เหตุเกิดเมื่อวานค่ะ วันศุกร์ที่ 1 ที่ผ่านมานี้เอง ที่สถานีรถไฟแอร์พอร์ตลิ้งค์ สถานี หัวหมาก
เราได้นำรถเข้าจอดตามช่องที่สถานีจัดเตรียมไว้ให้ ตั้งแต่ช่วงเช้าค่ะ
ปกติเวลาเลิกงาน เราจะถึงสถานีประมาณ 6 โมงทุกวัน
ต้องค่อยๆเข็นรถที่จอดขวางทุกคัน
ทุกวันก็ไม่มีปัญหา จนถึงเมื่อวาน วันศุกร์แห่งชาติ!!!
เรามาถึงสถานีประมาณเกือบ 2 ทุ่ม ท่ามกลางฝนที่เริ่มตกเป็นระยะๆ
พยายามดันรถคันนึงที่จอดขวางเราอยู่ เอ๊ะ ไม่กระดิกเลยแม้แต่นิดเดียว
เลยก้มมองที่ล้อรถ เผื่อมีก้อนหินดันล้อไว้ ก็ไม่มีสักอัน
เลยเดินมาดูที่ด้านหน้ารถ เห็นแผ่นกระดาษแปะที่หน้ากระจกก็ถึงบางอ้อ รถจอดขวางโดยเข้าเกียร์ P ทิ้งไว้ค่ะ
"จอดรถแบบนี้ ถ้าเป็นพี่ พี่จะออกอย่างไร"
มีคนก่อนหน้าเราเขียนโน้ตต่อว่าทิ้งเอาไว้แบบสุภาพเบาๆ ขอลงภาพรถที่จอดขวาง เซ็นเซอร์ทะเบียนเรียบร้อย ใครรู้จักเจ้าของรถขอให้ติดต่อหลังไมค์มาขอโทษเราด้วยนะ โกรธอยู่ โกรธมากกกกก

ทำอะไรไม่ถูกค่ะ โทรเรียกแฟนให้มาช่วยหน่อย ตามภาพคือแฟนกำลังอ่านกระดาษหน้ารถ
วินาทีนั้น ทำได้แค่เรียกเจ้าหน้าที่ที่สถานี ขอลำดับเหตุการณ์ดังนี้ค่ะ
1. เจ้าหน้าที่ของสถานีหัวหมากมาถึง มีเจ้าหน้าที่ผู้หญิง 1 คน และผู้ชายในชุดซาฟารีอีก 1 คน บอกเราว่า "ไม่สามารถดำเนินการเคลื่อนย้ายรถได้ เพราะเกรงว่ารถที่ถูกเคลื่อนย้ายจะเกิดความเสียหาย"
2. แฟนเราถามว่า ถ้ามีแม่แรงยก หรืออุปกรณ์ที่พอจะเคลื่อนย้ายได้ไหม เจ้าหน้าที่ยืนยันว่า ไม่มีอุปกรณ์ในการขนย้าย และตัวเจ้าหน้าที่เอง เพิ่งย้ายมาจากสถานีทับช้าง เคยเกิดเหตุแบบนี้หลายครั้งแล้ว ทางสถานีสามารถทำได้เพียงขึ้นป้ายเตือนเท่านั้น ตามภาพคือการแก้ปัญหาของการรถไฟ
และย้ำว่ามีเหตุการณ์แบบนี้ทุกวัน ทางออกก็คือ ยืนรอเจ้าของรถที่จอดขวางมา หรือ ให้เราจอดรถทิ้งไว้ กลับบ้านไปก่อน เที่ยงคืนค่อยกลับมาเอารถ หรืออาจจะต้องเป็นอีกวัน เพราะบางคนก็จอดรถทิ้งข้ามคืน ทั้งนี้ สถานที่ค่อนข้างเปลี่ยวและมืด เรากลัวรถเราจะได้รับความเสียหาย ดังนั้นเราไม่ทิ้งรถเราไว้แน่ๆ
