ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าผมไม่ค่อยมีความรู้เกี่ยวกับเรื่องโทรศัพท์ที่เป็นเชิงเทคนิคมากนักนะครับ
เพราะฉะนั้นถ้าคาดหวังจะดูคะแนนเปรียบเทียบ
หรือข้อมูลการวัดภาพวัดแสง
หรือข้อมูลเชิงลึกๆนั้นผมคงจะให้ข้อมูลพวกนั้นได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ครับหรืออาจจะไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
แต่ที่จะบอกได้ก็คือจากการใช้งาน
1 สัปดาห์มานั้นมีอะไรบ้าง
และมีข้อดีข้อด้อยที่ประทับใจอย่างไรบ้าง
เริ่มเรื่องก่อนจะมาใช้ huawei p 9
โทรศัพท์ที่ผมใช้งานประจำอยู่นั้น ปัจจุบันก็คือ samsung galaxy note 5 แบบ 2 ซิมซื้อจากมาบุญครองเป็นเครื่องนอกครับ
ต้องยอมรับว่ามันเป็นโทรศัพท์ที่ใช้งานได้ดีมากๆเร็วทันใจจดบันทึกได้อย่างแม่นยำดีมีแค่อย่างเดียวที่เป็นปัญหาสำหรับผมก็คือมันไม่สามารถจะ ทำให้ ใช้ 2 ซิมได้พร้อมพร้อมกันแม้จะเป็นการสแตนบายเพื่อรอรับสายก็ตาม เพราะว่า ซิมที่ 2 นั้น ไม่สามารถรองรับในระบบ 2g ได้ ซิมบ้านเราทุกวันนี้ก็ 3g กันหมดเลยครับ นั่นคือปัญหาหลักที่ผมต้องการจะหาโทรศัพท์เอามาแก้ไข ปัญหาในข้อนี้ อย่างอื่นผมก็ถือว่าค่อนข้างจะโอเคมากๆเลยครับ
อีกเครื่องของผมผมใช้ microsoft lumia 535 ต้องยอมรับว่าตัวนี้ใช้งานได้ค่อนข้างจะยากนิดนึงหากต้องการจะพิมพ์ยาวยาวๆ แต่หากต่อคีย์บอร์ดแล้วการเชื่อมต่อกับ bluetooth keyboard และพิมพ์ข้อความก็ทำให้โทรศัพท์ระบบ window phone ตัวนี้ทำงานได้ดีขึ้นครับ เมืองเลยว่าเป็นโทรศัพท์ที่รองรับ 2 ซิมได้ดีมาก ผมก็ถือว่าตัวนี้ใช้งานได้ดีทีเดียว ใจจริงอยากจะกระโดดไปใช้ lumia 950 แต่ผมคงจะต้องรอราคาลงมาสักพักนึงก่อนถึงจะรู้สึกว่าคุ้มค่าและคงจะซื้อพร้อมกลับ ดูอุปกรณ์ continuum ด้วย
ปูพื้นมาอย่างนี้เพื่อจะให้ได้ทราบว่าผมต้องการโทรศัพท์ที่พิมพ์ง่าย เป็นระบบ android และสามารถจะรองรับ 2 ซิมได้ แบบสแตนบายทั้งสองซิม ถ้าสามารถเพิ่ม ลูกเล่นเกี่ยวกับกล้องได้จะดีมาก เพราะว่าผมเป็นคนที่ถ่ายรูปได้ค่อนข้างแย่มากเลยเลยอยากจะได้โทรศัพท์ที่ถ่ายรูปได้ง่ายๆหน่อย
สาเหตุที่เลือก huawei p9
เรียงตามลำดับดังนี้เลยนะครับ
ประการแรกเลยครับเห็นโฆษณาแล้ว
