"อินเดียหรอ?...ก็อยากไปนะแต่ไม่กล้าอ่ะ"
"อินเดียเหรอ? อืมมม...โอเค แต่เมิงไปเหอะ"
"อินเดียเหรอ? สวยนะ พี่ชอบมากกก"
"อินเดียเหรอ? เดี๋ยวก็รู้ หึหึ (ยิ้มที่มุมปากแล้วจากไป)"
เชื่อว่าหลายๆคนคงเคยได้ยินมาว่าอินเดียเป็นประเทศที่ไปแล้วถ้าไม่รักก็เกลียดไปเลย บางคนไปแล้วชอบม๊ากกก บางคนที่ไปแล้วยี้ๆอี๋ๆกลับมา บางคนไม่ทันจะได้ไปแค่เจอ"เค้าเล่าว่า"ก็ไม่คิดจะไปแล้ว!
[ทำไมต้องอินเดีย?] ส่วนตัวจขกท. "อินเดีย"เป็นหนึ่งในประเทศที่อยากไปมานานมากๆ แต่ด้วยราคาที่อาจจะต่ำกว่าไปประเทศอย่างญี่ปุ่นหรือประเทศอื่นๆไม่มาก (โดยเฉพาะตอนนี้ไม่ต้องขอวีซ่าให้ยุ่งยากและมีโปรดีๆมาบ่อยๆ) แถมเรื่องต่างๆที่เคยได้ยินมาเกี่ยวกับการไปเที่ยวอินเดียทำให้เกิดความรู้สึกที่ว่า"ทำไมต้องจ่ายเงินเป็นหมื่นเพื่อไปลำบาก?" ส่งผลให้ความคิดเรื่องการไปเที่ยวอินเดียตกเป็นเป้าหมายลำดับถัดๆลงไป
อาจจะเป็นเพราะเที่ยวญี่ปุ่นจนพรุนไปแล้วหรือด้วยความรู้สึกอยากไปลองอะไรใหม่ๆ (จีนก็ไปแล้ว หรือแม้แต่เนปาลก็ไปมาแล้ว)... สุดท้าย ที่หมายของการลาพักร้อนสั้นๆของจขกท.ช่วงกลางปีจึงตกที่ไปอินเดียจนได้...และคงบอกได้เลยว่านี่ก็คงเป็นแค่ครั้งแรกในอีกหลายๆครั้งที่จะตามมาของจขกท.ซะด้วยสิ!
--------------------------------------
"ทำไมต้อง Jodhpur (จ๊อดปูร์) กับ Mumbai (มุมไบ)??"
เงื่อนไขจริงๆคือ "เวลาพักร้อน" พอดีช่วงกลางปีมีเวลาว่างอยู่นิดหน่อยเลยมาคิดว่าจะไปไหนดีที่ไม่ต้องลาหลายวัน ทริป "Golden Triangle (เดลี-ไจปูร์-ทัชมาฮาล)" เหมือนจะดีแต่ออกแนวเป็นเส้นทางท่องเที่ยวซึ่งคนไปกันเยอะมากๆ ไหนๆก็ไปอินเดียครั้งแรกจขกท.อยากไปที่อะไรน่าสนใจแต่นักท่องเที่ยวยังไปไม่เยอะเท่าไหร่ นอกจากนี้ถ้าไปตามเส้นทางที่ว่าน่าจะใช้เวลาอย่างน้อย 5-6 วันซึ่งจขกท.คงไม่มีเวลามากขนาดนั้น ...
"สุดท้ายเลยมาจบที่อินเดียฝั่งตะวันตก"... จริงอยู่ว่ามุมไบก็เป็นเมืองท่องเที่ยวและไปกลางปีน่าจะเจอฝนแน่ๆแต่ส่วนตัวจขกท.เห็นว่ามุมไบถ้าเทียบกับเดลีแล้วจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติยังไม่เยอะเท่า ตลอดจนย่านเมืองเก่ายังมีมีสถาปัตยกรรมที่ถือเป็น Landmark ของอินเดียหลายแห่งโดยที่แต่ละแห่งยังอยู่ไม่ไกลกัน (พอเดินได้) ส่วนเมืองจ๊อดปูร์ "เมืองสีฟ้า" เป็นเมืองอยู่ในรัฐราชสถาน อากาศออกแนวทะเลทรายนิดนึง มีความเก๋ตรงที่บ้านในเขตเมืองเก่ามักนิยมทาสีฟ้านอกจากนี้ยังมี Mehrangarh Fort (ป้อมเมห์รานการห์) ป้อมโบราณอยู่บนเขาเป็นจุดขาย...และจากการค้นคว้าจากหลายๆที่แนะนำว่าจ๊อดปูร์เป็นเมืองเหมาะแก่การถ่ายรูปมากกกก (รึเปล่า?)