3. เราโทรไปหากู้ภัย และ จส 100 เพื่อให้ช่วยยกรถ ได้รับคำตอบเหมือนกันว่า "ไม่สามารถยกให้ได้ เป็นหน้าทีของเจ้าหน้าที่ประจำสถานีหัวหมาก และการรถไฟที่ต้องจัดการ"
4. เจ้าหน้าที่สถานีบอกกับเราว่า เป็นที่จอดรถฟรี ใครจะจอดอย่างไรตรงไหนก็ได้ ต่อให้กั้นกรวยขวาง คนก็ยกกรวยออกอยู่ดี หรือขึ้นป้ายอย่าเข้าเกียร์ P คนก็ยังเข้าเกียร์ P เช่นกัน ไม่สามารถทำอะไรได้ ไม่มีบริการเคลื่อนย้ายรถ
และยืนยันคำเดิมว่าเราต้องรอต่อไปเรื่อยๆจนกว่าเจ้าของรถจะมาแบบไม่มีกำหนดที่แน่นอน รถเราจอดตรงกลาง โดยประกบทุกทาง ยังไงก็ออกไม่ได้ ขออนุญาตลงภาพแบบไม่เผยป้ายทะเบียน
รถคู่กรณีจอดพับกระจกข้างเรียบร้อยเชียว แต่ทำไมไม่เข้าเกียร์ N ล่ะจ๊ะ
5. เรายืนรอจนถึง 3 ทุ่ม คู่กรณีอีกคน ที่โดนจอดรถขวางเหมือนกัน เดินทางมาถึง พร้อมบ่นว่ายืนรอกว่า 2 ชม แล้ว เจ้าของรถก็ยังไม่มาเคลื่อนย้ายเลย
6. พี่อีกคนเสนอว่า ช่วยกันดันรถได้ไหม เผื่อแรงคน 4 คน ( เรา แฟนเรา พี่คู่กรณี และเจ้าหน้าที่ที่ใส่ชุดซาฟารี) จะทำให้ตัวรถขยับได้
เราได้รับคำตอบจากเจ้าหน้าที่ชุดซาฟารีว่า "ผมไม่สามารถแตะต้องตัวรถได้" พร้อมทั้งยกมือถือขึ้นมาถ่ายรูปเรา แฟนเรา และพี่อีกคน และอัดวีดีโอ
เจ้าหน้าที่บอกว่า ผมต้องถ่ายภาพพี่ และอัดวีดีโอ เพราะพี่พยายามเคลื่อนย้ายโดยไม่ได้รับอนุญาติ อาจก่อให้เกิดความเสียหายกับรถที่จอดขวาง"
โดยที่เราไม่ได้อนุญาตให้ถ่ายเลย เราสวนทันทีว่า "เราต่างหากนะ ที่เป็นผู้เสียหาย"
อารมณ์ตอนนั้น ทั้งโกรธ โกรธรถที่จอดขวาง
ทั้งโมโหเจ้าหน้าที่ เหมือนผลักความผิดมาที่เรา อยู่ๆยกมือถืออัดคลิป แบบนี้ก็ได้เหรอ !!!
เราไม่ได้หาอะไรมาทุบรถสักหน่อย มีแต่ 2 มือที่จะดันรถแค่นั้น!!!