ผมรู้สึกว่าชอบใจมาก เห็นสการ์เล็ตต์โจแฮนสัน และ เฮนรี่คาวิลล์ที่แสดงเป็นซุปเปอร์แมน มาปรากฏอยู่ในภาพยนตร์โฆษณาด้วย ยิ่งทำให้รู้สึกว่าเราอยากจะลองใช้โทรศัพท์รุ่นนี้ดู
ประการที่สอง ลองหาข้อมูลดูปรากฏว่าโทรศัพท์รุ่นนี้เป็นโทรศัพท์ ราคาไม่ได้สูงมากเท่าไหร่คือราคาประมาณ 16,000-17,000บาท ซึ่งผมคิดว่า เป็นงบประมาณที่ ไม่ได้สูงมากจนเกินไป น่าจะพอจัดงบในการซื้อได้
ประการที่ 3
ผมเองเคยใช้โทรศัพท์หัวเว่ย p8 max มาก่อน ค่อนข้างประทับใจในการใช้งานอยู่พอสมควรนะครับ
เพียงแต่ว่าตัวนั้น มีขนาดค่อนข้างจะใหญ่ และไม่มีตัวสแกนลายนิ้วมือ
ด้วยเหตุผลทั้ง 3 ข้อนี้ผมเลยตัดสินใจ ซื้อโทรศัพท์หัวเหว่ย p 9 มาลองใช้งานดูครับ
huawei p 9 กลับมาใช้กล่องกระดาษสีขาวและเปิดด้านบนแทน
แต่ในความรู้สึกผมก็ยังน่าใช้อยู่ดีครับ

ตัวเครื่องผมคิดว่าขนาดกำลังเหมาะมือ และวัสดุประกอบก็ถือว่าใช้งานได้ดีครับ
ตัวเครื่องด้านหลังก็เป็นวัสดุผิวเรียบครับมีกล้อง 2 ตัวของ leica ซึ่งแม้ว่าจะมีดราม่า ในเรื่องของงานโฆษณาที่เขาเล่ากันว่าไม่ได้ใช้ภาพจากกล้องของโทรศัพท์รุ่นที่โฆษณานี้มาโปรโมทแต่เท่าที่ลองใช้งานดูผมว่าคุณภาพกล้องก็ทำงานได้ดีมากระดับนึงครับ

สายชาร์จเขาก็ให้เป็นแบบใหม่นะครับที่ไม่เหมือนกับ micro usb ที่เราใช้ปกติกัน และเขาก็จะมีหัวแปลงมาให้ด้วย เผื่อเอาไว้สำหรับการที่จะไปต่อสาย ในรูปแบบ micro usb เดิมจะได้มีตัวแปลง จริงๆตัวนี้ถ้าเข้าใจไม่ผิดจะรองรับระบบการชาร์จแบบไวหรือฟาร์ทชาร์จด้วย แต่รู้สึกจะต้องซื้อหัวแปลงเพิ่มในแบบที่สามารถจะชาร์จได้คุณภาพไฟล์ที่ดีขึ้น

ในกล่องมีเข็มแทงซิมมาให้ และมีฟิล์มกับ case มาให้ด้วยเลยครับเป็นรุ่นที่ตรงกับของ huawei p9 เลย
ลักษณะนี้ ใน huawei p8 max score มีมาให้ด้วยครับแถมจะเป็น case ที่ดีกว่านี้ด้วยเพราะว่าตัวนั้นจะเป็น case แบบซองหนังและสามารถจะบอกเวลาและสภาพอากาศได้ด้วยตอนปิด แต่พอมา huawei p 9 เป็นเคสพลาสติกธรรมดาแทนครับ
โดยรวมผมถือว่าค่อนข้างประทับใจครับ
ใช้งานได้ดีพอสมควร
คราวนี้จะขอลองแชร์ภาพ ที่ถ่ายด้วยหัวเหว่ย p9 มาให้ดูเป็นตัวอย่างบ้างนะครับ

ตอนนี้พยายามจะถ่ายเป็นแบบมาโครดูครับ
และไม่ได้ใช้เวลาในการเล็งแบบถ่ายมากมายอะไร
เรียกได้ว่าเล็งแล้วก็กดถ่ายเลยครับ

อันนี้ถ่ายมอเตอร์ไซค์ตอนไปล้างรถนะครับแต่ไม่ใช่มอเตอร์ไซค์ผมเองขอยืมเขาถ่ายภาพมา เป็นตัวอย่างภาพประกอบดูครับ

