ตอนนี้ทุกขใจมากคะ ไม่รู้จะพึ่งใครคะ จะปรึกษาใครได้คะ!!!
ขอเล่าเหตุการณ์ก่อนน่ะคะ เมื่อวันที่22/06/59. เวลาโดยประมาณ5โมงครึ่ง ไม่เกิน6โมง
ดิฉันเลิกงานและกลับจากที่ทำงานมาถึงหน้าปากซอยบ้าน (ปกติแล้วใช้เวลาเดินทางไม่เกิน10 นาที เพราะบ้านอยู่ใกล้ที่ทำงาน). ก็ลงจากสองแถวและเดินเข้าปากซอยบ้านปกติ มีป้าที่ขายของหน้าปากซอยเรียกและบอกว่า "น้องชายโดนฟัน มือนี่ห้อยเลย" ตอนแรกเราเองก็ยังไม่เชื่อเต็มร้อย ชั่งใจก่อน ฟังหูไว้หู
แต่...เจอพ่อเพื่อนคะ ท่านบอกว่าเป็นน้องชายเรา ที่โดนฟันจริงๆ ตรงหน้ามินิบิ๊กซีปากซอยบ้าน เราพยายามรวมสติ รีบโทรหาแม่ หาพ่อ ท่านบอกรู้เรื่องแล้ว
ท่านไปรับเราอยู่ที่ทำงาน เราเองรีบไปที่ทำงานและนั่งรถแท็กซี่ ไปยังโรงพยาบาลศิริราชทันที โดยที่ให้พ่อไปแจ้งความคะ
***สภาพที่เราเห็นน้องชายตอนแรก มือและหัวไหล่ถึงสบัก ถูกพันแผลไว้ นอนหายใจพงาบๆ โดยมีเครื่องช่วยหายใจช่วยอยู่"
ในใจตอนนั้นตกใจ. และสั่นทั้งตัว แต่บอกตัวเองว่าร้องไห้ไม่ได้ ถ้าเราไม่เข้มแข็ง ร้องไห้ ใครจะดูแม่ ดูน้อง
"หยิบมือถือขึ้นมาถ่ายสภาพน้องชายตอนนั้น แต่คุณหมอท่านให้ลบทิ้ง เพราะผิดกฏหมายโรงพยาบาล เราก็ลบไป" หลังจากนั้นก็วิ่งวุ่นทำเรื่องในโรงบาลให้น้องชายได้ผ่าตัด ที่จำได้คร่าวๆ วิ่งไปอีกตึกช่องทำเรื่องเป็นผู้ป่วยใน ช่องจ่ายเงิน ตรงช่องจ่ายเงินจำได้ดีเลยคะ เพราะตังที่มีในกระเป๋าไม่พอ ต้องวิ่งกลับใปตึกอุบัติเหตุเพื่อเอาเงินที่แม่ไปจ่าย (น้องชายใช้บัตร30 โรงพยาบาลบางกรวย) และวิ่งไปช่องจ่ายยาและเอายามาให้คุณพยาบาลที่ตึกอุบัติติเหตุอีกที โดยที่คุณหมอนำตัวน้องชายไปนอนที่ห้องผ่าตัดเรียบร้อยแล้ว
ก่อนจะทำเรื่องผ่า คุณหมอบอกจุดสำคัญที่สุดใหญ่ๆ คือเส้นเลือดใหญ่ที่มือขาดและเข้ากระดูก
ที่สบักและหลังกล้ามเนื้อขาด กระดูกขาด
ในตอนแรกคุณหมอบอกเคสหนัก ใช้เวลาผ่า5-6 ชั่วโมง ประมาณ4-5ทุ่มพยาบาลแนะนำให้กลับบ้านก่อน เพราะยังผ่าไม่เสร็จ หลังผ่าเสร็จคนไข้ก็ยังไม่ฟื้น
หลับเพราะฤทธิ์ยา เราเลยตัดสินใจกลับและทิ้งเบอร์ไว้หลายเบอร์
ครั้งนี้เป็นการตั้งกระทู้ครั้งแรก เพราะมีเรื่องทุกข์ใจ หากใช้ภาษาไทย หรือคำพูดใดๆผิดต้องขออภัย.
.
.
