเรียนแล้วจริง ๆ ยังไงยังงั้นแหน่ะ
และนี่ก็คือเรื่องราวในวันที่ 7 ครับ ขอบคุณทุกคนที่ติดตาม จะยังมีคนอ่านอยู่ไหมเนี่ย TT ไหนใครยังอ่านอยู่ขอเสียงหน่อยยยย ผมสัญญาจะไม่มาต่อช้าแล้วนะครับบบบ 555555555
THE BOY x ICELAND | EP 10 : DAY 7 - บ้าจี้ไปเที่ยวมหาลัยไอซ์แลนด์ (Háskóli Ísland)
THE BOY x ICELAND | EP 1 : เตรียมตัวออกเดินทาง http://pantip.com/topic/35264937
THE BOY x ICELAND | EP 2 : Hej Danmark, Jeg er her! http://pantip.com/topic/35268433
THE BOY x ICELAND | EP 3 : Ég koma til þín ! ไอซ์แลนด์ เรามาหาแล้วนะ http://pantip.com/topic/35273271
THE BOY x ICELAND | EP 4 : DAY 1 - This is how Iceland welcome me. http://pantip.com/topic/35280548
THE BOY x ICELAND | EP 5 : DAY 2 - สัมผัสกับกลิ่นอายของความเป็นไอซ์แลนด์ http://pantip.com/topic/35286578
THE BOY x ICELAND | EP 6 : DAY 3 - First day of summer http://pantip.com/topic/35298681
THE BOY x ICELAND | EP 7 : DAY 4 - ชีวิตอาสาสมัครที่แท้จริง http://pantip.com/topic/35302427
THE BOY x ICELAND | EP 8 : DAY 5 - ไปดวงจันทร์ http://pantip.com/topic/35312491
THE BOY x ICELAND | EP 9 : DAY 6 - Free Day กิน ๆ เดิน ๆ http://pantip.com/topic/35323608
จะบอกว่า
ไม่ได้ยุ่งอะไรเลยครับที่มาต่อกระทู้ช้า แต่... ขี้เกียจมากไปหน่อย 5555555555 ขออภัยด้วยนะครับ หวังว่าจะยังมีคนตามอ่านอยู่บ้างนะ แงงงง
หลังจากที่ Free Day ได้จบลง ผมก็ต้องกลับมาทำงานอาสาสมัครต่อที่สุสาน แต่เป็นอีกสุสานนึงที่มีชื่อว่า "fossvogskirkjugarður"
งานที่ทำ ก็เหมือนเดิมครับ กวาดใบไม้ ตั้งแต่ 9 โมงถึงเที่ยง ตั้งแต่บ่ายโมงถึงสามโมง
วันนี้ทีมงานชุดเดิม แต่เปลี่ยนจากเอเดรียนมาเป็นลิซแทน ส่วนเอมิลี่เป็นหวัด ไม่สามารถมาได้
สุสานที่นี่ดูยังไงก็ไม่น่ากลัวเลยครับ กวาดใบไม้เพลินมาก เราไม่มีความรู้สึกว่าจะมีมือโผล่ขึ้นมาจากหลุมศพแล้วโบกมือทักทายเราเลยสักนิด
ทุกอย่างดูสดใส มุ้งมิ้ง ลั้ลลา วันนี้มีพลังทำงานเต็มที่ เพราะอากาศดีมาก ๆ ครับ
แป๊บ ๆ ได้เวลาพักเที่ยง ทุกคนก็ได้กินข้าวกล่องฟรีเหมือนเดิม คนอื่นหนีไปนั่งตากแดดกินตรงม้านั่งข้างนอกกันหมด ทิ้งผมกับจีซูไว้ข้างในสองคน เพราะม้านั่งเต็มแล้ว ทำให้ผมได้พูดคุยเสวนากับจีซูแบบยาว ๆ อีกรอบนึง
จุงกิ
อย่างที่เคยบอกไปว่าจีซูไม่ได้ชอบหรือติดตามดาราเกาหลีมากมาย แต่จีซูก็พอทราบว่า ซีรี่ย์เรื่อง The Descandants Of Sun นั้น เป็นที่โด่งดังมากในหมู่คนไทยและจีน
ผมบอกจีซูว่าสาวไทยกรี๊ดจุงกิมาก ๆ จีซูบอกว่า เพื่อนของจีซูเรียนที่มหาลัยเดียวกันกับจุงกิด้วยแหละ เมเจอร์เดียวกันด้วย!!
