สวัสดีครับ นี่เป็นกระทู้แรกของเรา
พอดีเราได้มีโอกาสลาหยุดยาว เลยไปเที่ยวญี่ปุ่นมา
ซึ่งเป็นการเที่ยวต่างประเทศครั้งแรกคนเดียว ในระยะเวลา 10 วัน
Day 1 - Day 2 : Arashiyama
22 มิถุนายน - 23 มิถุนายน 2016
วันแรกไปทันแค่ป่าไผ่ วันที่สองเลยตามเก็บใหม่อีกรอบ พร้อมขึ้นรถไฟสายโรแมนติกและเดินเข้าชมวัดเท็นริวจิ
ปล. อาจจะไม่ละเอียด สาระน้อย ถ้าขาดตกบกพร่องอะไร เพิ่มเติมได้นะครับ
Day 1
เมื่อมาถึงเกียวโต ก็รีบหาโรงแรมและเอากระเป๋าไปฝากไว้ก่อน จากนั้น นั่งรถไฟจากสถานีเกียวโตมา Arashiyama ตอนหาแพลตฟอร์มนี่รู้สึกมึนงงมาก นั่งไปกลับหลายรอบเลยเริ่มจำได้ คือ ไปรอที่แพลตฟอร์ม 31-33
มาถึงสถานี Saga Arashiyama เราก็เดินตรงไปป่าไผ่ทันที ระยะทางประมาณ 1.8 กิโล แต่ทำไมตอนเดินนี่รู้สึกว่า ไกลมาก
ตอนจะเดินเข้าไปโคตรตื่นเต้น ฟิลล์แบบปริ่มมาก นี่คือไฮไลท์ของที่นี่อ่ะเกียวโต ใครว่ายังไงไม่รู้
แต่เป็นลิสต์ที่อยากมามากที่สุดในเกียวโต และเราก็ใช้เวลากับมันมากเหมือนกัน
ตอนเข้ามาเหมือนหลุดมาอีกโลก
ข้างในอากาศนี่เย็น นักท่องเที่ยวก็เยอะ ทัวร์จีนตามหลอกหลอน
มีบริการให้นั่งรถลากด้วย แต่หลายตังส์
กิโมโนสีนี้สวยจีจี
เคยคิดจะมีงูมั้ย บ้านเราป่าไผ่ = งูเห่า ไรประมาณนี้ แต่นี่ไม่เห็นสักตัว ไปไหนหว่า ??
มาคนเดียวไง เพื่อนที่แสนดีคือของรอบกาย อะไรวางตั้งถ่ายไ้ด้ ก็วางอ่ะจ่ะ
สองนิ้ว
ใช่ป่ะ เป็นแฟนกันป่ะ ?
จากจุดนี้เดินขึ้นไปตามทางจะมีทางแยก เลี้ยวไปทางขวาจะมีเคาน์เตอร์ขายตั๋วชมสวนเซนและสามารถเข้าไปนั่งจิบชาได้
ซื้อทันทีแบบไม่คิด อารมณ์เหนื่อยอยากนั่งพัก
ต้นสนญี่ปุ่นสวยๆ
ดอกไฮเดรนเยีย ระหว่างทางมีเยอะมากหลายสีมากเช่นกัน
ประตูเข้าชม ให้บรรยากาศดีฝุดๆ แต่เป้าหมายนี่ไม่ได้ชมสวนคะ อยากนั่ง อยากพักบ่าและไหล่ แบกกล้องจนหลังจะหัก
พอมานั่งก็เอาตั๋วที่ซื้อมาให้เค้า เค้าจะเอาชาเขียวมาเสิร์ฟ นี่ก็เป็นชาเขียวจีจีนะ กับขนมอะไรไม่รู้กินแล้วแห้งๆ แบบติดคอมาก
แต่ไส้ข้างในอร่อย พอกินคู่กะชาเขียว เออก็ได้อยู่หว่ะ
ตอนเรานั่งนี่นั่งโซนข้างใน ข้างนอกก็เป็นลานชาให้นั่ง แต่ไม่เห็นมีใครนั่ง 55 5 ให้ไปนั่งอยู่คนเดียวบ้าเออะ
พอหายเหนื่อยก้อเดินต่อ แต่เดินอ้อมมาอีกทาง เอาจริงๆ มั้ย เราอ่านป้ายไม่ออกมันมีแต่ภาษาญี่ปุ่น อ่านออกก็บ้าแหระ
แต่เราก็ได้เห็นวิวแบบนี้จากไกลๆ เหมือนจะเป็นเรือบริการนำเที่ยว แต่เราไม่ได้สนใจอะไรมาก เราชอบดูวิวข้างทางรอบๆ มากกว่า
ร้านค้าริมแม่น้ำ เห้อ ฟิลล์ดีจัง

