[CR] ชวนแฟนนั่งรถไฟไปเที่ยวกาญจนบุรี-สังขละบุรี 4วัน3คืน กับงบ3000บาท

กระทู้รีวิว

สวัสดีค่ะะะะ ชาวพันทิปวันนี้เราชวนมาเปิดทริป “ชวนแฟนนั่งรถไฟไปเที่ยว กาญจน์ กันเถอะ” มาแชร์ประสบการณ์การเที่ยวต่างจังหวัดครั้งแรกแบบชิคๆคูลๆของเราสองคนกันค่ะ การไปของเราครั้งนี้เที่ยว กิน นอนกันรวมได้ทั้งหมด 4วัน 3คืน กับงบแค่ 3000 บาทค่าาาาา
ตุ๊วหู้ววววววไปได้ยังไง 555555555555 ไม่พูดมากละ มาเริ่มกันเลยดีกว่า

- เปิดทริป -

เช้ามืดวันที่ 22 เรากับแฟนรีบตื่นกันมากเพราะบ้านแฟนเราอยู่ไกล เเล้วต้องมารับตั๋วรถไฟฟรีที่ สถานีรถไฟธนบุรีให้ทัน ถ้าไม่ทันก็นั่นแหละค่ะ ตกรถ ได้ไปอีกทีรอบบ่ายเลย แต่เราไปทันกันค่ะ ได้รถรอบแรกคือ 7.50 น.
สถานีรถไฟธนบุรี (บางกอกน้อย) อยู่ใกล้ๆกับรพ.ศิริราช มาไม่ยากเลย รถไฟสายที่เราจะไปนี้เป็นรถไฟสาย ธนบุรี - น้ำตกค่ะ ปลายทางอยู่ที่น้ำตกไทรโยคน้อย หนึ่งวันมีแค่สองรอบเท่านั้น คือรอบ 7.50 น.และอีกรอบคือ 13.55 น.เลยค่ะ

พาลูกๆสองตัวไปเที่ยวด้วยกัน เย้เย้

ระหว่างรอรถไฟมาก็ไปซื้อข้าวเหนียวไก่ทอดมานั่งกินกัน

ด้านหน้าของสถานีรถไฟ จะมีตลาดสดตั้งอยู่ มีร้านก๋วยเตี๋ยว ร้านข้าวราดแกง ตั้งอยู่บริเวณฝั่งตรงข้ามของตลาด ตอนเช้าคึกคักมาก

สักพักรถไฟของเราก็มาแล้ว ตื่นเต้นสุดๆ

บ๊ายบายกรุงเทพขอหนีไปเที่ยวก่อนนะ

พร้อมไม่พร้อม สู้ไม่สู้

ระหว่างทางก็จะมีพ่อค้าแม่ค้ามาขายของตลอด มีก๋วยเตี๋ยวแห้ง ข้าวเหนียวหมู ผลไม้ ไข่ต้ม และอีกมากมาย แต่เราไม่ได้ซื้อเพราะตื่นเต้นกับบบรรยากาศสองข้างทางอยู่ สามชั่วโมงกว่าที่นั่งมาไม่ได้หลับเลย

ถึงแล้ว...เมืองกาญน์

เซลฟี่หน่อยย ถึงที่หมายของเราแล้ว

10.30 น.เราสองคนลงที่สถานีกาญจนบุรีนะคะ ไม่ได้ลงที่สถานีน้ำตกเพราะที่พักคืนแรกของเราอยู่ในเมือง พอเราลงจากรถไฟก็โทรหาพี่เจ้าของร้านเช่ามอเตอร์ไซค์ให้มารับเราเลยค่ะ ร้านเช่ารถชื่อร้านว่า “จ่าชา รถเช่า” มีให้เช่าทั้งรถเก๋ง และรถมอเตอร์ไซค์เลยค่ะ เราเช่ารถมอเตอร์ไซค์ click 125 ราคาวันละ 350 บาท เราเช่าหนึ่งวันค่ะ เพื่อที่จะลุยให้ทั่วเมืองกาญเลย 555555555 ทำสัญญาเสร็จ เราก็ขับเข้าไปเช็คอินที่พัก ที่พักห่างจากร้านเช่ารถไม่มาก เพราะอยู่ถนนเส้นเดียวกัน