จีซูบอกว่า ปกติดาราเกาหลีส่วนใหญ่ ถ้าเข้าวงการบันเทิงแล้วก็จะทิ้งเรื่องเรียน แต่จุงกิเก่งมาก ๆ เรียนก็เรียน งานก็ทำนะจ๊ะ
สอนพิเศษ
ผมว่าหลาย ๆ คนก็มี stereotype ไม่ต่างจากผม ว่าคนเกาหลีใต้นั้นหัวดีมาก จีซูเคยหาเงินด้วยการสอนพิเศษคณิตศาสตร์ให้รุ่นน้อง จนน้องสอบติดมหาลัยอันดับต้น ๆ ของประเทศได้ จีซูบอกว่ายูก็สอนบ้างสิ มันไม่ได้ยากเลย เพราะว่าเราก็เคยเรียนผ่านกันมาหมดแล้ว
.......
เราเรียนแล้วเราก็เทอ่ะจีซู เราสอนไม่ได้ 55555555555555
แสงเหนือ
ว่าจะไม่พูดถึง..แต่ก็อดพูดไม่ได้ครับ 5555555
นั่ง ๆ กินข้าวกันอยู่สองคน คุณลุงที่เป็นเจ้าหน้าที่ที่ทำงานที่สุสาน ก็เปิดเว็บไซต์เช็คแสงเหนือ แล้วก็บอกกับพวกเราว่า วันที่ 30 จะมีแสงเหนือ แรงด้วยนะ น่าจะเป็นแสงเหนือรอบสุดท้ายก่อนที่หน้าร้อนจริง ๆ จะมาถึงแล้ว
ในขณะที่จีซูวี้ดว้าย บอกว่าโอ้ยยยย ไออยากเห็นมากกก จะต้องร้องไห้แน่ ๆ เลย
..........
ผมก็ช็อคในโชคชะตาของตัวเอง เพราะวันที่ 30 ผมกำลังกลับได้จากไอซ์แลนด์ได้ 1 วัน :'( ก็จริงอยู่ที่ว่าผมไม่ได้อะไรกับแสงเหนือมากมายแบบที่เล่าไว้ในกระทู้แรก แต่ว่า มีโอกาสก็อยากจะเห็นแหละครับ จุดนั้นรู้สึกเซ็งเลย คือคนอื่นพอค่ายจบ (วันที่ 29) เค้าก็อยู่ต่อกันอีกสามสี่วันบ้าง แต่ผมคือจบค่ายปุ๊บแล้วกลับเลย ไม่ได้เผื่ออะไรไว้ ว่าจะไปเที่ยวที่ที่อยากเที่ยวอะไรงี้ v_v ก็เซ็ง ๆ กันไป แต่ก็ไม่อะไรมากครับ แสงเหนือมาดูอีกเมื่อไหร่ก็ได้ !