เดินอ้อมมาเรื่อยๆ และเปิด Google Map เป็นระยะ พอเห็นทางเดินที่คุ้นเคยก็ไม่เปิดร่ะ นี่เป็นร้านหนังสือหัวมุมที่เราเห็นว่าสวย ก่อนถึงสถานีรถไฟ

กลับแล้วเน้ออ อ ไม่ไหวแล้วค่อยต่อพรุ่งนี้จะตามเก็บใหม่ เพราะพลาดอะไรหลายอย่างมาก ทั้งวัดเท็นริวจิเราเหนื่อยเกินกว่าจะเดินไหว ทั้งนั่งรถไฟสายโรแมนติกเนื่องจากวันที่เราไปถึงเป็นวันพุธสถานีรถไฟสายโรแมนติกปิดทำการทุกวันพุธนะครับ
หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมเราเหนื่อยง่ายจัง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้วันที่เดินทางมานี่ คือวันที่ 21 มิถุนายน เราเดินทางจากหาดใหญ่เครื่องออก 08.20
มารอต่อเครื่องที่ดอนเมือง เครื่องออกจากดอนเมือง 14.50 มาลงที่สนามบินคันไซ
ถึงสถานบินคันไซ เวลา 21.50 (ตามเวลาญี่ปุ่น ญี่ปุ่นเวลาจะเร็วกว่าไทย 2 ชั่วโมง)
คืนแรกที่มาถึงเรานอนสนามบิน(เราไม่อยากออกไปหาโรงแรมนอนตอนกลางคืน)
กว่าเราจะได้นอนก็เกือบๆ ตี 3 เพราะเดินหาโซน Area Plaza จุดนี้นอนหลับได้ฟรี และมีบริการห้องอาบน้ำ ครั้งละ 500 เยน
และเราตื่นตอนตี 4.30 เพื่อลุกไปอาบน้ำ
Day 2
เช้านี้เราตื่นสาย เราปวดแข้งปวดขาไปหมด เพราะเมื่อวานเราถึงที่พักก็งีบหลับ ตอนหัวค่ำตื่นขึ้นมาเรยเดินตระเวนรอบๆ วันแรกเราเดินไป 18.31 กิโล เท้าพองจ้า แต่เราพกยาคลายกล้ามเนื้อทั้งยากินและยานวดมาด้วย แม่บอกให้ใส่มาด้วย สุดท้ายเราได้ใช้จริงๆ 55 5
โอเคเข้าเรื่องกันเลยนะครับ

นนี้เราจะไปป่าไผ่อีกครั้ง พร้อมขึ้นรถไฟสายโรแมนติก การรอขึ้นรถไฟสายโรแมนติกนั้น เมื่อนั่งรถไฟมาจากสถานีเกียวโต ก็ลงป้าย Saga Arashiyama เมื่อถึงสถานีก็เดินออกมาข้างนอกสถานี จะมีสถานีรถไฟสายโรแมนติดอยู่ข้างๆ และนั่งไปลงที่ Torokko Kameoka จ้า ราคาตั๋วขาละ 620 เยน

รูปขาไปเราถ่ายมาแต่วิวข้างทาง กรี๊ดดๆ ต้นเมเปิ้ลใช่มั้ย ?