ด้วยเงื่อนไขต่างๆผ่านและอยากไปอินเดียทำให้ทริป "Indy in India สะพายเป้ไปพักร้อนที่ Jodhpur + Mumbai" จึงได้เกิดขึ้นแบบงงๆประเภทจองตั๋วและทำวีซ่าไม่ถึงสองสัปดาห์ก่อนเดินทางเลยทีเดียว
แผนการเดินทาง
23 Jun. : กรุงเทพ - มุมไบ - จ๊อดปูร์ / เดินย่านเมืองเก่า ตลาดกลางเมืองและหอนาฬิกา
24 Jun. : ป้อมเมห์รานการห์ เก็บตกย่านเมืองเก่า
25 Jun. : จ๊อดปูร์ - มุมไบ / สถานีรถไฟฉัตรปติศิวาชี (Chhatrapati Shivaji Terminus) และรอบๆ
26 Jun. : เดินย่านเมืองเก่า (Colonial Era Walking Route) - Gateway of India / เดินทางกลับกรุงเทพ
ตารางเหมือนจะหลวมๆแต่พอไปจริงๆนี่แน่นมากกก เดินวันละ 6 ชั่วโมง เช้าถึงเที่ยง-บ่ายถึงค่ำ ...ช่วงอยู่เมืองจ๊อดปูร์ เที่ยงๆเดินไม่ได้เลยแดดแร๊งส์สุดๆ ร้อนแบบไม่เคยเจอมาก่อนบนโลกเหมือนโดนตากแห้งตลอดเวลา เข้าใจเลยว่าทำไมคนแถวราชาสถานถึงตัวดำ (เล่าให้แขกที่มุมไบฟังว่าไปราชาสถานมาเค้าถามว่าเอ็งบ้ารึป่าวไปหน้าร้อน!) ส่วนที่มุมไบก็เดินตากฝนเป็นส่วนใหญ่ ย่านเมืองเก่าคืออังกฤษเวอร์ชั่นโดนซอมบี้ถล่มเมือง สภาพอากาศก็อังกฤษจริงๆไม่เคยเจอที่ไหนเช่นกันฝนตกสลับแดดออกวันละ 3 เวลา
--------------------------------------
บทพิสูจน์เบื้องต้นของจขกท.กับคำถามยอดฮิตเวลาคนไทยมองอินเดีย
"อินเดียสกปรกจริงหรือ?" : คำถามสุดฮิตคนไทยหรืออาจจะคนทั่วโลกเวลาเอ่ยถึงอินเดีย บอกเลยว่าที่เมืองจ๊อดปูร์สกปรกมากก ไม่เคยต้องฝ่าดงขี้ลุยกองขยะไปถ่ายรูปมาก่อน เหม็นแบบที่ว่าจะเดินไปหาอะไรทานเจอกลิ่นเห็นถนนก็หายหิวละ แต่ถ้าพูดถึงเรื่องสถาปัตยกรรมกล้าพูดเลยว่าสวยจริงๆ...ส่วนที่มุมไบถ้าเป็นย่านแถว Fort ก็สกปรกประมาณกรุงเทพส่วนใหญ่นี่ล่ะ มีเศษๆริมถนนบ้างแต่ไม่ได้น่าเกลียดอะไร เดินได้สบายๆ ส่วนย่านการค้าก็มีตึกสูง มีอาคารสมัยใหม่ ร้านดีๆเหมือนเมืองใหญ่ทั่วไป ย่านสลัมก็ตามชื่อตามแต่จะจินตนาการเลย ...