กลับมาทำงานต่อ ขอโชว์รูปสุสานอีกสักหน่อยนะฮะ
ที่เคยบอกไว้เมื่อกระทู้ EP 7 ว่าสุสานที่ไอซ์แลนด์เค้าจะปลูกต้นไม้ไว้บนหลุมศพ แล้วพอมันโตมันจะโตไม่สุด เนื่องด้วยสภาพอากาศและลมหรืออะไรก็ตามแต่ ทำให้มันมีลักษณะค่อนข้าง creepy
แบบนี้ไงจ๊ะ
ถ้ามาตอนกลางคืนนี่ผมว่าก็แอบหลอนเหมือนกันนะเนี่ย เพราะฉะนั้น หลุมศพน่ารักสดใสแบบนี้ ก็ให้มันสดใสในตอนกลางวันเถอะครับ 55555
ขออนุญาตเจ้าของหลุมศพด้วยนะครับ Takk fyrir ._.) แต่หลุมนี้สวยจริง ๆ เพราะมีดอกไม้อยู่เต็มเชียว ถ้าไม่ขึ้นเอง ก็คงเป็นลูกหลานที่รู้ใจว่าเค้าชอบดอกไม้ชนิดนี้ละมั้งครับ
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว เพราะงานของเรานั้นช่างมีความสุข อาาาห์ สุดท้ายก็ได้กลับบ้าน
มีหรอจะไม่เซลฟี่ ไม่พลาดแน่นอน ฮี่ๆ
วันนี้เป็นวันที่สดใสเหลือเกิน
จากนั้นเจ้าหน้าที่ของสุสานก็ส่งพวกเรากลับบ้าน พร้อมกับคำขอบคุณสำหรับพวกเราที่ช่วยงานพวกเขา
คืนนี้มี Jazz Night ที่ผับในเมือง ชื่อว่า Húrra ครับ..
จริง ๆ ก็กลัวประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยนะ ว่าแบบ ไปผับ อีกแล้วอ่อ เราจะกร่อยมั้ยนะ
แต่อย่างน้อยมันก็เป็นเพลง Jazz ผมคิดว่าก็คงโอเคอยู่แหละมั้งงง ก็เลยตัดสินใจไปด้วย
แต่กว่าคอนเสิร์ตจะเริ่มก็ 3 ทุ่ม... และตอนนี้มันก็เพิ่งจะทุ่มนึงอยู่เลย
ที่สำคัญ.. บัตรรถบัส One Day Pass ก็ยังเหลืออยู่ด้วย โอ้ยยยย! ไม่ได้การแล้ว ต้องใช้ ต้องใช้ ไม่งั้นไม่คุ้มม !
ผมก็เลยปิ๊งไอเดียว่า เออออ เราไปเยี่ยมชม มหาวิทยาลัยไอซ์แลนด์ หรือ Háskóli Ísland ดีกว่าาา
จัดการบอกเอวาให้เรียบร้อย จะได้ไม่เสียมารยาท ว่าไอจะตามไปทีหลังนะ ไอต้องใช้บัตรรถบัสให้หมด !
จริง ๆ การมาเที่ยวไอซ์แลนด์ของผม
ผมไม่ได้อยากให้ตัวเองมีความรู้สึกเป็นนักท่องเที่ยว เพราะผมอยากมาอยู่ที่นี่จริง ๆ
ผมจึงทำตัวให้ local ที่สุด เสื้อผ้าไม่ต้องหนาอะไรมากมาย กล้องใหญ่ก็ไม่ต้องพก (ความจริงคือขี้เกียจ) ผมรู้ตัวดีว่ามันคือการมโน 5555555555
แต่มันก็ช่วยพอให้ผมตัดสินใจได้บ้าง ว่าผมอยากมาอยู่ที่นี่จริง ๆ รึเปล่า
วิวระหว่างทางไปมหาลัยครับ
ยังไงวิวของภูเขาลูกนี้ ก็ไม่เคยทำให้ผมเบื่อจริง ๆ
Næsta stopp er...
Háskóli Ísland !