ถึงแว้วววว ธาราราฟท์ รีสอร์ท บรรยากาศดีมาก ในส่วนของตรงนี้เป็นด้านบนค่ะ ไว้สำหรับทานเช้า เพราะที่นี่ยังเป็นอาหารด้วย ลงไปเช็คอินกันเข้าห้องพักกันเลยดีกว่า

ภายในห้องพักของเราในคืนนี้

ห้องที่เราจองอยู่บนแพค่ะ วิวแม่น้ำแคว ห้องเล็กๆไม่ใหญ่มาก แต่สบายมากมีครบทุกอย่างเลยค่ะ แต่ก่อนมาเราจองผ่านทางอโกด้า เหลือแค่ 835 บาทค่ะ สำหรับคืนนี้

วิวที่มองออกมาจากในห้องค่ะ

พักผ่อนกันเสร็จแล้ว ก็ออกมาเที่ยวกันต่อค่ะ ที่เเรกที่เราจะไปคือ สุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรัก อยู่ห่างจากที่พักไม่ไกลเลยค่ะ ใกล้มากกก แล้วอากาศตอนนั้นดีมากไม่มีแดดเลย ดีงามพระรามแปดสุดๆ

สถานที่นี้เป็นสถานที่สงบ ร่มรื่น และมีชาวต่างชาติมากกว่าคนไทย ส่วนมากจากมาเดินหาบรรพบุรุษกันค่ะ
เราเลยอยากลองเดินอ่านชื่อของทหารแต่ละท่านบ้าง 555555555555

เดินดูถ่ายรูปกันเสร็จ เราก็แว๊นไปต่อกันที่สะพานข้ามแม่น้ำแคว ซึ่งก็ไม่ไกลจากที่นี่และที่พักของเราอีกแหละค่ะ
ขับตรงขึ้นไปเรื่อยๆก็จะเจอเลยค่ะ

ถึงแล้วววววว ที่ที่ต้องมาของเมืองกาญจน์

ไม่รอช้า ลุยถ่ายรูปกันเลยค่ะะะ

ไปวันธรรมดานี่ดีจริงๆๆ คนน้อยมากมากกก

ถ่ายคู่กันหน่อยสิเธอ

หลังจากที่เราเดินถ่ายรูปกันอย่างหนักแล้ว ท้องก็ไม่เป็นใจให้เดินต่อค่ะ ต้องหาอะไรลงกระเพาะก่อนที่ลำไส้จะโจมตีกันเอง 5555555555555 เราเดินมากินข้าวมื้อเที่ยงกันที่ แพอาหารโฟลทติ้ง อยู่ใกล้ๆกับสะพานเลย

*รูปนี้เราลืมถ่ายมาค่ะ เป็นรูปของทางร้าน
ร้านนี้เป็นมีทั้งอาหารทั่วไป และ บุปเฟ่ต์อาหารนานาชาติค่ะ เหมาะกับทางกรุ๊ปทัวร์

วิวจากร้านอาหาร

หน้าตาอาหารมื้อนี้ของเรา

ปลาทับทิมราดน้ำปลา และผัดไก่เม็ดมะม่วง ตอนสั่งสั่งด้วยความหิวค่ะ และไม่คิดว่าปลาจะตัวใหญ่ขนาดนี้
กินกันจนพุงป่องเลยค่ะ แต่อาหารรสชาติพอสมควร ค่าเสียหายมื้อนี้อยู่ที่ 530 บาทค่ะ ถือว่าคุ้มมากอิ่มจริงๆ

แต่พอกินกันเสร็จก็วางแผนว่าจะไปกันต่อที่วัดถ้ำเสือ ฟ้าฝนก็เริ่มไม่เป็นใจ ฝนก็เริ่มอ่อยเราเลยตัดสินใจกลับที่พักกันก่อน พอถึงที่พักฝนก็เทลงมาเลยจ้า ตกหนักมาก ระหว่างนี้ก็นอนสิคะ พักผ่อนเอาแรง

ทำอะไรอยู่ทำไมไม่นอน คุยกับสาวหรอห๊ะะะ

เราหลับกันได้สักพัก ก็หนึ่งทุ่มแล้ว ท้องเริ่มโจมตีอีกแล้ว ต้องออกไปหาข้าวกิน อาบน้ำแต่งตัวกันเสร็จ นั่งคุยกันว่าจะไปกินที่ไหนกันดี สรุปได้ว่าไปตลาดเจเจ ตรงใกล้สถานีรถไฟเมื่อเช้าที่เราผ่านกันมา พอออกจากที่พัก ฝนนนนนน!!!! ยังไม่หยุดอีกหรออ ตกได้นานมาก แต่ก็เบาๆไม่เป็นอุปสรรคต่อการหากินของเราหรอกค่ะ 555555