ทั้งสิ้นหวัง นี่ก็จะ 4 ทุ่มแล้ว ไม่มีวี่แววเจ้าของรถว่าจะกลับมา
แถมฝนก็กระหน่ำลงมาหนักเรื่อยๆ เราพยายามยืนหลบแล้ว แต่มีละอองน้ำฝนสาดมาโดนเป็นระยะๆ
คำตอบที่เราได้รับ แนวทางในการแก้ไขปัญหาของเจ้าหน้าที่คือ "จงรอ รอต่อไป ใจเย็นๆ นะ ทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้ และอย่าแตะรถ"
7. มีการเถียงกับเจ้าหน้าที่คนดังกล่าว โดยบอกว่า เขาไม่มีอำนาจตัดสินใจ หากอยากเคลื่อนย้าย ต้องไปคุยกับนายสถานีเอง
8. เรายอมรับว่าเราโมโห ส่วนแฟนเรา สติหลุดเรียบร้อย เพราะมันดึกมากแล้ว และไม่มีทีท่าว่าจะต้องรอถึงกี่โมง
ตัวแฟนเราต้องทำงานที่ต่างจังหวัดแต่เช้า ส่วนเรา ก็มีค่าใช้จ่ายในการจ้างพี่เลี้ยงล่วงเวลาเพื่อดูแลลูก
และต้องรีบกลับบ้านเพราะเลยเวลามามากแล้วด้วย
แฟนเราเกิดความคิดที่จะทุบกระจกดีมั้ย เพื่อดันเกียร์กลับ คิดราคาค่ากระจก หรือหาอุปกรณ์เคลื่อนย้าย ซึ่งทุกอย่าง ต้องทำกันเอง เจ้าหน้าที่ก็ยังคงอัดวีดีโอต่อไป โดยไม่คิดจะช่วยเหลืออะไรเลย ฝนก็สาดลงมาเรื่อยๆ เปียกไม่เยอะมาก ได้แต่คิดในใจ ทำกรรมอะไรไว้ ทำไมต้องมาเจออะไรแบบนี้
ความคิดตอนนั้นคือ พยายามหาคนที่ลากรถได้ เพื่อเคลื่อนย้าย หรือแย่ที่สุดคือทุบกระจก ยอมรับค่าเสียหายจากกระจกแตก แต่เราก็จะเรียกความเสียหายและค่าเสียเวลาจากการจอดรถแบบ "ไร้สติ" อย่างนี้เช่นกัน
9. เวลาผ่านมาจนเกือบ 4 ทุ่ม ความอดทนเริ่มหมด ฝนตกหนักขึ้น แฟนเรากับคู่กรณีอีกคนเดินขึ้นไปที่สถานี และมีเจ้าหน้าที่ 4 คนเดินลงมา พร้อมอุปกรณ์เคลื่อนย้ายรถ (ที่บอกว่า ไม่เคยมี ในตอนแรก) แต่ตอนนี้มีแล้ว
10. เจ้าหน้าที่พยายามเคลื่อนย้ายให้ แต่ก็ยังไม่สามารถย้ายได้ เพราะว่าอุปกรณ์มีไม่พอ รถรุ่นนี้มีคาน 2 ด้าน ต้องใช้ 2 ตัว แต่เรามีอุปกรณ์แค่ตัวเดียว แต่ก็ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ ที่เปลี่ยนใจลงมาช่วยเรา ขณะนั้นเวลาก็เกือบ 4 ทุ่มแล้ว

รอจนกระดาษเปื่อยม้วนตัวเรียบร้อย
11. เหมือนสวรรค์โปรด แท็กซี่ที่จอดข้างๆมาพอดี รถพี่คู่กรณีจึงเลื่อนออกได้ โดยการค่อยๆขยับทีละนิด จนผ่านได้ พอรถพี่เค้าออกได้ เราก็ค่อยๆหักออกมาได้เช่นกัน
เราตั้งกระทู้นี้ เพราะไม่อยากให้คนอื่นต้องมาเจอแบบที่เราเจอ
ทั้งเสียเวลา เสียสุขภาพกาย (จากการตากฝน) และสุขภาพจิต
ควรจะมีการดำเนินการกับมนุษย์ขี้ลืม ไร้สติแบบนี้บ้างไหม ??? เรียกค่าปรับ เคลื่อนย้าย ล็อคล้อ หรืออื่นๆ
ในเมื่อเจ้าหน้าที่เป็นคนบอกเองว่าปัญหานี้เกิดขึ้นทุกวัน วันละหลายๆราย เหตุใดจึงไม่มีการแก้ไขที่ดีกว่านี้ ???
ใครเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้บ้าง และมีทางออกอย่างไร นอกจากการรอ หรือจะต้องติดต่อหน่วยงานใดที่สามารถช่วยเหลือได้เวลาเกิดเหตุแบบนี้
เราพยายามใจเย็นและรอจนถึงที่สุดแล้ว
ถ้ามีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก เราไม่รู้จะเย็นแบบนี้อีกได้ไหม
ขอบคุณที่อ่านจนจบค่ะ
จะทำอย่างไรดี เมื่อเจอรถจอดขวาง และเจ้าหน้าที่สั่งให้ "รอ" ไปเรื่อยๆ
เราได้นำรถเข้าจอดตามช่องที่สถานีจัดเตรียมไว้ให้ ตั้งแต่ช่วงเช้าค่ะ
ปกติเวลาเลิกงาน เราจะถึงสถานีประมาณ 6 โมงทุกวัน
ต้องค่อยๆเข็นรถที่จอดขวางทุกคัน
ทุกวันก็ไม่มีปัญหา จนถึงเมื่อวาน วันศุกร์แห่งชาติ!!!
เรามาถึงสถานีประมาณเกือบ 2 ทุ่ม ท่ามกลางฝนที่เริ่มตกเป็นระยะๆ
พยายามดันรถคันนึงที่จอดขวางเราอยู่ เอ๊ะ ไม่กระดิกเลยแม้แต่นิดเดียว
เลยก้มมองที่ล้อรถ เผื่อมีก้อนหินดันล้อไว้ ก็ไม่มีสักอัน
เลยเดินมาดูที่ด้านหน้ารถ เห็นแผ่นกระดาษแปะที่หน้ากระจกก็ถึงบางอ้อ รถจอดขวางโดยเข้าเกียร์ P ทิ้งไว้ค่ะ
"จอดรถแบบนี้ ถ้าเป็นพี่ พี่จะออกอย่างไร"
มีคนก่อนหน้าเราเขียนโน้ตต่อว่าทิ้งเอาไว้แบบสุภาพเบาๆ ขอลงภาพรถที่จอดขวาง เซ็นเซอร์ทะเบียนเรียบร้อย ใครรู้จักเจ้าของรถขอให้ติดต่อหลังไมค์มาขอโทษเราด้วยนะ โกรธอยู่ โกรธมากกกกก
ทำอะไรไม่ถูกค่ะ โทรเรียกแฟนให้มาช่วยหน่อย ตามภาพคือแฟนกำลังอ่านกระดาษหน้ารถ
วินาทีนั้น ทำได้แค่เรียกเจ้าหน้าที่ที่สถานี ขอลำดับเหตุการณ์ดังนี้ค่ะ
1. เจ้าหน้าที่ของสถานีหัวหมากมาถึง มีเจ้าหน้าที่ผู้หญิง 1 คน และผู้ชายในชุดซาฟารีอีก 1 คน บอกเราว่า "ไม่สามารถดำเนินการเคลื่อนย้ายรถได้ เพราะเกรงว่ารถที่ถูกเคลื่อนย้ายจะเกิดความเสียหาย"
2. แฟนเราถามว่า ถ้ามีแม่แรงยก หรืออุปกรณ์ที่พอจะเคลื่อนย้ายได้ไหม เจ้าหน้าที่ยืนยันว่า ไม่มีอุปกรณ์ในการขนย้าย และตัวเจ้าหน้าที่เอง เพิ่งย้ายมาจากสถานีทับช้าง เคยเกิดเหตุแบบนี้หลายครั้งแล้ว ทางสถานีสามารถทำได้เพียงขึ้นป้ายเตือนเท่านั้น ตามภาพคือการแก้ปัญหาของการรถไฟ