อันนี้เป็นการถ่ายนาฬิกาครับ
สำหรับโหมดถ่ายภาพผมพยายามที่เน้นมาโครเพราะส่วนใหญ่ผมจะต้องถ่ายเอกสารที่เป็นแบบแปลน
โฉนดที่ดิน และโฟชาร์ตการเขียนงานอะไรทำนองนี้ครับ
ผลจากการใช้งานมา 1 สัปดาห์
โดยรวมนะครับ
แบตเตอรี่ใช้งานได้ดีมากไม่กินแบตเท่าไหร่
กล้องถือว่าทำงานได้ประทับใจมาก
ระบบสแกนลายนิ้วมือที่อยู่ตรงด้านหลัง
ทำงานได้ดีมากเช่นกันครับสะดวก
และรวดเร็วมากเพียงเราแต่ก็สามารถ
ปลดล็อคหน้าจอได้เลย
อันนี้เป็นเหตุผลที่ผมประทับใจมากๆอีกเครื่องนึงครับ
ระบบวาดหน้าจอเพื่อเข้าสู่เมนูลัดเช่นว่าเป็นตัว c แล้วเข้าสู่โหมดกล้องได้นั้น ก็ทำได้ดีครับเพียงแต่ต้องออกแรงมากพอสมควร
คราวนี้มาดูข้อด้อยในมุมของผมบ้างนะครับ
ผมว่า cpu ตัวคิรินที่ huawei ออกแบบมานั้นถึงแม้ว่าจะไม่มีปัญหาในการที่จะต้องทำให้เครื่องรีสตาร์ท แต่ก็ยังถือว่าค่อนข้างมีใช้อยู่บ้างครับ อันนี้ผมเทียบกับการใช้งานของ samsung galaxy note 5 นะครับ
ตัวซอฟต์แวร์ของ huawei ที่ใช้สำหรับการเชื่อมต่อสำรองข้อมูลกับคอมพิวเตอร์นั้นยังถือว่าค่อนข้างจะใช้ยากอยู่ครับไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ เวลาจะดึงภาพขึ้นมาหากเราเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์นั้นจะต้องทำหลายขั้นตอนเหมือนกัน
ต่างจากซอฟแวร์ของซัมซุงที่เชื่อมต่อได้ค่อนข้างง่ายกว่า
ผมไม่แน่ใจว่า ของ huawei มีซอฟต์แวร์ที่ใช้สำหรับการ เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ กับโทรศัพท์มือถือให้ทำงานร่วมกัน เหมือนของ samsung ที่เรียกกันว่า samsung sidesync
แต่เท่าที่หาดูนั้นไม่เจอครับ เลยเป็นจุดด้อยที่ลบไปอีกหน่อยนึง
ตัวเคสและอุปกรณ์เสริมพื้นอื่นผมถือว่า
เป็นอุปกรณ์ที่ค่อนข้างหายากหากตัวที่แถมมาให้กับ
โทรศัพท์นั้นเกิดหักหรือชำรุดไป หาซื้อตามร้านทั่วไปค่อนข้างยากพอสมควรครับ
อีกครึ่งหนึ่งที่เป็นจุดด้อยคือระบบสังเคราะห์เสียงเป็นตัวอักษรจากคำพูด ค่อนข้างจะมีผิดเพี้ยนมากกว่า samsung galaxy note 5 อยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้มากเท่าไหร่ครับถือว่าพอรับได้ ซึ่งปัจจัยตัวนี้อาจจะมีผลจาก ความเร็วอินเตอร์เน็ตและสภาพแวดล้อมอยู่บ้าง
อันนี้วัดผลค่อนข้างยากอยู่ครับ