ต้นไม้ตลอดข้างทางส่วนใหญ่จะเจอต้นสน แต่รูปนี้ไม่รู้ต้นอะไร

นั่งมาประมาณ 30 นาที ก็ถึงสถานีปลายทาง Torokko Kameoka

พอรถไฟจอด ตรงข้ามตัวสถานีอีกฝากของชานชาลามีแต่รูปปั้นนี้ ดูน่ารักดีจัง

มากันเป็นแก๊ง กะว่าจะไปเดินเล่นแถวๆ นี้ แต่ก่อนออกจากตัวสถานี ทำการซื้อตั๋วขากลับไว้ก่อน

คลองสวยดีจริงๆ แถวนี้มีบริการรถม้าด้วยอยู่ตรงข้ามสถานีเรย แต่ครั้นจะให้เราไปนั่งคนเดียวก็กระไรอยู่ เพราะรถม้าที่ม้าลากมันไม่ได้มีไม่กี่ที่นั่งไง มันเป็นเหมือนรถลากสัมภาระอ่ะ นั่งได้เป็นสิบ ก็เรยเดินเลี่ยงมาฝั่งริมคลองและถ่ายวิวแถวๆ นั้น

เดินอ้อร้อแถวนี้เสร็จ ก็รีบจ้ำอ้าว ไปรอรถไฟ

รถไฟใกล้มาแล้ว

มาแล้วปู๊นๆ รถไฟสายโรแมนติกนี่จะเป็นรถรางแบบเก่าทาสีสันสวยงาม พื้นรถไฟจะเป็นพื้นไม้

ก่อนขึ้นหยิบตั๋วมาดูอีกรอบ
นี่คือตั๋วขากลับจ้า ในนี้ที่พอจะดูรู้เรื่องก็คือ รถไฟขบวนที่ 12 ของวันนี้ ขึ้นโบกี้ที่ 2 เลขที่นั่ง 6A

โอเค รู้เรื่องร่ะ นี่ชานชาลาโบกี้ 2

สำหรับเลขเก้าอี้ตามที่นั่งจะเป็นแบบนี้ มี A - D

ภายในโบกี้รถไฟ

นั่งมาเรื่อยๆ เกือบถ่ายตอนโค้งไม่ทัน 55 5 มันก็มีประกาศบอกอ่ะแหระ แต่ว่าฟังไม่ออกไง กรรม !!!! พวกทัวร์จีนที่มันรู้เรื่องเพราะมันจะมีไกด์คอยแปลให้ฟังตลอดข้างทาง โดยไกด์จะพูดผ่านไมค์แบบพกพาเล็กๆ และที่ตัวลูกทัวร์เองจะมีเครื่องรับแบบนี้อยู่ เห่! ไม่เห็นดูกันเลยนะ

ขากลับเรานั่งลงป้ายนี้ ป้ายนี้จะถึงก่อนป้ายที่เรามาตอนขามา เพราะป้ายนี้เมื่อจอดจะเดินเข้าป่าไผ่ใกล้มาก

พอมาถึงสถานีจัดการตัวเองเสร็จ ก็เดินไปซื้อติมกิน ที่นี่เรียก Soft Cream ราคาตั้งแต่ 300 เยนขึ้นไป แล้วแต่สถานที่อีก แต่ไม่มีต่ำกว่า 300 เยนเลยนะ