และย้ำว่ามีเหตุการณ์แบบนี้ทุกวัน ทางออกก็คือ ยืนรอเจ้าของรถที่จอดขวางมา หรือ ให้เราจอดรถทิ้งไว้ กลับบ้านไปก่อน เที่ยงคืนค่อยกลับมาเอารถ หรืออาจจะต้องเป็นอีกวัน เพราะบางคนก็จอดรถทิ้งข้ามคืน ทั้งนี้ สถานที่ค่อนข้างเปลี่ยวและมืด เรากลัวรถเราจะได้รับความเสียหาย ดังนั้นเราไม่ทิ้งรถเราไว้แน่ๆ
3. เราโทรไปหากู้ภัย และ จส 100 เพื่อให้ช่วยยกรถ ได้รับคำตอบเหมือนกันว่า "ไม่สามารถยกให้ได้ เป็นหน้าทีของเจ้าหน้าที่ประจำสถานีหัวหมาก และการรถไฟที่ต้องจัดการ"
4. เจ้าหน้าที่สถานีบอกกับเราว่า เป็นที่จอดรถฟรี ใครจะจอดอย่างไรตรงไหนก็ได้ ต่อให้กั้นกรวยขวาง คนก็ยกกรวยออกอยู่ดี หรือขึ้นป้ายอย่าเข้าเกียร์ P คนก็ยังเข้าเกียร์ P เช่นกัน ไม่สามารถทำอะไรได้ ไม่มีบริการเคลื่อนย้ายรถ
และยืนยันคำเดิมว่าเราต้องรอต่อไปเรื่อยๆจนกว่าเจ้าของรถจะมาแบบไม่มีกำหนดที่แน่นอน รถเราจอดตรงกลาง โดยประกบทุกทาง ยังไงก็ออกไม่ได้ ขออนุญาตลงภาพแบบไม่เผยป้ายทะเบียน
รถคู่กรณีจอดพับกระจกข้างเรียบร้อยเชียว แต่ทำไมไม่เข้าเกียร์ N ล่ะจ๊ะ
5. เรายืนรอจนถึง 3 ทุ่ม คู่กรณีอีกคน ที่โดนจอดรถขวางเหมือนกัน เดินทางมาถึง พร้อมบ่นว่ายืนรอกว่า 2 ชม แล้ว เจ้าของรถก็ยังไม่มาเคลื่อนย้ายเลย
6. พี่อีกคนเสนอว่า ช่วยกันดันรถได้ไหม เผื่อแรงคน 4 คน ( เรา แฟนเรา พี่คู่กรณี และเจ้าหน้าที่ที่ใส่ชุดซาฟารี) จะทำให้ตัวรถขยับได้
เราได้รับคำตอบจากเจ้าหน้าที่ชุดซาฟารีว่า "ผมไม่สามารถแตะต้องตัวรถได้" พร้อมทั้งยกมือถือขึ้นมาถ่ายรูปเรา แฟนเรา และพี่อีกคน และอัดวีดีโอ
เจ้าหน้าที่บอกว่า ผมต้องถ่ายภาพพี่ และอัดวีดีโอ เพราะพี่พยายามเคลื่อนย้ายโดยไม่ได้รับอนุญาติ อาจก่อให้เกิดความเสียหายกับรถที่จอดขวาง"
โดยที่เราไม่ได้อนุญาตให้ถ่ายเลย เราสวนทันทีว่า "เราต่างหากนะ ที่เป็นผู้เสียหาย"
อารมณ์ตอนนั้น ทั้งโกรธ โกรธรถที่จอดขวาง
ทั้งโมโหเจ้าหน้าที่ เหมือนผลักความผิดมาที่เรา อยู่ๆยกมือถืออัดคลิป แบบนี้ก็ได้เหรอ !!!
เราไม่ได้หาอะไรมาทุบรถสักหน่อย มีแต่ 2 มือที่จะดันรถแค่นั้น!!!