การใช้งานแผนที่ ผ่าน google map
ทำงานได้ค่อนข้างจะใกล้เคียงกันกับ samsung galaxy note 5 ครับ ในแง่ของความรวดเร็วแต่ความแม่นยำ บางที ยังค้นหาได้ไม่ตรงจุดเท่าไหร่อันนี้อาจจะเป็นไปได้ว่า
เรื่องซอฟต์แวร์มากกว่าเรื่องตัวเครื่องครับ
ประสุดท้ายเรื่องการเชื่อมต่อบลูทูธ
ในการใช้งานบลูทูธนั้นผมใช้งานร่วมกับ แพลนโทรนิก voyager legend และแพลนโทรนิกvoyager edge
อันนี้ต้องยอมรับว่าในการเชื่อมต่อและความคมชัดของเสียงนั้น samsung galaxy note 5 และ microsoft lumia ยังทำได้ดีกว่า huawei อยู่พอสมควรครับ
ทั้งหมดที่ผมพูดวัดจากการใช้งานจริงและไม่ได้เอาข้อมูลเชิงเทคนิคกับข้อมูลเชิงวิชาการเอามาเทียบมากนักอาจจะไม่ได้ประโยชน์มากเท่าที่ควรเท่าไหร่นะครับเราเป็นข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจเผื่อว่าท่านใดสนใจในโทรศัพท์รุ่นนี้จะได้เป็นข้อมูลประกอบนะครับ
ผมเขียนจากประสบการณ์ใช้งานไม่ได้เป็นหน้าม้าหรือตัวแทนเชียร์สินค้าใดใดทั้งสิ้นเล่าจากใจครับ
ขอบคุณที่ให้เกียรติติดตามและหวังว่าคงจะเป็นประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อยขอบคุณครับ
รีวิวประสบการณ์ใช้งาน huawei p9 จากการใช้งานจริงประมาณ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาครับ
เพราะฉะนั้นถ้าคาดหวังจะดูคะแนนเปรียบเทียบ
หรือข้อมูลการวัดภาพวัดแสง
หรือข้อมูลเชิงลึกๆนั้นผมคงจะให้ข้อมูลพวกนั้นได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ครับหรืออาจจะไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
แต่ที่จะบอกได้ก็คือจากการใช้งาน
1 สัปดาห์มานั้นมีอะไรบ้าง
และมีข้อดีข้อด้อยที่ประทับใจอย่างไรบ้าง
เริ่มเรื่องก่อนจะมาใช้ huawei p 9
โทรศัพท์ที่ผมใช้งานประจำอยู่นั้น ปัจจุบันก็คือ samsung galaxy note 5 แบบ 2 ซิมซื้อจากมาบุญครองเป็นเครื่องนอกครับ
ต้องยอมรับว่ามันเป็นโทรศัพท์ที่ใช้งานได้ดีมากๆเร็วทันใจจดบันทึกได้อย่างแม่นยำดีมีแค่อย่างเดียวที่เป็นปัญหาสำหรับผมก็คือมันไม่สามารถจะ ทำให้ ใช้ 2 ซิมได้พร้อมพร้อมกันแม้จะเป็นการสแตนบายเพื่อรอรับสายก็ตาม เพราะว่า ซิมที่ 2 นั้น ไม่สามารถรองรับในระบบ 2g ได้ ซิมบ้านเราทุกวันนี้ก็ 3g กันหมดเลยครับ นั่นคือปัญหาหลักที่ผมต้องการจะหาโทรศัพท์เอามาแก้ไข ปัญหาในข้อนี้ อย่างอื่นผมก็ถือว่าค่อนข้างจะโอเคมากๆเลยครับ
