ไม่รู้รีวิวช้าไปไหมเพราะตอนไปดูหนังก็ใกล้ออกจากโรงเต็มทีแล้ว ถือว่าพูดคุยแลกเปลี่ยนกับคนที่ดูมาแล้วดีกว่า (ดังนั้นจึงเลือกที่เขียนแบบสปอยได้)

ผมคิดว่าหนังเรื่องนี้ประสบความสำเร็จในจังหวะจะโคนการเล่าเรื่องอย่างที่หนังผีควรจะมี และทำตรงนี้ได้อย่างยอดเยี่ยม ที่เพิ่มเติมขึ้นมาคือ นอกจากประเด็น "ผีๆ" แล้ว หนังยังมีประเด็นอื่นที่น่าสนใจมาเป็นแกนของเรื่อง แทบจะเป็นแกนหลักที่ขนานไปกับเรื่องผี

ครอบครัว

ครอบครัวแม่เลี้ยงเดี่ยวกับลูก ๆ ที่ขาดความรัก ความอบอุ่น ได้รับการเติมเต็มความรักจากครอบครัววอเรน ผมคิดว่าซีนที่พระเอกเล่นกีต้าร์ร้องเพลงเอลวิส นั้นเป็นซีนที่มีความหมายมาก และมาได้อย่างถูกที่ถูกเวลา จริง ๆ หนังปูเรื่องความรักในครอบครัวมาตั้งแต่แรกและมาพีคกับฉากเล่นกีต้าร์นี้ บอกตามตรงตอนที่ดูนี่ผมยิ้มเลยแถมน้ำตาซึมนิด ๆ ด้วย  รู้สึกแปลก ๆ ดีที่ฉากพีคที่สุดของหนังมาตรงกลางเรื่อง และไม่ใช่ฉากผีหลอก - -"  (่ส่วนฉากผีที่ผมหลอนสุดคือตอนที่ลูกสาวของวอเรนยืนชี้ไปที่แม่ชีแล้วถาม "แม่นั่นใครนะ?")

ผี

ผีในเรื่องนี้มีสองประเภท

1 ผีแม่ชี  จริง ๆ ไม่ใช่ผีในความหมายบ้านเราเท่าไหร่ (อ๋อผมเข้าโรงช้าไปนิดนึงนะครับ อาจจะพลาดซีนแรก ๆ ที่อาจจะกล่าวถึงที่มาที่ไปของผีแม่ชีว่าเป็นใครอะไรยังไงกันแน่) ผัวเมียวอเรนเรียกมันว่า ปีศาจ (demon) คือนี่ไม่ใช่วิญญาณคนตาย แต่เป็นเทือก ๆ ซาตานที่มาในร่างแม่ชี ผมเข้าใจว่าในวัฒนธรรมไทยไม่ค่อยมีผีประเภทนี้เท่าไหร่ คือเป็นปีศาจมาแต่แรกเลย ไม่ได้เคยเกิดมาเป็นคนพอตายปุ๊บกลายเป็นผีอะไร

เรียกว่าเป็นปีศาจอย่างเดียวกับหนังไล่ผีตระกูล the exorcist คติการไล่ผีก็ค่อนข้างแบบคาทอลิค ที่มีแบบแผนชัดเจน เทียบกับหนังผีฝรั่งอื่น ๆ ที่ไม่ได้อิงวัฒนธรรมคาทอลิค ผีมันก็มั่วซั่วไปเรื่อยล่ะนะครับ แต่อันนี้เขาค่อนข้างอิงวัฒนธรรมคาทอลิคอยู่

2 ผีคนแก่

ตอนแรกผมออกจะขมวดคิ้วนิดหนึ่งที่เห็นผีคนแก่ในวัฒนธรรมคาทอลิค (ที่หนังใช้อ้างอิง) เพราะในวัฒนธรรมคาทอลิค คนตายไปแล้วไม่น่าจะมีฤทธิ์มาหลอกหลอนอะไร แต่หนังก็เฉลยในตอนท้ายว่าเป็นเพียงวิญญาณที่ถูก ปิศาจ กักขังหน่วงเหนี่ยวไว้ไม่ให้ไปที่ชอบ ๆ