ทั้งสิ้นหวัง นี่ก็จะ 4 ทุ่มแล้ว ไม่มีวี่แววเจ้าของรถว่าจะกลับมา
แถมฝนก็กระหน่ำลงมาหนักเรื่อยๆ เราพยายามยืนหลบแล้ว แต่มีละอองน้ำฝนสาดมาโดนเป็นระยะๆ
คำตอบที่เราได้รับ แนวทางในการแก้ไขปัญหาของเจ้าหน้าที่คือ "จงรอ รอต่อไป ใจเย็นๆ นะ ทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้ และอย่าแตะรถ"
7. มีการเถียงกับเจ้าหน้าที่คนดังกล่าว โดยบอกว่า เขาไม่มีอำนาจตัดสินใจ หากอยากเคลื่อนย้าย ต้องไปคุยกับนายสถานีเอง
8. เรายอมรับว่าเราโมโห ส่วนแฟนเรา สติหลุดเรียบร้อย เพราะมันดึกมากแล้ว และไม่มีทีท่าว่าจะต้องรอถึงกี่โมง
ตัวแฟนเราต้องทำงานที่ต่างจังหวัดแต่เช้า ส่วนเรา ก็มีค่าใช้จ่ายในการจ้างพี่เลี้ยงล่วงเวลาเพื่อดูแลลูก
และต้องรีบกลับบ้านเพราะเลยเวลามามากแล้วด้วย
แฟนเราเกิดความคิดที่จะทุบกระจกดีมั้ย เพื่อดันเกียร์กลับ คิดราคาค่ากระจก หรือหาอุปกรณ์เคลื่อนย้าย ซึ่งทุกอย่าง ต้องทำกันเอง เจ้าหน้าที่ก็ยังคงอัดวีดีโอต่อไป โดยไม่คิดจะช่วยเหลืออะไรเลย ฝนก็สาดลงมาเรื่อยๆ เปียกไม่เยอะมาก ได้แต่คิดในใจ ทำกรรมอะไรไว้ ทำไมต้องมาเจออะไรแบบนี้
ความคิดตอนนั้นคือ พยายามหาคนที่ลากรถได้ เพื่อเคลื่อนย้าย หรือแย่ที่สุดคือทุบกระจก ยอมรับค่าเสียหายจากกระจกแตก แต่เราก็จะเรียกความเสียหายและค่าเสียเวลาจากการจอดรถแบบ "ไร้สติ" อย่างนี้เช่นกัน
9. เวลาผ่านมาจนเกือบ 4 ทุ่ม ความอดทนเริ่มหมด ฝนตกหนักขึ้น แฟนเรากับคู่กรณีอีกคนเดินขึ้นไปที่สถานี และมีเจ้าหน้าที่ 4 คนเดินลงมา พร้อมอุปกรณ์เคลื่อนย้ายรถ (ที่บอกว่า ไม่เคยมี ในตอนแรก) แต่ตอนนี้มีแล้ว
10. เจ้าหน้าที่พยายามเคลื่อนย้ายให้ แต่ก็ยังไม่สามารถย้ายได้ เพราะว่าอุปกรณ์มีไม่พอ รถรุ่นนี้มีคาน 2 ด้าน ต้องใช้ 2 ตัว แต่เรามีอุปกรณ์แค่ตัวเดียว แต่ก็ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ ที่เปลี่ยนใจลงมาช่วยเรา ขณะนั้นเวลาก็เกือบ 4 ทุ่มแล้ว
11. เหมือนสวรรค์โปรด แท็กซี่ที่จอดข้างๆมาพอดี รถพี่คู่กรณีจึงเลื่อนออกได้ โดยการค่อยๆขยับทีละนิด จนผ่านได้ พอรถพี่เค้าออกได้ เราก็ค่อยๆหักออกมาได้เช่นกัน
เราตั้งกระทู้นี้ เพราะไม่อยากให้คนอื่นต้องมาเจอแบบที่เราเจอ
ทั้งเสียเวลา เสียสุขภาพกาย (จากการตากฝน) และสุขภาพจิต
ควรจะมีการดำเนินการกับมนุษย์ขี้ลืม ไร้สติแบบนี้บ้างไหม ??? เรียกค่าปรับ เคลื่อนย้าย ล็อคล้อ หรืออื่นๆ
ในเมื่อเจ้าหน้าที่เป็นคนบอกเองว่าปัญหานี้เกิดขึ้นทุกวัน วันละหลายๆราย เหตุใดจึงไม่มีการแก้ไขที่ดีกว่านี้ ???
ใครเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้บ้าง และมีทางออกอย่างไร นอกจากการรอ หรือจะต้องติดต่อหน่วยงานใดที่สามารถช่วยเหลือได้เวลาเกิดเหตุแบบนี้
เราพยายามใจเย็นและรอจนถึงที่สุดแล้ว
ถ้ามีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก เราไม่รู้จะเย็นแบบนี้อีกได้ไหม
ขอบคุณที่อ่านจนจบค่ะ