"รวย-จนห่างกันไม่กี่นาที"... ที่อินเดียความไม่เท่าเทียมกันในสังคมเห็นได้ทั่วไป คนรวยมีมาก คนเร่ร่อนก็มีเยอะ จขกท.นั่งแท็กซี่ผ่านชุมชนเห็นคนเร่ร่อนใช้ชีวิตข้างถนนพอฝนตกได้แต่นั่งหลบฝนรวมอยู่ใต้หลังคาผ้าเล็กๆโทรมๆแต่ถัดมาอีกแค่ไม่กี่นาทีก็เจอตึกระฟ้าไฮโซ รถหรูๆ คนแต่งตัวดีๆใช้ชีวิตกันเหมือนอยู่คนละโลก หรือแม้แต่บางครั้งเดินในตรอกแคบๆสกปรกๆถัดมาอีกไม่เท่าไหร่เงยหน้าเจอวังอลังการอยู่บนเขาให้ทึ่งซะอย่างงั้น
"คนอินเดียเป็นไง?" : คนอินเดียเป็นมิตรมากกกก มาอินเดียถ้าภาษาอังกฤษได้และชอบคุยยิ่งมันส์ (พูดไปส่ายหัวไปได้อารมณ์สุดๆ) จขกท.คิดว่าคนอินเดียไม่ได้น่ากลัวอะไร หลายๆรีวิวไปเที่ยวอินเดียชอบมาบอกว่าแขกเป็นอย่างงั้นอย่างงี้คือจะบอกว่าคนมีดีมีร้าย เพียงแต่ต้องเลือกที่จะไปให้ถูกที่ อยู่ให้ถูกจุด คุยให้ถูกคนที่ก็แค่นั้น มุกอำมุกหลอกตังค์นักท่องเที่ยวถ้าเราเป็นฝรั่งมาเที่ยวเมืองไทยก็คงโดนเหมือนกัน (ไม่รู้ว่าใครก๊อปใคร) ดังนั้นไม่ต้องตื่นเต้น แค่ต้องระวังตัวให้เป็น หาข้อมูลให้เยอะเข้าไว้ ...
"ประเทศที่คนต้องสู้"... มุมหนึ่งที่ไม่ค่อยได้เห็นคนพูดถึงคือไม่ว่ารวยหรือจนหรืออยู่ในสถานะอะไรสิ่งที่มีเหมือนกันก็คือความขยันและความอดทนของคนอินเดีย คนอินเดียถ้ามีโอกาสได้เรียนก็ต้องขยันเรียน ถ้าไม่มีโอกาสเรียนก็ต้องขยันทำงานและหาเวลาเรียนรู้...ที่นี่เด็กที่มีโอกาสได้เรียนดีๆเวลารอรถก็นั่งทำแบบฝึกหัดหรือแม้แต่เด็กส่งน้ำตามบ้านที่ไม่ได้ไปเรียนเวลานั่งพักก็อ่านหนังสือ ผู้ใหญ่เองก็เช่นกัน ไม่รู้สิ ประเทศที่มีประชากรมากขนาดนี้ถ้าไม่ขยันไม่อดทนไม่พยายามที่จะเก่งกว่าคนอื่นก็จะมีคนที่พร้อมจะฉวยโอกาสไปได้ตลอดเวลา (ผิดกับบางประเทศแถวนี้ที่ไม่มีค่านิยมการทำงานหนัก การที่เด็กไปทำงานหารายได้เสริมหลังกลับจากโรงเรียนถือเป็นเรื่องน่าทึ่งปนน่าสงสาร ประเทศที่คนบางกลุ่มยังไม่ทันจะรวยก็เริ่มคิดจะ slow life กันแล้ว)
จากประสบการณ์สั้นๆของจขกท.ในอินเดีย
ทริปแบกเป้เที่ยวเล็กๆคนเดียวสี่วันสี่คืนในอินเดียถึงแม้จะเป็นเพียงระยะเวลาสั้นๆแต่เป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจมากๆทริปนึง ยิ่งใครชอบถ่ายภาพที่แห่งนี้คือสวรรค์ชัดๆ! คนอินเดียขึ้นกล้องมากๆและโดยมากจะโอเคเวลาถูกถ่ายรูป แต่ด้วยมารยาทบางครั้งก็ควรจะขอก่อนนะ (โดยเฉพาะเด็ก-สุภาพสตรี) การถ่ายรูปที่อินเดียหากถ่ายระดับหัวเข่าขึ้นไปจะเป็นดินแดนที่งดงามไปเลย (เพราะที่พื้นจะเละมาก) และนอกจากไปถ่ายรูปคนอินเดียแล้วนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสถึงชีวิตซุปตาร์ที่มีคนอินเดียมาขอถ่ายรูปทุกวันเช่นกัน (ถ้าเจอสาวอินเดียเอารูปคู่กับจขกท.