เป็นทุกข์ ยิ่งคิดยิ่งเป็นทุกข์ 😢😢

กระทู้คำถาม
สวัสดีค่ะ เราอายุ 25 ย่าง 26 ปี เราทำงานร้านซาลอน เราเป็นช่างทำผม งานของเราไม่มีเงินเดือนมีแต่ค่าคอมมิชชั่น รายได้ก็ไม่ค่อยคงที่ บางเดือนก็ได้มากบางเดือนก็ได้น้อย แต่ก่อนเราประจำสาขาอยู่ที่กรุงเทพฯ แต่ตอนนี้เราย้ายมาที่สาขาต่างจังหวัด
วันแรกที่เรามาถึงที่นี่ ก็เริ่มไม่ค่อยประทับใจกับเพื่อนร่วมงานเท่าไหร่ การแสดงออกและสีหน้าของเขา ไม่ได้ ต้อนรับเราเลย ทำงานไปได้สัก 1 อาทิตย์ เริ่มมีมาพูดกระแทก-ดันเรา พูดประชดเราต่างๆนานา เราก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า เคยไปทำอะไรให้เขาไม่พอใจหรือเปล่า เพราะอาทิตย์แรกที่เรามา เราคุยอยู่แต่กับแม่บ้าน เราไม่กล้าที่จะคุยกับใคร แล้วก็ไม่มีใครกล้าที่จะคุยกับเรา พอเราเริ่มอยู่ได้สัก 1 เดือน เราก็เริ่มปรับตัว คุยกับพี่พี่คนอื่นๆมากขึ้น บรรยากาศมันก็โอเคขึ้นนะ ตอนแรกที่ทุกคนไม่คุยกับเรา เพราะเขาคิดว่าเราหยิ่ง พอพวกเราเริ่มคุยกันมากความคุ้นเคยก็เพิ่มขึ้นเหมือนกัน เพราะผ่านไปได้สักเดือนกว่าๆ คนในร้านเริ่มมีอาการแปลกๆ ไม่ค่อยพูดกับเราเหมือนเดิม จนเราตัดสินใจถามที่คนหนึ่ง วาดเป็นอะไรกันหรือเปล่า แกเลยบอกว่า มีเพื่อนร่วมงานคนนึง ไม่ชอบเรา เอาง่ายๆเกลียดเราเลย แล้วประมาณว่าไปพูด ให้คนอื่นเกลียดเราไปด้วย เราเริ่มสังเกต เวลาที่พี่ที่ร้านหรือคนในร้านมาคุยกับเรา เพื่อนร่วมงานคนนั้นเขาจะไม่ค่อยพอใจ แล้วก็จะชอบพูดเสียงดังๆ เหมือนเรียกร้องความสนใจ หรือหาอะไรมาทำ แล้วเรียกพี่พี่กลุ่มนั้นออกมาจากเรา เพื่อให้มาสนใจตัวเธอ บางครั้งคำพูดของเพื่อนร่วมงานคนนั้น มันกระแทก-ดันจนเกือบทำให้เราฟิวส์ขาด ตอนแรกแรกเราก็ไม่ได้สนใจหรอก เราคิดซะว่า เรามาทำงานหาเงินเลี้ยงลูก ไม่ได้อยากมามีปัญหากับใคร แต่พอหลังๆมามันไม่ใช่แล้ว มันหนักขึ้นทุกวันทุกวัน จะรอได้ทะเลาะกันกับเพื่อนร่วมงานคนนั้น เราก็ระเบิดอารมณ์ออกมาเต็มที่ เพื่อนร่วมงานคนนั้นได้แต่เงียบ เขาคงไม่คิดว่าเราจะปากหมาได้ขนาดนี้ เขาเที่ยงเราไม่ทัน สุดท้ายเขาก็ได้เดินหนี ตั้งแต่วันนั้นมาเราแทบจะไม่คุยกันเลย เราไปทำงานที่ร้าน เราไม่สนใจเขา เราทำเหมือนเขาเป็นแค่ฝุ่นเป็นแค่อากาศ แต่เหมือนเขาจะจองเวรเราไม่เลิก เขาไปบอกกับคนอื่นๆว่า ที่ไม่คุยกับเราหรือที่ไม่ชอบเรา เพราะเราไปเบียดเบียนนะเขา ทั้งๆที่จริงแล้ว ตัวเขาเองต่างหากที่มีอคติกับเรา บางครั้งเราใจออกถึงไม่อยากกลับไปทำงาน ไม่อยากไปเหยียบแม้กระทั่งร้าน แต่ไม่ไปก็ไม่ได้ เพราะลูกเรายังต้องรอกินรอใช้ ทั้งจะค่าโรงเรียน ค่านู่นนี่นั่น สารพัดมากมาย เราคิดที่จะออกจากงานนี้หลายรอบแล้ว แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะไปทำงานอะไร ก็เลยต้องทน
ทน ทน และทน มันเหนื่อยมันท้อจนพูดไม่ออก หลายครั้งที่กลับมาห้องก็ต้องมานั่งร้องไห้ ทำไมเขาไม่คิดเหมือนกันว่า ที่เขามาทำงาน เขาก็ต้องมาหาเลี้ยงลูกเหมือนกัน เราก็เหมือนกันกับเขา ที่ต้องมาทำงานหาเงินเลี้ยงลูก บางครั้งที่อารมณ์เราขาดสุดๆ เราเคยคิดว่าเราจะเดินเข้าไป ซัดหน้าซักหมักสองหมัด แต่พอคิดที่จะทำจริงๆ หน้าลูกก็ลอยเข้ามาละ มันทำให้เราชะงัก และหยุดคิดได้ ไม่งั้นป่านนี้ เพื่อนร่วมงานคนนั้น คงเละ เราคงถูกไล่ออกจากงานในข้อหาทะเลาะวิวาท ตอนนี้ที่ทุกข์หนักกว่าเพื่อนร่วมงานคนนั้น คือปัญหารายรับจากที่ทำงาน ซึ่งได้น้อยมาก เพราะมันเงียบลูกค้าไม่ค่อยมี เราได้เงินเดือนแค่ 6-7 พัน ไหนจะค่าห้องเช่า ให้ลูกค่ากิน สุดท้าย 2 เดือนมาแล้ว ที่ไม่ได้ส่งเงินให้ลูกใช้ เราเครียด เรานั่งร้องไห้คนเดียว ทุกวันหลังจากที่เราเลิกงานมา จะเล่าให้พ่อแม่ฟัง ก็กลัวเขาจะเป็นห่วง เพราะอีกอย่าง พ่อแม่เราก็ดูแลลูกให้เรา ก็เลยไม่อยากจะเพิ่มภาระให้เขาอีก แล้วล่าสุด เราเป็นตาแดงและเยื่อตาอักเสบ หยุดงานมาแล้วอาทิตย์กว่า เรื่องรายรับไม่ต้องพูดถึง จะได้ถึง 3000 หรือเปล่าก็ไม่รู้ ตอนนี้ก็นั่งเหม่อเหมือนคนบ้า คิดอะไรไม่ออก รู้สึกเหมือนทางตัน พอเวลาเรามีปัญหาอะไร เหมือนมันก็โหมเข้ามาใส่เรารอบเดียว จนตอนนี้เราคิดอะไรไม่ออกแล้ว เราเครียดมาก นอนก็ไม่ค่อยหลับ แต่จะให้ทำไงได้ ก็ต้องอดทนต่อไปเรื่อยเรื่อยๆ ลูกยังรอใช้เงินกับเราอยู่ เหนื่อยก็ต้องทนท้อก็ต้องสู้!!!!
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่