ยอมรับว่ามาถึงก็รู้สึกว่า เออ... นี่เรามาทำอะไรวะ
คือมันไม่มีจุดหมายจริง ๆ คืออยากมามโน ว่าแบบ เฮ้ยแกร เราเรียนอยู่ที่นี่นะเว้ย
ก็จัดไปครับ มโนก็มโน 5555555
เสียดายที่ผมมโน แต่ไม่มีความกล้าที่จะถ่ายห้องโถง ที่นักศึกษาทุกคนมานั่งรวมกัน แล้วทำการบ้านกันอย่างขมักเขม้น
บางคนก็หันมามองผมบาง และพลางคิดในใจว่า เอ๊ะ นังเอเชียนี่เป็นใคร
ขอโทษที่ไม่มีรูปครับ ไม่มีข้อมูลอะไรสักอย่างที่เป็นความรู้ให้ได้ มีแต่บรรยากาศมาให้ดู บอกได้เลยว่า กระตุ้นต่อมอยากเรียนรู้มาก 55555 ทำให้ผมอยากซื้อหนังสือเรียนภาษาไอซ์แลนดิกขึ้นมาทันทีเลยแหละ
จากนั้นก็เดินดูมหาลัยไปเรื่อย ๆ ครับ เข้าตึกนั้น ซอกนี้ ถนนนี่สะอาดมากกกกก แทบจะอยากลงไปนอนกลิ้ง
เสียดาย พยายามจะหาโต๊ะ Information แต่ก็ไม่เจอ เผื่อจะถามว่ามีเมตตากรุณาให้คนบ้าประเทศไอซ์แลนด์แบบเราบ้างมั้ย
วิวรอบ ๆ มหาลัยครับ.. เห็นเมืองทั้งเมือง เห็นภูเขาด้วย
เพิ่มความน่าเรียนไปอีกสักร้อยเท่า
ด้วยบรรยากาศดี ๆ เหล่านี้
ด้วยความขมักเขม้นของนักศึกษาเหล่านั้น
ทำให้ผม...
ไม่ไหวแล้ว!!! ชั้นต้องการหนังสือเรียนภาษาไอซ์แลนดิก !!!!
แต่ร้านหนังสืออยู่ไหนวะ... -_-
ก็เลยโทรไปถามพี่ติวว่า มีร้านหนังสือไหมในดาวน์ทาวน์
พี่ติวก็บอกว่า ก็ตรงใกล้ ๆ ร้านเบอร์เกอร์ที่เราไปกินเมื่อวานไง
อ่ะโอเค นังเด๋อ เราจะไปซื้อหนังสือกัน เราจะเอามาให้ได้ !!!
พอมาถึงดาวน์ทาวน์ก็...เออ ร้านเบอร์เกอร์ที่เรากินเมื่อวานอยู่ตรงไหน จำไม่ได้ -_- แต่ช่างเถอะ เดินตรงไปก่อนละกัน
อ๋า เจอแล้ว ร้านหนังสือร้านนี้ ถึงแม้จะไม่ใช่ที่พี่ติวบอก แต่ก็ถามไปก็ไม่เสียหาย
"ขอโทษนะครับ มีหนังสือเรียนภาษาไอซ์แลนดิกที่เป็นภาษาอังกฤษมั้ยครับ"
"มีค่าา ตามมาทางนี้เลย"
จากนั้นพนักงานก็มองซ้ายมองขวา หื้มมม บั่บ อืมมมม เนาะ บั่บ หื้มมม (อ่านถึงตรงนี้ก็รู้กันแล้วนะว่าเราเป็นชาวน้อง)
"อืมม ดูเหมือนว่าที่สาขาเราไม่มีนะคะ ยังไงลองไปดูที่สาขาใหญ่ดูเนอะ ตรงไปซัก 500 เมตร แล้วก็เลี้ยวซ้ายนะคะ"
พนักงานที่นี่เค้าบริการด้วยใจจริง ๆ ยิ้มแย้ม สดใส น่ารัก ประทับใจเสมอครับ
แต่ถามว่าไอ่ 500 เมตรแล้วเลี้ยวซ้ายเนี่ย ผมไปไม่ถูกแน่นอน ก็เลยเปิด Maps ครับ (Google Maps เยียวยาทุกสิ่ง)
ร้านหนังสือชื่อว่าร้าน "Eymundsson" น่าจะเป็นร้านหนังสือที่ใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์แล้วแหละครับ
ไปถึงผมก็วิ่งปรี่เข้าไปถามคำถามเดิม และพนักงานก็พาผมไปดูเหมือนเดิม...
