คงจะมีหลาย ๆ คนที่ตะเกียกตะกายเป็นดารานักแสดง เพราะการเป็นนักแสดงจะต้องประพฤติดี ปฏิบัติดี เพื่อให้ผลงานออกสู่สายตาของสาธารณชนได้อย่างดี ดังนั้นการที่ผู้สร้างภาพยนตร์เลือกหานักแสดงที่ใหม่ ๆ สด ๆ ซิง ๆ ถือเป็นงานที่หนักหนาสาหัสกว่าการหานักแสดงที่เรา ๆ คุ้นเคย ซึ่งจะทำให้เราได้เปิดรับกับสิ่งใหม่ ๆ อย่างไม่จำเจ และก็หวังว่าความเป็นดาวรุ่งที่พุ่งแรงของเขาหรือเธอคนนั้นก็จะอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม มีงานแสดงออกมาให้เราเห็นอย่างต่อเนื่องและตลอดไป ขึ้นอยู่กับเขาหรือเธอคนนั้นว่าจะเลือกเดินทางสายมายาหรือแบ่งเวลาได้มากน้อยเพียงใด
แต่ก็มีหนังไทยอยู่หลายเรื่องที่ประสบความสำเร็จเพราะความใหม่ของนักแสดง จนบางคนได้รับรางวัลมาแล้วก็ดี หรือบางคนก็โด่งดังควบคู่กับกระแสโซเชียล แต่ในทางกลับกัน หนังที่ใช้นักแสดงหน้าใหม่มาแสดงนำก็อาจจะไม่เป็นที่จดจำ จนนักแสดงคนนั้นหลุดหายหรือลาจากวงการบันเทิงก็มี เรามาย้อนดูกันว่ามีหนังไทยเรื่องอะไรบ้าง ที่พอจะถือเป็นบทเรียนสำคัญในความทรงจำของคอหนังอย่างเรา ตลอดที่วงการหนังไทยมีมา
2499 อันธพาลครองเมือง ถือเป็นการพลิกประวัติศาสตร์วงการหนังไทยเลยก็ว่าได้ ทั้งเรื่องคุณภาพทางเทคนิค รายได้จากการฉาย รวมถึงทีมนักแสดงนำซึ่งล้วนเป็นคนใหม่เกือบทั้งหมด พลอยให้ "นนทรีย์ นิมิบุตร" ผู้กำกับภาพยนตร์ และ "เจษฎาภรณ์ ผลดี" พระเอกของเรื่อง แจ้งเกิดอย่างสง่างาม มีผลงานออกมาอย่างต่อเนื่องไม่หายไปไหน นับตั้งแต่ปี 2540 เป็นต้นมา
มหา'ลัยเหมืองแร่ จากหนังสือรวมเรื่องสั้น ชุด เหมืองแร่ ของอาจินต์ ปัญจพรรค์ ส่งให้ "จิระ มะลิกุล" ผู้ที่เคยสร้างเรื่องราวของบั้งไฟพญานาคมาตีความเป็นภาพยนตร์จนเป็นหนังแจ้งเกิดของเขา ลงทุนลงแรงไปถึงเหมืองแร่ในภาคใต้ แล้วผูกเรื่องไว้ให้เป็นผลงานชั้นดีเรื่องนี้ขึ้นมา แม้ว่ารายได้ของหนังเรื่องนี้ไม่สมกับการลงทุนที่เสียไป แต่ก็ได้รางวัลยอดเยี่ยมจากหลายสถาบัน นักแสดงนำของเรื่องนี้ได้แก่ พิชญะ วัชจิตพันธ์, ดลยา หมัดชา และ สนธยา ชิตมณี หรือ "สน เดอะสตาร์" โดยเฉพาะคนหลังสุด ก็ได้รับรางวัลสุพรรณหงส์ สาขานักแสดงประกอบฝ่ายชายยอดเยี่ยม เมื่อปี 2548 และกลายเป็นนักร้อง-นักแสดงฝีมือดีอีกคนของวงการหนังไทย