ขอตัวเช็ดตัวให้คนป่วยสักครู่น่ะคะ เดี๋ยวมาเล่าต่อ
น้องชายรุมโดนฟัน ข้อมือเกือบขาด เราสามารถเอาผิดทางกฏหมายข้อหาอะไรได้บ้าง และแนวทางการรักษาควรปฏิบัติอย่างไรดี
ขอเล่าเหตุการณ์ก่อนน่ะคะ เมื่อวันที่22/06/59. เวลาโดยประมาณ5โมงครึ่ง ไม่เกิน6โมง
ดิฉันเลิกงานและกลับจากที่ทำงานมาถึงหน้าปากซอยบ้าน (ปกติแล้วใช้เวลาเดินทางไม่เกิน10 นาที เพราะบ้านอยู่ใกล้ที่ทำงาน). ก็ลงจากสองแถวและเดินเข้าปากซอยบ้านปกติ มีป้าที่ขายของหน้าปากซอยเรียกและบอกว่า "น้องชายโดนฟัน มือนี่ห้อยเลย" ตอนแรกเราเองก็ยังไม่เชื่อเต็มร้อย ชั่งใจก่อน ฟังหูไว้หู
แต่...เจอพ่อเพื่อนคะ ท่านบอกว่าเป็นน้องชายเรา ที่โดนฟันจริงๆ ตรงหน้ามินิบิ๊กซีปากซอยบ้าน เราพยายามรวมสติ รีบโทรหาแม่ หาพ่อ ท่านบอกรู้เรื่องแล้ว
ท่านไปรับเราอยู่ที่ทำงาน เราเองรีบไปที่ทำงานและนั่งรถแท็กซี่ ไปยังโรงพยาบาลศิริราชทันที โดยที่ให้พ่อไปแจ้งความคะ
***สภาพที่เราเห็นน้องชายตอนแรก มือและหัวไหล่ถึงสบัก ถูกพันแผลไว้ นอนหายใจพงาบๆ โดยมีเครื่องช่วยหายใจช่วยอยู่"
ในใจตอนนั้นตกใจ. และสั่นทั้งตัว แต่บอกตัวเองว่าร้องไห้ไม่ได้ ถ้าเราไม่เข้มแข็ง ร้องไห้ ใครจะดูแม่ ดูน้อง
"หยิบมือถือขึ้นมาถ่ายสภาพน้องชายตอนนั้น แต่คุณหมอท่านให้ลบทิ้ง เพราะผิดกฏหมายโรงพยาบาล เราก็ลบไป" หลังจากนั้นก็วิ่งวุ่นทำเรื่องในโรงบาลให้น้องชายได้ผ่าตัด ที่จำได้คร่าวๆ วิ่งไปอีกตึกช่องทำเรื่องเป็นผู้ป่วยใน ช่องจ่ายเงิน ตรงช่องจ่ายเงินจำได้ดีเลยคะ เพราะตังที่มีในกระเป๋าไม่พอ ต้องวิ่งกลับใปตึกอุบัติเหตุเพื่อเอาเงินที่แม่ไปจ่าย (น้องชายใช้บัตร30 โรงพยาบาลบางกรวย) และวิ่งไปช่องจ่ายยาและเอายามาให้คุณพยาบาลที่ตึกอุบัติติเหตุอีกที โดยที่คุณหมอนำตัวน้องชายไปนอนที่ห้องผ่าตัดเรียบร้อยแล้ว
ก่อนจะทำเรื่องผ่า คุณหมอบอกจุดสำคัญที่สุดใหญ่ๆ คือเส้นเลือดใหญ่ที่มือขาดและเข้ากระดูก
ที่สบักและหลังกล้ามเนื้อขาด กระดูกขาด
ในตอนแรกคุณหมอบอกเคสหนัก ใช้เวลาผ่า5-6 ชั่วโมง ประมาณ4-5ทุ่มพยาบาลแนะนำให้กลับบ้านก่อน เพราะยังผ่าไม่เสร็จ หลังผ่าเสร็จคนไข้ก็ยังไม่ฟื้น
หลับเพราะฤทธิ์ยา เราเลยตัดสินใจกลับและทิ้งเบอร์ไว้หลายเบอร์
ครั้งนี้เป็นการตั้งกระทู้ครั้งแรก เพราะมีเรื่องทุกข์ใจ หากใช้ภาษาไทย หรือคำพูดใดๆผิดต้องขออภัย.
.
.
ขอตัวเช็ดตัวให้คนป่วยสักครู่น่ะคะ เดี๋ยวมาเล่าต่อ