คราวนี้มีครับ !! กรี๊ดดดดดด เป็นหนังสือแพ็ค 2 เล่ม เล่มนึงเป็นสนทนาทั่วไป มีแผ่นซีดีให้ ส่วนอีกเล่มเป็นแบบฝึกหัดแกรมม่าร์ หน้าตาเป็นแบบนี้ครับ
ตัดภาพมาที่ราคา...
อืม...
4200 ISK
ประมาณ 1200 บาทนิดๆ...
ตัดภาพมาที่เงินในกระเป๋าตัง
อืม...
5000 ISK...
ก็พออยู่แหละ.. แต่ไม่เหลือใช้ในเดนมาร์กแน่
สุดท้าย
ตัดภาพมาที่บัตรเครดิต
โอเคไม่เป็นไรเรื่องเรียนพ่อไม่ว่าแน่นอน
เย้ ๆ เสียบบัตร เรียบร้อย ง่าย สบายใจ หายห่วง ได้เรียนภาษาไอซ์แลนดิกแบบเป็นชิ้นเป็นอันแล้ว หลังจากที่เรียนแบบเงอะ ๆ งะ ๆ มานาน ฮา ๆ
จากนั้นก็มุ่งหน้าไปยังผับ Húrra ต่อ เพื่อไปฟังเพลง Jazz
ก็เพราะดีนะครับ.. เค้าเล่นกันมันส์มาก คราวนี้ถือว่าสนุกกว่าคอนเสิร์ตฮิปฮอปที่ Príkið มากกก
แต่ ก็ยังง่วงเหมือนเดิม =_= เพราะมันไม่มีอะไรให้ทำนอกจากนั่งฟัง ผมก็เลยขอกลับก่อนตามเคยครับ
กลับมาถึงบ้าน ก็เจอซาช่า เอมิลี่ และเคลอานที่กำลังเม้ามอยกันอยู่
ผม : เฮ้กายยยยส์~~
ซาช่า : ฮายยยยย วันนี้ไปไหนมา
ผม : กลับมาจาก Jazz night น่ะ ละก็วันนี้ไปมหาลัยไอซ์แลนด์มา
ซาช่า : จริงหรออออ!! เป็นไงบ้าง?
ผม : สวยงามมาก ดีงาม ทุกอย่าง บรรยากาศ น่าเรียนมากกก ไออยากเรียนมากเลยอ่ะ
เคลอานที่ : แต่รู้สึกว่ายูต้องเรียนภาษาไอซ์แลนดิกก่อนนะถึงจะเรียนที่นั่นได้อะ ไอเคยไปหาข้อมูลมา
ผม : อ่อใช่...
ละก็ไอก็ไปซื้อหนังสือเรียนภาษาไอซ์แลนดิกมานี่ไง
จากนั้นเอมิลี่ที่นั่งฟังบทสนทนาอยู่ก็หัวเราะก๊ากกกกขึ้นมา แล้วบอกว่าทำไมมันตลกจังเลย 5555555555555555 เหมือนกับว่าแบบผมพร้อมที่จะเรียนแล้วจริง ๆ ยังไงยังงั้นแหน่ะ
และนี่ก็คือเรื่องราวในวันที่ 7 ครับ ขอบคุณทุกคนที่ติดตาม จะยังมีคนอ่านอยู่ไหมเนี่ย TT ไหนใครยังอ่านอยู่ขอเสียงหน่อยยยย ผมสัญญาจะไม่มาต่อช้าแล้วนะครับบบบ 555555555