เดินเข้าโซนป่าไผ่อีกรอบ

จุดซื้อตั๋วเข้าชมวัด เท็นริวจิ อยู่ระหว่างทางเดินเส้นทางชมป่าไผ่

ภายในวัดเต็มไปด้วยดอกไม้ต้นไม้หลากหลายพันธุ์มาก จากรูปนี้ เป็นดอกไฮเดรนเยีย (ไม่ได้ถ่ายต้นอื่น 55 5+)
ไฮเดรนเยีย : ไฮเดรนเจีย (อังกฤษ: hydrangea)[1] เป็นสกุลของพืชมีดอก 70-75 ชนิดที่เป็นพืชพื้นเมืองในเอเชียใต้และเอเชียตะวันออก (จีน ญี่ปุ่น คาบสมุทรเกาหลี เทือกเขาหิมาลัย อินโดนีเซีย) อเมริกาเหนือ และอเมริกาใต้ ความหลากหลายส่วนใหญ่อยู่ในทวีปเอเชีย โดยเฉพาะจีน ญี่ปุ่น คาบสมุทรเกาหลี
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้credit : https://th.wikipedia.org/wiki/ไฮเดรนเจีย

ตอนเดิมชมนั่นนี่มาเรื่อยๆ มาเห็นมุมนี้จากในรูปที่เคยเห็นๆ นี่แทบกลั้นหายใจ 555 5
วัดเทนริวจิ(Tenryuji) เป็นวัดที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในเขตอาราชิยาม่าของเกียวโต เป็น อันดับ 1 จาก 5 อันดับสูงสุดของวัดเซนและยังได้ถูกบันทึกเป็นมรกดโลก

มุมนี้สวยมาก

ถ่ายย้อนกลับมายังมุมแรก สวยพรื่อ ลมก็พัดเย็นสบาย

ตามสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ ตามประวัติศาสตร์ มักจะเจอคนแต่งตัวด้วยชุดกิโมโนเยอะมาก ที่นี่เค้ากล้าแต่งและก็ไม่อายกันด้วย นี่ถ้าเราแต่งชุดไทยเดินออกจากบ้านหลายคนคงคิดว่าบ้า