และเหตุสำคัญที่ผีคนแก่นี่ไปไม่ได้เพราะเขาเป็นคนที่ไม่ศรัทธาในพระเจ้า

3 atheist VS christian

เห็นประเด็นนี้ในหนังอยู่เหมือนกัน และน่าจะเป็นแกนที่สามของหนัง (สองแกนแรกคือ ผี +ความรักและครอบครัว) คือเรื่องความศรัทธา เราจะเห็นตัวละครที่เป็น atheist (ผู้ที่ไม่นับถือศาสนา/ไม่เชื่อพระเจ้า) ค่อนข้างจะมีความ "แห้งแล้ง" อยู่มาก ไม่ว่าจะเป็นหญิงสาวในทีมพิสูจน์ที่ไม่เชื่อเรื่องผีที่ครอบครัวนี้ประสบ (หนังไม่ได้บอกว่าเธอเป็น atheist หรือไม่ แต่พอจะอนุมานได้) ไม่เชื่อไม่พอ ยังไม่มี "ความรักและความเห็นใจในเพื่อนมนุษย์" ต่อชะตากรรมที่ครอบครัวนี้ประสบเสียอีก

atheist คนต่อมา คือผีชายแก่นั่นเอง เขากลายเป็นวิญญาณหลงทาง ที่ถูกปิศาจครอบงำไม่ให้ไปสู่ที่ชอบ

โอโห ดูหนังเรื่องนี้แล้วชะตากรรมของ atheist ช่างหดหู่จริง ๆ เทียบกับฝั่งชาวคริสต์อย่างครอบครัววอเรน ที่มีความรัก ความห่วงใย ต่อ เหยื่อ ด้วยความบริสุทธิ์ใจ

ประเด็นวิวาทะระหว่าง atheist VS christian ในสังคมฝรั่งนี่มันเป็นเรื่องเป็นราวพอสมควรนะครับ เพราะมันบานไปถึงเรื่องการเมือง กฎหมาย ฯลฯ  ว่าศาสนาควรอยู่ตรงไหน มีคดีความดัง ๆ เกิดขึ้นหลายครั้ง เช่น

- ฝ่ายที่นิยม Secular state (แนวคิดว่าด้วยการแยกศาสนาออกจากรัฐอย่างเด็ดขาด ไม่ให้รัฐสนับสนุนหรือต่อต้าน ศาสนาใด ๆ ทั้งสิ้น) เรียกร้องให้สถานที่ราชการ / สิ่งที่เกี่ยวกับรัฐ ยกเลิกสัญลักษณ์ที่เกี่ยวเนื่องกับศาสนาคริสต์

- ในรัฐหนึ่งมีคดีความว่าด้วย คู่ผัวเมียทำอาชีพขายเค้ก ไม่ยอมทำเค้กงานแต่งงานให้กับคู่แต่งงานเกย์ เพราะขัดต่อหลักศาสนาที่ตัวเองเชื่อ จนถูกฟ้องเป็นจำนวนเงินมหาศาล

- ในอีกรัฐมีเจ้าหน้าที่รัฐที่ไม่ยอมจดทะเบียนให้คู่แต่งงานเพศเดียวกัน (ทั้ง ๆ การแต่งงานเพศเดียวกัน ศาลสูงวินิจฉัย ให้สามารถทำได้ทุก ๆ รัฐแล้ว) จนเธอยอมโดนฟ้องติดคุกติดตารางไป

ดูจากคดีความต่าง ๆ ดูเหมือนว่าฝ่ายศาสนาจะเพลี่ยงพล้ำอยู่เยอะเหมือนกัน (เฉพาะกรณีกฎหมายแต่งงานเพศเดียวกันที่เป็นเรื่องใหญ่เมื่อต้นปีนี้ ฝ่ายศาสนาก็แพ้ยับเยินมาก ๆ)

ทางฝ่ายศาสนาและรวมถึงหนังเรื่องนี้ ตอบโต้กลับด้วยประเด็นที่เป็นจุดแข็งของตัวเอง

ไม่ใช่เรื่องของตรรกะ หรือเหตุผล แต่เป็น "ความรัก" และที่พึ่งพิงทางจิตใจ ที่ศาสนาจะมอบให้กับผู้คน

ผมไม่ได้เห็นด้วยกับหนังในประเด็นนี้เท่าไหร่ (ผมรู้สึกมันดูตื้นไปนิดนึงที่หนังจะทำให้ atheist แทบทุกคนในเรื่องนี้ช่างแล้งน้ำใจเหลือเกิน) แต่ยอมรับว่า วิธีการถ่ายทอดเรื่องราวทำให้เราซาบซึ้งไปกับมันได้ แม้ว่ามันจะเป็นประเด็นที่เราไม่ค่อยเห็นด้วยก็ตาม


ครับมันชักจะออกทะเลแล้ว ขอแลกเปลี่ยนเท่านี้นะครับ ^ ^