อีกเครื่องของผมผมใช้ microsoft lumia 535 ต้องยอมรับว่าตัวนี้ใช้งานได้ค่อนข้างจะยากนิดนึงหากต้องการจะพิมพ์ยาวยาวๆ แต่หากต่อคีย์บอร์ดแล้วการเชื่อมต่อกับ bluetooth keyboard และพิมพ์ข้อความก็ทำให้โทรศัพท์ระบบ window phone ตัวนี้ทำงานได้ดีขึ้นครับ เมืองเลยว่าเป็นโทรศัพท์ที่รองรับ 2 ซิมได้ดีมาก ผมก็ถือว่าตัวนี้ใช้งานได้ดีทีเดียว ใจจริงอยากจะกระโดดไปใช้ lumia 950 แต่ผมคงจะต้องรอราคาลงมาสักพักนึงก่อนถึงจะรู้สึกว่าคุ้มค่าและคงจะซื้อพร้อมกลับ ดูอุปกรณ์ continuum ด้วย
ปูพื้นมาอย่างนี้เพื่อจะให้ได้ทราบว่าผมต้องการโทรศัพท์ที่พิมพ์ง่าย เป็นระบบ android และสามารถจะรองรับ 2 ซิมได้ แบบสแตนบายทั้งสองซิม ถ้าสามารถเพิ่ม ลูกเล่นเกี่ยวกับกล้องได้จะดีมาก เพราะว่าผมเป็นคนที่ถ่ายรูปได้ค่อนข้างแย่มากเลยเลยอยากจะได้โทรศัพท์ที่ถ่ายรูปได้ง่ายๆหน่อย
สาเหตุที่เลือก huawei p9
เรียงตามลำดับดังนี้เลยนะครับ
ประการแรกเลยครับเห็นโฆษณาแล้ว
ผมรู้สึกว่าชอบใจมาก เห็นสการ์เล็ตต์โจแฮนสัน และ เฮนรี่คาวิลล์ที่แสดงเป็นซุปเปอร์แมน มาปรากฏอยู่ในภาพยนตร์โฆษณาด้วย ยิ่งทำให้รู้สึกว่าเราอยากจะลองใช้โทรศัพท์รุ่นนี้ดู
ประการที่สอง ลองหาข้อมูลดูปรากฏว่าโทรศัพท์รุ่นนี้เป็นโทรศัพท์ ราคาไม่ได้สูงมากเท่าไหร่คือราคาประมาณ 16,000-17,000บาท ซึ่งผมคิดว่า เป็นงบประมาณที่ ไม่ได้สูงมากจนเกินไป น่าจะพอจัดงบในการซื้อได้
ประการที่ 3
ผมเองเคยใช้โทรศัพท์หัวเว่ย p8 max มาก่อน ค่อนข้างประทับใจในการใช้งานอยู่พอสมควรนะครับ
เพียงแต่ว่าตัวนั้น มีขนาดค่อนข้างจะใหญ่ และไม่มีตัวสแกนลายนิ้วมือ
ด้วยเหตุผลทั้ง 3 ข้อนี้ผมเลยตัดสินใจ ซื้อโทรศัพท์หัวเหว่ย p 9 มาลองใช้งานดูครับ
huawei p 9 กลับมาใช้กล่องกระดาษสีขาวและเปิดด้านบนแทน
แต่ในความรู้สึกผมก็ยังน่าใช้อยู่ดีครับ
ตัวเครื่องผมคิดว่าขนาดกำลังเหมาะมือ และวัสดุประกอบก็ถือว่าใช้งานได้ดีครับ
ตัวเครื่องด้านหลังก็เป็นวัสดุผิวเรียบครับมีกล้อง 2 ตัวของ leica ซึ่งแม้ว่าจะมีดราม่า ในเรื่องของงานโฆษณาที่เขาเล่ากันว่าไม่ได้ใช้ภาพจากกล้องของโทรศัพท์รุ่นที่โฆษณานี้มาโปรโมทแต่เท่าที่ลองใช้งานดูผมว่าคุณภาพกล้องก็ทำงานได้ดีมากระดับนึงครับ