ภายในวัดมีให้เข้าไปนั่งชมได้ แต่ห้ามนอน ส่วนใหญ่มารอชมพระอาทิตย์ตก

ไม่ได้เดินขึ้นไป ขี้เกียจถอดรองเท้า ไม่รู้ว่าต้องจ่ายเงินเพิ่มด้วยหรือเปล่า
สำหรับ Arashiyama ก็มีเพียงประมาณนี้ครับ
ถ้ามีเวลาอยู่นี่อีกสักสองคืน
ก็อยากตามเก็บให้หมดนะ
รักเธอจังเกียวโต <3
[CR] Me Myself : ญี่ปุ่นตามใจฉัน
พอดีเราได้มีโอกาสลาหยุดยาว เลยไปเที่ยวญี่ปุ่นมา
ซึ่งเป็นการเที่ยวต่างประเทศครั้งแรกคนเดียว ในระยะเวลา 10 วัน
Day 1 - Day 2 : Arashiyama
22 มิถุนายน - 23 มิถุนายน 2016
วันแรกไปทันแค่ป่าไผ่ วันที่สองเลยตามเก็บใหม่อีกรอบ พร้อมขึ้นรถไฟสายโรแมนติกและเดินเข้าชมวัดเท็นริวจิ
ปล. อาจจะไม่ละเอียด สาระน้อย ถ้าขาดตกบกพร่องอะไร เพิ่มเติมได้นะครับ
Day 1
เมื่อมาถึงเกียวโต ก็รีบหาโรงแรมและเอากระเป๋าไปฝากไว้ก่อน จากนั้น นั่งรถไฟจากสถานีเกียวโตมา Arashiyama ตอนหาแพลตฟอร์มนี่รู้สึกมึนงงมาก นั่งไปกลับหลายรอบเลยเริ่มจำได้ คือ ไปรอที่แพลตฟอร์ม 31-33
มาถึงสถานี Saga Arashiyama เราก็เดินตรงไปป่าไผ่ทันที ระยะทางประมาณ 1.8 กิโล แต่ทำไมตอนเดินนี่รู้สึกว่า ไกลมาก
ตอนจะเดินเข้าไปโคตรตื่นเต้น ฟิลล์แบบปริ่มมาก นี่คือไฮไลท์ของที่นี่อ่ะเกียวโต ใครว่ายังไงไม่รู้
แต่เป็นลิสต์ที่อยากมามากที่สุดในเกียวโต และเราก็ใช้เวลากับมันมากเหมือนกัน
ตอนเข้ามาเหมือนหลุดมาอีกโลก
ข้างในอากาศนี่เย็น นักท่องเที่ยวก็เยอะ ทัวร์จีนตามหลอกหลอน
มีบริการให้นั่งรถลากด้วย แต่หลายตังส์
กิโมโนสีนี้สวยจีจี
เคยคิดจะมีงูมั้ย บ้านเราป่าไผ่ = งูเห่า ไรประมาณนี้ แต่นี่ไม่เห็นสักตัว ไปไหนหว่า ??
มาคนเดียวไง เพื่อนที่แสนดีคือของรอบกาย อะไรวางตั้งถ่ายไ้ด้ ก็วางอ่ะจ่ะ
สองนิ้ว
ใช่ป่ะ เป็นแฟนกันป่ะ ?
จากจุดนี้เดินขึ้นไปตามทางจะมีทางแยก เลี้ยวไปทางขวาจะมีเคาน์เตอร์ขายตั๋วชมสวนเซนและสามารถเข้าไปนั่งจิบชาได้
ซื้อทันทีแบบไม่คิด อารมณ์เหนื่อยอยากนั่งพัก
ต้นสนญี่ปุ่นสวยๆ
ดอกไฮเดรนเยีย ระหว่างทางมีเยอะมากหลายสีมากเช่นกัน
ประตูเข้าชม ให้บรรยากาศดีฝุดๆ แต่เป้าหมายนี่ไม่ได้ชมสวนคะ อยากนั่ง อยากพักบ่าและไหล่ แบกกล้องจนหลังจะหัก
พอมานั่งก็เอาตั๋วที่ซื้อมาให้เค้า เค้าจะเอาชาเขียวมาเสิร์ฟ นี่ก็เป็นชาเขียวจีจีนะ กับขนมอะไรไม่รู้กินแล้วแห้งๆ แบบติดคอมาก
แต่ไส้ข้างในอร่อย พอกินคู่กะชาเขียว เออก็ได้อยู่หว่ะ
ตอนเรานั่งนี่นั่งโซนข้างใน ข้างนอกก็เป็นลานชาให้นั่ง แต่ไม่เห็นมีใครนั่ง 55 5 ให้ไปนั่งอยู่คนเดียวบ้าเออะ