เพื่อนสนิท เป็นหนังรักวัยรุ่นอีกหนึ่งเรื่องที่ติดตรึงอยู่ในความคิดถึงของคนหลายๆ คนที่เคยได้ชมหนังเรื่องนี้เมื่อปี 2548 อีกเช่นกัน ส่งผลให้หนังเรื่องนี้ได้เงินและได้กล่องเป็นจำนวนไม่น้อย และนักแสดงนำของเรื่องที่แค่เล่นหนังเรื่องแรกก็แจ้งเกิดกันถ้วนหน้า มีผลงานการแสดงภาพยนตร์และละครให้ได้ติดตามจนถึงปัจจุบัน ทั้ง ซันนี่ ซี สุวรรณเมธานนท์, นุ่น-ศิรพันธ์ วัฒนจินดา (ดัชชี่เกิร์ล ปี 2004) และ เอ๋-มณีรัตน์ คำอ้วน
Seasons Change เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย หนังที่ชื่อพ้องกับชื่อเพลงของ บอย โกสิยพงษ์ ซึ่งก็ประกอบหนังเรื่องนี้ด้วย เรื่องของนักเรียนดุริยงาค์ที่รักและผูกพันทั้งเรื่องดนตรี การเรียน ความรัก เปรียบดังฤดูที่แปรเปลี่ยนไป เป็นหนังอีกเรื่องหนึ่งที่ใช้นักแสดงนำหน้าใหม่ทั้งหมด ทั้ง บอล-วิทวัส สิงห์ลำพอง, ต่าย-ชุติมา ทีปะนาถ และ นาถ-ยุวนาถ อาระยานิมิตสกุล ซึ่งสองคนแรกแต่งงานมีลูกแล้ว หนังฉายเมื่อปี 2549
หมากเตะรีเทิร์นส ผลงานภาพยนตร์ที่เคยเป็นที่เกรียวกราวเพราะถูกแบน แต่ก็แก้ไขจนสำเร็จ เป็นชื่อหนังครั้งสุดท้ายคือชื่อนี้ เรื่องของทีมฟุตบอลอาวีที่มีความหวังจะไปชิงศึกฟุตบอลโลก หนังฉายเมื่อปี 2549 อีกเช่นกัน และใช้นักแสดงหน้าใหม่(ไม่นับ น้อย โพธิ์งาม) อันประกอบด้วย เดี่ยว-เสกสรร สุทธิจันทร์, แนน-แพรว ประพิณทิพย์ และ เอ็กซ์-จักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม นักกีฬายิงปืนทีมชาติไทยผู้ล่วงลับ ผู้รับบทเป็นโค้ชทีมอาวี
แฟนฉัน ขอเรียกว่าเป็นหนังที่สุดในการใช้นักแสดงหน้าใหม่ จนหนังฟอร์มเล็ก ๆ ที่อุดมด้วยเสียงเพลงและความหลังอย่างเรื่องนี้ดังระเบิดเถิดเทิง ทั้งชื่อเสียง รายได้ และความสามารถทางการแสดงของทีมนักแสดงเรื่องนี้อย่างเห็นได้ชัด ผลงานของ 3 โปรดักชั่นเฮ้าส์ และ 6 ผู้กำกับคนใหม่ ก่อนจะควบมาเป็น "จีทีเอช" นำแสดงโดย แน็ค ชาลี, โฟกัส จีระกุล, แจ็ค เฉลิมพล ส่วนนักแสดงรุ่นใหญ่อย่าง ต้น แมคอินทอช, เล็ก คาราบาว, กบ อนุสรา แม้จะไม่ใช่ผลงานเรื่องแรกในการแสดงภาพยนตร์ แต่ก็พลอยแจ้งเกิดตามดารารุ่นเล็กไปด้วย หนังฉายเมื่อช่วงปิดเทอมเดือนตุลาคม ปี 2546
นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของหลาย ๆ เรื่องที่เราพบเห็น รับรองว่าในอนาคตจะมีหนังไทยที่ใหม่หมดสดซิงให้ดังกระหึ่มตามเรื่องต่าง ๆ ที่กล่าวไว้ขั้นต้นแน่ แต่ถ้าใครยังประทับใจกับหนังไทยที่ใช้นักแสดงหน้าใหม่นอกเหนือจากนี้อีก ก็มาร่วมเสนอชื่อได้ที่นี่ เพราะยังมีหนังใหม่ ๆ แบบ ๆ นี้ ปรากฏสู่สังคมไทยและสังคมโลก ขอให้หนังไทยจงเจริญ สวัสดี.