สายชาร์จเขาก็ให้เป็นแบบใหม่นะครับที่ไม่เหมือนกับ micro usb ที่เราใช้ปกติกัน และเขาก็จะมีหัวแปลงมาให้ด้วย เผื่อเอาไว้สำหรับการที่จะไปต่อสาย ในรูปแบบ micro usb เดิมจะได้มีตัวแปลง จริงๆตัวนี้ถ้าเข้าใจไม่ผิดจะรองรับระบบการชาร์จแบบไวหรือฟาร์ทชาร์จด้วย แต่รู้สึกจะต้องซื้อหัวแปลงเพิ่มในแบบที่สามารถจะชาร์จได้คุณภาพไฟล์ที่ดีขึ้น
ในกล่องมีเข็มแทงซิมมาให้ และมีฟิล์มกับ case มาให้ด้วยเลยครับเป็นรุ่นที่ตรงกับของ huawei p9 เลย
ลักษณะนี้ ใน huawei p8 max score มีมาให้ด้วยครับแถมจะเป็น case ที่ดีกว่านี้ด้วยเพราะว่าตัวนั้นจะเป็น case แบบซองหนังและสามารถจะบอกเวลาและสภาพอากาศได้ด้วยตอนปิด แต่พอมา huawei p 9 เป็นเคสพลาสติกธรรมดาแทนครับ
โดยรวมผมถือว่าค่อนข้างประทับใจครับ
ใช้งานได้ดีพอสมควร
คราวนี้จะขอลองแชร์ภาพ ที่ถ่ายด้วยหัวเหว่ย p9 มาให้ดูเป็นตัวอย่างบ้างนะครับ
ตอนนี้พยายามจะถ่ายเป็นแบบมาโครดูครับ
และไม่ได้ใช้เวลาในการเล็งแบบถ่ายมากมายอะไร
เรียกได้ว่าเล็งแล้วก็กดถ่ายเลยครับ
อันนี้ถ่ายมอเตอร์ไซค์ตอนไปล้างรถนะครับแต่ไม่ใช่มอเตอร์ไซค์ผมเองขอยืมเขาถ่ายภาพมา เป็นตัวอย่างภาพประกอบดูครับ
อันนี้เป็นการถ่ายนาฬิกาครับ
สำหรับโหมดถ่ายภาพผมพยายามที่เน้นมาโครเพราะส่วนใหญ่ผมจะต้องถ่ายเอกสารที่เป็นแบบแปลน
โฉนดที่ดิน และโฟชาร์ตการเขียนงานอะไรทำนองนี้ครับ
ผลจากการใช้งานมา 1 สัปดาห์
โดยรวมนะครับ
แบตเตอรี่ใช้งานได้ดีมากไม่กินแบตเท่าไหร่
กล้องถือว่าทำงานได้ประทับใจมาก
ระบบสแกนลายนิ้วมือที่อยู่ตรงด้านหลัง
ทำงานได้ดีมากเช่นกันครับสะดวก
และรวดเร็วมากเพียงเราแต่ก็สามารถ
ปลดล็อคหน้าจอได้เลย
อันนี้เป็นเหตุผลที่ผมประทับใจมากๆอีกเครื่องนึงครับ
ระบบวาดหน้าจอเพื่อเข้าสู่เมนูลัดเช่นว่าเป็นตัว c แล้วเข้าสู่โหมดกล้องได้นั้น ก็ทำได้ดีครับเพียงแต่ต้องออกแรงมากพอสมควร
คราวนี้มาดูข้อด้อยในมุมของผมบ้างนะครับ
ผมว่า cpu ตัวคิรินที่ huawei ออกแบบมานั้นถึงแม้ว่าจะไม่มีปัญหาในการที่จะต้องทำให้เครื่องรีสตาร์ท แต่ก็ยังถือว่าค่อนข้างมีใช้อยู่บ้างครับ อันนี้ผมเทียบกับการใช้งานของ samsung galaxy note 5 นะครับ