พอหายเหนื่อยก้อเดินต่อ แต่เดินอ้อมมาอีกทาง เอาจริงๆ มั้ย เราอ่านป้ายไม่ออกมันมีแต่ภาษาญี่ปุ่น อ่านออกก็บ้าแหระ
แต่เราก็ได้เห็นวิวแบบนี้จากไกลๆ เหมือนจะเป็นเรือบริการนำเที่ยว แต่เราไม่ได้สนใจอะไรมาก เราชอบดูวิวข้างทางรอบๆ มากกว่า
ร้านค้าริมแม่น้ำ เห้อ ฟิลล์ดีจัง
เดินอ้อมมาเรื่อยๆ และเปิด Google Map เป็นระยะ พอเห็นทางเดินที่คุ้นเคยก็ไม่เปิดร่ะ นี่เป็นร้านหนังสือหัวมุมที่เราเห็นว่าสวย ก่อนถึงสถานีรถไฟ
กลับแล้วเน้ออ อ ไม่ไหวแล้วค่อยต่อพรุ่งนี้จะตามเก็บใหม่ เพราะพลาดอะไรหลายอย่างมาก ทั้งวัดเท็นริวจิเราเหนื่อยเกินกว่าจะเดินไหว ทั้งนั่งรถไฟสายโรแมนติกเนื่องจากวันที่เราไปถึงเป็นวันพุธสถานีรถไฟสายโรแมนติกปิดทำการทุกวันพุธนะครับ
หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมเราเหนื่อยง่ายจัง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
Day 2
เช้านี้เราตื่นสาย เราปวดแข้งปวดขาไปหมด เพราะเมื่อวานเราถึงที่พักก็งีบหลับ ตอนหัวค่ำตื่นขึ้นมาเรยเดินตระเวนรอบๆ วันแรกเราเดินไป 18.31 กิโล เท้าพองจ้า แต่เราพกยาคลายกล้ามเนื้อทั้งยากินและยานวดมาด้วย แม่บอกให้ใส่มาด้วย สุดท้ายเราได้ใช้จริงๆ 55 5
โอเคเข้าเรื่องกันเลยนะครับ
นนี้เราจะไปป่าไผ่อีกครั้ง พร้อมขึ้นรถไฟสายโรแมนติก การรอขึ้นรถไฟสายโรแมนติกนั้น เมื่อนั่งรถไฟมาจากสถานีเกียวโต ก็ลงป้าย Saga Arashiyama เมื่อถึงสถานีก็เดินออกมาข้างนอกสถานี จะมีสถานีรถไฟสายโรแมนติดอยู่ข้างๆ และนั่งไปลงที่ Torokko Kameoka จ้า ราคาตั๋วขาละ 620 เยน
รูปขาไปเราถ่ายมาแต่วิวข้างทาง กรี๊ดดๆ ต้นเมเปิ้ลใช่มั้ย ?
ต้นไม้ตลอดข้างทางส่วนใหญ่จะเจอต้นสน แต่รูปนี้ไม่รู้ต้นอะไร
นั่งมาประมาณ 30 นาที ก็ถึงสถานีปลายทาง Torokko Kameoka
พอรถไฟจอด ตรงข้ามตัวสถานีอีกฝากของชานชาลามีแต่รูปปั้นนี้ ดูน่ารักดีจัง
มากันเป็นแก๊ง กะว่าจะไปเดินเล่นแถวๆ นี้ แต่ก่อนออกจากตัวสถานี ทำการซื้อตั๋วขากลับไว้ก่อน
คลองสวยดีจริงๆ แถวนี้มีบริการรถม้าด้วยอยู่ตรงข้ามสถานีเรย แต่ครั้นจะให้เราไปนั่งคนเดียวก็กระไรอยู่ เพราะรถม้าที่ม้าลากมันไม่ได้มีไม่กี่ที่นั่งไง มันเป็นเหมือนรถลากสัมภาระอ่ะ นั่งได้เป็นสิบ ก็เรยเดินเลี่ยงมาฝั่งริมคลองและถ่ายวิวแถวๆ นั้น
เดินอ้อร้อแถวนี้เสร็จ ก็รีบจ้ำอ้าว ไปรอรถไฟ
รถไฟใกล้มาแล้ว
มาแล้วปู๊นๆ รถไฟสายโรแมนติกนี่จะเป็นรถรางแบบเก่าทาสีสันสวยงาม พื้นรถไฟจะเป็นพื้นไม้