ไปแอบอ้างว่ามีแฟนเป็นคนไทยโปรดอย่าเชื่อนะครับ!) ส่วนใครถ้าไม่ชอบทานผักบอกเลยว่าไปเมืองเล็กๆในอินเดียถึงมีเงินก็อาจอดตายได้แนะนำให้เตรียมปลากระป๋อง-ข้าวกระป๋องไปด้วย ส่วนเรื่องอื่นๆก็ขอให้สนุกไปกับชาวอินเดีย เงินที่ใช้ทริปนี้คิดไปคิดมาถูกกว่าไปเที่ยวโตเกียวตอนมีโปรนิดเดียว แต่ก็อย่างที่บอก"นั่นคือญี่ปุ่น" คนมาเที่ยวอินเดียก็เพราะอยากมาเห็นอินเดียไม่ใช่เหรอ? ...
ทริปอินเดียของจขกท.คงไม่ถึงกับแบบว่ามันส์เว้ยเฮ้ย! ยอดไปเลย! แต่ทุกครั้งที่นึกถึงทริปอินเดียครั้งนี้จะมีรอยยิ้มเล็กๆพร้อมกับคำพูดที่ว่า "อินเดียต้องไปให้ได้ซักครั้ง" แน่นอน!!!
CheeZ Factory
---------------------------------------
Contact:
https://www.facebook.com/cheezfact
***************************
[CR] Indy in India! สะพายเป้ไปพักร้อนที่ Jodhpur + Mumbai
"อินเดียเหรอ? อืมมม...โอเค แต่เมิงไปเหอะ"
"อินเดียเหรอ? สวยนะ พี่ชอบมากกก"
"อินเดียเหรอ? เดี๋ยวก็รู้ หึหึ (ยิ้มที่มุมปากแล้วจากไป)"
เชื่อว่าหลายๆคนคงเคยได้ยินมาว่าอินเดียเป็นประเทศที่ไปแล้วถ้าไม่รักก็เกลียดไปเลย บางคนไปแล้วชอบม๊ากกก บางคนที่ไปแล้วยี้ๆอี๋ๆกลับมา บางคนไม่ทันจะได้ไปแค่เจอ"เค้าเล่าว่า"ก็ไม่คิดจะไปแล้ว!
[ทำไมต้องอินเดีย?] ส่วนตัวจขกท. "อินเดีย"เป็นหนึ่งในประเทศที่อยากไปมานานมากๆ แต่ด้วยราคาที่อาจจะต่ำกว่าไปประเทศอย่างญี่ปุ่นหรือประเทศอื่นๆไม่มาก (โดยเฉพาะตอนนี้ไม่ต้องขอวีซ่าให้ยุ่งยากและมีโปรดีๆมาบ่อยๆ) แถมเรื่องต่างๆที่เคยได้ยินมาเกี่ยวกับการไปเที่ยวอินเดียทำให้เกิดความรู้สึกที่ว่า"ทำไมต้องจ่ายเงินเป็นหมื่นเพื่อไปลำบาก?" ส่งผลให้ความคิดเรื่องการไปเที่ยวอินเดียตกเป็นเป้าหมายลำดับถัดๆลงไป
อาจจะเป็นเพราะเที่ยวญี่ปุ่นจนพรุนไปแล้วหรือด้วยความรู้สึกอยากไปลองอะไรใหม่ๆ (จีนก็ไปแล้ว หรือแม้แต่เนปาลก็ไปมาแล้ว)... สุดท้าย ที่หมายของการลาพักร้อนสั้นๆของจขกท.ช่วงกลางปีจึงตกที่ไปอินเดียจนได้...และคงบอกได้เลยว่านี่ก็คงเป็นแค่ครั้งแรกในอีกหลายๆครั้งที่จะตามมาของจขกท.ซะด้วยสิ!
