BANPU แม่-ลูก ทำไมซื้อไม่ยั้ง

BANPU แม่-ลูก ทำไมซื้อไม่ยั้ง

ยังคงสร้างความตื่นเต้นให้กับนักลงทุนตลอดเกือบ 1 เดือนที่ผ่านมา สำหรับหุ้นบิ๊กแคบรายใหญ่ บมจ.บ้านปู (BANPU) โดยพบว่าราคาหุ้นกลับตัวเป็นขาขึ้น ภายหลังจากวอแรนต์ BANPU-W3 เข้าเทรดในกระดานนับตั้งแต่วันที่ 15 มิ.ย.59 ทำให้เกิดคำถามว่าราคาหุ้น BANPU จะขึ้นไปได้ถึงเมื่อใด และมีพื้นฐานรองรับการฟื้นตัวในรอบนี้หรือไม่


และจากสอบถามไปยังคุณชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.โกลเบล็ก บอกกับ Money Channel ขณะนี้ฝ่ายวิจัยฯอยู่ระหว่างทบทวนปรับเพิ่มประมาณการของ BANPU จากปัจจุบันให้ราคาพื้นฐานเพียง 13.50 บาท เท่านั้น เพราะล่าสุดแนวโน้มราคาถ่านหินในครึ่งปีหลังจะสูงกว่าในครึ่งปีแรก สะท้อนได้จากปัจจุบันพบว่าราคาถ่านหินฟื้นตัวมากว่า 18% นับตั้งแต่ต้นปี แตะแถวๆ 59 ดอลลาร์ออสเตรเลียต่อตัน โดยทำจุดสูงสุดในรอบ 9 เดือน ซึ่งเป็นการฟื้นตัวตามสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วโลก และที่สำคัญระดับราคาดังกล่าวถือว่าใกล้เคียงกับจุดคุ้มทุนของการขายถ่านหินของ BANPU แล้ว


นอกจากนี้ ยังมี Upside เพิ่มเติมจากโรงไฟฟ้าหงสา ที่ปัจจุบันยังมีปัญหาการจ่ายไฟฟ้าของหน่วยผลิตที่1 ขณะที่หน่วยผลิตที่2และ3 ยังเดินหน้าได้ตามปกติ ดังนั้น คาดการว่าหากหน่วยผลิตที่1 กลับมาจ่ายไฟฟ้าได้ตามปกติในช่วงครึ่งปีหลัง จะทำให้ช่วยผลักกำไรได้ดีขึ้น เพราะปีนี้โรงไฟฟ้า BLCP ไม่มีแผนปิดซ่อมบำรุง

ทั้งนี้ โรงไฟฟ้าหงสามีขนาดกำลังผลิต 1,800 MW ซึ่งทาง BANPU ถือหุ้น 40% ทำให้รับรู้รายได้จากการจ่ายไฟฟ้าราว 720 MW ขณะที่โรงไฟฟ้า BLCP ขนาด 1,400 MW โดย BANPU ถือสัดส่วน 50% หนุนปีนี้จะพลิกกลับมามีกำไรสุทธิ  1,141 ล้านบาท จากปี58ที่ขาดทุนสุทธิ 1,534 ล้านบาท


ด้านแหล่งข่าววงการนักวิเคราะห์ ระบุกับ Money Channel ว่าถ้าหาก BANPU มีปัจจัยบวกจากราคาถ่านหินที่พลิกกลับมาเป็นกำไร และไม่มีผลกระทบจากค่าเสื่อมต่างๆ เชื่อว่าตลาดฯจะหันกลับมาเพิ่มพรีเมี่ยมโดยซื้อขายเหนือระดับมูลค่าทางบัญชีซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 24.65 บาท


มาที่ด้านคุณ ณัฐวัฒน์ อ้นรัตน์ แห่ง บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) เผยกับ MoneyChannel ว่า BANPU จุดพลิกผันในครั้งนี้คือการเพิ่มทุนครั้งใหญ่ถึง 100% จาก 2.58 พันล้านหุ้นเป็น 5.16 พันล้านหุ้น ด้วยการขายให้ผู้ถือหุ้นเดิม (RO) สัดส่วน 2 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นใหม่ ในราคา 5 บาท พ่วงวอร์แรนต์ฟรี 1 ต่อ 1 ทำให้บริษัทฯ ได้เงินไปชำระคืนหนี้ราว 1.29 หมื่นลบ. และชำระดอกเบี้ยค้างจ่ายราว 500 ล้านบาทต่อปี ทำให้อัตราหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E) ปรับลดจาก 1.62 เท่า เหลือ 1.23 เท่า


**จับตานักลงทุนรายใหญ่ที่ติดหุ้น BANPU ได้เข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุน และนำวอร์แรนต์ไปแปลงสภาพเป็นหุ้นแม่ เพื่อที่จะได้เฉลี่ยราคาต้นทุนให้ลดลง



ซึ่งในทางกลยุทธ์แล้วเชื่อว่านักลงทุนรายใหญ่จะซื้อหุ้นเพิ่มทุนในราคา 5 บาท และนำวอแรนต์มาแปลงสภาพเป็นหุ้นแม่ที่มีอายุเพียง 1 ปี จะทำให้ต้นทุนที่ถือหุ้น BANPU ไว้จะค่อยๆทยอยลดลง โดยจะเฉลี่ยจะอยู่แถว 25-30 บาทต่อหุ้น ดังนั้น กลยุทธ์การเล่นสั้นควรเล่นรอบ BANPU-W3 เท่านั้น แต่ถือต้องการถือยาวก็ให้นำมาแปลงสภาพเป็นหุ้นแม่  ส่วนหุ้นแม่ BANPU ยังแนะถือไว้เพื่อรักษาต้นทุนเฉลี่ยที่ลดลง เบื้องต้นประเมินราคาหุ้นแม่ BANPU ไว้ที่ 16 บาท ซึ่งรวมไดลูทวอแรนต์แล้ว ส่วน BANPU-W3 มองกรอบเคลื่อนไหวเหมาะสมแถว 8-10 บาท  



ในระยะสั้น นักวิเคราะห์เทคนิค บล.โกลเบล็ก มองกราฟหุ้น BANPU มีโอกาสไปต่อ ลุ้นแนวต้าน 16.50 บาท และจุดตัดขาดทุน 15 บาท ส่วน BANPU-W3 ลุ้นไปต่อเช่นกัน ให้แนวต้าน 10.70 บาท ตัดขาดทุน 9.70 บาท






http://www.moneychannel.co.th/news_detail/11309/BANPU-%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B9%88-%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81-%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B8%8B%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่