ว่าด้วย "การใช้ทุน" ของบุคลากรทางการแพทย์ ขึ้นกับดวงเท่านั้น ??

ในแต่ละปีมีบัณฑิตจบใหม่จำนวนหลายพันคน ซึ่งหากใครเลือกใช้ทุน คุณต้องมากับ "ด ว ง" เท่านั้น
>>> ไม่ว่าคุณจะ เรียนจบมาด้วยเกรดเฉลี่ยเท่าไร เกรดนิยม หรือ เกียรตินิยม เมื่อคุณต้องจับฉลากใช้ทุน สิ่งเหล่านี้กลับไม่ได้มีความหมายกับตัวคุณเลย สำหรับความคิดเห็นส่วนตัวนั้น ก็คิดว่าโอเค ในจุดนี้ประเด็น เกรดเฉลี่ย (ขอออกตัวก่อนนะคะว่า จขกท จบเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง) เพราะเกรดไม่ได้บอกว่าคุณจะทำงานได้ดี ในเมื่อสอบใบประกอบวิชาชีพได้ผ่าน ไม่ว่าคุณจะเกรดเฉลี่ยเท่าไร แต่อย่า'น้อย มันก็แสดงให้เห็นว่า ทุกคนที่ผ่าน ได้ผ่านเกณฑ์มาตรฐานขั้นต่ำที่วิชาชีพนั้นๆกำหนดไว้แล้ว เหมาะสมที่จะทำงานในวิชาชีพนั้นๆเท่ากันหมด
>>> แต่สิ่งที่สำคัญกว่าเกรดเฉลี่ยตอนใช้คุณ คือ ดวง คุณต้องตระเวนขอพร บนบานสิ่งศักสิทธิ์ทั้งหลายที่คุณนับถือ เพื่อที่จะได้จับฉลากใช้ทุนได้ดังใจที่คุณหวัง พรหมลิขิตจะชักพาคุณไปเจอใคร ไปอยู่ที่ไหน ฟ้าเท่านั้นที่เป็นคนลิขิต ชีวิตคุณตอนจับฉลาก
>>> เข้าเรื่องกันดีกว่า คุณเคยทำงานในโรงพยาบาลมั้ย หากเคยทำหรือทำงานอยู่ ในแต่ละปี คุณเห็นบุคคลในองค์กรที่คุณทำอยู่ย้ายกลับบ้านเกิดมากแค่ไหน ก่อนอื่นต้องขอบอกว่า จขกท. ไม่ได้เลือกใช้ทุน จึงไม่รู้สึกถึงอารมณ์ ณ ขณะนั้น ว่าตื่นเต้น ระทึก หรือเสียใจเพียงไร เพราะการที่หยิบฉลากใช้ทุนไม่ได้ มันหมายถึงการไม่ได้เป็นข้าราชการ ซึ่งหลายๆคนแบกความหวังของพ่อแม่เอาไว้ และ จขกท. ก็ไม่ได้ทำงานในโรงพยาบาลเช่นกัน แต่เนื่องจากบ้านของ จขกท.อยู่ชนบท ใน2 ปีที่ผ่านมา มีบุคลากรทางการแพทย์จบใหม่มาใช้ทุนที่อำเภอที่จขกท. อยู่ ในแต่ละปี ทั้งสองคนก็ขอย้ายกลับไปทำงาน ณ บ้านเกิดของตนเอง ปีหน้าก็ต้องมีคนเข้ามาทำงานใหม่
>>>อยากถามว่า ทำไม ทางกระทรวงสาธารณสุข ไม่กำหนดเเนวทางในการจับฉลากใช้ทุน แบบสำนึกรักบ้านเกิด กลับไปทำงานยังบ้านเกิดของตัวเอง กลับไปพัฒนาองค์กรที่บ้านเกิดของตัวเองให้ก้าวหน้า โดยการให้ผู้ที่มีภูมิลำเนาบ้านเกิดสามารถเลือกใช้ทุน ในจังหวัดบ้านเกิดของตนเองก่อนบุคคลต่างถิ่น
>>>ยกตัวอย่างเข่น จังหวัดพัทลุง อ.เมือง ต้องการ 1 ตำแหน่ง มีผู้สมัคร 4 คน โดย 2 คนแรกมีภูมิลำเนาอยู่ที่จังหวัดพัทลุง ส่วน 2 คนหลังไม่ได้อยู่พัทลุง ดังนั้นบุคคลที่มีโอกาสไปใช้ทุนที่พัทลุง คือ 2 คนแรก แต่ต้องการเพียงตำแหน่งเดียว 2 คนนี้ก็หยิบฉลากเอา ใครได้คะแนนมากกว่าคนนั้นก็ได้ไปใช้ทุน
>>>ข้อเสียของการที่ได้บุคคลอื่นมาทำงานในที่ที่ไม่ใช่บ้านเกิดตนเองคือการโยกย้าย แต่ละปีมีบุคคลโยกย้ายสถานที่ทำงานมากเท่าไร เสียเวลาในการฝึกเริ่มงานกี่ครั้ง ในการที่จะรับคนใหม่ๆเข้ามาทำงาน ไม่กี่ปีก็ย้ายออกแล้วต้องฝึกใหม่ องค์กรเสียโอกาสในการพัฒนาความเจริญก้าวหน้าหรือเปล่า ส่วนตัวบุคคลเองก็ต้องไปเริ่มกับที่ใหม่ๆ โอกาสในการสร้างความมั่นคงให้กับตัวเองก็ช้ากว่าคนอื่นๆ
"ขอบคุณทุกท่านที่อ่านมาจนถึงจุดนี้ แต่ละท่านมีความคิดเห็นอย่างไรกันบ้างคะ"
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่