--------------------------------------
"ทำไมต้อง Jodhpur (จ๊อดปูร์) กับ Mumbai (มุมไบ)??"
เงื่อนไขจริงๆคือ "เวลาพักร้อน" พอดีช่วงกลางปีมีเวลาว่างอยู่นิดหน่อยเลยมาคิดว่าจะไปไหนดีที่ไม่ต้องลาหลายวัน ทริป "Golden Triangle (เดลี-ไจปูร์-ทัชมาฮาล)" เหมือนจะดีแต่ออกแนวเป็นเส้นทางท่องเที่ยวซึ่งคนไปกันเยอะมากๆ ไหนๆก็ไปอินเดียครั้งแรกจขกท.อยากไปที่อะไรน่าสนใจแต่นักท่องเที่ยวยังไปไม่เยอะเท่าไหร่ นอกจากนี้ถ้าไปตามเส้นทางที่ว่าน่าจะใช้เวลาอย่างน้อย 5-6 วันซึ่งจขกท.คงไม่มีเวลามากขนาดนั้น ..."สุดท้ายเลยมาจบที่อินเดียฝั่งตะวันตก"... จริงอยู่ว่ามุมไบก็เป็นเมืองท่องเที่ยวและไปกลางปีน่าจะเจอฝนแน่ๆแต่ส่วนตัวจขกท.เห็นว่ามุมไบถ้าเทียบกับเดลีแล้วจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติยังไม่เยอะเท่า ตลอดจนย่านเมืองเก่ายังมีมีสถาปัตยกรรมที่ถือเป็น Landmark ของอินเดียหลายแห่งโดยที่แต่ละแห่งยังอยู่ไม่ไกลกัน (พอเดินได้) ส่วนเมืองจ๊อดปูร์ "เมืองสีฟ้า" เป็นเมืองอยู่ในรัฐราชสถาน อากาศออกแนวทะเลทรายนิดนึง มีความเก๋ตรงที่บ้านในเขตเมืองเก่ามักนิยมทาสีฟ้านอกจากนี้ยังมี Mehrangarh Fort (ป้อมเมห์รานการห์) ป้อมโบราณอยู่บนเขาเป็นจุดขาย...และจากการค้นคว้าจากหลายๆที่แนะนำว่าจ๊อดปูร์เป็นเมืองเหมาะแก่การถ่ายรูปมากกกก (รึเปล่า?)
ด้วยเงื่อนไขต่างๆผ่านและอยากไปอินเดียทำให้ทริป "Indy in India สะพายเป้ไปพักร้อนที่ Jodhpur + Mumbai" จึงได้เกิดขึ้นแบบงงๆประเภทจองตั๋วและทำวีซ่าไม่ถึงสองสัปดาห์ก่อนเดินทางเลยทีเดียว
แผนการเดินทาง
23 Jun. : กรุงเทพ - มุมไบ - จ๊อดปูร์ / เดินย่านเมืองเก่า ตลาดกลางเมืองและหอนาฬิกา
24 Jun. : ป้อมเมห์รานการห์ เก็บตกย่านเมืองเก่า
25 Jun. : จ๊อดปูร์ - มุมไบ / สถานีรถไฟฉัตรปติศิวาชี (Chhatrapati Shivaji Terminus) และรอบๆ
26 Jun. : เดินย่านเมืองเก่า (Colonial Era Walking Route) - Gateway of India / เดินทางกลับกรุงเทพ