มาย้อนดูหนังไทยที่ใช้นักแสดงนำหน้าใหม่หมดจดกัน
แต่ก็มีหนังไทยอยู่หลายเรื่องที่ประสบความสำเร็จเพราะความใหม่ของนักแสดง จนบางคนได้รับรางวัลมาแล้วก็ดี หรือบางคนก็โด่งดังควบคู่กับกระแสโซเชียล แต่ในทางกลับกัน หนังที่ใช้นักแสดงหน้าใหม่มาแสดงนำก็อาจจะไม่เป็นที่จดจำ จนนักแสดงคนนั้นหลุดหายหรือลาจากวงการบันเทิงก็มี เรามาย้อนดูกันว่ามีหนังไทยเรื่องอะไรบ้าง ที่พอจะถือเป็นบทเรียนสำคัญในความทรงจำของคอหนังอย่างเรา ตลอดที่วงการหนังไทยมีมา
2499 อันธพาลครองเมือง ถือเป็นการพลิกประวัติศาสตร์วงการหนังไทยเลยก็ว่าได้ ทั้งเรื่องคุณภาพทางเทคนิค รายได้จากการฉาย รวมถึงทีมนักแสดงนำซึ่งล้วนเป็นคนใหม่เกือบทั้งหมด พลอยให้ "นนทรีย์ นิมิบุตร" ผู้กำกับภาพยนตร์ และ "เจษฎาภรณ์ ผลดี" พระเอกของเรื่อง แจ้งเกิดอย่างสง่างาม มีผลงานออกมาอย่างต่อเนื่องไม่หายไปไหน นับตั้งแต่ปี 2540 เป็นต้นมา
มหา'ลัยเหมืองแร่ จากหนังสือรวมเรื่องสั้น ชุด เหมืองแร่ ของอาจินต์ ปัญจพรรค์ ส่งให้ "จิระ มะลิกุล" ผู้ที่เคยสร้างเรื่องราวของบั้งไฟพญานาคมาตีความเป็นภาพยนตร์จนเป็นหนังแจ้งเกิดของเขา ลงทุนลงแรงไปถึงเหมืองแร่ในภาคใต้ แล้วผูกเรื่องไว้ให้เป็นผลงานชั้นดีเรื่องนี้ขึ้นมา แม้ว่ารายได้ของหนังเรื่องนี้ไม่สมกับการลงทุนที่เสียไป แต่ก็ได้รางวัลยอดเยี่ยมจากหลายสถาบัน นักแสดงนำของเรื่องนี้ได้แก่ พิชญะ วัชจิตพันธ์, ดลยา หมัดชา และ สนธยา ชิตมณี หรือ "สน เดอะสตาร์" โดยเฉพาะคนหลังสุด ก็ได้รับรางวัลสุพรรณหงส์ สาขานักแสดงประกอบฝ่ายชายยอดเยี่ยม เมื่อปี 2548 และกลายเป็นนักร้อง-นักแสดงฝีมือดีอีกคนของวงการหนังไทย
เพื่อนสนิท เป็นหนังรักวัยรุ่นอีกหนึ่งเรื่องที่ติดตรึงอยู่ในความคิดถึงของคนหลายๆ คนที่เคยได้ชมหนังเรื่องนี้เมื่อปี 2548 อีกเช่นกัน ส่งผลให้หนังเรื่องนี้ได้เงินและได้กล่องเป็นจำนวนไม่น้อย และนักแสดงนำของเรื่องที่แค่เล่นหนังเรื่องแรกก็แจ้งเกิดกันถ้วนหน้า มีผลงานการแสดงภาพยนตร์และละครให้ได้ติดตามจนถึงปัจจุบัน ทั้ง ซันนี่ ซี สุวรรณเมธานนท์, นุ่น-ศิรพันธ์ วัฒนจินดา (ดัชชี่เกิร์ล ปี 2004) และ เอ๋-มณีรัตน์ คำอ้วน
