คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 5
คือ...คำถามนี้ตอบยากเพราะไม่แน่ใจว่าคุณจขกท.นิยามคำว่าปืนไว้อย่างไร ถ้าแค่เป็นอาวุธที่ใช้ดินปืนขับกระสุนมันก็มีมาตั้งแต่ปีค.ศ. 1200 หรือก่อนหน้านั้นซะอีก ต้นกำเนิดก็มาจากจีนครับ เรียกว่า Hand cannon ต่อมาทางยุโรปมีการพัฒนา hand cannon ให้มีขนาดเล็กลง เรียกว่า Arquebus อาวุธพวกใช้การจี้ไฟไปที่รูชนวนตรงๆ เพื่อจุดระเบิดเลย หรือไม่อาจจะมีกลไกที่กดหรือหมุนแล้วจะทำให้สายชนวนไฟไปจี้กับดินปืนได้ (เช่นพวก serpentine)
ปืนนั้นจะใช้กลไกที่เรียกว่า"ไก" (trigger) กับ "นกสับ" (lock) ในการจุดชนวนยิงกระสุน (ก็คือไกปืนรูปร่างหน้าตาแบบสมัยปัจจุบันแหละครับ) คือใช้นิ้วเหนี่ยวไกให้ปืนยิงออกไป ตอนแรกอีกด้านของไกปืนจะเกี่ยวกับนกสับที่ยึดชนวนไฟเอาไว้ (match lock) คล้ายๆ กับชนวนไฟของ Arquebus แหละ ต่อมาก็มีการพัฒนากลไกจุดชนวนด้วยวิธีอื่นเช่นใช้หินฝนกันให้เกิดประกายไฟ (wheel lock) หรือใช้หินเหล็กไฟกระทบกับเหล็กให้เกิดประกายไฟ (flint lock) ซึ่งแบบหลังนิยมใช้มากที่สุด ภาษาไทยเรียกปืนคาบศิลาเพราะตรงนกสับจะมีตัวหนีบที่ใช้ยึดหินเหล็กไฟไว้ ปืนทุกรูปแบบถูกพัฒนาต่อยอดโดยยุโรปครับ
ปืนยาวและปืนใหญ่สร้างง่ายกว่าปืนสั้นครับ เพราะการสร้างท่อเหล็กที่แข็งแรงทนแรงระเบิดของดินปืนนั้นทำได้ยาก ตอนแรกต้องใช้เหล็กหนาๆ ไปก่อน สร้างมาในรูปแบบของโอ่งหรือถัง เลยออกมาในรูปแบบของปืนใหญ่ (hand cannon นั้นผมก็มองว่าเป็นปืนใหญ่ขนาดเล็กที่ถือด้วยมือได้) ความหนาของเหล็กนี่เป็นนิ้วเลยครับ ทางจีนไม่สามารถลดขนาดปริมาณเหล็กให้น้อยลงได้ (หรือไม่สนใจลดขนาดก็ไม่รู้) แต่ทางยุโรปมีทักษะการหล่อเหล็กที่ก้าวหน้าจนหล่อท่อเหล็กที่ทนแรงระเบิดได้ ความหนาเหล็กลดลง ก็เลยออกมาในรูปของกระบอกปืน ส่วนปืนยาวทำง่ายกว่าปืนสั้นเพราะท่อที่ยาวจะทำให้กระสุนโดนขับด้วยการระเบิดของดินปืนนานกว่าและคุมทิศทางกระสุนได้ดีกว่า ทำปืนสั้นก็ได้แต่ไม่แม่นครับ
ปืนนั้นจะใช้กลไกที่เรียกว่า"ไก" (trigger) กับ "นกสับ" (lock) ในการจุดชนวนยิงกระสุน (ก็คือไกปืนรูปร่างหน้าตาแบบสมัยปัจจุบันแหละครับ) คือใช้นิ้วเหนี่ยวไกให้ปืนยิงออกไป ตอนแรกอีกด้านของไกปืนจะเกี่ยวกับนกสับที่ยึดชนวนไฟเอาไว้ (match lock) คล้ายๆ กับชนวนไฟของ Arquebus แหละ ต่อมาก็มีการพัฒนากลไกจุดชนวนด้วยวิธีอื่นเช่นใช้หินฝนกันให้เกิดประกายไฟ (wheel lock) หรือใช้หินเหล็กไฟกระทบกับเหล็กให้เกิดประกายไฟ (flint lock) ซึ่งแบบหลังนิยมใช้มากที่สุด ภาษาไทยเรียกปืนคาบศิลาเพราะตรงนกสับจะมีตัวหนีบที่ใช้ยึดหินเหล็กไฟไว้ ปืนทุกรูปแบบถูกพัฒนาต่อยอดโดยยุโรปครับ
ปืนยาวและปืนใหญ่สร้างง่ายกว่าปืนสั้นครับ เพราะการสร้างท่อเหล็กที่แข็งแรงทนแรงระเบิดของดินปืนนั้นทำได้ยาก ตอนแรกต้องใช้เหล็กหนาๆ ไปก่อน สร้างมาในรูปแบบของโอ่งหรือถัง เลยออกมาในรูปแบบของปืนใหญ่ (hand cannon นั้นผมก็มองว่าเป็นปืนใหญ่ขนาดเล็กที่ถือด้วยมือได้) ความหนาของเหล็กนี่เป็นนิ้วเลยครับ ทางจีนไม่สามารถลดขนาดปริมาณเหล็กให้น้อยลงได้ (หรือไม่สนใจลดขนาดก็ไม่รู้) แต่ทางยุโรปมีทักษะการหล่อเหล็กที่ก้าวหน้าจนหล่อท่อเหล็กที่ทนแรงระเบิดได้ ความหนาเหล็กลดลง ก็เลยออกมาในรูปของกระบอกปืน ส่วนปืนยาวทำง่ายกว่าปืนสั้นเพราะท่อที่ยาวจะทำให้กระสุนโดนขับด้วยการระเบิดของดินปืนนานกว่าและคุมทิศทางกระสุนได้ดีกว่า ทำปืนสั้นก็ได้แต่ไม่แม่นครับ
แสดงความคิดเห็น
ปืนยุคแรกเริ่มเป็นยังไงครับ ชาติไหนคิดขึ้นมาได้ก่อน