ตัวซอฟต์แวร์ของ huawei ที่ใช้สำหรับการเชื่อมต่อสำรองข้อมูลกับคอมพิวเตอร์นั้นยังถือว่าค่อนข้างจะใช้ยากอยู่ครับไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ เวลาจะดึงภาพขึ้นมาหากเราเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์นั้นจะต้องทำหลายขั้นตอนเหมือนกัน
ต่างจากซอฟแวร์ของซัมซุงที่เชื่อมต่อได้ค่อนข้างง่ายกว่า
ผมไม่แน่ใจว่า ของ huawei มีซอฟต์แวร์ที่ใช้สำหรับการ เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ กับโทรศัพท์มือถือให้ทำงานร่วมกัน เหมือนของ samsung ที่เรียกกันว่า samsung sidesync
แต่เท่าที่หาดูนั้นไม่เจอครับ เลยเป็นจุดด้อยที่ลบไปอีกหน่อยนึง
ตัวเคสและอุปกรณ์เสริมพื้นอื่นผมถือว่า
เป็นอุปกรณ์ที่ค่อนข้างหายากหากตัวที่แถมมาให้กับ
โทรศัพท์นั้นเกิดหักหรือชำรุดไป หาซื้อตามร้านทั่วไปค่อนข้างยากพอสมควรครับ
อีกครึ่งหนึ่งที่เป็นจุดด้อยคือระบบสังเคราะห์เสียงเป็นตัวอักษรจากคำพูด ค่อนข้างจะมีผิดเพี้ยนมากกว่า samsung galaxy note 5 อยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้มากเท่าไหร่ครับถือว่าพอรับได้ ซึ่งปัจจัยตัวนี้อาจจะมีผลจาก ความเร็วอินเตอร์เน็ตและสภาพแวดล้อมอยู่บ้าง
อันนี้วัดผลค่อนข้างยากอยู่ครับ
การใช้งานแผนที่ ผ่าน google map
ทำงานได้ค่อนข้างจะใกล้เคียงกันกับ samsung galaxy note 5 ครับ ในแง่ของความรวดเร็วแต่ความแม่นยำ บางที ยังค้นหาได้ไม่ตรงจุดเท่าไหร่อันนี้อาจจะเป็นไปได้ว่า
เรื่องซอฟต์แวร์มากกว่าเรื่องตัวเครื่องครับ
ประสุดท้ายเรื่องการเชื่อมต่อบลูทูธ
ในการใช้งานบลูทูธนั้นผมใช้งานร่วมกับ แพลนโทรนิก voyager legend และแพลนโทรนิกvoyager edge
อันนี้ต้องยอมรับว่าในการเชื่อมต่อและความคมชัดของเสียงนั้น samsung galaxy note 5 และ microsoft lumia ยังทำได้ดีกว่า huawei อยู่พอสมควรครับ
ทั้งหมดที่ผมพูดวัดจากการใช้งานจริงและไม่ได้เอาข้อมูลเชิงเทคนิคกับข้อมูลเชิงวิชาการเอามาเทียบมากนักอาจจะไม่ได้ประโยชน์มากเท่าที่ควรเท่าไหร่นะครับเราเป็นข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจเผื่อว่าท่านใดสนใจในโทรศัพท์รุ่นนี้จะได้เป็นข้อมูลประกอบนะครับ
ผมเขียนจากประสบการณ์ใช้งานไม่ได้เป็นหน้าม้าหรือตัวแทนเชียร์สินค้าใดใดทั้งสิ้นเล่าจากใจครับ
ขอบคุณที่ให้เกียรติติดตามและหวังว่าคงจะเป็นประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อยขอบคุณครับ