Seasons Change เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย หนังที่ชื่อพ้องกับชื่อเพลงของ บอย โกสิยพงษ์ ซึ่งก็ประกอบหนังเรื่องนี้ด้วย เรื่องของนักเรียนดุริยงาค์ที่รักและผูกพันทั้งเรื่องดนตรี การเรียน ความรัก เปรียบดังฤดูที่แปรเปลี่ยนไป เป็นหนังอีกเรื่องหนึ่งที่ใช้นักแสดงนำหน้าใหม่ทั้งหมด ทั้ง บอล-วิทวัส สิงห์ลำพอง, ต่าย-ชุติมา ทีปะนาถ และ นาถ-ยุวนาถ อาระยานิมิตสกุล ซึ่งสองคนแรกแต่งงานมีลูกแล้ว หนังฉายเมื่อปี 2549
หมากเตะรีเทิร์นส ผลงานภาพยนตร์ที่เคยเป็นที่เกรียวกราวเพราะถูกแบน แต่ก็แก้ไขจนสำเร็จ เป็นชื่อหนังครั้งสุดท้ายคือชื่อนี้ เรื่องของทีมฟุตบอลอาวีที่มีความหวังจะไปชิงศึกฟุตบอลโลก หนังฉายเมื่อปี 2549 อีกเช่นกัน และใช้นักแสดงหน้าใหม่(ไม่นับ น้อย โพธิ์งาม) อันประกอบด้วย เดี่ยว-เสกสรร สุทธิจันทร์, แนน-แพรว ประพิณทิพย์ และ เอ็กซ์-จักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม นักกีฬายิงปืนทีมชาติไทยผู้ล่วงลับ ผู้รับบทเป็นโค้ชทีมอาวี
แฟนฉัน ขอเรียกว่าเป็นหนังที่สุดในการใช้นักแสดงหน้าใหม่ จนหนังฟอร์มเล็ก ๆ ที่อุดมด้วยเสียงเพลงและความหลังอย่างเรื่องนี้ดังระเบิดเถิดเทิง ทั้งชื่อเสียง รายได้ และความสามารถทางการแสดงของทีมนักแสดงเรื่องนี้อย่างเห็นได้ชัด ผลงานของ 3 โปรดักชั่นเฮ้าส์ และ 6 ผู้กำกับคนใหม่ ก่อนจะควบมาเป็น "จีทีเอช" นำแสดงโดย แน็ค ชาลี, โฟกัส จีระกุล, แจ็ค เฉลิมพล ส่วนนักแสดงรุ่นใหญ่อย่าง ต้น แมคอินทอช, เล็ก คาราบาว, กบ อนุสรา แม้จะไม่ใช่ผลงานเรื่องแรกในการแสดงภาพยนตร์ แต่ก็พลอยแจ้งเกิดตามดารารุ่นเล็กไปด้วย หนังฉายเมื่อช่วงปิดเทอมเดือนตุลาคม ปี 2546
นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของหลาย ๆ เรื่องที่เราพบเห็น รับรองว่าในอนาคตจะมีหนังไทยที่ใหม่หมดสดซิงให้ดังกระหึ่มตามเรื่องต่าง ๆ ที่กล่าวไว้ขั้นต้นแน่ แต่ถ้าใครยังประทับใจกับหนังไทยที่ใช้นักแสดงหน้าใหม่นอกเหนือจากนี้อีก ก็มาร่วมเสนอชื่อได้ที่นี่ เพราะยังมีหนังใหม่ ๆ แบบ ๆ นี้ ปรากฏสู่สังคมไทยและสังคมโลก ขอให้หนังไทยจงเจริญ สวัสดี.