ก่อนขึ้นหยิบตั๋วมาดูอีกรอบ
นี่คือตั๋วขากลับจ้า ในนี้ที่พอจะดูรู้เรื่องก็คือ รถไฟขบวนที่ 12 ของวันนี้ ขึ้นโบกี้ที่ 2 เลขที่นั่ง 6A
โอเค รู้เรื่องร่ะ นี่ชานชาลาโบกี้ 2
สำหรับเลขเก้าอี้ตามที่นั่งจะเป็นแบบนี้ มี A - D
ภายในโบกี้รถไฟ
นั่งมาเรื่อยๆ เกือบถ่ายตอนโค้งไม่ทัน 55 5 มันก็มีประกาศบอกอ่ะแหระ แต่ว่าฟังไม่ออกไง กรรม !!!! พวกทัวร์จีนที่มันรู้เรื่องเพราะมันจะมีไกด์คอยแปลให้ฟังตลอดข้างทาง โดยไกด์จะพูดผ่านไมค์แบบพกพาเล็กๆ และที่ตัวลูกทัวร์เองจะมีเครื่องรับแบบนี้อยู่ เห่! ไม่เห็นดูกันเลยนะ
ขากลับเรานั่งลงป้ายนี้ ป้ายนี้จะถึงก่อนป้ายที่เรามาตอนขามา เพราะป้ายนี้เมื่อจอดจะเดินเข้าป่าไผ่ใกล้มาก
พอมาถึงสถานีจัดการตัวเองเสร็จ ก็เดินไปซื้อติมกิน ที่นี่เรียก Soft Cream ราคาตั้งแต่ 300 เยนขึ้นไป แล้วแต่สถานที่อีก แต่ไม่มีต่ำกว่า 300 เยนเลยนะ
เดินเข้าโซนป่าไผ่อีกรอบ
จุดซื้อตั๋วเข้าชมวัด เท็นริวจิ อยู่ระหว่างทางเดินเส้นทางชมป่าไผ่
ภายในวัดเต็มไปด้วยดอกไม้ต้นไม้หลากหลายพันธุ์มาก จากรูปนี้ เป็นดอกไฮเดรนเยีย (ไม่ได้ถ่ายต้นอื่น 55 5+)
ไฮเดรนเยีย : ไฮเดรนเจีย (อังกฤษ: hydrangea)[1] เป็นสกุลของพืชมีดอก 70-75 ชนิดที่เป็นพืชพื้นเมืองในเอเชียใต้และเอเชียตะวันออก (จีน ญี่ปุ่น คาบสมุทรเกาหลี เทือกเขาหิมาลัย อินโดนีเซีย) อเมริกาเหนือ และอเมริกาใต้ ความหลากหลายส่วนใหญ่อยู่ในทวีปเอเชีย โดยเฉพาะจีน ญี่ปุ่น คาบสมุทรเกาหลี
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนเดิมชมนั่นนี่มาเรื่อยๆ มาเห็นมุมนี้จากในรูปที่เคยเห็นๆ นี่แทบกลั้นหายใจ 555 5
วัดเทนริวจิ(Tenryuji) เป็นวัดที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในเขตอาราชิยาม่าของเกียวโต เป็น อันดับ 1 จาก 5 อันดับสูงสุดของวัดเซนและยังได้ถูกบันทึกเป็นมรกดโลก
มุมนี้สวยมาก
ถ่ายย้อนกลับมายังมุมแรก สวยพรื่อ ลมก็พัดเย็นสบาย
ตามสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ ตามประวัติศาสตร์ มักจะเจอคนแต่งตัวด้วยชุดกิโมโนเยอะมาก ที่นี่เค้ากล้าแต่งและก็ไม่อายกันด้วย นี่ถ้าเราแต่งชุดไทยเดินออกจากบ้านหลายคนคงคิดว่าบ้า
ภายในวัดมีให้เข้าไปนั่งชมได้ แต่ห้ามนอน ส่วนใหญ่มารอชมพระอาทิตย์ตก
ไม่ได้เดินขึ้นไป ขี้เกียจถอดรองเท้า ไม่รู้ว่าต้องจ่ายเงินเพิ่มด้วยหรือเปล่า
สำหรับ Arashiyama ก็มีเพียงประมาณนี้ครับ
ถ้ามีเวลาอยู่นี่อีกสักสองคืน
ก็อยากตามเก็บให้หมดนะ
รักเธอจังเกียวโต <3