ตารางเหมือนจะหลวมๆแต่พอไปจริงๆนี่แน่นมากกก เดินวันละ 6 ชั่วโมง เช้าถึงเที่ยง-บ่ายถึงค่ำ ...ช่วงอยู่เมืองจ๊อดปูร์ เที่ยงๆเดินไม่ได้เลยแดดแร๊งส์สุดๆ ร้อนแบบไม่เคยเจอมาก่อนบนโลกเหมือนโดนตากแห้งตลอดเวลา เข้าใจเลยว่าทำไมคนแถวราชาสถานถึงตัวดำ (เล่าให้แขกที่มุมไบฟังว่าไปราชาสถานมาเค้าถามว่าเอ็งบ้ารึป่าวไปหน้าร้อน!) ส่วนที่มุมไบก็เดินตากฝนเป็นส่วนใหญ่ ย่านเมืองเก่าคืออังกฤษเวอร์ชั่นโดนซอมบี้ถล่มเมือง สภาพอากาศก็อังกฤษจริงๆไม่เคยเจอที่ไหนเช่นกันฝนตกสลับแดดออกวันละ 3 เวลา
--------------------------------------
บทพิสูจน์เบื้องต้นของจขกท.กับคำถามยอดฮิตเวลาคนไทยมองอินเดีย
"อินเดียสกปรกจริงหรือ?" : คำถามสุดฮิตคนไทยหรืออาจจะคนทั่วโลกเวลาเอ่ยถึงอินเดีย บอกเลยว่าที่เมืองจ๊อดปูร์สกปรกมากก ไม่เคยต้องฝ่าดงขี้ลุยกองขยะไปถ่ายรูปมาก่อน เหม็นแบบที่ว่าจะเดินไปหาอะไรทานเจอกลิ่นเห็นถนนก็หายหิวละ แต่ถ้าพูดถึงเรื่องสถาปัตยกรรมกล้าพูดเลยว่าสวยจริงๆ...ส่วนที่มุมไบถ้าเป็นย่านแถว Fort ก็สกปรกประมาณกรุงเทพส่วนใหญ่นี่ล่ะ มีเศษๆริมถนนบ้างแต่ไม่ได้น่าเกลียดอะไร เดินได้สบายๆ ส่วนย่านการค้าก็มีตึกสูง มีอาคารสมัยใหม่ ร้านดีๆเหมือนเมืองใหญ่ทั่วไป ย่านสลัมก็ตามชื่อตามแต่จะจินตนาการเลย ..."รวย-จนห่างกันไม่กี่นาที"... ที่อินเดียความไม่เท่าเทียมกันในสังคมเห็นได้ทั่วไป คนรวยมีมาก คนเร่ร่อนก็มีเยอะ จขกท.นั่งแท็กซี่ผ่านชุมชนเห็นคนเร่ร่อนใช้ชีวิตข้างถนนพอฝนตกได้แต่นั่งหลบฝนรวมอยู่ใต้หลังคาผ้าเล็กๆโทรมๆแต่ถัดมาอีกแค่ไม่กี่นาทีก็เจอตึกระฟ้าไฮโซ รถหรูๆ คนแต่งตัวดีๆใช้ชีวิตกันเหมือนอยู่คนละโลก หรือแม้แต่บางครั้งเดินในตรอกแคบๆสกปรกๆถัดมาอีกไม่เท่าไหร่เงยหน้าเจอวังอลังการอยู่บนเขาให้ทึ่งซะอย่างงั้น
"คนอินเดียเป็นไง?" : คนอินเดียเป็นมิตรมากกกก มาอินเดียถ้าภาษาอังกฤษได้และชอบคุยยิ่งมันส์ (พูดไปส่ายหัวไปได้อารมณ์สุดๆ) จขกท.คิดว่าคนอินเดียไม่ได้น่ากลัวอะไร หลายๆรีวิวไปเที่ยวอินเดียชอบมาบอกว่าแขกเป็นอย่างงั้นอย่างงี้คือจะบอกว่าคนมีดีมีร้าย เพียงแต่ต้องเลือกที่จะไปให้ถูกที่ อยู่ให้ถูกจุด คุยให้ถูกคนที่ก็แค่นั้น มุกอำมุกหลอกตังค์นักท่องเที่ยวถ้าเราเป็นฝรั่งมาเที่ยวเมืองไทยก็คงโดนเหมือนกัน (ไม่รู้ว่าใครก๊อปใคร) ดังนั้นไม่ต้องตื่นเต้น แค่ต้องระวังตัวให้เป็น หาข้อมูลให้เยอะเข้าไว้ ..."ประเทศที่คนต้องสู้"... มุมหนึ่งที่ไม่ค่อยได้เห็นคนพูดถึงคือไม่ว่ารวยหรือจนหรืออยู่ในสถานะอะไรสิ่งที่มีเหมือนกันก็คือความขยันและความอดทนของคนอินเดีย คนอินเดียถ้ามีโอกาสได้เรียนก็ต้องขยันเรียน ถ้าไม่มีโอกาสเรียนก็ต้องขยันทำงานและหาเวลาเรียนรู้...