ขับไปถึงตลาดเจเจ นึกว่าจะไม่มีของขายซะแล้ว ยังดีที่มีอยู่นิดนึง ก็ลงไปเดินได้ลูกชิ้นไส้กรอกมาคนละไม้สองไม้ แล้วก็โรตีใส่ไข่อันนึง 555555 แล้วก็กลับ ผ่านร้านส้มตำที่พี่ร้านเช่ามอเตออร์ไซค์เคยบอกว่าร้านนี้อร่อยมาก คนกินเยอะสุดๆ กริ๊ดดด เจอของดังของดี อ้วนกลับรถไปกินข้าวกันนนน ร้านนี้ชื่อว่า “แซ๊บ แซ่บ” พอเดินเข้ามาคนเยอะมากเต็มทุกโต๊ะ แต่ก็ยังมีที่สำหรับเรา เย้เย้ ไม่นกค่ะมื้อนี้ เมนูมาก็สั่งเลยย ได้มา3อย่าง ต้มแซ่บกระดูกอ่อน ส้มตำไทยใส่ปู และยำหมูยอ
ทั้ง3อย่างนี้บอกเลยไม่ธรรมดา เผ็ดแบบสุดๆ แต่อร่อยมากเผ็ดยังไงก็ต้องกิน กินไม่หยุดเลยค่ะเงยหน้ามองกันอีกทีร้องไห้หน้าแดงกันทั้งคู่ 5555555555 แต่อาหารร้านนี้อร่อยจริงๆรับประกันว่าต้องมาโดนกันค่ะ

หน้าตาอาหารอีกมื้อของเรา น่ากินใช่ไหมล่ะ ชิมิชิมิ

ค่าเสียหายมื้อดึกของเรา 352 บาท ว้าววววว ตากฝนกันมาทั้งวัน ขอแวะเข้าเซเว่นซื้อยาและขนมนมเนยหน่อยล่ะกัน หมดไปซะ 129 บาท เข้าเซเว่นทีไรเป็นแบบนี้ทุกที

แล้วก็กลับเข้าที่พัก หมดไปอีกวันของเมืองกาญจน์

เช้าวันที่สอง 6.00 น. ปลุกแฟนไปดูบรรยากาศตอนเช้า สรุปคือ “ เธอไปเถอะ เค้าขอนอนก่อน” และมาบอกว่าเดี๋ยวตื่นมาดูเป็นเพื่อน ไปเองก็ได้เชอะ หยิบกล้องมาแล้วเดินออกมาแต่ละห้องยังไม่มีใครตื่นเลย ยกเว้นเรากับพี่เจ้าของรีสอร์ท พี่เขาบอกว่า น้องลองเดินไปดูหลังรีสอร์ทสิ เราก็เดินไปจนถึง โอ้โหหหห สวยมากก หมอก อากาศ ทุกอย่างคือสวยไปหมด

ลองเอาเท้าจุ่มน้ำหน่อยล่ะกัน เย็นแค่ไหน

ถ่ายเองก็ได้ แฟนไม่ตื่นมาถ่ายให้ 555555

ลองเดินขึ้นไปดูข้างบนบ้างดีกว่าาาา

ส่วนตรงนี้เป็นโต๊ะสำหรับคนที่มากินข้าวกับทางรีสอร์ทค่ะ

ที่พักที่นี่ถือว่าถูกมากมีครบทุกอย่าง และยังได้บรรยากาศดีๆอีกด้วย อีกอย่างอยู่ใกล้ที่เที่ยวด้วย สรุปโดยรวมคือผ่านค่ะ สำหรับ ธาราราฟท์ รีอร์ท กาญจนบุรี

กลับเข้าห้องไปชวนแฟนมาถ่ายรูป นางก็ยังคงไม่ตื่นเช่นเคย จนเอารูปไปอวดเท่านั้นแหละค่ะ ตื่นเลย55555555 เสียใจด้วยเราจะนอนต่อแล้ว 555555555 จน 9.00 น. เราตื่น แฟนตื่นอาบน้ำเรียบร้อย เราก็อาบน้ำแต่งตัว ไปถ่ายรูปให้เขา เดี๋ยวจะเกิดการน้อยใจ