ที่นี่เด็กที่มีโอกาสได้เรียนดีๆเวลารอรถก็นั่งทำแบบฝึกหัดหรือแม้แต่เด็กส่งน้ำตามบ้านที่ไม่ได้ไปเรียนเวลานั่งพักก็อ่านหนังสือ ผู้ใหญ่เองก็เช่นกัน ไม่รู้สิ ประเทศที่มีประชากรมากขนาดนี้ถ้าไม่ขยันไม่อดทนไม่พยายามที่จะเก่งกว่าคนอื่นก็จะมีคนที่พร้อมจะฉวยโอกาสไปได้ตลอดเวลา (ผิดกับบางประเทศแถวนี้ที่ไม่มีค่านิยมการทำงานหนัก การที่เด็กไปทำงานหารายได้เสริมหลังกลับจากโรงเรียนถือเป็นเรื่องน่าทึ่งปนน่าสงสาร ประเทศที่คนบางกลุ่มยังไม่ทันจะรวยก็เริ่มคิดจะ slow life กันแล้ว)
จากประสบการณ์สั้นๆของจขกท.ในอินเดีย
ทริปแบกเป้เที่ยวเล็กๆคนเดียวสี่วันสี่คืนในอินเดียถึงแม้จะเป็นเพียงระยะเวลาสั้นๆแต่เป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจมากๆทริปนึง ยิ่งใครชอบถ่ายภาพที่แห่งนี้คือสวรรค์ชัดๆ! คนอินเดียขึ้นกล้องมากๆและโดยมากจะโอเคเวลาถูกถ่ายรูป แต่ด้วยมารยาทบางครั้งก็ควรจะขอก่อนนะ (โดยเฉพาะเด็ก-สุภาพสตรี) การถ่ายรูปที่อินเดียหากถ่ายระดับหัวเข่าขึ้นไปจะเป็นดินแดนที่งดงามไปเลย (เพราะที่พื้นจะเละมาก) และนอกจากไปถ่ายรูปคนอินเดียแล้วนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสถึงชีวิตซุปตาร์ที่มีคนอินเดียมาขอถ่ายรูปทุกวันเช่นกัน (ถ้าเจอสาวอินเดียเอารูปคู่กับจขกท.ไปแอบอ้างว่ามีแฟนเป็นคนไทยโปรดอย่าเชื่อนะครับ!) ส่วนใครถ้าไม่ชอบทานผักบอกเลยว่าไปเมืองเล็กๆในอินเดียถึงมีเงินก็อาจอดตายได้แนะนำให้เตรียมปลากระป๋อง-ข้าวกระป๋องไปด้วย ส่วนเรื่องอื่นๆก็ขอให้สนุกไปกับชาวอินเดีย เงินที่ใช้ทริปนี้คิดไปคิดมาถูกกว่าไปเที่ยวโตเกียวตอนมีโปรนิดเดียว แต่ก็อย่างที่บอก"นั่นคือญี่ปุ่น" คนมาเที่ยวอินเดียก็เพราะอยากมาเห็นอินเดียไม่ใช่เหรอ? ...ทริปอินเดียของจขกท.คงไม่ถึงกับแบบว่ามันส์เว้ยเฮ้ย! ยอดไปเลย! แต่ทุกครั้งที่นึกถึงทริปอินเดียครั้งนี้จะมีรอยยิ้มเล็กๆพร้อมกับคำพูดที่ว่า "อินเดียต้องไปให้ได้ซักครั้ง" แน่นอน!!!
CheeZ Factory
---------------------------------------
Contact:
https://www.facebook.com/cheezfact
***************************